Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

Analysis of FairyTail #8 Eileen Bellserian "การสร้างภาพแทนอำนาจของผู้หญิงในสังคม"

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่


            ใครเป็นแฟนการ์ตูนแฟรี่เทลและติดตามมาจนถึงตอนล่าสุดคงรู้จัก ไอรีน เบลเซเรี่ยน” เป็นอย่างดี เธอคนนี้เป็นแม่ของเอลซ่าและเป็นผู้คิดค้นเวทปราบมังกรหรือดราก้อนสเลเยอร์ขึ้นมา นอกจากนี้เธอยังเป็น ใน 12 สปริกกันอีกด้วย ไอรีนเป็นจอมเวทที่แข็งแกร่ง แต่เธอกลับเป็นแม่ที่ไม่ดีนัก ถ้าพูดถึงด้านดีของเธอคงมีแค่เรื่องเดียวคือ ผู้ให้กำเนิดเหล่าดราก้อนสเลเยอร์ แต่กระทู้นี้จะไม่พูดถึงเรื่องเหล่านั้น เราจะมองบทบาทของตัวละครนี้ภายในเรื่องมากกว่า

          สำหรับตอนนี้ไอรีนเป็นตัวละครที่น่าสนใจมาก ไม่ใช่แค่บทบาทของเธอในเรื่องราวตอนนี้เท่านั้น แต่เรื่องเล่าของเธอในอดีตก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน หากลองวิเคราะห์บทบาทของตัวละครนี้ก็จะพบว่าเป็นการสร้างภาพแทนอำนาจของผู้หญิงในสังคม

          สังคมในอดีตผู้หญิงเป็นใหญ่กว่าผู้ชาย มีสถานะเป็นชนชั้นผู้นำของสังคม ส่วนผู้ชายเป็นบริวารหรือเป็นชนชั้นรองของสังคม ซึ่งวัฒนธรรมดังกล่าวมีมานานแล้วกว่า 3,000 ปี โดยเฉพาะในดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นการที่ไอรีนเป็นราชินีของเหล่ามังกรจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ถ้ามองในมิติเชิงสังคมไอรีนคือผู้หญิงที่อยู่เหนือเหล่ามังกร ซึ่งหมายถึงผู้ชาย พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ หงส์เหนือมังกร” หงส์เป็นสัญลักษณ์ของเพศหญิง ส่วนมังกรเป็นสัญลักษณ์ของเพศชาย

          ถ้าพูดถึงเรื่องการเมืองก็จะทำให้เห็นชัดว่า แม้ผู้หญิงจะเป็นชนชั้นผู้นำในสังคมอดีต แต่รากฐานความมั่นคงของบ้านเมืองคือสิ่งสำคัญ ดังนั้นจึงต้องมีการแต่งงานทางการเมืองเหมือนที่ไอรีนต้องแต่งงานกับพ่อของเอลซ่า เพื่อรักษาอำนาจการปกครองให้คงอยู่ต่อไปได้ และการทำศึกสงครามในอนาคต การแต่งงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าผู้ชายกำลังเลื่อนชั้นทางสังคมให้เท่าเทียมกับผู้หญิง อำนาจของผู้ชายจึงลดทอนอำนาจของผู้หญิงให้น้อยลง เพื่อขึ้นมาเป็นชนชั้นผู้นำแทนผู้หญิงต่อไป ซึ่งเห็นได้ชัดเจนในปัจจุบัน

          หากมองในมิติวัฒนธรรมและความเชื่อไอรีนคือแม่มดหมอผีผู้หญิงหัวหน้าชนเผ่าที่สามารถติดต่อกับอำนาจเหนือธรรมชาติได้ ซึ่งในที่นี้ก็คือมังกรที่มนุษย์ไม่สามารถต่อกรได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ไอรีนคุ้นเคยกับมังกรเป็นอย่างดี เพราะต้องติดต่อสื่อสารกันเป็นประจำเหมือนลัทธิความเชื่อหนึ่งในสังคม ซึ่งถ้าพูดถึงเรื่องอำนาจเหนือธรรมชาติแล้วก็มีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี เมื่ออำนาจสิ่งที่ไม่ดีมีมากกว่าจึงต้องมีสิ่งที่ใช้ทำลายอำนาจเหล่านั้น ไอรีนจึงคิดค้นเวทมนตร์เพื่อใช้ปราบมังกรขึ้นมา ซึ่งก็คือเหล่าดราก้อนสเลเยอร์นั่นเอง โดยการหยิบยืมพลังอำนาจเหนือธรรมชาติของมังกรบวกกับพลังอำนาจของตัวเองที่มีให้กำเนิดเป็นเวทมนตร์ขึ้นมาอาจเรียกอีกชื่อให้เข้าใจง่ายคือ ไสยศาสตร์ และเมล็ดพันธุ์มังกรที่อยู่ในตัวของเหล่าดราก้อนสเลเยอร์ก็คือด้านมืดของเวทมนตร์หรือศาสตร์มืดนั่นเอง

          แม้ว่าไอรีนจะประสบความสำเร็จในการสร้างกองทัพเหล่าดราก้อนสเลเยอร์ เพื่อใช้ต่อกรกับมังกรที่ชั่วร้ายก็ตาม แต่พลังอำนาจของมังกรกับมนุษย์ก็ไม่สามารถที่จะเข้ากันได้ จนถูกกลืนกินความเป็นมนุษย์และกลายเป็นมังกรในท้ายที่สุด ซึ่งเหมือนกับการโดนคุณไสยย้อนคืนผู้ใช้ เพราะท้ายที่สุดแล้วอำนาจเหนือธรรมชาติกับมนุษย์ไม่สามารถรวมเข้าด้วยกันได้ ดังนั้นไอรีนจึงต้องกลายเป็นมังกรไปตลอดชีวิต แม้จะมีร่างกายภายนอกเป็นมนุษย์ก็ตาม แต่สัญชาตญาณและความรู้สึกของมนุษย์ได้กลายเป็นมังกรอย่างสมบูรณ์แล้ว ข้อนี้อาจเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมไอรีนไม่รักและห่วงใยเอลซ่าผู้เป็นลูกสาวเลย

          การสร้างภาพแทนอำนาจของผู้หญิงในสังคมอาจไม่ใช่แค่ตัวละครไอรีนเท่านั้น หากดูให้ละเอียดแล้วตัวละครของการ์ตูนเรื่องนี้มักเน้นที่ตัวละครผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และบทบาทของตัวละครเหล่านั้นก็แสดงให้เห็นถึงอำนาจของผู้หญิงในสังคมด้วย

          เมวิส เวอร์มิลเลี่ยน กิลด์มาสเตอร์แฟรี่เทล รุ่นที่ ซึ่งเป็นผู้ที่ก่อตั้งกิลด์ขึ้นมา แสดงให้เห็นบทบาทของผู้หญิงที่เหนือกว่าผู้ชายในฐานะของผู้นำกิลด์ จนได้ฉายา เมวิสนักวางกลยุทธ์ของเหล่าภูต” สมญานามดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่ตั้งขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้นฉายาดังกล่าวจึงบ่งบอกว่าผู้หญิงที่ชื่อเมวิสคนนี้เป็นคนที่มีความสามารถ ฉลาด และมีไหวพริบ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้นำของเหล่าจอมเวทกิลด์แฟรี่เทล สิ่งที่ยืนยันความเป็นผู้นำของเมวิสในฐานะผู้หญิงอีกอย่างก็คือ ผู้ให้กำเนิด มหาเวทของภูต แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงเก่งกล้าสามารถไม่แพ้ผู้ชาย ไม่ใช่แค่การเป็นผู้ก่อตั้งหรือผู้นำของกิลด์เท่านั้น แต่ยังเป็นคนวางรากฐานและโครงสร้างที่สำคัญให้แก่ชุมชนของตัวเอง รวมทั้งการสร้างขีดความสามารถให้แก่สมาชิกของกิลด์ เพื่อให้ทัดเทียมกับชุมชนอื่นในสังคม

          เอลซ่า สการ์เล็ต เธอเป็นสมาชิกของกิลด์แฟรี่เทล มีตำแหน่งเป็น ใน จอมเวทระดับ S Class และเธอขึ้นชื่อว่าเป็นจอมเวทหญิงที่แข็งแกร่งที่สุดของแฟรี่เทล จนได้รับฉายาว่า ไททาเนีย บทบาทของเธอที่ทำให้เห็นอำนาจของผู้หญิงในสังคมคือ การขึ้นเป็นกิลด์มาสเตอร์แฟรี่เทล รุ่นที่ ในภาวะที่กิลด์ขาดผู้นำและมีความวุ่นวายเกิดขึ้น เอลซ่าแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงอย่างเธอเป็นที่เคารพศรัทธาในหมู่สมาชิกกิลด์ด้วยกัน สมาชิกกิลด์ทุกคนต่างกลัวเกรงเธอเสมอ และเอลซ่าก็มีความสามารถเป็นที่ยอมรับในสังคม จนได้ขึ้นเป็นผู้นำของกิลด์ ซึ่งในบรรดาสมาชิกกิลด์ด้วยกันเอลซ่ามักได้รับการยกย่องจากทุกคน ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าในการทำภารกิจ หรือในฐานะผู้นำของกิลด์มาโดยตลอด มาคาลอฟก็เคยพูดเอาไว้ว่าบรรดาสมาชิกกิลด์ทั้งหมด เอลซ่าเหมาะสมที่จะขึ้นเป็นผู้นำของกิลด์มากที่สุด

          เมวิสกับเอลซ่าแสดงให้เห็นว่าการสร้างภาพแทนอำนาจของผู้หญิงในสังคมอาจไม่ใช่แค่ตัวละครไอรีนเท่านั้น ซึ่งความน่าสนใจของบทบาทตัวละครผู้หญิงในการ์ตูนแฟรี่เทลสำหรับตอนนี้คือ การปะทะอำนาจของผู้หญิงด้วยกันระหว่างไอรีนตัวแทนของอำนาจผู้หญิงในฐานะแม่กับเอลซ่าตัวแทนของอำนาจผู้หญิงในฐานะลูก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าบทสรุปจะเป็นเช่นไร คงต้องติดตามกันต่อไป แต่คำถามที่ยังคาใจตอนนี้อยู่ก็คือ เอลซ่าเป็นลูกครึ่งมนุษย์กับมังกรหรือเปล่าบางทีสมมติฐานข้อนี้อาจหมดไป เพราะพันธุกรรมของมังกรไม่สามารถถ่ายทอดผ่านสายเลือดไปสู่มนุษย์ได้เหมือนไอรีนที่ไม่สามารถเอ็นชานต์ตัวเองเข้าไปอยู่ในร่างเอลซ่า


ใครมีความคิดเห็นอย่างไรมาแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ ยินดีรับฟังเสมอ ^^

เครดิตรูปภาพ : http://www.deviantart.com/tag/eileenbelserion?offset=35

แสดงความคิดเห็น

>