Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

คิดเห็นอย่างไรกับ โลกของ dek-d ตลาดสำคัญกว่าจินตนาการ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ผมอ่านกระทู้ไปเรื่อยผมอ่านเจอกับคอมเมนต์วลีนี้ ผมจุกไปพอสมควร 

คิดเห็นยังไงกันบ้าง

แสดงความคิดเห็น

>

23 ความคิดเห็น

Blue 29 ม.ค. 61 เวลา 13:27 น. 1

มันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ งานศิลปะทุกรูปแบบหากทำออกมาในแง่ของความ mass เข้าถึงกลุ่มคนได้ง่าย ย่อยง่าย ย่อมเป็นธรรมดาที่จะได้รับความนิยมมากกว่า ตรงกันข้ามกับอะไรที่มันมีความอาร์ต ปรัชยา การตีความ ต้องใช้มุมมองหรือทักษะในกระบวนการคิดที่ซับซ้อน ย่อมเข้าถึงกลุ่มคนได้ยากกว่า


ตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์สองเรื่องฉายพร้อมกันในโรง เรื่องแรกเป็นแนวแอคชั่น ขายนักแสดง ฉากบู๊มันส์มาก เล่าเรื่องตามลำดับ เปิดเรื่อง อุปสรรค ฝ่าฟัน บทสรุป จบ...!!! ส่วนเรื่องที่สอง นักแสดงธรรมดา ในเรื่องเต็มไปด้วยสัญญลักษณ์ สื่อสารกันด้วยท่าทาง คำพูดมีอะไรแฝงอยู่ เล่าเรื่องสลับไปสลับมา ซับซ้อน จบปลายเปิด ไปตีความเอาเอง...!!! ถามว่าสองเรื่องนี้คนดูจะชอบเรื่องไหนมากกว่ากัน


แน่ล่ะ...เรื่องที่สองสามารถทำให้มันนิยมได้ แต่ก็ต้องปรับความ mass เพื่อเข้าถึงตลาดและกลุ่มคนดูในวงกว้างได้ แต่ถึงจะไม่ปรับก็เข้าถึงคนดูได้ เพียงแต่อาจจะยากกว่าเรื่องแรก (ใช่ว่าจะไม่มี แต่มันยากกว่าเยอะมาก)


แต่ถ้าจะให้เปรียบว่า "ตลาดย่อมสำคัญกว่าจินตนาการ" นี่ก็คงจะไม่ใช่ จินตนาการนี่บางครั้งก็ต้องดูด้วยนะว่า จินตนาการดีหรือไม่ ออกมาแล้วมันบรรเจิดไหม ไม่ใช่ว่าเราคิดว่ามันดีสุดๆ แต่คนอื่นๆ หรือทุกคนอ่านแล้วมันธรรมดามาก ถ้าแบบนี้มันก็ไม่แปลกถ้าจะไม่มีคนสนใจหรือเข้าถึงคนได้น้อย

0
29 ม.ค. 61 เวลา 13:30 น. 2

ส่วนตัวคิดว่าต้องควบคู่กันไปนะ ไม่มีอะไรสำคัญกว่า เล็งกลุ่มตลาดไว้ดี ก็จะมีคนมาอ่านเยอะ แต่ถ้านิยายจินตนาการแห้งแล้ง คนอ่านก็คงขอบายอยู่ดี

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

CreedReader 29 ม.ค. 61 เวลา 13:46 น. 4

เห็นด้วยเลยล่ะ แต่ใช่ว่าจะไม่มีคนอ่านเรื่องจินตนาการสักหน่อย ตลาดสำคัญอยู่แล้ว ใช้เพื่อขาย มีคนซื้อหลักพันหลักหมื่นอยู่แน่นอนกว่า กว่าทำเพื่อตอบสนองความต้องการตนเอง แต่ถ้าวันไหนจินตนาการมาคู่กับตลาด วันนั้นล่ะที่ตลาดจะเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้งใหญ่ เช่นอย่างกับมือถือรุ่นปุ่มกดเปลี่ยนเป็นจอสัมผัส

0
lesserpanda 29 ม.ค. 61 เวลา 13:49 น. 5

ทุกอย่างต้องมีแบนด์ของตัวเองเป็นการสื่อตัวตนของตัวเอง

ขอเน้นย้ำว่า'ทุกอย่าง'เลยค่ะ

0
Million Nights 29 ม.ค. 61 เวลา 14:22 น. 7

ยังไม่แน่ใจว่ามีความคิดเห็นยังไงกับประโยคดังกล่าว

แต่ที่มั่นใจคือ เมื่อใดที่งานที่ทำอยู่ไม่ได้หวังผลตอบแทน 'จินตนาการสำคัญกว่าตลาด' แน่นอน


ถ้าที่ว่า "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" เป็นจริง

และ "การตลาดต้องการความรู้"

ดังนั้น "จินตนาการ > ความรู้ > การตลาด" ย่อมเป็นจริง

พิสูจน์โดย My Style

0
sunshadow 29 ม.ค. 61 เวลา 15:05 น. 8

เราว่าในเด็กดีก็น่าจะมีทั้งคู่นะ บางคนก็อาจจะคิดว่าตลาดสำคัญกว่า แต่บางคนก็อาจคิดว่าจินตนาการสำคัญกว่า ก็คนเราน่ะไม่ได้คิดเหมือนกันทั้งโลก แต่ก็ไม่น่าจะใช้อ้างถึงขนาดว่าทุกคนที่ใช้เว็ปนี้เป็นอย่างนั้นได้


เราว่าที่สำคัญจริง ๆ ก็คือ คุณน่ะคิดยังไง

0
SilverPlus 29 ม.ค. 61 เวลา 15:45 น. 9

แนวเรื่องที่คนชอบอ่านมีจำกัด ส่วนมากไม่ได้ตามอ่านทุกแนว พวกเขาเองก็มีจริตเลือกแนวที่อ่าน ชอบแนวนี้ ไม่ชอบแนวนี้


บวกกับบางแนว โดยเฉพาะแนวตลาด มันเขียนให้สนุกง่ายมาก คนอ่านจึงเลือกที่จะเสพแนวนี้ คนเขียนก็นิยมเขียน เพราะอ่านแนวนี้มาเยอะ เป็นลูปที่หนุนกันไปมา


แนวใหม่ ๆ มีโอกาสสูงที่จะไม่สนุก คนเขียนจึงรู้สึก ล้มเหลว เสียเวลาพิมพ์ เสียเวลาแต่ง ผลตอบรับไม่ดีอย่างที่ลงแรงไป ก็เลยหันไปแต่งนิยายแนวตลาดจับทางคนอ่าน


มันไม่ใช่แค่เด็กดีหรอก ที่ตลาดสำคัญกว่าจินตนาการ ร้านหนังสือ ละครโทรทัศย์ ทีวีเกมโชว์ ทุกอย่าง ถ้าไม่ยึดหลักการทำตลาด พวกเขาทั้งหมดจะไม่รอด


มันคือความอยู่รอด การได้รับการยอมรับ การได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าเหนื่อย ทุกคนจึงเลือกที่จะมุ่งเข้าหาตลาด แทนที่จะมุ่งค้นหาเส้นทางใหม่ ๆ ที่มีโอกาสล้มตายสูง


คำพูดที่ว่าตลาดสำคัญกว่าจินตนาการ เป็นเรื่องจริง แต่มันไม่ได้แค่เด็กดี เป็นคำพูดที่ครอบคลุมเหนือไปกว่านั้น คลุมการหมุนของโลกใบนี้เลยก็ว่าได้


และอีกอย่าง นิยายแนวตลาด บางครั้งก็มีจิตนาการสูงกว่าแนวแปลก ๆ ด้วย จึงไม่สามารถสรุปได้ว่า แนวตลาด คือแนวนิยายที่ไม่มีจินตนาการ




0
ปากกาเรืองแสง 29 ม.ค. 61 เวลา 16:30 น. 10

เราว่าไม่เสมอไปค่ะ นิยายบางเรื่องที่อิงตลาดหรือเกาะกระแส บางเรื่องก็ไปไม่รอดเหมือนกันนะ ^^ แล้วนิยายนอกกระแสแต่งแล้วจะมีคนอ่านไหม? มีค่ะ แต่ฝีมือการเขียนคุณต้องถึงขั้นพอ ไม่ใช่แต่งนอกกระแสแล้วไม่ค่อยน่าสนใจ พล็อตหลวม ก็คงไม่แปลกที่ไม่มีคนอ่าน


เรามองว่าการที่จะมีคนอ่านนิยายของคุณไหมมันอยู่ที่"ฝีมือ"มากกว่า ไม่เกี่ยวหรอกว่ามันอยู่ที่กระแสหรือนอกกระแส ถ้านิยายคุณเจ๋งพอเดี๋ยวก็มีนักอ่านติดกันแจเองนั่นแหละค่ะ


ส่วนนักเขียนที่แต่งนิยายนอกกระแสก็อย่าเพิ่งน้อยใจโวยวายไป พิสูจน์คุณค่านิยายของตัวเราและพัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ ยอดวิวยอดคอมเม้นมันคงไม่มาปุบปับภายในค่ำคืนเดียว ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา ทุกสิ่งทุกอย่างต้องอาศัยความมานะและอดทนถึงจะมีค่า สู้ๆค่ะ


0
อัจฉราโสภิต 29 ม.ค. 61 เวลา 18:14 น. 11

ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับความคิดที่ว่า "ถ้านิยายคุณดีพอมันก็มีคนอ่านเอง" เท่าไหร่ครับ


ครับ มี แต่ยังไงๆ มันก็ไม่เท่านิยายแนวตลาด แนวตลาดที่เขียนด้วยฝีมือพอๆกัน ลงบ่อยพอกัน คนอ่านมากกว่าอย่างน้อยสามเท่า ดีไม่ดีห้าหกเท่าหรือสิบยี่สิบเท่าด้วยซ้ำ มีคนเคยเถียงผมเรื่องนี้ แล้วเลยลองไปเขียนแนวตลาดจะมาพิสูจน์ว่ามันไม่จริงเสมอไป ผล ? คนอ่านเยอะกว่าหลายเท่า แล้วเขาก็เงียบไปไม่พูดเรื่องนี้อีกเลย


จริงครับ มันเป็นปกติของทุกที่ ถ้าคุณทำอะไรที่ถูกใจคนหมู่มาก เสียงตอบรับย่อมดีกว่าแน่นอน แต่สิ่งที่ถูกใจคนหมู่มากของเรามันแปลกๆ ไม่ใช่แค่นิยายในเว็บนี้ ดูละครของเราสิครับ เนื้อเรื่องเดิมๆ ไม่ต้องอะไรมาก ขอแค่ดาราดี เล่นแข็งไม่เป็นไร ตบตีแย่งผู้ชาย ต่อยกันยิงกันแย่งผู้หญิงทั้งเรื่อง ยังไงก็มีคนดู นิายก็เหมือนกัน คำผิด ? ภาษาไม่ดี ? เนื้อเรื่องไม่มีอะไร วยไปเวียนมากับความเทพทรูและเกรียนของตัวเอกเท่านั้น ? ไม่ต้องสน ขอแค่ถูกจริตเป็นพอ


สักพักคนที่ทำเนื้อหาที่ไม่ใช่แนวตลาด ซึ่งมักจะ “ยากกว่า” ก็จะเริ่มถามตัวเองว่าทำไปทำไม เหนื่อยเปล่า ผล ตอบรับก็ไม่ดีเท่า


ก็ต้องทำใจครับ มีสองทาง จะยอมเปลี่ยนไปตามแนวตลาด หรือจะยึดมั่นแนวทางตัวเองแล้ว "ไม่เน้นขาย"


ซึ่งสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้ให้อะไรกับใครเลย (ยกเว้นผลประโยชน์ของฝ่ายที่ตามแนวตลาด) ตัวอย่างเช่นโทรทัศน์ไทยเดี๋ยวนี้อีกเหมือนกัน ร้องเพลงมันแทบทุกรายการเพราะมันขายได้ แล้วมันทำให้วงการโทรทัศน์พัฒนาไปบ้างหรือเปล่า คนที่มีความสามารถด้านอื่นที่ไม่ใช่ร้องเพลงมีที่แสดงบ้างไหม แล้วสุดท้ายก็จะมีคนบ่นเบื่อ เลิกดูทีวี แต่เปลี่ยนอะไรไม่ได้มาก เพราะคนที่ดูก็ยังจะเอาแนวตลาดอยู่ดี จนกว่าจะมีแนวตลาดแนวใหม่จากต่างประเทศเข้ามา เหมือนวงการนิยายเป๊ะเลย


ไม่แปลกที่มีคนหมดกำลังใจกันไปหลายคนครับ บ่นอะไรไปก็จะมีความเห็นคล้ายๆแบบนี้แหละ "เอาเวลาไปเขียนเรื่องตัวเองให้ได้เท่าเขาก่อนดีกว่ามั้ย เขียนดีเดี๋ยวคนอ่านก็มาเอง"


คนอ่านไม่มาครับ

3
Sevenpart 4 ก.พ. 61 เวลา 07:48 น. 11-2

จริงครับ... ที่พูดมาถูกมากเลยทีเดียว


สุดท้ายแล้วตัวตนของ คนไทยเราที่บอกว่ามีความเป็น 'เอกลักษณ์' นักหนาเนี่ยมันคือตรงไหน ต้องรอให้มีกระแสจากต่างประเทศ?ก่อน? (แทบทุกวงการ)


0
Mckinley 8 ก.พ. 61 เวลา 00:06 น. 11-3

คนอ่าน ไม่ได้เลือกว่า ดี ไม่ดี

เลือกแต่ ถูกจริต กับ ไม่ถูกจริต

และมักจะถูกจริตกับแนวที่เหมือนคล้อยตามกันไปหมด

ก็จึงเป็นต้นกำเนิดของแนวตลาด

0
Upapyon 29 ม.ค. 61 เวลา 18:47 น. 12

จินตนาการสำคัญกว่าตลาด เมื่อคุณตั้งมั่นว่าจะต้องเขียนให้จบให้ได้ เพื่อพัฒนาฝีมือของตัวคุณเอง โดยไม่นอยด์ว่าจะมีคนอ่านหรือคอมเมนต์ของคุณไหม


ตลาดสำคัญกว่าจินตนาการ เมื่อคุณต้องการกระแสตอบรับที่ดี มีคนสนใจในงานของคุณ (จะเขียนดีหรือไม่ก็ช่าง) และต้องการทำเงินจากงานเขียน


ซึ่งในเด็กดีก็มีคนทั้งสองแบบอะนะ แต่ขึ้นชื่อว่า กระแส ใครๆ ก็อยากเขียนในยุคที่การมีตัวตนบนพื้นที่โซเชียลมีเดียกำลังมาแรง

0
K.W.E. 29 ม.ค. 61 เวลา 20:28 น. 15

คิดว่า... พอจะเข้าใจอยู่นะ


เล่นแนวตลาดมันได้ต้นทุนผู้อ่าน (ใน dek-d) สนับสนุนพอตัวเลยทีเดียว

นั่นคือไม่ต้องลองผิดลองถูก หรือเก็บเลเวลให้สูงๆ ก็ยังมีผู้อ่านเวียนวนมา บางคนก็เกาะติด บางคนก็เข้ามาดูเป็นระยะๆ แบบไม่เม้นต์ แต่นิยายจะไม่ค่อยร้างสักเท่าไหร่ ก็เหมาะดีสำหรับนักเขียนใหม่ที่ยังไม่รู้เหนือรู้ใต้ หรือยังคิดไม่ออกว่าจะไปทางไหน ก็ถือว่าฝึกไปในจุดที่มีคนเข้ามาวิจารณ์หรือให้กำลังใจ


แต่ผมมองว่าแนวตลาดเองมันก็ต้องใช้จินตนาการอยู่นะ (ถึงแม้ว่าจะมีประเภทที่ไปหยิบจับไลท์โนเวล หรือนิยายดังๆ จากญี่ปุ่นมาใช้ก็เถอะ)


เพียงแต่ว่าขึ้นชื่อว่าตลาดเนี่ย มันเหมือนสินค้าทำโหลแล้ว บางอย่างก็พัฒนาไปจนพัฒนาต่อได้ยาก ไม่งั้นก็ให้หลุดโลกไปเลย เอากาวมาเทให้เมาไปข้าง

พอเปิดหลายเรื่องแล้วพล็อตไม่ฉีกเข้า มันเลยทำให้รู้สึกเหมือนไม่ได้ใช้จินตนาการสักเท่าไหร่


ซึ่งก็จริงที่บางคนก็ได้รับอิทธิพลจนรู้สึกเหมือนลอกมาเลย หรืออาจลอกจริง

แต่บางท่านก็ไม่ได้ลอก และก็ใช้ความสามารถตัวเองมาประยุกต์ล่ะนะ แต่ในกระแสตลาดที่เฟ้อแบบนี้ หากจะถูกมองว่าไม่ค่อยได้ใช้จินตนาการ ผมก็ไม่แปลกใจกับคำพูดนั้นหรอกนะครับ เพราะนักเขียนใหม่บ่อยครั้งเหมือนกันที่จะมีปัญหาเรื่องการย่อยและสังเคราะห์พล็อตหรือไอเดียใหม่ให้ออกมาเป็นของตัวเอง มันเลยได้กลิ่นไอของนิยายต้นฉบับมาแบบจับได้เลย



แต่ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าถามว่าคิดยังไงกับตลาดหรือจินตนาการ (ออริจินัล)

จากประสบการณ์ที่แต่งสองแนวแล้ว ผมว่ามันก็สนุกทั้งคู่ล่ะนะครับ แนวตลาดก็แต่งสนุกไปอีกแบบ เน้นเรียบง่ายมีคนเข้าอ่านเยอะ ส่วนแนวออริจินัลก็ได้ใช้ไอเดียใหม่ๆ สร้างพล็อตที่ให้คนอ่านลุ้นไปว่าจะออกมาเชิงไหน แม้ในแง่ความคึกคักจะเป็นรอง แต่มันก็แทนที่ด้วยความจริงจังไปอีกแบบ กลายเป็นสองแนวสองกลุ่มตลาด หลายประเภทผู้อ่านไปเลย

0
chiharu_sc 29 ม.ค. 61 เวลา 20:43 น. 16

พอดีเราเป็นคนไม่สนใจเรื่องการตลาดน่ะคะ คงเพราะเรายังเป็นเด็กอยู่ด้วย เลยไม่ได้มองอะไรได้กว้างไกลขนาดนั้น


จินตนาการคือสิ่งที่นักเขียนถ่ายทอดออกมา การตลาดเป็นกระแสของนิยาย... ถ้าเขียนนิยายแล้วนำไปตีพิมพ์ การตลาดก็ต้องมีความสำคัญขึ้นมาบ้าง 


ส่วนในเว็บเด็กดี ถ้าหากมีสองสิ่งนี้ควบคู่ก็ถือว่าโอเค แต่ก็ไม่ควรยึดหลักการตลาดมากจนเกินไป ทำให้ไม่สนใจการจินตนาการของตนเอง

0
chinchang22 29 ม.ค. 61 เวลา 21:01 น. 17

เราว่าตลาดสำคัญถ้าคุณอยากให้มันออกมาในเชิงพานิชย์

แต่ถ้างานแหวก จินตนาการลึกล้ำ ถ่ายทอดได้ดีมากจริงๆ

บางทีก็คุณอาจจะกลายเป็นคนที่นำเทรนใหม่ในตลาดได้

0
Blueowl 30 ม.ค. 61 เวลา 12:39 น. 18

ไม่จริงครับ


ไม่ใช่ทุกคนที่เขียนตามความต้องการตลาดแล้วจะรุ่ง,รวย

งานเขียนที่ดีจะมีความพิเศษของนักเขียนคนนั้นแฝงอยู่ นักอ่านจึงมีนักเขียนโปรดต่างกันไป


แต่ถ้าพูดถึงนักเขียนฝีมือครึ่งๆกลางๆ แต่อยากจะขายแล้ว ก็คงใช่ ยังไงก็คงมีคนหลงมาอ่านบ้าง

0
ปีศาจหัวโต 30 ม.ค. 61 เวลา 14:30 น. 19

เคยเห็นเม้นนั้นอยู่คิดว่าขำๆดี ดูจิกกัดเบาๆ

เราคิดว่าส่วนหนึ่งก็จริงอยู่ แต่ยังไงก็ต้องมีจินตนาการมาก่อนนะฮะ

ถึงจะมีนิยายซักเรื่องนึงได้ เขียนดีไม่ดียังไงก็ต้องใช้การคิดแล้วพิมออกมาอยู่ดี

ถ้าเขียนไม่แคร์คนอ่าน แคร์แต่อยากจะเขียนก็พอ ตลาดก็ไม่สำคัญเลยใช่มั้ยล่ะฮะ

เขียนอ่านเองไรงี้ มันก็แล้วแต่คนคิดด้วยอ่ะ นักเขียนมีตั้งหลายประเภท นักอ่านก็เช่นกัน

0
Kei K. 30 ม.ค. 61 เวลา 20:59 น. 20

เรื่องนี้เป็นอุดมคติ

โดยส่วนตัวผมไม่รู้หรอกคนอื่นคิดยังไงกัน? แต่ผมพูดได้แค่ว่า "ผมเขียนเพราะอยากเขียน"

มันเป็นจุดเริ่มต้นของจุดเริ่มต้นของตัวผม คนอื่นจะคิดยังไงก็ช่างเขาไป

ผมเหนื่อยคิดตาม&ทำตามคนอื่นทุกคน เพราะยังไงซะ มันก็ต้องมีใครสักคนที่ไม่ชอบในสิ่งที่เราทำ

ดังนั้น เขียนตามความพอใจตัวเองเถอะ "ถ้าเราคิดว่าแย่ เราก็แก้"

ทำต่อไปตามที่ต้องการ พัฒนาต่อไป เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราสร้าง ไม่ใช่ใครคนอื่นสักหน่อย?


เรื่องนี้เป็นการตลาด

ถ้าพูดถึงการตลาด "ตัวผู้ขายต้องทำตามความต้องการของคนส่วนใหญ่เสมอ" ไม่เช่นนั้น....

สินค้าของผู้ขายก็จะไม่ได้รับความสนใจ เหมือนของที่ไม่จำเป็น ผู้ซื้อก็ไม่ต้องซื้อ

ดั่งนิยายที่ไม่มีใครอ่าน เพราะไม่ใช่แนวที่เขาสนใจ กลไกแบบนี้เลยดูโหดร้ายอยู่สักหน่อย~


นอกจากนี้ ถ้าหากมีแต่คนคิดเรื่องนี้กันจริง ๆ

สนามรบที่ผู้เขียนนิยายต้องเจอ ผู้เขียนนิยายแนวเดียวกับเรา ทั้งเขาทั้งเราก็ต่างรบกันไปเรื่อย ๆ

เพื่อแย่งชิงผู้อ่านให้หันมาสนใจนิยายของตน และแล้วในที่สุด นิยายที่พ่ายแพ้ก็ต้องสูญเสียผู้อ่านไป

ส่วนนิยายที่ชนะก็ต้องเตรียมรบกับแม่ทัพคนต่อไป เพื่อแย่งชิงหรือรักษาผู้อ่านของตนเอาไว้


เรื่องการตลาด&อุดมคติ

การทำให้เรื่องในจินตนาการของเรากับการตลาดไปด้วยกันได้ "ไม่ใช่เรื่องง่าย"

มันต้องใช้ทั้งดวง = ผลงานที่เราเขียนเข้าตาคนหมู่มาก จนในที่สุดมันก็ดัง

การทุ่มเท = การเขียนไปและพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่ง คนอื่นยอมรับผลงานของเราเอง

ถ้าเป็นงานนอกกระแส = คนเขียนยิ่งต้องใช้ความพยายามค่อนข้างสูง เพื่อทำให้งานถูกยอมรับ


พูดก็พูดเถอะ จุดประสงค์ที่ผมเขียนนิยาย นั่นเป็นเพราะ "จินตนาการ&สิ่งที่อยากระบาย"

ดังนั้น ความต้องการของผมสำคัญกว่า อันเนื่องจากผมไม่ได้อยากได้เงินสักเท่าไหร่

(ขนาดตอนนี้ยังเขียนนิยายให้คนอื่นฟรีอยู่เลย) ดังนั้นสิ่งที่ผมต้อง นั่นก็คือ....

"ผมอยากให้คนอื่นยอมรับผลงานตัวเองก็เท่านั้น" เหตุผลนี้สำคัญมากที่สุด


ป.ล. ข้าไม่ชอบคำหยาบ มันทั้งหยาบคายและไม่สุภาพ ทำให้เกิดโทสะโมโหและมันก็ลามไปทุกที่

แต่ผมก็พูดคำหยาบนะ สุดท้ายนี้ ขออภัยถ้าหากผมพูดอะไรไม่ดีออกไปนะครับ (>.<)!!



0