Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

นิยายแนว American Fandoms Crossover Highschool AU เมื่อตัวละครจากแฟนด้อมอเมริกันเป็นนักเรียน ม.ปลาย!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
พอดีผมลองแต่งนิยายCrossover(ข้ามเรื่อง)ระหว่าง Adventure Time with Finn & Jake, Gravity Falls, Star VS The Forces of Evil, Marvel, Steven Universe, My LittlePony:Friendship is Magic และ Rick & Morty อยู่ครับ และ อยากรู้ว่า จะมีใครสนใจแนวนี้บ้างน่ะครับ แหะๆ เลยขอฝากบทที่เขียนไว้บางส่วนนะครับ เผื่อว่าใครชอบ ถ้ายังไงๆ อยากให้ผมแต่งเป็นนิยายจริงๆจังๆเลย ช่วยเม้นกันนะครับ 

ขอคุณสำหรับความสนใจนะครับ


[ตัวอย่างนิยาย]
 

เด็กหนุ่มวัย 16 ปีในชุดฮู้ดสีขาวนวล เสื้อเชี้ตสีน้ำเงินอ่อน และ กางเกงยีนสีคราม เดินตามถนนที่มีอาคารบ้านเรือนตั้งตระหง่า กลางฤดูใบไม้ร่วง พร้อมกับพี่บุญธรรมเชื้อสายสเปน ที่มีร่างล่ำเนื้อในเสื้อนอกสีเหลืองอ๋อยกับกางเกงขายาวสีครีมที่กำลังก้มหน้าเล่นเกมบนมือถืออย่างเมามัน

 

“เจค นายพอบอกฉันได้ไหมว่า เบนจามิน แฟนคลิน สำคัญต่อการปฎิวัติอเมริกายังไงแล้วนะ พอดีฉันลืม” เด็กหนุ่มผมทองสลวยถามพี่ชายผู้กดมือถือจนไม่เงยหน้าดูบรรยากาศ

 

“เขียนพวกหนังสือ คุยกับฝรั่งเศส แล้วก็ไปเล่นว่าวกลางสายฟ้า” เจคเอ่ยลอยๆ “วันนี้สอบประวัติศาสตร์อเมริกาเหรอ พวก” เขาถาม

 

“วันนี้สอบนะ แต่สอบฟิสิกส์ เอาตรงๆ คงต้องให้บอนนี่กับทไวไลท์ช่วยติว” ฟินน์ถอนหายใจ ทอดสายตาตามท้องถนนไปยังโรงเรียน

 

“จะให้พวกเธอติวสอบ หรือ จะ ให้พวกเธอไปกินข้าวด้วยกันแน่” เจคเย้าฟินน์เล็กน้อย ก่อนที่พวกเขาจะพบกับเด็กชายผมสีน้ำตาลโอ็กในหมวกขาว-น้ำเงิน เสื้อหนาวสีกรมท่า เสื้อชมพูเข้ม กางเกงสีครีม “งั้น..ดิปเปอร์ ช่วยติวฟิสิกส์ให้ฉันหน่อย”

 

“อีกแล้วเหรอ?” ดิปเปอร์ถาม “นายไม่มีเวลาอ่านเรื่องสนามแม่เหล็กไฟฟ้า แต่กลับมีเวลาไปดูซีรี่ย์ วอล์กกิ้งเดธ เนี่ยนะ” “ไม่เอาน่า พวก! ในเรื่อง ริคกำลังลำบาก!”

 

“พวกหนุ่มๆ กำลังพูดถึง ลุงริค ซานเซซ ที่สอนพีทากอรัส เหรอ” แฝดสาวขอบดิปเปอร์ในชุดสเวตเตอร์ถาม “หมายถึงพระเอกจากเรื่อง..” ดิปเปอร์เปิดปากแย้ง “นายกำลังหมายถึง เรื่อง ผีชีวะ เหรอ?” มาเบลตัดบท

 

“ผีชีวะมีพระเอก คือ ลีออน ต่างหาก มาเบล” ดิปเปอร์แก้บท “ยังไงๆ ก็นะ ฉันว่าอีกเดี๋ยวฉันคงเก็บตังค์แล้วละ มีแต่คนมาขอฉันติว พูดแล้วก็เหนื่อย” “โธ่!ช่วงนี้ฉันต้องสะสมเงิน..” “ซื้อตุ๊กตา?” ดิปเปอรฺ์แทงใจดำฟินน์ “เขาเรียก แอคชั่นฟิคเกอร์!” ฟินน์บอก

 

ระหว่างที่พี่น้องสองคู่กำลังเดินไปยังโรงเรียน พวกเขาก็พบกับรุ่นพี่ ม.6 และ ม.5 คนนึง “โทมัส โอเดนเซนต์” กับ “ลูคาส โอเดนเซนต์” สองพี่น้องสุดฮอด พี่โทมัส หรือ ฉายา “ธอร์ มือกลองสายฟ้าฟาด” ร็อคสตาร์เซเลประดับโรงเรียน สาวๆกรี็ดสลบ หนุ่มๆต่างอยากจะเป็นแบบเขา ส่วนลูคาส “โลกิ -จอมกะล่อน” ดังเรื่องการใช้ลิ้นที่ไม่เป็นสองรองใคร ใครๆก็อยากได้มาร่วมกลุ่มโต้วาที หรือ การรีวิวหน้าชั้น แต่หากว่า ใครจะไว้ใจเขาง่ายๆ

 

“พี่ธอร์ครับ ผมทรงใหม่สวยนิ” ฟินน์ทักรุ่นพี่มือกลองอย่างร่าเริง “ขอบใจ ฟินน์” โทมัสตอบกลับด้วยร้อยยิ้มพิมพ์ใจ “นี่ ฟินน์ สรุปจะให้ฉันติวเรื่องแม่เหล็กไฟฟ้าไหมละ” ดิปเปอร์ถาม

 

“อย่าไปเสียเวลากับเรื่องวิชาการโง่ๆ กับ ครู ไอเซนฮาร์ด เลย หมอนั่นบ้าเรื่องแม่เหล็กไฟฟ้า” ธอร์ยักไหล่ “เจ้านั่นโดนไล่ออกจากโรงงานไฟฟ้า เลยมาเป็นครูไง ยังไงๆ อ่านไปก็ตก รอแก้ง่ายกว่า”

 

ดิปเปอร์จ้องพี่โทมัสอย่างไม่พอใจ “คิดดีๆนะ ฟินน์ นายก็มีวิชาอื่นๆที่ต้องเพิ่มเกรด ถึงจะได้เข้ามหาลัยในฝัน..” “ ...เรียนเยอะๆ จะได้กลายเป็นเครื่องมือขของรัฐ เอาสิ ดิปเปอร์ ไม่มีใครห้ามนาย แต่พวกเราไม่เอาด้วย”  โลกิขัดบทแล้วกระพริบตาให้ธอร์

โทมัสเอาเสื้อนอกลายสก็อตสวมทับเสื้อกล้ามสีขาวที่มีทรงกล้ามจากการออกกำลังกาย แล้วจึงรับเข้มขัดเล็กน้อย ส่วนโลกิก็สวมเสื้อหนังสีน้ำตาลเข้มทับเสื้อคอปกสีเขียวขี้ม้า แล้วก็เดินไปด้วยกัน

__________________________________________________________________________

 

    หนุ่มร่างจ่ำม่ำผมสีน้ำตาลเข้มหยิกหยอง ในเสื้อยืดชมพูเข้มกับกางเกงยีนนั่งรถยนต์ที่มีผู้หญิงวัยกลางคนถีง3คน นั่งกินโดนัทกับนมอุ่นด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ “เพทรา...ผมขอถามอย่างนะครับ”

 

    หญิงร่างบางผิวขาวนวลกับผมสีทองค่อนข้างสั้นในชุดสีครีมอ่อนหันไปทางเด็กหนุ่มที่นั่งข้างๆ “มีอะไรเหรอจ๊ะ สตีเวน” “ทำไมน้าถึงไม่ยอมให้ผมเดินไปโรงเรียนเหมือนเด็ก ม.ปลายคนอื่นๆละครับ?” เขาถามด้วยสีหน้าไม่สบายใจ

 

    “สตีเวน เธออาจจะโดนพวกนักเลงเล่นงาน หรือ โจรจี้ก็ได้นะ อีกอย่าง พวกเราก็เพิ่งย้ายมาอยู่เมืองนี้ เราควรจะทำแบบนี้ไปสักพัก..” คุณหน้าหน้าผากเถิกทำเสียงเป็นห่วง

 

    “ทำแบบนี้ ตอนสตีเวนอยู่มหาฯลัย เราก็ต้องส่งเขาด้วยไหมเนี่ย?” สาวแอฟริกันผมสลวยร่างท้วมเตี้ยเหน็บแนม  “หรือเราจะปล่อยให้เขาโดนทำร้าย? ใช่สมองหน่อย” เพทราหยิบประเด็นยืนหยัดขึ้นมา

 

    “พอได้แล้ว สาวๆ” หญิงชาวเม็กซิกันวัย 40 ปลายๆ ผู้มีผมแอฟโฟร่พร้อมชุดประมาณพวกศิลปินเซอร์ๆ ตัดบทเรียบๆ “ถ้าเราเจอพวกเด็กๆที่ไว้ใจได้ และ ไปโรงเรียนเดียวกัน เราจะฝากสตีเวนให้พาเขาไปด้วย”

 

    สตีเวนที่กำลังกินโดนัทชิ้นสุดท้าย มองไปยังกระจก “ผมว่าผมเจอพวกรุ่นพี่ที่ดูไว้ใจได้แถวนี้!” เขารีบบอก แล้วรีบสวาปานโดนัทก่อนซดนมลงไปอึกใหญ่ “ระวัง! เดี๋ยวติดคอพอดี!” เพทราเตือน “อ้อ อีกอย่าง...นี่ถุงอาหารเที่ยง” เธอรีบหยิบถุงกระดาษรีไซเคิลพองๆ ให้เขา “เพทรา ที่โรงเรียนเซนต์ฟรังซิสฯ เขามีโรงอาหารแบบจ่ายเงิน” หญิงผมหยอยที่กำลังขับรถเอ่ยลอยๆ

 

    “กาบริเอลล่า แล้วถ้าอาหารที่นั่นไม่อร่..” “สตีเวน นี่ 3 ดอลล่าห์” กาบริเอลล่ายื่นเงินให้สตีเวน พลางหันรถไปยังกลุ่มของกลุ่มของวัยรุ่น4-5 คนที่กำลังเดินคุยกันอย่างออกรส

 

    “นี่ สตาร์ ที่อังกฤษ ทุกๆคนกินเอิร์ลเกรย์แทนน้ำ จริงรึเปล่า?” หนุ่มผมสั้นน้ำตาลเข้มผิวขาวอมเหลืองในเสื้อแขนยาวลายสมการฟิสิกส์ และ กางเกงยีนเนื้อดีถามสาวผมทองยาวในเสื้อสีสดลายการ์ตูนกับกระโปรงยาวสามสี

 

    “ก็...พอๆกับที่พวกอเมริกันบางคนกินกาแฟแทนน้ำ” เธอเหน็บ แต่ก็ยังรักษารอยยิ้มที่แลดูบริสุทธิ์เอาไว้อยู่ ก่อนที่จะมีเสียงแตรดังขึ้น “หนุ่มๆสาวๆ มาจากโรงเรียนไหนกัน” หญิงชาวเม็กซิกันบนรถหยุดรถเพื่อถาม

 

    “เซนต์ฟรังซิสแห่งเอเวอร์แลนด์ค่ะ” สาวชาวพื้นเมืองอเมริกันผิวน้ำตาลแดงในชุดสีส้ม-แดงที่ดูหลวมๆสบายๆเอ่ย “ว่าแต่ เธอชื่ออะไร” กาบริเอลล่าถามต่อ “โฟบี คีฮิ* ค่ะ คุณน้า”

 

    “ถ้าไม่รบกวน น้าของฝากพ่อหนุ่มของน้าหน่อย” เธอเอ่ย ขณะที่สตีเวนเดินออกมาจากรถ “สวัสดี ทุกคน ผมชื่อ สตีเวน ยูนิเวิร์ส ครับ” เขาแนะนำตัว “เพิ่งมาใหม่ครับ พอดีพ่อผมย้ายมาเพราะได้งานที่นี่”

 

    “แอนโทนี่ สตาร์ค” หนุ่มลุคคูลเอ่ยอย่างภูมิใจ เม้มปากที่มีหนวดบางๆเล็กน้อย “สตาร์ บัตเตอร์ฟลายค่ะ” สาวแดนผู้ดีในชุดสีสดเอ่ยอย่างร่าเริง “ผม...มอร์ตี้ สมิธ” เด็กหนุ่มเสื้อเหลืองกับผมน้ำตาลอ่อนสั้นๆเอ่ย ด้วยความเขินอาย

 

    “โอเค..ไปก่อนนะ สตีเวน...เจอกันที่บ้านนะ!” น้าเอมี่ตะโกนขณะที่รถขับออกไป “จำกฎ 25 ข้อสำหรับชีวิิต ม.ปลายให้ดีนะ สตีเว่น!” เพทราตะโกนหลังจากที่รถไปไกลได้สักระยะนึง

 

    “กฏอะไรเหรอ?” โทนี่ถามงงๆ “กฏเกี่ยวกับว่า ทำยังไงให้ชีวิตของผมปลอดภัยและมีความสุข เช่น ไม่รับของจากเพื่อนที่ยังไม่สนิท ไม่เข้าห้องน้ำคนเดียว...” “โธ่! โยนกฏพวกนั้นทิ้งไปเลย! สตีเวน! นี่มันไม่เหมือนกับ ม.ต้น” โทนี่แนะ “เสื้อนายก็...ดูดีนะ..ถ้านายเด็กกว่านี่ 3 ปี”

 

    “โทนี่!นายนี่ก็…!” โฟบีแทรก “ฉันแค่พูดความจริงตามประสบการณ์...ของหนุ่มอัจฉริยะ..”โทนี่เริ่มโม้ “..เราเพิ่งเจอเขาแทบไม่ถึงนาที!” โฟบีเตือน “แล้ว นายคิดว่า นี่คือวิธีที่จะสร้างเพื่อนเหรอ?” “งั้น สตีเวน นายอยู่ชั้นไหน?” โทนี่ถาม

 

    “มัธยม 4 ครับผม” สตีเวนตอบ พลางยิ้มให้โทนี่นิดๆ “ฉัน ม.6 แถมยังเป็นสมาชิกในวงดนตรีสุดฮอตของโรงเรียน แล้วก็ ชมรมนักประดิษฎ์ แถมยังได้มีชื่อเป็นนักกีฬาฮอกกี้โรงเรียนด้วย..งั้น โฟบี..เธอก็ ม.4 ก็..เป็นเพื่อนเขาสิ” หนุ่มเพลย์บอยโม้ “นายก็ด้วย...มอร์ตี้” เขาหันไปหาเด็กผมน้ำตาลที่แกล้งหันไปชมบรรยากาศในบ้านคนอื่น

 

    “ถ้านายคืดว่า นายฮอตถึงขั้นนั้น ทำไมนายถึงมาเดินกับเราละ?” โฟบีย้อน “โอเค...ฉันแค่เหงา..แล้วก็..แบนเนอร์!ดีใจที่ได้เจอ! ไปก่อนละเด็กๆ”

 

__________________________________________________________________________

 

    ขณะที่ฟินน์ เจค ดิปเปอร์ มาเบล ธอร์ และ โลกิ กำลังเดินตามทางเดินเท้าพลางคุยกันเรื่อยเปื่อย “เอาเป็นว่า ฉันกับทไวไลท์จะช่วยติวนายละกัน แต่นายต้องเลี้ยงข้าวฉันวันนี้” ดิปเปอร์เสนอข้อตกลง     “ก็ได้” ฟินน์ตอบรับ ก่อนที่จะเดินผ่านประตูอิฐทาสีฟ้าขุ่น เข้าไปยังบริเวณโรงเรียนที่มีอาคาร3หลังตั้งตระหง่าล้อมรูปปั้นสัมฤทธิ์ของชายวัยกลางคนในชุดสูทแบบคนในสมัยสงครามกลางเมืองของอเมริกา**ที่ยืนอย่างสง่าผ่าเผยมาตั้งแต่วันที่โรงเรียนถูกสร้าง

 

    สาวผิวซีดผมดำยาวสลวยในชุดแบบนักดนตรีพังค์กำลังนั่งเล่นเบสบนม้านั่งใต้ต้นไม้ “สวัสดียามเช้า มาร์ซี่” โทมัสทักทายด้วยรอยยิ้มอบอุ่น “ไง พ่อมือกลองสายฟ้า” มาร์ซิลีนยิ้มอย่างมีเลศนัย ลุกขึ้นมาจากม้านั่งแล้วเดินเข้าหาหนุ่มผมทองสั้นช้าๆ “เย็นนี้ จะมีการประลองวงดนตรี แน่นอน ฉันเตรียมสมาชิกเทพๆมาไว้แล้ว”

 

    ”กลุ่มเธอมีกี่คนละ” ธอร์ถามไม่สะท้าน ”กลุ่มฉันมีแค่ 6 คน; โทนี่ สตีฟ บรูซ นาตาชา คลินต์ และ ฉันเอง” “นายลืมแล้วเหรอว่า วันนี้ คลินต์ไปแข่งยิงธนูที่เมืองอื่น?” โลกิเตือนสติ

 

    “กลุ่มฉันมีไม่มีกี่คนหรอก; โฟบี บอนนี่ ฉัน...แล้วก็..” เธอหันไปรอบๆ จนนึกอะไรออก “..ฟินน์ กับ เจค!” เธอรีบออกปาก ก่อนที่ธอร์จะหันไปหาฟินน์ กับ เจค “พวกนายตกลงกันตั้งแต่เมื่อไหร่” ก่อนที่สองสหายพี่น้องจะได้พูดอะไร “เมื่อเย็นที่แล้ว!” มาร์ซี่รีบตอบคำถามแทน

 

    ธอร์กับโลกิยักไหล่ “โอเค พวกนายลองได้นะ แต่อย่าหวังว่าจะชนะง่ายๆ ขอให้พวกนายโชคดีได้ที่ 2” สองพี่น้องสุดฮอตเดินจากไปยังอาคารกลาง “พวกเราไม่ได้ตกลงอะไรกับเธเลยนะเมื่อวาน!” ฟินน์เตือนด้วยสีหน้าตกใจ

 

    “โธ่ๆๆ พวกนายอยากเป็นไอห่วยที่ถูกลืม หรือ จะเป็นเซเลปข้ามคืนละ?” มาร์ซ๊่ตั้งประเด็น “พวกนายไว้ใจเรา3 คนได้...แค่ว่าพวกนายจะคว้าไหม?” เจคแสดงสีหน้าไม่พอใจ “ไม่ล..” “เธอจะให้พวกเราเล่นตำแหน่งอะไรละ?” ฟินน์รีบตกลง

 

    “ให้ได้อย่างนี้สิ ฟินน์!” มารืซิลีนตบไหล่ของหนุ่มน้อยผมทอง “นายเป็นนักร้องชายนะ ขอเป็นเพลง Way Back Into Love ของ Hugh Grant” แล้วก็หันไปหาเจคต่อ “นายเล่นอะไรเป็นมั่ง?” “โอเคๆ ไวโอลินก็ได้” เจคถอนหายใจ

 

    “ให้ได้อย่างนี้สิ! หนุ่มๆ” มาร์ซิลีนเดินจากไปยังอาคารเรียนอย่างร่าเริง  “ฟินน์ นายทำอะไรลงไป?!” เจคถามฟินน์ที่ยืนนิ่งหน้าแดงก่ำ “โทษที ฉันแค่อยากช่วยเธอ” ฟินน์เอ่ยลอยๆ “แล้วเราก็ไม่ได้มีนัดอะไรสักหน่อย..เจค” “โธ่! อดเล่นการ์ดวอร์เลยเย็นนี้” ้เจคพึมพำ สีหน้าบูดเบี้ยว

 

    “ไม่เอาน่า เจค...นายไม่อยากเป็นเซเลปโรงเรียนเหรอ เราจะได้ดังข้ามคืน” ฟินน์พยายามโน้มน้าวพลางเดินเข้าอาคารเรียน “ฉันพอใจชีวิตของฉัน ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่า..เข้าชมรมเกมส์กระดาน ทำอาหาร แล้วก็ เล่นดนตรีแบบที่ไม่มีใครมาจ้าง” เจคบ่น “นายแค่ลากฉันเข้ามาช่วยในเรื่องโง่ๆนี่”

 

    ฟินน์เริ่มขมวดคิ้ว ก่อนที่จะมีเสียงนึงเอ่ยมา “ฟินน์ เมอร์เทิน ได้ข่าวว่าเธอต้องการให้ทไวไลท์ช่วยติวเรื่องแม่เหล็กไฟฟ้าใช่ไหมจ้ะ” สาวผมม่วงม้วนลอนในเสื้อลินินสีขาวเนียน กับ กระโปรงไหมสีม่วงเข้มถาม “ใช่ แรริตี้ เบลล์” ฟินน์รีบคืนหน้าเดิม ลูบหัวเขินๆ “ทไวไลท์ฝากบอกว่า อย่าลืมเลี้ยงข้าวทั้งเธอกับดิปเปอร์ด้วย” เธอเอ่ย แล้วเดินไปยังห้องเรียน “ครูพิมจะเริ่มสอนวิชาชีววิทยาแล้ว เขาให้ฉันมาตามนาย”

 

* คีฮิ(Keahi) แปลว่า ไฟ ในภาษาชนพืื้นเมืองอเมริกา

** สงครามกลางเมืองอเมริกา(American Civil War) สงครามระหว่างฝ่ายเหนือ-ใต้ ในยุคลิงคอร์น จากกรเลิกทาสกระทันหัน ในช่วง ค.ศ. 1861–1865




 

แสดงความคิดเห็น

>