Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

suprave : ตั้งใจเปิดฟรี แต่นักอ่านเชียร์ให้ขาย มีรายได้ แถมยอดวิวไม่ลด!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่



หลายคนอาจสงสัยว่า นักเขียนมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเขียนนิยายได้ไม่นาน ไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพ ไม่เคยเป็นที่รู้จักมาก่อน นามปากกาไม่ได้คุ้นหูนักอ่าน แต่กลับมีรายได้จากการขายนิยายออนไลน์บนเว็บเด็กดีเป็นกอบเป็นกำอย่างไม่น่าเชื่อ เขาหรือเธอเหล่านั้นมีความเป็นมาบนเส้นทางนักเขียนอย่างไร วันนี้เราก็เลยขอชวนนักเขียนเด็กดีมือใหม่แกะกล่อง มาบอกเล่าประสบการณ์เขียนนิยายออนไลน์ครั้งแรกในชีวิต ให้ทุกคนที่อยากลองเขียนนิยายและมีรายได้ไปด้วย ได้มีแรงบันดาลใจดีๆ กันค่ะ 

 

นักเขียนเด็กดีคนนี้ เธอชื่อว่าพี่ปู สุประวีณ์ พิมพ์แก้ว เธอเป็นนักเขียนมือใหม่วัย 33 ปี ที่มีอาชีพเป็นแม่บ้าน และเพิ่งเริ่มเขียนนิยายได้ไม่นานมานี้เองค่ะ ก่อนหน้านี้พี่ปูทำงานมาแล้วหลากหลายอาชีพ ทั้งพนักงานเงินเดือน แม่ค้าขายของ ตลอดจนออกจากงานมาขายก๋วยเตี๋ยวสูตรคุณยายจนเจ๊ง เธอก็ทำมาแล้วค่ะ 

 

จวบจนกระทั่งสถานการณ์โควิดในช่วงต้นปี 64 ทำให้หญิงสาวในวัย 33 ปีคนนี้ตกงาน  

 

ด้วยงานที่เธอสามารถทำได้นั้นมีไม่มาก เธอจึงตัดสินใจผันตัวมาทำงานเป็นแม่บ้าน และใช้เวลาว่างจากการทำงานมาลองเขียนนิยายคลายเครียด โดยใช้ชื่อนามปากกาตามชื่อจริงว่า suprave มาเขียนนิยายเรื่อง ข้า เลี่ยง หลิน ซึ่งเป็นนิยายเรื่องแรกในชีวิตที่เริ่มลองเขียนเมื่อตอนต้นปี 64 ที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งเพียงไม่กี่เดือนรายได้จากการเขียนนิยายของเธอก็มากกว่าเงินเดือนที่เคยทำงานประจำไปแล้วค่ะ

 

ทั้งนี้ พี่ปู เล่าให้เราฟังว่าการเขียนนิยายไม่ใช่ความฝันหรืองานอดิเรกที่อยากทำมาก่อน แต่เพราะชอบอ่านนิยายมากและเป็นนักอ่านมาตั้งแต่เด็ก ประจวบกับช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์โรคระบาดทำให้มีเวลาว่างมากขึ้นเลยลองแต่งนิยายตามจินตนาการของตัวเองดูบ้าง 

 

 ไม่ได้คิดว่าสายเกินไปที่จะเริ่มต้นเขียน  ตอนนั้นคิดแค่อยากลองเขียน ก็ลงมือทำเลยทันที

 

“ความจริงเราไม่ได้คิดเลยว่าเราจะมาเป็นนักเขียน เราเป็นนักอ่าน เราชอบอ่านมากกว่า แล้วก็จินตนาการตามไปค่ะ จุดเริ่มต้นของการเขียนก็เพราะตกงานนี่แหละค่ะ และเราก็มีเวลาว่างเยอะ เราก็เลยลองลงมือทำดู เพราะว่าเห็นคนอื่นเขาทำ เขาเขียนกันเนาะ เพิ่งเริ่มเขียนนิยายช่วงต้นปี ประมาณเดือนมกราคมค่ะ เขียนได้ประมาณ 10 ตอน ก็เอามาลงในเว็บเด็กดีช่วงไปปลายเดือนมกราคมค่ะ”

 


นิยายเรื่อง ข้า เลี่ยง หลิน ซึ่งเป็นนิยายเรื่องแรกในชีวิตของพี่ปู ได้แรงบันดาลใจมาจากการอ่านนิยายแนวจีนโบราณบนเว็บเด็กดี แล้วเกิดความคิดอยากอ่านนิยายในจินตนาการของตัวเองดูบ้าง 

 

“นิยายเรื่อง ข้า เลี่ยง หลิน เป็นเรื่องแรกที่เริ่มเขียนค่ะ แรงบันดาลใจในการแต่งมาจากว่า เราชอบนิยายที่ตัวเอกชอบค่อยๆ เติบโตค่ะ แล้วก็ส่วนใหญ่นิยายสมัยนี้ จะเป็นนิยายตัวเอกมาเกิดใหม่ แล้วก็มีระบบอะไรแบบนี้ค่ะ เราก็อยากอ่านนิยายในจินตนาการของเรา เราก็เลยเขียนเรื่องนี้ออกมาค่ะ”

 

ช่วงแรกๆ ที่ลงมือเขียน พี่ปูยอมรับเลยว่าการเขียนนิยายนั้นยากมากจริงๆ เพราะไม่เคยเขียนมาก่อน แต่พอได้ลองใช้เวลากับการเขียนให้มากขึ้น มีนักอ่านเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจอยู่เรื่อยๆ ก็ทำให้พี่ปูมีแรงใจมาเขียนนิยายอัปลงอย่างสม่ำเสมอ จนทำให้นิยายเรื่อง ข้า เลี่ยง หลิน ขึ้นไปติดท็อปหมวดได้ในเวลาเพียงไม่นาน

 

ถ้าถามว่าเขียนนิยายครั้งแรกยากไหม ยากค่ะ เพราะว่าเราไม่มีประสบการณ์กับเรื่องการเขียนเลย พอได้มาลองทำดู กว่าจะเขียนนิยายได้สักเรื่องเนี่ย มันยากจริงๆ มันต้องใช้เวลาเนาะ” 

 

“ฟีดแบ็กทั้งนักอ่าน ยอดวิว แล้วก็คอมเมนต์ ก็ถือว่าเยอะมาก เยอะเกินที่เราคิดไว้ คาดหวังไว้ค่ะ ก็รู้สึกดีใจมากค่ะ ที่มีคนเข้ามาอ่านกันเยอะขนาดนี้ ให้กำลังใจเราเยอะขนาดนี้”
 

 


 


นอกจากคอมเมนต์ที่คอยให้กำลังใจพี่ปูเรื่องการเขียนนิยายแล้ว ยังมีคอมเมนต์จากนักอ่านกลุ่มหนึ่งที่เข้ามาสนับสนุนให้พี่ปูลองเปิดขายตอนล่วงหน้า เพราะอยากอ่านตอนต่อๆ ไปแบบเร็วกว่าคนอื่นกันเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พี่ปูที่ตอนแรกตั้งใจว่าลองเขียนนิยายคลายเครียด ตัดสินใจว่าจะทดลองขายตอนล่วงหน้าดู เพราะอยากรู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร เหมือนที่นักอ่านเขาบอกใช่หรือเปล่า  

 

“ตอนแรกไม่ได้คิดที่จะลงขายอะไรเลยค่ะ แต่ว่ามีนักอ่านเข้ามาคอมเมนต์ว่าอยากให้เราเขียนตอนอ่านล่วงหน้าค่ะ ตอนแรกก็มีแค่ประมาณคนเดียว สองคน แต่ว่าพอเราลงนิยายไปเรื่อยๆ มีคนที่เขาอยากอ่านก่อนล่วงหน้าเยอะขึ้น เราก็เลยตัดสินใจลงขายตอนอ่านล่วงหน้า สำหรับคนที่เขาอยากรู้ว่าตอนต่อไปจะเป็นยังไง”

 

ซึ่งพี่ปูเล่าให้ฟังว่า ความกังวลแรกของนักเขียนมือใหม่ก็คือ ความกังวลเรื่องนักอ่านหาย กลัวว่าเปิดขายแล้วยอดวิวจะลดลง นักอ่านจะไม่กดติดตามต่อ แต่สุดท้ายหลังจากกลัวๆ กล้าๆ อยู่นาน พี่ปูก็ตัดสินใจลองขายแบบตอนอ่านล่วงหน้าดู ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้กลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่กังวลไว้ เพราะนอกจากนักอ่านจะไม่หายไปตามที่กังวลแล้ว คนอ่านยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย และแน่นอนว่า ยอดสนับสนุนก็มากกว่าที่เจ้าตัวคาดคิด 

 

“ตอนแรกกังวลนะคะว่ายอดวิวจะลดไหม คนอ่านจะลดลงไหม แต่พอเราลงขายแล้ว ผลตอบรับที่ให้กลับมาคือเยอะมาก นักอ่านเยอะขึ้น ยอดวิวก็เยอะขึ้นนะคะ แล้วเราก็ยังมีรายได้เข้ามาด้วย”

 


 


พี่ปูเล่าให้ฟังว่านอกจากฟีดแบ็กเรื่องนักอ่านจะเกินคาดแล้ว รายได้ที่ได้จากการขายนิยายออนไลน์ก็เกินกว่าที่คาดไว้มากเหมือนกันค่ะ เพราะพี่ปูไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้รับการสนับสนุนจากนักอ่านจำนวนมาก จนทำให้มีรายได้ขึ้นไปแตะถึงหลักหมื่นในเดือนที่ผ่านมา

 

“ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าเราจะมีรายได้จากการเขียนนิยาย เพราะว่าเราเพิ่งเริ่มต้นเขียนค่ะ แต่เป็นเพราะนักอ่านเขาให้โอกาสเราขาย เราก็เลยมีรายได้ตรงนี้ค่ะ”

 

“รายได้ก็ช่วงแรกๆ ที่เปิดขายจะเป็นหลักพันค่ะ ก็พอนะคะ เพราะว่าเราไม่ได้ใช้จ่ายเยอะเนาะ สามารถเอามาใช้ได้ในการดำรงชีวิตในชีวิตประจำวันได้เลย ส่วนตอนนี้ รายได้เราเข้าหลักหมื่นแล้ว ก็มากกว่าเงินเดือนที่เราเคยไปทำเป็นงานประจำมาค่ะ มากกว่าเยอะเลย แล้วก็เรามีเงินที่พอจะมาเก็บได้ค่ะ แล้วก็ใช้จ่าย สามารถซื้อของที่เราอยากได้ซื้อได้ตามใจเราเลย”

 

หลังจากนี้ พี่ปูยังไม่ได้วางแผนว่าอยากเขียนนิยายเป็นอาชีพหรือจะใช้ชีวิตอยู่ในวงการนักเขียนนานแค่ไหน แต่สิ่งที่พี่ปูคิดในขณะนี้คือมีความตั้งใจอยากจะเขียนนิยายต่อไปเรื่อยๆ ตามจินตนาการที่ยังมีมากมาย และถึงแม้ว่าในอนาคตนิยายเรื่องต่อไปอาจจะไม่ได้รับผลตอบรับดีเหมือนเรื่องแรกที่เขียน แต่พี่ปูก็อยากจะเก็บประสบการณ์เขียนนิยายให้มากขึ้นเรื่อยๆ

 

“เขียนนิยายเป็นอาชีพเหรอ ก็คิดว่าเป็นอาชีพได้นะคะ สำหรับคนที่มีความตั้งใจ มีจินตนาการที่จะเขียนเรื่องราว แต่สำหรับเรา ถ้าเรามีไอเดียดีๆ เราก็อยากจะเขียนต่อไปนะคะ เราก็อยากจะลองเขียนแนวอื่นบ้าง ลองหลายๆ แนว ถึงคอมเมนต์จะไม่ดียังไง ผลตอบรับจะไม่ดียังไง ก็จะเขียนต่อให้จบ ถ้าเราเขียนจบได้เรื่องหนึ่ง เราก็จะมีแรงฮึบขึ้นมาเขียนเรื่องต่อๆ ไปค่ะ เหมือนเราให้โอกาสตัวเองพัฒนาฝีมือตัวเองค่ะ”

 



 

นอกจากนี้ พี่ปูยังฝากถึงนักอยากเขียนที่อยากลองเขียนนิยายเอาไว้ว่า อยากให้ทุกคนได้ลองลงมือทำ แม้ว่าเราจะมีประสบการณ์เขียนนิยายเป็นศูนย์ ถ้าเราเป็นนักอ่านมาก่อน พี่ปูเชื่อว่าประสบการณ์การเรามีเกินร้อยแน่นอน เพราะเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พี่ปูตัดสินใจลองเขียนนิยายเรื่องแรกในชีวิต ก็คือ จินตนาการจากการอ่านที่พลุ่งพล่านจนอยากลองเขียนนิยายขึ้นมานั่นเอง 

 

“ถ้าคุณมีจินตนาการ มีเรื่องที่ตัวเองอยากอ่าน ถึงจะไม่มีประสบการณ์เลยก็สามารถลองลงมือทำได้เหมือนเราค่ะ เราก็ไม่มีประสบการณ์เหมือนกัน มีแต่ประสบการณ์ที่เราอ่านมา แล้วเราก็มีความคิดอยากจะอ่านนิยายแบบนี้ เราก็เลยลองเขียนค่ะ ก็อยากให้ลองกล้าก้าวเข้ามาเป็นนักเขียนดูนะคะ”

 

เรื่องราวการเป็นนักเขียนของพี่ปู ทำให้เรามองเห็นเส้นทางการเป็นนักเขียนออนไลน์ที่ไม่ว่าใครก็สามารถเขียนนิยายได้ ในหลากหลายแง่มุมมากๆ ทั้งการใช้ประสบการณ์จากการเป็นนักอ่านมาเขียนนิยาย ทั้งการเปิดขายนิยายเพราะนักอ่านเข้ามาคอมเมนต์เชียร์ให้เปิดขาย แล้วเข้ามาสนับสนุนนิยายกันจริงๆ จนมีรายได้จากการขายนิยายมากถึงหลักหมื่น 

 

ตลอดจนเรื่องที่นักเขียนส่วนใหญ่กังวลว่า การเปิดขายนิยายจะทำให้ยอดวิวลดลง พี่ปูก็ได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า การเปิดขายนิยายไม่ได้ทำให้ยอดวิวลดลงเลย หากเราลงนิยายอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่านิยายเรื่องนั้นจะยังเขียนไม่จบ หรือเปิดขายแบบตอนอ่านล่วงหน้าอยู่ ถ้านักอ่านชื่นชอบนิยาย และอยากสนับสนุนนิยายของเรา นอกจากจะทำให้เรามีนักอ่านเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย 

 

สำหรับใครที่คิดว่าตัวเองมีประสบการณ์เป็นศูนย์ ทั้งการเขียนนิยาย และการขายนิยาย อยากให้ลองดูเรื่องราวการเป็นนักเขียนของพี่ปูไว้เป็นแรงบันดาลใจค่ะ 

 

ทุกอย่างต้องมีก้าวแรก ถ้าตอนนี้ยังไม่เริ่มเขียนนิยาย หรือเขียนแล้วแต่ดองอยู่ ลองมาพยายามกันดูสักตั้งหนึ่งค่ะ ส่วนใครที่เขียนนิยายอยู่แล้ว แต่กลัวขายแล้วยอดวิวลด ลองเปิดขายตอนอ่านล่วงหน้าแบบพี่ปูดูค่ะ ถูกใจทั้งนักอ่านสายอ่านฟรี และนักอ่านสายเปย์แน่นอน ว่าแล้วก็มาเริ่มต้นเขียนนิยาย และศึกษาการขายง่ายๆ กันเลย!

ติดตามผลงานของ
suprave ได้ที่นี่

- ข้า เลี่ยง หลิน

แสดงความคิดเห็น