ถามเรื่องการขายนิยาย/ติดเหรียญ/E-book ค่ะ

-ราคาอีบุ๊ค น่าจะอยู่ไม่เกิน 200 นะคะ เพราะ400 หน้าก็ไม่เยอะ

-อีบุ๊คเป็นการช่วงชิงลูกค้า ถ้าเราไม่ดัง การที่นิยายเราอยู่ในชั้น คนมองเห็นจะขายได้ มากกว่า ถ้าตกชั้นมาแล้ว...ก็เหมือนหายไปเลย

เด็กดี ราคาที่ตั้งไว้ ก็ถือว่าสมดุลค่ะ

- RWเป็นสายฟรีซะเยอะ เราเอาลงเรื่องหนึ่งก็ไม่เวิร์ค ดีตรงคอมเม้นท์

- แนะนำให้แต่งทุกเดือน มีผลงานสม่ำเสมอ โอกาสขายได้จะเยอะกว่าค่ะ//โชคดีนะคะ

อ้อ อีบุ๊คเราลงครั้งแรก 10 เรื่องแบบทยอยลง คือโอเคค่ะ แต่เรื่องเดียว ...ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะคะ

เล่าที่เจอมากระท่อนกระแท่นกับชีวิตนักเขียนมาก

บอกตามตรงของผมมีผู้ติดตามหลัก 700 คนในนิยายเรื่องหนึ่งที่เขียน จะดึงคนอ่านคงจะเป็นเนื้อเรื่องที่สนุกหรือไม่สนุก เคยทำการตลาดโปรโมต หรือเปิดให้อ่านฟรี เอาเข้าจริงๆ จำนวน 700 คนที่ติดตามมีซื้อจริงๆ อาจจะไม่ถึง 10% ของคนทั้งหมดครับ

แต่ละตอนจะมีค่าวิวให้เห็น ขึ้นหลักพันสองพัน กดติดตามจริงแค่เจ็ดร้อยเท่านั้น พอเปิดให้ซื้ออีบุ๊คจริงๆ แค่ 250 เล่ม หนึ่ง 250 เล่มซื้อแจกเขาอีกสองเล่มต่างหาก 555

ทำอีบุ๊คขายเล่มล่ะ 144 บาท ขายดีเฉพาะสองเดือนแรกเท่านั้น ตามประสบการณ์ที่เจอของผม ยอดเดือนแรกแตะหมื่นต้นๆ เดือนที่สองครึ่งหมื่น จากนั้นก็แผ่วปลายเหลือหลักพันนิดๆ แต่หักค่าตรวจงานนู้นนี่ก็ยังดีมีค่าขนม ค่าไฟ ค่าน้้ำได้ ซื้อของได้บ้าง สรุปทำขายทิ้งไว้ก็ได้เงินทุกเดือนนะครับ อย่างเดือนมกราคาก็ขายได้ 16 เล่ม หัก 40% ก็ได้มาพันนิดๆ TT

ส่วนติดเหรียญคนจะน้อยลงกว่าเด็กดีที่ลงเป็นแอปสีฟ้า อันนั้นคนอ่านกดติดตามและจ่ายจริงครับ คนอ่านของผมมีที่ติดตามมี 87 คน ปิดตอนขายได้ สามสิบคนต่อตอนที่ซื้ออ่าน ตอนละบาทสองบาท ตกเดือนละพันสองพัน

สรุปคงจะเป็นพล็อตเรื่องครับ ว่าถูกใจคนมากน้อยแค่ไหน คำโปรยด้วยละมัง ครับ 1-5 ตอนแรกดึงคนอ่านได้ไหม

ก็พิจารณาดูตามเห็นสมควรครับ ประสบการณ์ของผมช่างดำมืดนัก

รายได้จากการขาย ebook จะได้ยอดขายสูงสุดที่เดือนแรก เดือนถัดๆ ไป ยอดจะลดลงเรื่อยๆ ถ้าอยากให้มียอดสม่ำเสมอก็ต้องมีการเขียนตอนใหม่ เรื่องใหม่ หรือประชาสัมพันธ์เป็นระยะ

ราคาขาย ebook อย่าเทียบจำนวนหน้า ให้เทียบกันที่จำนวนคำ ซึ่งใน meb เราจะสามารถดูได้ว่าสำนักพิมพ์ที่ขายนิยายแนวนี้ จำนวนคำเท่านี้ เขาขายที่ราคาเท่าไหร่ อย่างของเราที่สำรวจมา 50,000 กว่าคำ ขายอยู่ที่ 140 กว่าบาท นิยายเราที่วางขายมีจำนวนคำใกล้เคียงกัน เราจึงตั้งราคาที่ 148 บ. โดยช่วงแรกที่วางขายจัดโปรโมชั่นลดราคาพิเศษ 129 บ. ค่ะ

1. ขายอีบุ๊คแล้วแต่เรื่องค่ะ ถ้าปังเดือนแรกก็แสน ถ้าแป้กก็หลักหมื่นต้นๆ อาจจะเพราะแนวด้วย เราสายดราม่าโรแมนซ์คนอ่านส่วนใหญ่จะยอมซื้อเพราะอยากรู้จุดจบเร็วๆ

2. ถ้าขายอีบุ๊คแล้วคนก็จะทยอยถอนเฟบออกค่ะ แต่ก็ใช่ว่าจะร้างไปเลย มีอ่านประปราย

3. เรื่องแรกที่เราลงขายเราจัดโปรค่ะ จำนวนคำประมาณสองแสนนี่แหล่ะ ขาย 179 พ้นโปร 279 เดือนแรกได้มา ขาดไม่กี่ร้อยก็แตะหมื่น แต่เรื่องที่สองดันปังก็ได้มาประมาณสองแสน แต่เราเก็บฐานแฟนคลับมาประมาณสองปี

การตลาดเราไม่มีอะไรพิเศษ บางครั้งนิยายมันแล้วแต่ดวง มีแป้กบ้างปังบ้าง คาดเดาคนอ่านไม่ได้เลย ได้แต่เขียนไปเรื่อยๆ เรื่องไหนปังก็ดีใจ เรื่องไหนแป้กก็ไม่เป็นไรเอาใหม่ แค่มีเรื่องต่อๆไปก็พอ

เราคงไม่ใช่ตัวอย่างอ้างอิงที่ดีเท่าไร แต่ขอมาแชร์อะไรที่ป่วย ๆ แล้วกัน

ด้วยความที่เราเป็นสายเอื่อยเฉื่อยค่ะ เลยไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน เรื่องที่เขียนจบแรก ๆ นั้นก็ไม่ใช่ออริจินัลแต่เป็นกึ่งแฟนฟิค ดังนั้นความนิยมก็เลยหาค่อนข้างยากอยู่ เขียนเรื่องใหม่ก็เหมือนเก็บแฟนคลับใหม่

เรื่องแท้ ๆ ตัวเองเป็นเรื่องสั้นซึ่งคนอ่านไม่ค่อยนิยมอีก (ฮา) แล้วก็เขียนแบบทิ้งขว้าง ว่างก็เขียน จนเมื่อเราฮึดขึ้นมาได้ก็เลยมาพยายามตั้งเป้าหมายค่ะ เขียนรวมเรื่องสั้น 31 เรื่องให้จบภายในสองเดือนแล้วทำ E-book ขายเลย แบบไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น คิดแค่ว่าถ้ายังเรื่อยเปื่อยเราก็คงทำอะไรไม่เสร็จสักที จนทำเล่มออกมาได้ก็รู้สึกว่า ในที่สุดเราก็มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน

ตอนที่จะทำอีบุ๊คขาย แน่นอนว่าลำบากตอนตั้งราคาค่อนข้างมาก ด้วยข้อจำกัดอะไรหลาย ๆ อย่าง เราก็เลยเอางี้ คิดง่าย ๆ ว่า 100 หน้า A5 (ราว 20K คำ) จะคิดที่ 50 บาท ของเรา 300 หน้านิด ๆ (เกือบ ๆ 70K คำ) เลยตีว่าจะขาย 150 +/- นิดหน่อย แล้วมาพบว่าเวลาตั้งราคานี่มันต้องมาอิงกับราคาขายผ่าน app apple store ที่หักส่วนต่างไปได้อย่างโหดที่สุด เราก็เลยเลือกว่าราคาที่คนจะกดซื้อง่ายสุดคือ ไม่เกิน 199 ก็เลยเลือกมาราคาหนึ่งก่อนจะมาตั้งราคาขายทั่วไป ซึ่งขนาดว่าเราเลือกราคาที่คิดว่ามิตรภาพที่สุด พอเราเอาไปเฉลี่ยรายตอนเปิดขายรายตอนที่ RAW เราก็ยังคิดว่า ราคานี้มันโหดไปไหม (เพราะการขายเกิน 5 บาท) ย่อมต้องครุ่นคิดหนัก เราก็คิดหนักจริงตอนที่มาตั้งราคารายตอน เราไม่ได้ขายเด็กดีค่ะเนื้อหาบางตอนมั่นเสี่ยงไปหน่อยเลยผลักไปขายที่เดียวไปเลยคือ E-book MEB รายตอนบน RAW -ถามว่าขายดีไหม ช่วงเปิดขายอาทิตย์แรก-เดือนแรก ควรจัดโปรฯ และโปรโมทเรียกคนมาซื้อให้ได้มากที่สุดค่ะ ตอนนั้นเป็นโอกาสของเราแล้ว ตอนแรกคิดว่าจะขายไม่ได้เลย เราตื่นมาตีสามได้เมล์ว่าวางขายตอนเที่ยงคืนครึ่ง เลยประกาศบนเพจ แล้วพบว่า...มีคนซื้อทันที 1 ea (กรีดร้อง!) โอเค รอดตายกับยอดขาย 0 มาได้

-เดือนต่อมาก็ยังขายได้แต่ไม่ได้เปรี้ยงปร้างค่ะ

-ที่พูดมาทั้งหมดคือรวมเรื่องสั้น คนไม่นิยม และมีคนเฟบที่เด็กดีไม่ถึง 10 คน ที่ RAW 20 นิด ๆ ได้ อะไรทำให้เรามั่นหน้า ไม่มีหรอกค่ะ อย่างที่บอกว่าเราแค่อยากเอาชนะตัวเอง

-รายได้จากการขายของคนที่ไม่ได้มีคนติดตามหรือแฟนคลับนับร้อยพันคงไม่มากเท่าไรค่ะ โดยเฉพาะกับการมีของขายแค่อย่างเดียวเป็นจุดยืนพื้น นั่นหมายถึงถ้าในร้านของคุณมีผลิตภัณฑ์มากขึ้นเท่าไร คุณก็จะมีคนเข้ามาแวะเวียนชมผลงานและเลือกซื้อได้มากขึ้น และยอดรวมจากการขายก็จะได้มากขึ้นค่ะ แปลว่า เปิดขายเล่มแรก ๆ จงทำใจ และขยันสร้างผลงานที่ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ ค่ะ แบบคุณ varunyanee แล้ว Target ที่คุณต้องการมันจะมาเอง

-เรื่องมหัศจรรย์ของเรามีอยู่ว่าหลังเปิดขายอีบุ๊คไปสักครึ่งเดือนเราก็มาเปิดขายรายตอนบน RAW ค่ะ เดือนแรก ยอดก็พอมีคนซื้อนะคะ (คาดว่าจากการซื้อ E-book ไปแล้ว) เดือนต่อมา ยอดเพิ่มจากเดือนแรก เดือนปัจจุบันผ่านมา 5 วันยอดเท่าเดือนที่สองที่เปิดขาย

-สาเหตุ คาดว่าอิฉันคงหวีดนาจาหนักไปหน่อย เลยเขียนแฟนฟิคนาจารัว ๆ เมื่อปลายปี-เดือนที่แล้ว จึงเป็นลูกโซ่เพราะเรื่องสั้นเก่ามีคนมาเฟบเพิ่ม มีคนมาอ่านเพิ่ม ส่วนเรื่องที่เปิดขายก็ขายได้ดีขึ้น คนเฟบเพิ่มขึ้นจนงงเล็กน้อยถึงปานกลางว่ามาจากไหน (จากเฟบ 20 กว่า ๆ มาเป็น 41 เฟบ ทั้งที่ติดเหรียญ แต่ก็โดนอันเฟบไปนับสิบเช่นกัน)

-อีกประการ ถ้ามีเพจ มีทวิตเตอร์ (ซึ่งเราก็ไม่ได้มีคนติดตามมากนัก) เราก็ทำตัวขายเก่งไปเรื่อย ๆ ค่ะ เช่นกระแสทวิตพูดถึงอะไร เราไม่ได้ไปฉอดกับเขาแต่เราขายของ ก่อนหน้านี้มีกระแสโจมตี ABO verse, MPREG (ตั้งแต่ก่อนหน้ากระแส Pedo) เราก็ทวิตว่า ในเรื่องสั้นที่เราเขียน เรามีสร้าง verse ใหม่นะ [แปะลิงก์] MPREG ก็มีเรื่องหนึ่งนะ [แปะลิงก์] แต่เรื่องที่เราชอบที่สุดในทั้งหมด Proundly present คือเรื่อง [แปะลิงก์] บางทีก็อาศัยพูดเรื่อยเปื่อยในทวิต แล้วก็วกกลับไปพูดถึงนิยายตัวเองค่ะ ขายไปเรื่อย ๆ

-เทคนิคการเขียน เสียดายที่เราปิดไปแล้วล่ะค่ะ เราเป็นพวกที่ชอบเขียนพล็อตสามัญธรรมดาให้มันว้าวมากกว่าคิดพล็อตล้ำ ๆ น่ะค่ะ

ถ้าจะให้แนะนำ ลองอ่านอะไรที่อ่านแล้วอึ้งทึ่ง อิหยังวะ แจกจุดอย่างวรรณคดีไทยดูค่ะ คุณอาจจะได้พล็อตที่คาดไม่ถึง เช่น เรื่องพระลักษณวงศ์กับพราหมณ์เกสร อย่างย่อ ลองไปอ่านดู https://pantip.com/topic/33984160

ขอให้โชคดีค่ะ ขออภัยที่เขียนเสียยาว

ไม่เครียดๆน้า เราคิดว่ามันจะมีบ้างแหละคนที่พร้อมเปย์ถึงจะไม่เยอะ แต่ก็มีนะ

ส่วนเราติดเหรียญในจอยลดา ก็เคยได้นะ ได้รายได้จาดยอดอ่าน แคนดี้ และเหรียญที่ติดอีก