Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[ร่วมอภิปราย]ถ้าเกิดสังคมเป็นแนวๆ Omega Vers แบบนี้จะลดความเหลื่อมล้ำทางเพศลงหรือไม่

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
หมายเหตุ : ที่ตั้งในบอร์ดนักเขียนเพราะผมคิดว่าเรื่องแบบนี้อาจนำไปใช้ในการเขียนนิยายได้

แม้ปัจจุบันจะมีการเรียกร้องความเท่าเทียมระหว่างหญิง-ชาย แต่ด้วยข้อจำกัดอย่างหนึ่งที่อาจจะไม่มีวันก้าวข้ามได้เลย คือเรื่องสรีระร่างกายที่ใช้งานกันคนละแบบ ผู้หญิงมักจะสรีระบอบบางเมื่อเทียบกับผู้ชาย จึงไม่เหมาะกับงานบางอย่าง อีกทั้งยังต้องพบปัญหาจุกจิก เช่น ประจำเดือน อาจจะไม่คล่องตัวต่อการทำกิจกรรมบางอย่าง ในขณะเดียวกันเมื่อมี-ง ตรงนี้ก็อาจจะเป็นช่วงที่ฝ่ายชายมักจะเสียเปรียบ ไม่ว่าฝ่ายหญิงจะด่าแรงแค่ไหนก็ตอบโต้ไม่ได้เพราะอาจถูกสังคมประนาม

จู่ๆผมก็ปิ๊งไอเดียนึงขึ้นมา คือถ้าโลกเราเป็น Omega Vers ล่ะ แต่ไม่ใช่แบบทั่วไปนะ แต่เป็นแบบฉบับของผม เป็นดังนี้...

อัลฟ่า - ผู้ชายร่างเคะ ความสูงเฉลี่ยราวๆ 175-180 ซม. วัยหยุดโตคือ 20 ปี รูปร่างบอบบาง มีลูกอ๊อดเผือกปริมาณมหาศาลโอกาสที่จะได้ลูกแฝดสูง

เบต้า - สรีระเกือบทุกอย่างเป็นหญิง ยกเว้นมีแท่งกายสิทธิ์ที่หว่างขาและไม่มีมดลูก สูงเฉลี่ยราวๆ 180-190 ซม. วัยหยุดโตคือ 25 ปี

โอเมก้า - ผู้ชายที่มีสรีระแข็งแรง บึกบึน เตี้ยล่ำ ความสูงเฉลี่ยราวๆ 165-170 ซม. มีมดลูกสำหรับตั้งครรภ์ มีช่องคลอดในตำแหน่งเดียวกับที่ ผญ มี ช่วงฮีทคือช่วงที่มีเมือกไหลออกมาหลังเกิดหลังประจำเดือนไหลออกหมด


สำหรับเบต้าและอัลฟ่าจะมีฟิโรโมน ซึ่งจะมีเฉพาะเจ้าตัวและโอเมก้าที่อยู่ในช่วงฮีทเท่านั้นที่ได้กลิ่นและอาจควบคุมอารมณ์ ทพ ไม่ได้จนพลั้งไปปล้ำอีกฝ่าย โดยหลังเสร็จกิจโอเมก้าจะกัดข้อมือคู่ตัวเองเป็นการทำสัญลักษณ์ หากแต่งงานกันแล้วก็จะต้องใช้ข้อมูลของโอเมก้า

ดังนั้นทั้งอัลฟ่าและเบต้าที่ไม่พร้อมมักจำเป็นต้องมีน้ำหอมพิเศษกลบกลิ่นฟีโรโมนติดตัว(หากอยู่พื้นที่ที่ด้อยพัฒนาอาจต้องทาโคลนหรือขี้ควายกลบกลิ่น) ส่วนฝ่ายโอเมก้าก็อาจจะสวมหน้ากากอนามัยป้องกันไม่ให้กลิ่นแรงเกินไป


สำหรับมายาคติสมัยยุควิคตอเรีย โอเมก้าสามารถเล่นผาดโผนได้เพราะการแพทย์ได้ยืนยันตั้งแต่สมัยโบราณแล้วว่าหากโอเมก้าออกกำลังกายหนักๆจนร่างกายแข็งแรงจะทำให้ไม่ปวดท้องหนักขณะมีประจำเดือนและควบคุมอารมณ์ขณะฮีทได้ดี ส่วนอัลฟ่าและเบต้ามักจะถูกสอนให้ทำตัวเรียบร้อยไม่โผงผางเพราะเชื่อว่าอาจทำให้ไส้เลื่อนจนเสื่อมสมรรถภาพได้(ส่วนหนึ่งเพราะสมัยก่อนไม่มีกางเกงใน)

แม้ว่าโอเมก้าจะดูเหมือนคุมเกมส์ทุกอย่างในโลกนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะสบาย เพราะด้วยสังคมที่มีการเกณฑ์ทหาร โอเมก้าคือกำลังหลัก โอเมก้าทุกคนต้องเข้ารับการเกณฑ์หรือสมัครเลยก็ได้(ซึ่งอาชีพด้านนี้หากเบต้าหรืออัลฟ่าอยากเป็นก็สมัครได้) อีกทั้งเมื่อมี-งกับอัลฟ่า-เบต้าแล้วลามไปสู่การใช้กำลัง ก็อาจจะมีการดูที่เหตุผลมากขึ้นเพราะฝ่ายนึงก็บอบบาง อีกฝ่ายก็มีมดลูก(ฝ่ายหลังถ้าตั้งครรภ์อาจได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ)

มันคือการตัดต่ออวัยวะบางอย่าง เป็นการแลกเปลี่ยนข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบของกันและกัน แบบนี้จะลดความเหลื่อมล้ำลงได้มั้ยครับ

แสดงความคิดเห็น

>

9 ความคิดเห็น

White Frangipani 8 มิ.ย. 62 เวลา 05:57 น. 1


[ร่วมอภิปราย]ถ้าเกิดสังคมเป็นแนวๆ Omega Vers แบบนี้จะลดความเหลื่อมล้ำทางเพศลงหรือไม่

.....

........


..........


มันคือการตัดต่ออวัยวะบางอย่าง เป็นการแลกเปลี่ยนข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบของกันและกัน แบบนี้จะลดความเหลื่อมล้ำลงได้มั้ยครับ



สวัสดีค่ะ เจ้าของกระทู้


ผู้หญิงมักจะสรีระบอบบางเมื่อเทียบกับผู้ชาย จึงไม่เหมาะกับงานบางอย่าง


ตอบคุณว่า จากความเห็นในส่วนบุคคล คือความเห็นของเจ้าของเม้นต์นี้ เชื่อว่าจะไม่มีวันที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงความเลื่อมลํ้า ที่แตกต่าง ในเหตุที่คุณยกมาอภิปรายนี้ได้เลยค่ะ


คือจริงแล้ว ความเลื่อมลํ้า หรือความแตกต่าง...ของธรรมชาติ ของทั้งฝ่ายหญิง และฝ่ายชายโดยธรรมชาตินั้นมีอยู่จริง และแน่นอน ความแตกต่างในเหตุที่คุณยกมานี้


เช่น เรื่องของร่างกาย หรือเรื่องของสรีระซึ่งอาจจะมีความแตกต่าง และเกิดเป็นพลัง(กำลังกาย) หรือศักยภาพที่แตกต่างกันนั้นก็สามารถเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา


หากแต่ความจริงที่เกิดขึ้นได้ในวันนี้ คือมาถึงวันนี้เกี่ยวกับการเป็นผู้หญิงหรือ ก็เกิดมีการพัฒนาเกี่ยวกับการสร้างพลัง(สร้างพละกำลังกาย) สร้างกร้ามเนื้อ ด้วยวิธีต่างๆมากมาย


คือ มีเทคนิคการออกกำลังกาย ในรูปแบบต่างๆ หรือแม้การฝึกฝนการใช้งานจากร่างกายผู้หญิงได้ดีในระดับหนึ่ง


มีการยอมรับ เปิดเผย เป็นพื้นฐานด้วยว่า ในวันนี้ สังคมของเราๆยอมรับ คุณภาพจากการประกอบภาระกิจต่างๆมากมาย ซึ่งดูจะผาดโผนของผู้หญิงมากมายได้ ไม่ต่างจากผู้ชายค่ะ


คือมาวันนี้ผู้หญิงหลายๆคนในโลกนี้ มีความสามารถทำอะไรๆได้มากมาย ไม่ต่างจากผู้ชายค่ะ


ทางกลับกัน ในทางด้านฝ่ายชายซึ่งเป็นความจริงที่เกิดขึ้นได้ด้วยเช่นกัน คือมาถึงวันนี้ก็มีการพัฒนา ความคิด ความเชื่อ หรือแม้การเปิดใจ ยอมรับขึ้นได้มากมาย ในเหตุที่ว่า ผู้ชายสามารถเป็นเพศที่อ่อนแอได้อีกด้วยค่ะ


คือในวันนี้ผู้ชายหลายๆคนซึ่งเกิดมาออระชอนอ้อนแอ้น เขาหรือก็สามารถเป็นเขา ที่เปราะบาง และออระชอนอ้อนแอ้นได้ตามธรรมชาติของเขาเลยด้วยค่ะ


คือมาวันนี้ผู้ชายหลายๆคนซึ่งเกิดมาเป็นตุ๊ด เป็นเกย์นะคะ คนเหล่านี้หรือ ส่วนใหญ่ก็เปราะบาง ทั้งร่างกาย และจิตใจ ซึ่งไมต่างจากผู้หญิงบางคน ทั้งนี้ก็เป็นธรรมชาติส่วนหนึ่งของเขานะคะ


เพราะฉะนั้น ช่วยตอบให้คุณว่า ในเหตุที่เป็น หญิง หรือชาย โดยธรรมชาติในคน บนโลกนี้ จะเป็นเช่นนี้ ตลอดไป คือทั้งหมดนี้คือธรรมชาติ ของความเป็นจริง และความแตกต่างที่สามารถเกิดขึ้นได้ และไม่มีอะไรที่จะสามารถลบล้าง หรือเปลี่ยนแปลงธรรมชาติดังกล่าวนี้ได้่ค่ะ

เพราะนี้...คือธรรมชาติของมนุษยชาติค่ะ


หากแต่คุณ จะเขียนในแบบที่คุณเขียนมาก็ได้นะคะ หากคุณจะเขียนนิยายแฟนตาซี คือในเหตุการณ์แฟนตาซีนะ อะไรๆก็สามารถเกิดขึ้นได้ในแฟนตาซีค่ะ


สำหรับตรงนี้...


อีกทั้งยังต้องพบปัญหาจุกจิก เช่น ประจำเดือน อาจจะไม่คล่องตัวต่อการทำกิจกรรมบางอย่าง ในขณะเดียวกันเมื่อมี-ง ตรงนี้ก็อาจจะเป็นช่วงที่ฝ่ายชายมักจะเสียเปรียบ ไม่ว่าฝ่ายหญิงจะด่าแรงแค่ไหนก็ตอบโต้ไม่ได้เพราะอาจถูกสังคมประนาม


...นะคะ



ฮ่า ฮ่า ฮ่า


จริงแล้วเรื่องนั้นไม่เป็นปัญหาใดๆเกี่ยวกับภาระกิจต่างๆในชีวิตประจำวันนะคะ เจ้าของกระทู้


ยิ่งมาวัันนี้มี ผู้หญิงเรามีการอุปรณ์ซึมซับ ชนิด หรือรูปแบบที่ไม่เก๊ะกะด้วยค่ะ

คือเหตุที่คุณยกมานี้ ไม่เกิดเป็นปัญหาแต่อย่างใดค่ะ (เจ้าของเม้นต์นี้เป็นผู้หญิงนะคะ จึงสามารถตอบคุณได้จากประสบการณ์จริงค่ะ)


และเรื่องที่ว่า ผู้หญิงมีวันสำคัญของเธอนั้น เธออารมณ์เสีย นั้นก็ไม่ทุกคนนะคะ ที่เป็นแบบนั้น


หากแต่ชายใดที่โชคร้ายบังเอิญลงเอยกับหญิงซึ่งมีอาการอารมณ์เสียในวันของเธอ เจ้าของเม้นต์แนะนำว่าเขาก็เพียงเรียนรู้ธรรมชาติของเธอ และก็ยอมๆเธอไป ไม่สร้างปัญหาให้เธอมากขึ้น ในช่วงนั้น เช่น ไม่ทำให้เธอต้องอารมณ์เสียหนักขึ้น ในวันนั้นๆ ซึ่งไม่เกินสอง หรือสามวันเป็นอย่างมาก เธอจะมีอาการดีขึ้น


เท่านี้เรื่องก็จบแล้วค่ะ


คือเรื่องแบบนี้เป็นธรรมชาติ และปัญหาแบบนี้สามารถแก้ไขได้ ปกป้องไม่ให้เกิดได้ หรือสามารถหลบเลี่ยงได้นี่คะเจ้าของกระทู้


คือการแก้ปัญหาแบบนี้ น่าจะง่ายกว่า การที่จะคิดสร้างมนุษยชาติสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งไม่ใช่ธรรมชาติ ของมนุษยชาติบนโลกนี้นะคะ


และภายใต้เม้นต์นี้ มีคลิปผู้หญิงเก่ง มีความสามารถ มีศักยภาพ ซึ่งแกร่ง และสามารถทำอะไรๆได้ดีไม่ต่างจากผู้ชายมาให้คุณดูด้วยค่ะ








และนี่...หญิงไทยหรือก็เก่ง แกร่ง กล้า มีศักยภาพ มีความสามารถ ไม่แพ้สตรีมากมายในสากลค่ะ






0
peiNing Zheng 8 มิ.ย. 62 เวลา 06:33 น. 2

อยากจินตนาการสร้างโลกแบบไหนตามสะดวกเลยค่ะ 


แต่เชื่อเถอะ สรีระเป็นส่วนประกอบภายนอก แต่พื้นฐานจิตใจของคนคล้ายกัน จิตใจไม่ได้ถูกแบ่งแยกโดยเพศแต่อย่างใด และการแบ่งแยกที่เกิดขึ้นในโลกต้นเหตุมาจากจิตใจค่ะ


จะมีอัลฟ่า เบต้า โอเมก้า ใดๆ ก็ตาม คนเราก็สามารถหาเรื่องมากีดกันอีกฝ่ายได้เสมอแหละเพราะจิตใจยังคงเหมือนเดิม การแบ่งที่คุณจขกท บอกเป็นเพียงสรีระเปลือกนอกเท่านั้น

0
SayWindy 8 มิ.ย. 62 เวลา 06:56 น. 3

อย่าว่างั้นงี้เลยค่ะ

จุดประสงค์ของแนวโอเมก้าเวิร์สก็เกิดจากที่คนคิดต้องการที่จะเขียนเฟติชกลิ่น การครอบครอง ช่วงติด- ผู้ชายท้องได้ ดังนั้นต้นฉบับจึงเขียนให้โอเมก้าต้องตัวเล็ก อัลฟ่าต้องตัวใหญ่และฉลาด อารมณ์เหมือนสัตว์ที่หลายชนิดตัวผู้จะตัวใหญ่กว่า

ดังนั้นจุดเด่นของมันไม่ได้เขียนเพื่อความเท่าเทียมอะไรทั้งนั้น ถึงหลายเรื่องจะพยายามนำเสนอจุดนี้ก็ตาม


ความเหลื่อมล้ำในแนวนี้จึงมีเยอะมากมาย ข้อจำกัดของมันไม่จบแค่กายภาพ แต่เป็นเรื่องของช่วงติด-ที่นานถึง7วัน ถึงใช้ยาระงับก็ส่งผลกับกายภาพ ร่างกายอ่อนแอ การจะถูกมองว่าเป็นชนชั้นต่ำกว่าก็ไม่แปลก เพราะโอเมก้าการจะหางานที่ใจกว้างพอจะรองรับลูกน้องที่ต้องหยุดถึง7-10วันทุกเดือนก็น้อย ถึงทำได้จริงๆก็มีจำกัด สำคัญเลยคือการควบคุมตัวเองไม่ได้ทั้งโอเมก้าและอัลฟ่าที่เผลอไปรับกลิ่นเข้า (บางเรื่องมาตรงเวลาก็นับวันไป แต่บางคนก็เขียนให้มาไม่ตรงเวลา ซึ่งพอคิดแล้วสังคมวุ่นวายมาก - - )

การกัดคอ ที่จริงก็เหมือนสัตว์ที่กัดเพื่อล๊อคไม่ให้อีกฝ่ายหนีตอนผสมพันธ์ และเป็นจุดชีพจรทำให้ต้องระวังจนดิ้นขัดขืนไม่ได้ แถมมันอยู่ในส่วนที่หากไม่ประชิดจริงๆก็คงงั่มไม่ถึง จุดนั้นเราว่าดีกว่าข้อมือที่แค่คว้าก็กัดได้แล้ว


จขกท.คิดมา ก็ทำให้เรารู้สึก....อื้ม จขกท.ก็ชอบแนวนี้นี่นะ ถือเป็นไอเดียที่หากสังคมเป็นยังงั้น ความเหลื่อมล้ำของมันอาจจะต้องดูจากบริบทอื่นประกอบ เพราะถ้าอิงตามธรรมชาติ สาเหตุของอะไรพวกนี้มันก็มาจากสังคมมนุษย์ในโลกของจขกท.ด้วย

แต่นั่นล่ะค่ะ จขกท.คิดโลกแบบไหนก็ว่ากันแบบนั้น ก็มีหลายเรื่องที่เขาเขียนให้อัลฟ่าเป็นชั้นต่ำเพราะควบคุมตัวเองไม่ได้ ให้โอเมก้ามานำอยู่เหมือนกัน เวิร์สนี้มีความอิสระในระดับนึง

แต่ถ้าถามเรา เรานึกถึงสิงโตตัวเมียซึ่งที่จริงจะคอยหาอาหารให้ตัวผู้เลยล่ะ บทบาทไม่พอ กายภาพก็สำคัญ หากผู้หญิงตัวใหญ่และมีกล้ามหนาๆต่อยผู้ชายทีเดียวตาย บางทีผู้หญิงอาจจะไม่มีข่าวถูกทำร้ายรายวันแบบนี้จริงๆก็ได้ อาจจะเป็นโอเมก้าตัวเขื่องๆฉุดอัลฟ่าหล่อๆไปข่มขืนทำสามีแทน แล้วจากนั้นมันก็จะไม่จบแค่การเหยียดและความหวาดกลัวจากความไม่เต็มใจเหมือนเดิม ขอแค่คิดให้มันเหยียดมันก็เหยียดได้ทั้งนั้นแหละนะ

0
NUMAI-13 8 มิ.ย. 62 เวลา 08:19 น. 4

Omega World..

จากที่เคยได้พูดคุยกับนักแปลหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น เขาพูดไว้ว่า.. ก็เป็นหนังสือชนชั้นรูปแบบนึงนี่เอง

มีอัลฟา เบต้า โอเมก้า.. ซึ่งเป็นสถานะโดยกำเนิด...


ไม่รู้จะพูดไรต่อแล้วอ่ะ.....

0
คนหล่อมืออาชีพ 8 มิ.ย. 62 เวลา 08:39 น. 5

ผมว่าโลกแบบนี้ก็ดีแล้วนะ555 ขอไม่พูดเรื่องโอเมก้าเวิร์สละกันครับ ไม่รู้จักอะ5555


ว่าด้วยสรีระ ถึงผู้ชายจะมีความเป็นกรรมกรสูงกว่า แต่ผู้หญิงเขาพลิ้วกว่านะครับ555 ความเร็วก็ด้วย ที่สำคัญ เธอฝึกฝนร่างกายได้ (แต่ไม่ทราบนะว่าเมื่อถึงขีดสุดแล้ว จะล่ำบึ้กเหมือนผู้ชายหรือเปล่า555)


เพราะเราเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอถึงต้องคอยดูแลคุณหนู (ขอเรียกแทนผู้หญิงละกัน) (คือมันวีไอพีมากเลยนะ จะใช้ให้ทำอะไรก็ได้ ตั้งแต่กวาดบ้านยันปลูกผัก มันเหลื่อมล้ำกันคนละแบบนะ5555)


'เรามีข้อดีข้อเสียคนละอย่าง ก็ทำในสิ่งที่เราทำได้เถอะ ทดแทนจุดบกพร่องของกันและกัน เธออยากทำอะไรก็ทำ หรือจะไปเล่นกีฬาก็เอาเถอะ แต่อะไรที่เธอทำไม่ได้ ฉันจะเป็นคนทำให้เอง'


'ทำงานบ้านไม่เก่งเหรอ? เดี๋ยวช่วยทำนะ'


'อยากกินอะไรไหมครับ? คุณหนู เดี๋ยวกระผมไปซื้อมาให้'


'ไม่ว่ายังไงก็ยืนยันว่าจะจ่ายเองเหรอ อืมๆ เรายอมแพ้ละ555'


และความคิดลุ่มลึกกว่าพวกเรานะครับ มีจิตใจที่มั่นคงหนักแน่น ผู้หญิงฉลาดกว่าก้าวหนึ่งเสมอ ผู้หญิงหลายคนน่ากลัวมาก โดยเฉพาะการจับพิรุธและเค้นคำสารภาพ ผู้หญิงเขาเก่งทางจิตกันครับ555


อีกเรื่อง อย่างผมถนัดวิชาสายสังคม คุณเธอทั้งหลายฉลาดเรื่องการจัดการเหลือเกิน555 โดยเฉพาะเรื่องเงินนี่ผมว่าไว้ใจได้ แทบไม่พลาดเลย5555

7
8 มิ.ย. 62 เวลา 09:44 น. 5-1

เป็น คห. ที่ ผญ. มาอ่านแล้วยิ้มตามเลยค่ะ อะไรจะอวยกันขนาดนั้น ฮ่าๆๆๆ

0
คนหล่อมืออาชีพ 8 มิ.ย. 62 เวลา 10:25 น. 5-2

ไม่เชิงอวยนะ ก็เป็นความน่ารักในแบบของเขานี่นา5555 ผมชอบที่ผู้หญิงเป็นในแบบที่เป็นนะ ก็น่ารักดี555

0
8 มิ.ย. 62 เวลา 10:48 น. 5-3

ความคิดแบบนี้ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ หายาก ฮ่าๆๆๆ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

คนหล่อมืออาชีพ 8 มิ.ย. 62 เวลา 11:06 น. 5-5

จะว่าไงดี คือคนเรามันก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย มีเรื่องที่ทำได้และทำไม่ได้ สำหรับผู้ชายอาจจะมาจากความหุนหันพลันแล่น ของผู้หญิงก็อาจมาจากสรีระ ถ้ามันเป็นแบบนั้น อะไรที่ผู้หญิงทำไม่ได้ ผมจะเป็นคนทำให้เอง ปัญหามันก็หมดไปละ555 เรื่องกล้วยๆ


ส่วนเรื่องประจำเดือน ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องที่รับมือยากจนผู้ชายต้องมาร้องโอดโอยนะ เราใจเย็นเป็นน้ำ คอยดูแลเทคแคร์เขาดีกว่า เขาไม่ได้เป็นอย่างนี้ทุกวันเสียหน่อย เขาก็คือผู้หญิงที่เรารักคนเดิม เพิ่มเติมคือไม่มั่นคงและต้องการความเข้าใจ ความใส่ใจ ว่านี่เป็นธรรมชาติ แค่หัวร้อนชั่วครู่ การทำเพื่อพวกเธอสักวันมันก็ไม่ยากใช่ไหมครับ? 555


'ไม่เป็นไรนะครับ เราจะคอยอยู่ข้างเธอเอง ถ้าอยากได้อะไรเดี๋ยวเราไปหยิบมาให้' ยิ้มให้ด้วยนะ ห้ามลืม เสียงนุ่มเข้าไว้555

0
White Frangipani 8 มิ.ย. 62 เวลา 18:11 น. 5-6

สวัสดีค่ะ คห.ที่5


อ่านความเห็นของคุณแล้ว รู้สึกว่าคุณเป็นผู้ชายที่ทันสมัย และเป็นสากลมากๆเลยด้วยค่ะ


คือคุณยอมรับได้ และเปิดใจรับได้ เกี่ยวกับความเป็น และไม่เป็นได้ ในความต่างของสองเพศได้ดีจริงด้วยสิ(หากคุณไม่ประชดนะคะ)


ซึ่งจริงแล้วมาวันนี้ผู้หญิงส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นสากลนะคะ เธอส่วนมากแกร่งได้ทั้งร่างกายจิตใจไม่ต่างจากผู้ชายค่ะ


คือหากจะเปรียบความเสมอภาคในด้านการปฎิบัติต่อกัน ในการอยู่ร่วมกัน ของคนส่วนใหญ่ในชุมชนสากลค่ะ


ยกตัวอย่าง เช่น การที่ฝ่ายหญิงจะเป็นผู้ที่ขับรถ ฝ่ายชายเป็นผู้ที่นั่งไปด้วย เมื่อเขาทั้งคู่ต้องออกเดินทาง เป็นต้น


ซึ่งจากที่อ่านๆมา หรือรับฟังจากปากของผูที่มีอายุกว่า เขาทั้งหลายเคยเล่ามาว่า จากกาลเวลาที่ผ่านมา ซึ่งไม่นานนักนะคะ ในสังคมของคนเรา ได้เกิดเป็นความเชื่อว่า ผู้หญิงทำอะไรๆที่ผาดโผนนั้นเป็นอะไรที่ดูไม่ดี ไม่สวยงาม


ซึ่งจริงแล้วผิดนะคะนั้น


เพราะจริงแล้วผู้หญิงก็เป็นคน มีมันสมอง มีสติปัญญา มีความสามารถ และบางคนก็มีพละกำลังที่ดีพอ และเธอทั้งหลายก็รู้จักวิธีใช้มันได้ดี ไม่ต่างจากผู้ชายด้วยค่ะ


จากประสบการณ์จริงนะคะ เมื่อเจ้าของเม้นต์เป็นเด็กๆ อายุประมาณ 9-10ขวบ ในยามที่เดินทางมาที่ต่างประเทศ (คือในยุโรป) บางครั้งเราเล่นๆกับเพื่อนๆผู้ชาย เราหรือก็ซุกซนมากๆ ซนกว่าผู้ชายบางคนด้วย เช่น ปีนขึ้นต้นแอ็ปเปิ้ล ขึ้นต้นพลัม ขึ้นไปเก็บลูกมัน ปีนไปสุดยอด บางครั้งปีนไปสุดปลายยอด ยอดมันอ่อน รับนํ้าหนักเราไม่ไหวนะ มันหลู่ลงถึงพื้น เราล่วงตุ๊บ ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เพื่อนๆผู้ชาย(บางคนอายุมากกว่าเราด้วยนะคะ) เขาก็ร้องเสียงหลง ด้วยเช่นกัน (เป็นผู้ชายร้องเสียงหลงได้เพราะตกใจนะ ฮ่า ฮ่า ซึ่งเจ้าของเม้นต์นี้ก็งง ด้วยเช่นกันนะในขณะนั้น)


เขาร้องเพราะเขากลัวเราได้รับบาดเจ็บ เพราะเป็นห่วงเราเท่านั้นเอง


จริงแล้วไม่เจ็บนะ เพราะส่วนมากสวนแอ๊ปเปิ้ล สวนพลัมจะเป็นสนามหญ้านุ่มๆ ล่วงลงมาจากที่ไม่สูงมาก กลับเป็นเรื่องสนุกนะ (คนที่ซุกซนเป็นธรรมชาตินะ ก็ชอบอะไรแบบนี้หล่ะ )


เมื่อเราๆอายุ12-13ปี เราแข่งขันกันขี่ม้า โดยการบังคับม้ากระโดดข้ามรั้ว(เหตุเหล่านี้เกิดขึ้นกลางป่านะคะ) เพื่อนผู้ชายหลายๆคน(ซึ่งเขาเป็นฝรั่งนะคะ) บางคนเขาก็ปิดหู ปิดตา ไม่กล้ามอง แต่เรากลับรู้สึกสนุก


เคยมีครั้ง อายุก็ประมาณ 12-13เราก็ออกป่าไปขี่ม้ากัน เรารึก็ซนมากๆ เกิดมาเป็นคนซนเป็นธรรมชาติ ขี่ม้า เดินเรียบๆ เฉยๆนานๆแล้วก็เบื่อ ไม่สนุก ไม่ตื่นเต้น เมื่อเข้าถึงชายป่า เราก็บังคับม้า ให้กระโดดข้ามล่องนํ้าบ้าง ข้ามโขดหินบ้าง เพื่อนๆผู้ชายทั้งหลายเขาก็ตะโกนดุ ให้หยุด ให้หยุดนะ เพราะนั้นอันตราย


เราก็ไม่หยุด จะทำในแบบที่เรารู้สึกสนุกสิ ออกป่า เดินป่า ขี่ม้านะต้องมีความสนุกตื่นเต้นสิรู้สึกแบบนั้นนะ

มีครั้ง บังเอิญเท้าของม้าลงไปกระทบกับก้อนหินที่แหลมๆ หลังมันจํ้ากระโดดข้ามล่องนํ้า ความที่มันเจ็บอุ้งเท้า มันก็ยกสองเท้าข้างหน้าขึ้นสูง และสบัด ทำให้เราล่วงจากหลังของมัน และหัวเราก็ไปกระทบหิน ได้นอนเป็นมัมมี่หลายๆวันโดยมีผ้าขาวพันทั้งหัวเลยด้วย


เหตุนี้ก็ทำให้เพื่อนๆผู้ชายหลายๆคนที่ไปด้วยกันถูกตำหนิ ว่าไม่ดูแลเรา ซึ่งเป็นผู้หญิง


แต่ผู้ที่ดุ เพราะเขาไม่รู้ว่าเรานะทำให้เกิดขึ้นเอง เพราะเราชอบความสนุก และผาดโผน ความซุกซน เป็นธรรมชาติของเรา เราจึงกล้าที่จะทำ และเมื่อทำอะไรๆที่ผาดโผน อุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้เป้นธรรมดา


ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องของเพศ เป็นต้นเหตุแต่อย่างใด


หากแต่ที่เขาทั้งหลายถูกตำหนิ เพราะในวันนั้น หลายๆคนก็ยังคงมีความเชื่ออยู่บ้างว่า เพศหญิง เป็นเพศที่ต้องถูกดูแล เพราะอ่อนแอกว่าผู้ชาย


ซึ่งในความจริงแล้วไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริงนะคะ ที่รู้ได้ในเหตุที่เล่ามานี้ เพราะเจ้าของเม้นต์พบเจอมาด้วยตนเองค่ะ


คือเพื่อนๆผู้ชายหลายๆคนเขาก็ห้ามแล้ว คือเขาบางคนยังกลัวการที่เราทำอะไรๆที่ดูจะเป็นอันตรายด้วยซํ้าไป


เพราะฉะนั้น การที่คนเราจะตัดสินความเสมอภาค ด้วยการนำเอาเพศมาตัดสิน ระหว่างชายหญิงนั้นจริงแล้ว นั้นเป็นเพียงความเชื่อ เป็นวิธีคิด ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงไหน ในสังคมของคนเรา นั้น ที่เราไม่รู้ได้ เท่านั้นเอง

เพราะจริงแล้วเราชายหญิง มีความเสมอภาค ไม่ต่างกันค่ะ


เราๆชายหญิง บางคนทำได้ หรือไม่ได้ ในบางอย่าง ในบางเรื่อง หรือก็สามารถเกิดขึ้นได้ ไม่ต่างกัน


และมาวันนี้ หลายๆสังคมในโลกนี้ได้เปิดเผย ยอมรับ ให้เกิดเป็นความเสมอภาค ระหว่างสองเพศขึ้น และทำให้การอยู่ร่วมกันของคนสองเพศนี้ ง่ายขึ้น ในหลายๆกรณีด้วยค่ะ


คือในสากลนะ มาวันนี้ มีการพัฒนามาไกลพอสมควรแล้ว เกีึ่ยวกับเหตุดังกล่าวนี้ค่ะ

-----------

จริงแล้วเจ้าของเม้นต์นี้ก็มีแพลน คืออยากเขียน เกี่ยวกับการวางคาแร็คเต่อร์ให้กับตัวละคร เกี่ยวกับเหตุนี้ เพื่อที่จะให้เกิดเป็นเหตุการณ์ที่เห็นได้ว่า ความคิด ความเข้าใจ ความรู้สึกในความเสมอภาค การยอมรับ ในเรื่องของเพศซึ่งไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด...ของเขา ตัวละครซึ่งมีคาแร็คเต่อร์ดังกล่าวนี้...น่าจะเป็นการช่วยบุกเบิก วิธีคิด วิธีเชื่อ และวิธีที่จะอยู่ร่วมกันได้ด้วยความสันติ ของสองเพศ ให้เห็นเป็นตัวละครค่ะ


จริงแล้วคาแร็คเต่อร์ หรือ เรื่องราวดังกล่าวนี้ ได้ถูกเรียบเรียงขึ้นมานานกว่าสิบปีแล้วนะ แต่ไม่มีโอกาสที่จะเขียนให้เกิดเป็นเรื่องราวที่ชัดเจนได้เสียที

(หรืออาจจะไม่มีฝีมือที่จะเขียนได้ค่ะ ฮื้ออ)


ในโอกาสที่ได้เห็นคุณมีความคิด ที่ติดสากล แบบนี้แล้วจึงอยากแนะนำ และเป็นกำลังใจให้คุณเจ้าของเม้นต์ ลองเขียน หรือนำเสนอ พล็อต ซึ่งมีคาแร็คเต่อร์ ดังกล่าวนี้ น่าจะเป็นผลงานที่แปลกใหม่ และเป็นแบบอย่าง ในรูปแบบที่ใหม่ ให้คนอ่านได้ลองติดตามพิจารณา และได้วิเคราะห์ ผ่านตัวละครนะคะ


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-02.png



0
คนหล่อมืออาชีพ 9 มิ.ย. 62 เวลา 17:30 น. 5-7

แน่นอนครับผม นี่ปี 2019 แล้วครับ ทุกคนเท่าเทียม ไม่มีคติห้ามไหนเป็นจริง เพราะว่าทุกสิ่ง ไม่ว่าชายหรือหญิงก็สามารถกระทำได้^^

0
牡丹 Mǔdān 8 มิ.ย. 62 เวลา 09:03 น. 6

จะไม่ขอพูดเรื่องOmega Vers อะไรมากมายนะคะ


แต่ส่วนตัวเราคิดว่าร่างกายของหญิงและชายก็มีข้อดีแตกต่างกันไป ฝ่ายชายบึกบึนฝ่ายหญิงบอบบางแต่พลิ้วไหว เป็นธรรมดาของธรรมชาติที่รังสรรค์ขึ้น มันก็ดีอยู่แล้ว


ยังมีผญ.บางคนบึกบึนแข็งแรงก็มี ผช.บางคนอ้อนแอ้นก็มีปะปนกันไป ทั้งนี้ก็ต้องดูจากปัจจัยต่างๆมารวมเข้าด้วยกัน


ส่วนตัวเรามองว่าโอเมก้ามันก็ไม่ได้แตกต่างจากผญ.เท่าไหร่นะ ร่างกายไม่เหมือนกันแต่ก็ท้องได้นี่


ผญ.บางคนถึงจะตัวเล็อบอบบางกว่าผช.แต่กลับมีจิตใจที่เข้มแข็งกว่า....

0
8 มิ.ย. 62 เวลา 10:04 น. 7

สำหรับเรานิยายหรือวรรณกรรมคือโลกของจินตนาการ หลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่มีใครคาดฝันหรือฝันแต่ยากที่จะเป็นไปได้เกิดขึ้นในโลกนี้ได้เสมอ เพราะงั้นมันจึงเป็นโลกที่มีอิสระสูง แต่โดยธรรมชาติมนุษย์มักจะยอมรับสิ่งที่คุ้นชิน หรือสิ่งที่ในใจคาดหวังอยากให้เกิดอยากให้เป็น(แม้จะรู้ว่าบางเรื่องมันไม่มีทางเป็นไปได้) เพราะงั้นนิยายหรือวรรณกรรมบางเรื่องจึงโด่งดังในขณะที่บางเรื่องอาจไม่มีคนเหลียวแลเลย


ในสิ่งที่ จขกท. คิดก็สามารถเอามาเป็นโลกที่สร้างขึ้นได้ตามอิสระของความคิด แต่หากมันหลุดฝันหรือไกลเกินสิ่งที่มนุษย์คาดหวังหรือยอมรับ จขกท. ก็ต้องแบกความเสี่ยงที่งานของเราจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเหลียวแลเลย


ความต่างทำให้เกิดแนวคิดใหม่ ๆ ได้เสมอ อย่างเรื่องเบสิกอย่างการไม่ต้องการถูกกดขี่ของ ผญ. เพราะถูกมองว่าอ่อนแอ ทำให้มี ผญ. อย่างน้อยหนึ่งคนลุกขึ้นมาปฏิวัตทำให้สังคมเกิดแนวคิดที่เปลี่ยนไป "ถ้าไม่ก่อก็ไม่เกิด" เพราะงั้นในโลกของจินตนาการไม่มีผิดหรือถูก แต่มีแค่โลกนั้นสามารถสร้างคลื่นให้กระทบใจใครได้มากกว่าค่ะ

0
SilverPlus 8 มิ.ย. 62 เวลา 10:36 น. 8

ทำให้รู้จักเพศตรงข้ามมากขึ้น เป็นหนทางเล็ก ๆ สู่ความเข้าใจอีกฝ่าย


ส่วนลดได้ไหม... ต้องบอกว่า นิยายแนวนี้ยังน้อยแม้แต่ในโลกนิยาย อิทธิพลที่จะไปถึงโลกภายนอกนั้น น้อยมาก


นอกเสียแต่ว่า จะมีนิยายแนวนี้โด่งดังระดับหนังพันล้าน ตอนนั้นทั้งโลกก็จะได้เห็น และคงมีผลไม่มากก็น้อย


อีกประเด็นคือ ความเท่าเทียมทางเพศ มักจะอยู่ในความครอบครองของผู้ชาย หากนิยายแนวนี้ไปไม่ถึงผู้ครอบครอง หมายถึง ผู้ชายเขาไม่อ่านกัน ความเหลื่อมล้ำก็ยังคงอยู่ และอาจหนักข้อขึ้นอีก เมื่อเห็นว่า นิยายแนวนี้มาทำให้การครองอำนาจของพวกเขาสั่นคลอน

1
FujiKung168 8 มิ.ย. 62 เวลา 13:17 น. 8-1

หมายถึงโลกจริงไเลยน่ะครับ ว่าถ้าเป็นแบบนี้จะดีขึ้นมั้ย

0
นัตสึอิโระ1886 9 มิ.ย. 62 เวลา 00:50 น. 9

ถ้าอยากจะลดความเหลื่อมล้ำจริง ๆ ไม่ต้องสร้างโลกใหม่ขึ้นมาให้วุ่นวายหรอก โลกจริง ๆ ก็วุ่นวายพออยู่แล้ว == และเท่าที่เราอ่านคร่าว ๆ เกี่ยวกับโอเมก้า เบต้าอะไรก็ไม่รู้เนี่ย มันคือหญิงชายที่มารวมตัวกันเท่านั้นเองนิ == แล้วเหมือนจะหนักไปทางสัญลักษณ์ของผู้ชายด้วยซ้ำ มันเหลื่อมล้ำตั้งแต่เริ่มต้นแล้วนิ แทบไม่เหลือความเป็นผู้หญิง กลายเป็นผู้ชายที่มีอวัยวะผู้หญิง แล้วผู้หญิงมีของผู้ชาย แล้วผู้หญิงมีของผู้ชายจะเป็นผู้หญิงได้ไงอ่ะ สรุป มีแต่ผู้ชายนิ ==


ถ้าอยากจะเขียนนิยายสักเรื่องเพื่อลดความเหลื่อมล้ำระหว่างชายหญิง เราชอบให้นำเสนอด้วยข้อเท็จจริงมากกว่า ข้อเท็จจริงในสังคมมีเยอะแยะ และยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจริง ๆ ไม่ใช่เพียงฝันไปวัน ๆ แบบไม่มีวันเป็นไปได้ ==


ถ้าคุณยังมีความคิดที่อยากจะลบความเป็นผู้หญิงแท้ออกไปเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างเพศ คุณก็ไม่มีทางมีพลังอันยิ่งใหญ่พอจะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้หรอก พูดจริง เพราะแค่เคารพความเป็นผู้หญิง คุณยังทำไม่ได้เลย แล้วคุณจะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้ยังไง ปัญหาความเหลื่อมล้ำไม่ใช่เรื่องล้อเล่น คุณรู้ไหมว่าแม้แต่ในประเทศเจริญแล้วอย่างญี่ปุ่นก็เพิ่งมีการเรียกร้องสิทธิสตรีเพราะบริษัทจะบังคับให้ผู้หญิงใส่ส้นสูงไปทำงานเท่านั้น มันคือการริดรอนสิทธิส่วนบุคคล ฮอลลีวูดก็ชอบจ่ายค่าตัวให้นักแสดงหญิงน้อยกว่าผู้ชาย บางเรื่องน้อยกว่าถึง 50% จนคนแสดงเป็น ดร.สเตรนเจอร์ต้องช่วยบริจาคเงินให้กลุ่มที่รณรงค์ความเท่าเทียม (ทำแบบ ดร.สเตรนเจอร์ยังเท่ห์กว่า ดูมีประโยชน์กว่าโอเมก้า เวอร์สอีกนะ)


คุณลองคิดดูดี ๆ แล้วกันว่าความเหลื่อมล้ำมันเกิดขึ้นจากอะไรกันแน่และมันต้องแก้ที่ตรงไหน แต่สำหรับเรา โอเมก้า เวอร์สไม่ได้ช่วยอะไรเลย การแก้ปัญหาโดยการลบหรือกลืนเพศมันมักง่ายเกินไป

0