มารู้จัก Jas-39 Gripen เขี้ยวเล็บใหม่ทัพอากาศไทยกันเถอะ!!
ทุกท่านคงทราบข่าวตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคมแล้วว่า รัฐบาลไทยได้สั่งซื้อเครื่องบินรบ Jas-39 Gripen (อ่านเป็นไทยว่า ยาส39 กริเพน ประจำการภายใต้รหัส บข20:บินขับไล่20) จำนวนทั้งหมดหกลำจากประเทศสวีเดนเป็นเงิน 19.5 พันล้านบาท เพื่อทดแทน F5 ที่เราใช้มานานกว่า 40 ปีจนเรียกได้ว่าอายุคราวพ่อของใครหลายคน
F5 ไทยจอดเทียบ F15 สหรัฐเห็นได้ว่าขนาดคนละไซส์ Su30 ก็เจ๊อ้วนประมาณนี้แล
บางท่านอาจจะบอกว่านี่ไม่ใช่เวลาเหมาะจะซื้อเครื่องบินรบ แต่พูดอย่างนั้นก็ไม่ถูกเท่าไหร่เพราะลูกทัพฟ้าที่ต้องเสียชีวิตกับอุบัติเหตุจาก F5 เสื่อมสภาพมีอย่างน้อยก็ปีละนายสองนาย แต่ละคนกว่าจะฝึกได้ใช้เงินมหาศาล การต้องมาตายเพราะเก้าอี้ดีดตัวไม่ทำงานหรือร่มชูชีพไม่กางเสียเฉยๆย่อมเป็นเรื่องน่าเศร้าที่หลีกเลี่ยงได้
...ไหนจะสงครามทางอากาศยุคใหม่ซึ่งเครื่องแก่คร่ำครึอย่าง F5 จะกลายเป็นเป้าบินให้ข้าศึกไล่ยิงสบายๆเหมือนเป็ดอีกละ?
แต่ Gripen ใช่ว่าจะไร้คู่แข่ง เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลไทยก็พิจารณา ซู30 จากรัสเซียและ F16C/D จากสหรัฐอยู่เช่นกัน (ส่วนตัวผมอยากได้ Starscream จาก Transformers น่ะ หุหุ)
แล้วสุดท้ายไหงเอาเจ้ายาส มันมีดีอะไร? แน่แค่ไหน? ลำเอียงซื้อของห่วยหรือเปล่า? บทความนี้จะขอเสนอสมรรถนะของกริเพนมาให้ท่านผู้อ่านตัดสินเอาเองว่าการจัดซื้อครั้งนี้เหมาะสมหรือไม่
อย่างแรกเรามารู้จักกับ Jas-39 Gripen กันก่อน
กริเพนไม่มีหางหลัง แต่ใช้ปีกเสริมด้านหน้า(Canard)เพิ่มความคล่องตัวและแรงยก
JAS ย่อจาก Jakt (อากาศสู่อากาศ), Attack (อากาศสู่พื้น), and Spaning (ลาดตระเวน)
* ความเร็วสูงสุด: มัค 2 (เร็วกว่าเสียงสองเท่า)
* พิสัยปฏิบัติการ: 800 กิโลเมตร
* เพดานบิน: 15 กิโลเมตร
* บรรทุกน้ำหนัก(อาวุธ/น้ำมัน)ได้: 8ตัน
* อัตราการไต่ระดับ: 20,000 ฟุตต่อนาที
* ค่าดูแลรักษา: 90,000บาทต่อหนึ่งชั่วโมงบิน
* เข้าประจำการครั้งแรก: ปี1997
จะเห็นได้ว่าเจ้ากริเพนมีความเร็วเท่ากับ F16 และช้ากว่า SU30(2.35 มัค) เล็กน้อย แต่ต้องอย่าลืมว่าเครื่องซูเป็นแบบสองเครื่องยนต์ต้องการเชื้อเพลิงและค่าการบำรุงรักษาสูงกว่าหลายเท่า
F16A/B เจ้าอากาศเก่าของไทยที่อายุจะขึ้นเลขสามสิบ ชักจะไม่แจ๋วเสียแล้วเพราะยิ่งเก่าค่าดุแลรักษาก็มากตาม
งบกลาโหมไทยปีหนึ่งไม่มาก ฝึก รด. ยังได้ยิงปืนแค่สิบนัด ฉะนั้นการมีเครื่องบินค่าดูแลรักษาต่ำจึงสำคัญ (90,000 บาทอย่าคิดว่าแพง F16 ค่าใช้จ่ายต่อชั่วโมง 130,000 บาทส่วนเครื่องรัสเซียก็เหยียบๆ 3-4 แสนบาท!) เพราะนั่นหมายความว่านักบินจะได้ฝึกซ้อม ใช้งานเครื่องบ่อยจนคุ้นเคยถึงคราวเกิดสงครามจริงๆจะได้ไม่งงว่าปุ่มนี้ทำอะไร สตาร์ทตรงไหน ยิงจรวดยังไง ยิ่งเครื่องบินเลือดรัสเซียเสืออากาศไทยไม่คุ้น(แต่เดิมเราใช้เครื่องบินสหรัฐซึ่งออกแบบด้วยหลักการเดียวกับเครื่องบินรบค่ายตะวันตกอื่นๆเช่นกริเพน)หากได้ฝึกน้อยย่อมรีดความสามารถเครื่องออกมาไม่เต็มที่
คิดง่ายๆว่าเศรษฐีคนหนึ่งมีเฟอร์รารรี่จอดอยู่บ้านแต่ติดว่าน้ำมันแพงเลยขี้เหนียวไม่กล้าขับ วันหนึ่งโจรบุกขึ้นบ้านก็ลนลานโดดขึ้นรถเตรียมบึ่งหนี แต่เพราะขับไม่เป็นเหยียบคันเร่งทีก็พุ่งชนถังขยะหน้าบ้านนั่นแล!
SU30 พม่าและมาเลเซียมีไว้ประจำการ คู่ต่อกรของ F15,F18(ราคาถูกกว่า F15แต่ยังแพงกว่าF16,กริเพน) แต่อ้วน ใหญ่ เท่ห์ ยังไงก็นัดเดียวตายเหมือนกัน
พิสัยทำการ น้ำหนักบรรทุก กริเพนสูสีกับ F16 แต่แพ้ SU อยู่พอสมควร (3,000 กิโลเมตร, บรรทุกได้ 17 ตัน)
ก่อนจะบอกว่า โอ้โห! แล้วจะซื้อกริเพนมาเพื่ออะไร ก็ขอให้ท่านๆดูข้อมูลเกี่ยวกับประเทศของเราสักนิด
ประเทศไทยยาว 1,000 กิโลเมตร กว้างไม่ถึง 800 กิโลเมตร มีความจำเป็นต้องหาเครื่องบินพิสัย 3,000 กิโลเมตร น้ำหนักบรรทุกมากๆมาเพื่ออะไรในเมื่อไม่ได้จะไปทิ้งระเบิดใครเขา?
งั้นทำไมมาเลย์ซื้อ SU30 ล่ะ? ทั้งที่ราคาแพงกว่า กริเพนเกือบเท่านึง ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงก็แพงกว่าตั้งแยะ?
เพราะเราชอบลืมว่าอาณาเขตมาเลเซียไม่ได้อยู่ติดประเทศไทยเท่านั้นน่ะเซ่ มาเลย์ยังมีดินแดนอีกส่วนอยู่ตรงข้ามทะเลจีนใต้ ฉะนั้นการมีเครื่องพิสัยทำการไกลจึงสำคัญกว่าไทย ที่สำคัญงบกลาโหมเราไม่ได้มากเหมือนเขาด้วย = ='
ข้อดีอีกอย่างของกริเพนที่เครื่องบินรบอื่นๆโลกทำไม่ได้คือเรื่องของรันเวย์...ทราบหรือไม่ว่ากริเพนบินขึ้นได้จากถนนหลวงขนาดกว้างเพียง 9 เมตร ยาว 400 เมตรเท่านั้น พูดง่ายๆคือถ้าเคลียร์รถออกจากถนนด้านหน้าธรรมศาสตร์รังสิตหมดก็สามารถใช้เป็นรันเวย์ให้กริเพนขึ้นลงได้ทันที!
ขึ้นจากถนนสั้นและแคบอย่างทางหลวงหลายสายในเมืองไทยได้สบาย
ตรงนี้เป็นความสามารถที่กริเพนทำได้เครื่องเดียวในโลกเพราะสวีเดนมีนโยบายทางทหารเหมือนไทยคือรับไม่ใช่รุก สมมติเกิดสงครามแล้วสนามบินใหญ่ๆอย่างดอนเมือง ตาคลี อู่ตะเภาถูกทำลาย เราก็ยังให้กริเพนขึ้นต่อสู้จากถนนหลวงและหาถนนสายเหนือ อิสาน ตะวันออกตรงจุดเรียบๆ ที่ไม่โดนกรมการทางกินจนหน้าดินทรุดใช้ลงจอดได้
ไม่เหมือนSUหรือ F16 ที่หากสนามบินถูกทำลายก็ต้องหนีไปลงจอดประเทศอื่น หรือไม่ก็นอนบ้อท่าอยู่ในโรงเก็บรอให้กองกำลังข้าศึกเข้ามายึด ยิ่งซูลำเบ้อเร่อบ้าร่าอาจต้องทำโรงเก็บให้ใหม่อีก
เท่านี้คงพอทราบความสามารถพื้นฐานและเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณและความต้องการแล้ว
แต่เครื่องบินรบซื้อมารบไม่ใช่มาจอดขายหม้อแกงวันเด็กอย่างเดียว กริเพนจะสามารถต่อกรกับ มิก29 ซู30 F15 ของเพื่อนบ้านได้หรือไม่ในกรณีเกิดสงครามขึ้นมาจริงๆ?
ก่อนจะทราบคำตอบ...ก็ต้องรู้หลักกการรบทางอากาศสมัยใหม่กันสักเล็กน้อย
พูดถึงรบทางอากาศท่านผู้อ่านคงมีภาพของเครื่องบินรบบินไล่กวดกันกลางอากาศเหมือนในหนัง ต่างฝ่ายต่างหาท่าพลิกแพลงเพื่อวางตำแหน่งเครื่องตัวเองให้อยู่ท้ายข้าศึก ล็อคจรวดแล้วยิงออกไปในระยะเผาขนแบบเกม Ace combat อย่างไรอย่างนั้น
ผิดเน้อออ...ผิดๆๆๆๆๆเต็มประตู ยุคการพันตูตะลุมบอนแบบในเกมหมดสมัยไปนานเป็นสิบปีแล้ว การรบทางอากาศสมัยใหม่ส่วนใหญ่ฆ่ากันตั้งแต่ ยังไม่เห็นจมูกเครื่องบินอีกฝ่ายด้วยซ้ำไป
Amraam ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศของสหรัฐ พิสัยสังหารร้อยกิโลเมตร
ท่าบินพิสดารที่ SU30 ชอบโฆษณาหนักหนา ทั้งเบรกกลางอากาศ บินกลับหัวกะทันหัน อาจดูสวยและเท่ห์เวลาแอร์โชว์ แต่ของจริงใช้ก็ยาก โอกาสจะใช้ก็ยาก แถมหากเครื่องบินติดอาวุธ เติมน้ำมันเต็มพิกัดแล้วฝืนทำกายกรรมเปียงยางก็อาจทำให้เครื่องเสียหายอย่างหนักได้
ถึงความคล่องตัวในระยะใกล้ของกริเพนแม้จะสูสีกับ F16 สู้ Su30 ไม่ได้ โอกาสที่ Su จะเข้ามาใช้ท่าบินมวยจีนในระยะประชิดก็มีน้อย เพราะสงครามทางอากาศสมัยใหม่ที่เริ่มตั้งแต่สมัยสงครามอ่าวเปอร์เซียไม่ได้พึ่งปืนกลอากาศหรือจรวดยิงระยะประชิดอีกต่อไป
การรบ BVR หรือ Beyond Visual Range แปลไทยว่านอกระยะสายตานั้น มีอาวุธสำคัญสองอย่างคือเรดาห์และจรวดนำวิถี หลักการคือเปิดเรดาห์กวาดหาศัตรู...เมื่อพบแล้วก็ล็อคจรวดยิงปลิดชีพ่จากระยะเกือบ 100 กิโลเมตร
เมื่อเป็นเช่นนี้หัวใจสำคัญของเครื่องขับไล่ยุคใหม่คือ
1.ระยะเรดาห์ว่าใครเห็นใครก่อน
2.เครื่องใครโดนตรวจจับบนเรดาห์ได้ง่ายกว่ากัน
3.ระยะและความแม่นยำของจรวดนำวิถี
การใช้เรดาห์ก็ใช่ว่าจะเปิดค้างตลอดเวลา เพราะเมื่อใดที่คุณเปิดใช้งานมันข้าศึกก็จะจับสัญญาณได้ เห็นคุณทันทีเช่นกัน
เปรียบง่ายๆเหมือนพกไฟฉายกับปืนลมไปยิงกับเพื่อนในห้องมืดสนิท คนเปิดไฟฉายย่อมมีโอกาสหาอีกฝ่ายเจอ แต่ในกรณีที่หาไม่เจอก็เท่ากับเปิดเผยตำแหน่งให้อีกฝ่ายย่องเข้ามาจัดการ
ไฟฉาย(เรดาห์) ของกริเพนมีระยะไกลกว่าF16 สูสีกับซูแถมยังละเอียดกว่า ใหม่กว่า แถมขนาดที่เล็กของกริเพน(ในที่นี้รวมถึงF16)ยังทำให้ข้าศึกตรวจจับด้วยเรดาห์ได้ยากอีกด้วย
ที่สำคัญมากคือกริเพนมีระบบส่งข้อมูลไฮเทคที่สามารถรับข้อมูลเรดาห์จากสถานีซึ่งอยู่ไกลออกไป 500 กิโลโดยไม่ต้องเปิดเรดาห์ให้ใครเห็น
เปรียบกับการพกไฟฉายกับปืนลมเข้าไปยิงกับคนในห้องมืดแบบเดิม แต่ครั้งนี้เรามี spotlight ฉายจากระยะไกลๆแล้วโทรจิตบอกตำแหน่งของศัตรูให้อย่างแม่นยำ ขณะที่ฝ่ายศัตรูมองคนฉาย spotlight หรือฝ่ายเราไม่เห็น จะยิงก็ไม่ได้ ไล่ก็ไม่ถูก รู้ตัวอีกทีก็เจอสอยจากควมืดเรียบร้อยแล้ว
ปัจจุบันมีกริเพนและ F22 เครื่องบินรุ่นก้าวหน้าของสหรัฐที่ไม่มีวันขายให้ใครเท่านั้นที่ใช้ระบบนี้ ซู30 มิก29 และ F16 ไม่มีความสามารถทำได้ กริเพนจึงได้เปรียบมากในการรบเลยระยะสายตาเพราะสามารถเห็นศัตรูได้ตั้งแต่ 120 กิโลเมตร(ด้วยเรดาห์บนเครื่อง) หรือ 450 กิโลเมตร(ด้วยเครื่องบินเตือนภัยทางอากาศที่สวีเดนแถมให้ฟรีๆ และประเทศแถบนี้นอกจากสิงคโปร์ไม่มีใช้)
เรดาห์เตือนภัยทางอากาศอีรี่อายที่ได้มาฟรี แม้ไร้อาวุธแต่ก็เป็นตาอินทรีชี้เป้าสังหารได้อย่างแม่นยำ
ในการซ้อมรบกับประเทศพันธมิตรอย่าง ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ กริเพนก็สามารถเอาชนะ F18,F16 ได้อย่างสวยงามด้วยเทคนิคที่กล่าวมาข้างต้น
ดูคร่าวๆแล้วจะเห็นว่ากริเพนอาจไม่ได้สุดยอดทุกอย่าง แต่เมื่อคิดเทียบกับราคาที่ถูกกว่าคนอื่น ค่าบำรุงรักษาต่ำ สมรรถนะที่สูงกว่าในหลายๆด้าน รวทั้งความได้เปรียบในการรบทางอากาศเหนือเครื่องบินเพื่อนบ้านแล้ว ก็นับว่าคุ้มค่าและตอบสนองความต้องการทางยุทธวิธีของไทยที่เน้นตั้งรับ...เรานี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาดได้อย่างครบถ้วนกระบวนความ
อีกอย่างคือในสักเจ็ดถึงแปดปีข้างหน้า ไทยก็ต้องจัดซื้อ F35 จากสหรัฐมาประจำการเรือรบหลวงจักรีนฤเบศน์อีก อาวุธยุทโธปกรณ์เป็นของไม่จำเป็นที่จำเป็น เราจึงควรบริหารรายจ่ายให้คุ้มค่า
F35 เครื่องบินรบStealth ของแท้ ตอนนี้ก็นอนฝันรอไปก่อน
ก็ขอให้การจัดซื้อเป็นไปอย่างโปร่งใสยุติธรรมเพื่อผลประโยชน์และความปลอดภัยของชาวสยามแล้วกันเน้อ ^__^
.
.
.
ถึงตาท่านแล้วครับ คิดว่าอย่างไร?
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 27 ตุลาคม 2550 / 02:26
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 27 ตุลาคม 2550 / 02:28
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 27 ตุลาคม 2550 / 03:24
แก้ไขครั้งที่ 4 เมื่อ 27 ตุลาคม 2550 / 03:27
แก้ไขครั้งที่ 5 เมื่อ 27 ตุลาคม 2550 / 13:07
แก้ไขครั้งที่ 6 เมื่อ 28 ตุลาคม 2550 / 09:11
PS. "You who go where others dare not; Will you be my God? The architect of my house?"
91 ความคิดเห็น
ผมจะลองสรุปข้อมูลของแต่ละเครื่องเท่าที่ผมรวบรวมมาได้นะครับ (แย่งเจ้าของกระทู้ซะงั้นน่ะ....)
ทั้งสามรุ่นเหมือนกันที่เป็นเครื่องขับไล่ ความเร็วเหนือเสียง แล้วก็มี Fly-by-Wire กันทั้งหมด
General Dynamics F-16C/D Fighting Falcon (หรือรุ่นนี้มันมีอีกชื่อหว่า จำไม่ได้....)
- แบบเครื่อง F-16 ทอ.ไทยคุ้นมือมาแต่โบราณ แถมซื้อจากอเมริกาซึ่งถือว่าเราเป็นถึง "พันธมิตรนอกนาโต้"
- แต่เครื่องมันเล็กง่ะ.... เครื่องบินนี้เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิด - จู่โจมขนาดเบา ไม่เหมือนพี่ๆ สองรุ่นหลัง JAS เขาเครื่องอเนกประสงค์ขนาดกลาง ส่วนลูกพี่ซึกฮอยนั้นเขาอยู่อีกขั้นครับ เป็นเครื่องทิ้งระเบิดหนักกลายๆเลยล่ะ
- ออกแบบมานานแล้วด้วย ตั้งกะปี 1960-1970 ถึงจะออกรุ่นใหม่ (C และ D) มาก็เถอะ แต่รูปร่าง (ซึ่งหมายถึงแอโรไดนามิกส์ด้วย) มันก็ล้าสมัยอยู่ดี
- แต่การที่เครื่องเล็กนี่ก็ทำให้เหมาะกับทอ.ไทย เพราะไม่เคยจะบอมบ์ใครเขาอยู่แล้ว
JAS-39 Gripen
- ใหม่ ใหม่สุดในสามรุ่นนี้เลยครับ เพราะเพิ่งออกแบบมาในทศวรรษ 1990 นี้เอง ในขณะที่ป้า F-16 แก่งั่ก และ Su-30 ก็ออกแบบโดยใช้พื้นฐานของ Su-27 ซึ่งออกแบบในทศวรรษ 1980
- ขนาดกลาง พอเหมาะมือ ไม่เล็กจิ๋วอย่าง F-5 ไม่เล็กอย่าง F-16 และไม่เบ้อเริ่มเทิ่มเหมือน Su-30 เพราะออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องบินขับไล่ - ทิ้งระเบิดเบาอเนกประสงค์ (ตอนแรกผมคิดว่า JAS จะมาจาก Joint Air Strike เสียอีก)
- ปีกเดลต้า (สมกับเป็นสวีเดนเขาล่ะ ตระกูล Saab ก็เล่นปีกคล้ายๆแบบนี้กันหมด) ประสิทธิภาพดีขึ้น ถมมี Canard (แพนอากาศเล็กๆ ที่คอเครื่อง) เสริมความว่องไวอีก.... แต่ซุคฮอยบางรุ่นรวมทั้ง Su-30 ก็มีนะ....
- อย่างที่พี่ Repentant บอกครับ เรดาร์รุ่นใหม่ย่อมดีกว่ารุ่นเก่าอยู่แล้ว ดังนั้นสอยอีกสองรุ่นร่วงสบายๆ
- ที่ดีที่สุดคือแถมเครื่องบิน Airbourne Early Warning AWACS มาอีก คุ้มครับ (ทอ.ไทยใช้กันเป็นรึเปล่าหนอ....)
Sukhoi Su-30 (MK หรือ I หรืออะไรก็ช่างมันเถอะ หลายรุ่นเหลือเกินซีรีส์นี้)
- ใหญ่ครับ ใหญ่มาก เบ้อเริ่มเลย ผมเห็นครั้งแรกยังนึกว่าเฮ้ย รัสเซียเล่นอะไรของเขา.... เครื่องลำนี้น่ะใช้แทนเครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นเก่าๆ (พวก Tupolev Tu-95 Bear) ของรัสเซียได้สบายๆ เลยครับโดยเฉพาะเมื่อบินกันเป็นฝูง มากันดำทะมึนนี่น่ากลัวจริงๆ แค่ขนาดก็ข่มข้าศึกได้แล้ว
- เห็นใหญ่ๆแบบนี้ ความว่องไวพอตัวเหมือนกันนะครับ
- แต่เพราะใหญ่นี่แหละที่ไม่เหมาะกับทอ.ไทย เพราะอย่างที่พี่ Repentant บอกเอาไว้ตั้งแต่ต้น ทอ.ไทยไม่เอาไปบอมบ์ใครอยู่แล้ว แถมค่าบำรุงรักษาแพงอีก เครื่องรัสเซียนี่ครับ (รัสเซียไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับ แต่ส่วนใหญ่เครื่องที่คิดออกมาก่อนที่โซเวียตจะล่มนี่จะคิดพวก.... ตีแรง ตีเร็ว ตีดี แต่ซ่อมก็แพง)
- ค่อนข้างถูกครับ เครื่องรัสเซีย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอะไหล่ที่ค่อนข้างหายาก แล้วก็ผิดใจกะพี่อเมริกาอีก สองประเทศนี้เขาเริ่มฮึ่มๆกันใหม่อีกครั้งแล้วนะครับ.....
สรุป กริเพนเหนือกว่าด้วยประการทั้งปวง
(แต่ผมก็ยังแอบเชียร์ค่ายรัสเซียเขานะครับ ของเขาดี ส่วน F-16 เขี่ยตกกระป๋องไปเร็วๆเลยก็ดี)
ก็ขอให้อย่ากินกันจนเรียบซะก่อนก็แล้วกันครับ
PS. Boeing 747-4D7 GE CF6-80C2B1F HS-TGX "Sirisobhakya" ความทรงจำแสนดี ณ สหพันธสาธารณรัฐเยอรมนี.... จะไม่มีวันลืมเลือน จะคิดถึงตลอดไป....
มันก็มีข้อดี(ป้องกันประเทศ)
และข้อเสีย(แพง!)
ด้วยประการฉะนี้
แต่เมื่อเทียบข้อได้เปรียบเสียเปรียบแล้วก็นับว่าคุ้ม
เผื่อพวกก่อการร้ายมันพัฒนาไปไกล อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องไปวิ่งเต้นซื้อมาตอนที่ระเบิดลงกรุงเทพไปเรียบร้อยแล้ว...
PS. My shadow's the only one that walks beside me My shallow heart's the only thing that's beating Sometimes I wish someone out there will find me 'Til then I walk alone
โหวตให้ครับ
PS. So many wars are able to destroy every race of men
ในที่สุดก็ซื้อมาแล้วเหรอเนี่ย!
แต่ปัญหาคือมันแค่ 6 ลำนี่สิ จะมาแทน F- 5 ตั้งกี่ฝูงของเรานี่สงสัยต้องมาอีกหลายล็อตแฮะ (เครื่องแถมนี่ที่เขาแถมเพราะถ้าไม่มีมันแล้วเครื่องมันจะแสดงความสามารถได้ไม่เต็มที่รึเปล่า
โอมเพี้ยง...ขอให้อย่ามีปัญหาเหมือนตอนสั่งซื้อเรือดำน้ำอีกเลยเถอะ อย่ากินกันเองด้วย ทอ. ไทยขับเครื่องรุ่นปู่มาไม่รู้ตั้งกี่ปีแล้ว ตายไปไม่รู้กี่รายด้วย
แต่ใจจริงก็แอบหวังเล็กๆ ว่าอยากมีโอกาสเห็นเครื่องมิกหรือซูประจำการบ้างเหมือนกันแฮะ (เครื่องรัสเซียมันเท่ห์จริงๆ ให้ตายสิ)
แต่ผมว่ายุทธศาสตร์ทอ. เมืองไทยมันจะไม่ใช่รับอย่างเดียวนะสิ
ปล. ชอบประโยคนี้นะ "อ้วน ใหญ่ เท่ห์ ยังไงก็นัดเดียวตายเหมือนกัน"
PS. Give them NOTHING! But take from them EVERYTHING!
ประสิทธิภาพใช้ทดแทนปริมาณได้ อย่างที่เขาเรียกว่า Force Multiplier ในภาษาทหาร คนถือปืนกลคนเดียวย่อมชนะคนถือดาบสิบคน (ในสถานการณ์ทั่วไปนะ)
ข่าวคือซื้อลอตนี้หกลำพร้อมแถม AWAC หนึ่งลำ ลอตหน้าก็ซื้ออีกหกพร้อมAWAC อีกหนึ่ง
ส่วนเรื่อง AWAC นั้นไม่ใช่ว่าแถมแล้วจะแสดงความสามารถไม่ได้เต็มที่ แต่เป็นการเพิ่มแสนยานุภาพให้ต่างหาก
ถึงไม่มี AWAC ฝูงกริเพนก็สามารถรบได้แบบหมาป่า คือให้ลำหนึ่งบินเปิดเรดาห์เป็นกองหลังแล้วป้อนข้อมูลให้กริเพนลำอื่นผ่าน Datalink ศัตรูจะเห็นกริเพนลำที่เปิดเรดาห์ลำเดียวแต่ไม่เห็นลำอื่น ทำให้ได้เปรียบการรบทางอากาศอย่างที่บอกไปแล้ว
AWAC ช่วยเพิ่มระยะตรวจจับจาก 120km(เรดาห์เครื่อง) เป็น 450km ครับ บินขึ้นจากดอนเมืองก็สังเกตุการณ์ได้ถึงขอนแก่น
ยุทธศาสตร์แนวรุกนี่ เราจะรุกใครละครับ ประเทศเพื่อนบ้านเราก็คงไม่ไปตีเขาก่อน และภาคใต้ก็ใช้เครื่องบินรบแก้ปัญหาไม่ได้อยู่แล้วเพราะจะกลายเป็นต้องทิ้งระเบิดลงกลางเมือง หรือต่อให้ปัญหาตามแนวชายแดน ทิ้งระเบิดฐานผลิตยาเสพติด ฐานทัพกองกำลังชนกลุ่มน้อย ทอ ก็มี L39, Alpha jet ทำหน้าที่ให้อยู่แล้ว เพราะค่าใช้จ่ายต่อชั่วโมงถูกกว่า
ปิดท้ายเรื่องเรือดำน้ำ ผมยังไม่ค่อยเห็นความสำคัญนาท่าน Doggiebiz อ่าวไทยตื้นแค่นี้มองลงไปก็เห็นแล้วว่าอยู่ไหน ทางฝั่งอันดามันน่านน้ำก็กระจิดริด ซื้อมาก็คงไม่คุ้มเท่าไหร่นัก
ดูแล้วอาจจะคิดว่าซื้อให้ทหารทางใต้ดีกว่า แต่ F5 มันจะครึ่งศตวรรษแล้วไม่เปลี่ยนก็ไม่ได้ ฉะนั้นต้องเลือกของที่ดูแลง่าย ราคาถูก สมรรถนะเหมาะสมกับราคาแหละครับ
ซูเองถ้าซื้อมาจะมีปัญหาไม่ใช่แค่ราคากับค่าซ่อม ไหนจะอาวุธที่อาจจะใช้กับของอเมริกันที่เรามีอยู่เดิมไม่ได้ ระบบอิเลกทรอนิคส์ เครื่องยนต์ ที่เราไม่คุ้นเคยอีก
PS. "You who go where others dare not; Will you be my God? The architect of my house?"
โหวตๆๆ
สมัยก่อนเราก็ไปบอมบ์เค้าเยอะเหมือนกันนะ แต่เดี๋ยวนี้คงทำไม่ได้แล้วล่ะ เดี๋ยวนี้รบทางทหารเป็นอะไรที่ทำได้ยากเหลือเกิน (เกือบจะเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ ไหนจะต่างประเทศกดดัน ไหนคนในประเทศจะประท้วง บลาๆๆ) ขนาดเงินหนาอย่างอเมริกายังหอบเลย เค้าเอาไว้ขู่กันมากกว่า
ปัญหาเรือดำน้ำที่ผมพูดถึงคือเรื่องมีคอรัปชั่นมาเอี่ยวนั่นล่ะ เลยไม่ได้ซื้อ (ใช่รึเปล่าจำไม่ได้แล้ว) แต่เรือดำน้ำความจริงเอาไว้ใช้จับพวกลักลอบขนของเถื่อนเป็นดีนักแล (เหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตนเลยแฮะ)
เรื่องซูหรือมิกมันก็แค่ความฝันละครับ ไม่ใช่อะไรหรอกเพราะผมชอบเครื่องบินฝั่งรัสเซียอยู่เป็นทุนเดิม แต่มาเมืองไทยคงจะไม่เหมาะ คนละระบบ ไหนต้องส่งช่างไปฝึกที่รัสเซียอีก ไหนจะนักบินอีกอย่างที่ท่านกล่าวไว้ข้างต้นนั่นแล ไหนรัสเซียกำลังฮึ่มๆ อยู่อีก
ผมว่าทางใต้เนี่ยตัวเงินสะพัดเลย มีอะไรก็สั่งเบิกเป็นงบฉุกเฉิน งบลับ สบายใจเฉิบ
PS. Give them NOTHING! But take from them EVERYTHING!
อ้าว ซื้อไปแล้วเรอะ
ส่วนตัวไม่ค่อยสันทัดเรื่องเครื่องบินรบเท่าไหร่ แต่เพื่อนที่พอจะรู้เรื่องนี้ฝากบอกมาว่า การเลือกซื้อกริปเปนเป็นการมองการณ์ในระยะสั้นไปสักหน่อย เพราะต้องคำนึงถึงสายพัฒนาด้วย ขณะที่ F-16 ได้เปรียบในข้อนี้ คือมีสายพัฒนาไปยังรุ่นต่างๆเพื่อรองรับภารกิจอื่นๆ ดูเหมือนเพื่อนผมจะเชียร์ F-16 นะ เห็นว่าอรรถประโยชน์ดี ได้ทั้งรุกและรับ ขณะที่ซูเน้นการรุก ซึ่งการจัดซื้ออาวุธทางยุทธวิธีแบบนี้ควรจะคำนึงถึงหลักนิยมของกองทัพและยุทธศาสตร์ที่เราวางไว้ด้วย
PS. - ไสนยาต วินา ไนวะ ราชยำ นะ ธะนำ นะปะรากระมะห์ - (ไม่มีกองทัพ ก็ไม่มีการปกครองชาติ ไม่มีทรัพย์สมบัติ และไม่มีอำนาจแผ่นดินจะตั้งอยู่ได้)
หุๆ นั่นสิครับ เรือดำน้ำนี่ผมว่าตอนนั้นปลุกกระแสเพื่อจะกินค่าคอมแท้ๆเลยล่ะ แถมอ้างด้วยว่าสมัยก่อนเรายังเคยซื้อเรือดำน้ำจากญี่ปุ่นมาใช้
ก็แหม...มันคนละสมัยนี่น้า เทคโนโลยีตรวจจับไม่ได้ก้าวหน้าเท่านี้ สรุปถ้าไม่มีเรือดำน้ำก็ต้องปราบเรือดำน้ำ เราถึงซื้อ P3 Orion แล้วก็ เฮลิคอปเตอร์ Seahawk มาประจำจักรีนฤเบศน์ยังไงละครับ
ตอนนั้น Mig 29 กับ F 18 ก็ตีคู่มาเหมือนกันสุดท้ายก็ชวดทั้งคู่ แต่เท่าที่ดูจากอีรัก โคโซโว่ Mig29 เจอเครื่องบินนาโต้สอยเป็นว่าเล่น ในแอฟริกาก็เจอ Su27 ยิงตกอีกเลยรู้สึกว่า เออดีเหมือนกันที่ไม่ได้ซื้อ = ='
PS. "You who go where others dare not; Will you be my God? The architect of my house?"
ส่วนตัวไม่ค่อยสันทัดเรื่องเครื่องบินรบเท่าไหร่ แต่เพื่อนที่พอจะรู้เรื่องนี้ฝากบอกมาว่า การเลือกซื้อกริปเปนเป็นการมองการณ์ในระยะสั้นไปสักหน่อย เพราะต้องคำนึงถึงสายพัฒนาด้วย ขณะที่ F-16 ได้เปรียบในข้อนี้ คือมีสายพัฒนาไปยังรุ่นต่างๆเพื่อรองรับภารกิจอื่นๆ ดูเหมือนเพื่อนผมจะเชียร์ F-16 นะ เห็นว่าอรรถประโยชน์ดี ได้ทั้งรุกและรับ ขณะที่ซูเน้นการรุก ซึ่งการจัดซื้ออาวุธทางยุทธวิธีแบบนี้ควรจะคำนึงถึงหลักนิยมของกองทัพและยุทธศาสตร์ที่เราวางไว้ด้วย
PS. - ไสนยาต วินา ไนวะ ราชยำ นะ ธะนำ นะปะรากระมะห์ - (ไม่มีกองทัพ ก็ไม่มีการปกครองชาติ ไม่มีทรัพย์สมบัติ และไม่มีอำนาจแผ่นดินจะตั้งอยู่ได้)
ถึงพี่จะว่าอย่างนั้น แต่ผมไม่คิดว่าอนาคต F-16 จะไปได้ไกลนะครับ
เพราะมันไม่มีคุณสมบัติที่ ทอ.สหรัฐต้องการแล้ว (ไม่เหมือน F-15 กับ F-18 ซึ่งขนาดมันยังใช้ได้)
แถม F-35 ซึ่งกำลังพัฒนาอยู่ แทน F-16 ได้พอดีเลยครับ แถมเป็นสเตลธ์ด้วย
สุดท้าย ผมก็อดคิดไม่ได้ว่า เอ.... ทำไมไทยไม่ซื้อพวก Eurofighter มาใช้เลยน้อ.... (ใหม่สุดๆ ใหม่ว่ายาสอีก ว่าแต่ฝั่งยุโรปเขายอมขายไหมหนอ....)
PS. Boeing 747-4D7 GE CF6-80C2B1F HS-TGX "Sirisobhakya" ความทรงจำแสนดี ณ สหพันธสาธารณรัฐเยอรมนี.... จะไม่มีวันลืมเลือน จะคิดถึงตลอดไป....
  กระทู้จริงจังมากเลย ไม่ค่อยรู้เรื่องแต่อยากตอบ บ้าง เพราะว่าไม่ได้เข้าบอร์ดมาหลายวัน
นั่นสินะ บอกแล้วว่าเรื่องเครื่องบินไม่ค่อยรู้หรอก
อืม... ยูโรไฟท์เตอร์เหรอ รู้สึกว่าจะขายนะ เพราะสิงคโปร์ก็มีไว้ประจำการแล้ว ถ้างั้นเอาแรพเตอร์เลยมั๊ยล่ะ
PS. - ไสนยาต วินา ไนวะ ราชยำ นะ ธะนำ นะปะรากระมะห์ - (ไม่มีกองทัพ ก็ไม่มีการปกครองชาติ ไม่มีทรัพย์สมบัติ และไม่มีอำนาจแผ่นดินจะตั้งอยู่ได้)
Rapter พี่กันเค้าจะขายเร้อ อีกอย่าง เราจะมีปัญญาใช้ + บำรุงรักษารึเปล่าก็ไม่ก็ไม่รู้
มิก29 ที่โดนเขาสอยบ่อยๆ เพราะยุทธวิธีสู้ไม่ได้มากกว่ามั้ง (เชียร์เครื่องนี้เพราะชอบ) ปรกติพี่กันเค้าชอบบอมบ์ตั้งแต่ยังไม่ทันบินออกด้วยซ้ำ แถมระบบซัพพอร์ตคนละเรื่องเลย ถ้าคนใช้ไม่เป็นก็เหมือนให้ลิงได้พลอยนั่นล่ะ อิสราเอลถึงรบชนะพวกอาหรับเค้าตลอดไง ผมว่านะ (แต่ก็อีกล่ะ บางทีเครื่องบินติดเครื่องหมายอียิปต์นักบินเป็นโซเวียตซะงั้น)
ข้อสังเกตุเล่นๆ กระทู้คนตอบส่วนใหญ่เป็นสีฟ้าหมดเลยแฮะ สงสัยกระทู้นี้ผู้หญิงเข้ามาแล้วมึน
PS. Give them NOTHING! But take from them EVERYTHING!
ถ้าม่โกงงบก็ดีไปขรับ
PS.
เค้าแถมเทคโนโลยีมาให้ผลิตเองด้วยรึเปล่า?
โหวตบ้าง....
PS. หิวแล้ว!! อยากจะงับหัวคนข้างล่าง งาบบบ...บ...บ~~
มาแปะข้อมูลเปรียบเทียบ JAS ที่เราซื้อกับคนอื่นซื้อ
http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5955638/X5955638.html
ซื้อๆไปเหอะ ของเล่นนายพล
ยูโรไฟเตอร์ ทอ สิงคโปร์ไม่มีนะครับท่านวี พิจารณาอยู่แต่สุดท้ายก็ตกลงใจเอา F15 ของสหรัฐเพราะทางนั้นแถมระบบ Radar AESA ซึ่งไฮเทคมากๆมาให้ด้วย
ถ้าจำไม่ผิดประเทศนอกโซนยุโรปก็มี ซาอุเท่านั้นแหละที่ซื้อยูโรไฟเตอร์ไปใช้
แม่หยง : สวีเดนให้เทคโนโลยีเหมือนกันครับ และถ้าสักวันเราจะผลิต กริเพนเป็นอะไรที่เราทำเองได้ง่ายกว่าแน่นอน เพราะต้นทุนถูกกว่าและเป็นเทคโนโลยีนาโต้ที่เราคุ้นมือ
ท่าน Doggiebiz : Mig 29 เสียเปรียบเครื่องนาโต้,Su27เรื่องเรดาห์ครับ เพราะห่วยกว่าแถมปกติฝั่งนาโต้จะมี Awac สนับสนุนตลอดด้วย
ปล. Raptor คงต้องฝันเอา อิอิ แต่ได้ F35 น้องมันมาผมก็ว่าโอเคแล้ว
PS. "You who go where others dare not; Will you be my God? The architect of my house?"
ไม่ได้ติดตามกองทัพอากาศหลังยุคสงครามเย็น เพราะไม่เคยใช้ซัดกันจริงจังซะที........
เครื่องบินยุคหลังสงครามเย็นเป็นอะไรที่เราไม่รู้เลย(ข้าพเจ้ายังหมกมุ่น smart weapons อยู่เลย) ขอบคุณทุกท่านมากที่มาให้ความรู้
PS. I have no love in my veins, how could it run into my heart?
หลอดว่ามันก็คุ้มอยู่นะ
เครื่องนึงราคาแพงก็จริง แต่ก็คิดดูว่ามันจะช่วยปกป้องประเทศเท่าไหร่ ชีวิตประชาชนอีกเท่าไหร่
อย่างน้อยๆชีวิตของนักบินที่ควรจะเสียแต่ละปี มันก็พอคุ้มอยู่
ดูอย่างรถตำรวจของอเมริกาสิ เห็นแล้วคนธรรมดาอย่างหลอดยังอิจฉา
ทุกชีวิตมีค่า ชีวิตคน เสียแล้วเสียเลย เงินอ่ะ หาใหม่ได้เรื่อยๆ
คิดถูกแล้วหละที่ซื้อ ใครจะรู้ พรุ่งนี้ประเทศไทยอาจจะโดนบุกก็ได้
เราก็ต้องพร้อมเสมอ
PS. อย่ามองที่ตัวตน...จงสนที่"ความดี"
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?