“Lovely Poet” เริ่มแต่งนิยายเพียง 3 เดือน มีรายได้จากตอนอ่านล่วงหน้าเท่าเงินเดือน!
“Lovely Poet” เริ่มแต่งนิยายเพียง 3 เดือน
มีรายได้จากตอนอ่านล่วงหน้าเท่าเงินเดือน!
สวัสดีค่ะ ชาวเด็กดีทุกคน วันนี้เราอยากชวนทุกคนมารู้จักพูดคุยกับนักเขียนมือใหม่แกะกล่องคนนี้มากๆ เธอชื่อ “โบว์” เป็นสาวออฟฟิศที่สิงตัวเป็นนักอ่านนิยายเด็กดีมานาน แถมยังมีความฝันอยากเป็นนักเขียนอีกด้วย แต่เหมือนความฝันนี้จะเป็นฝันที่ไม่กล้าฝัน เพราะตอนนี้เธอเป็นสาววัย 33 ปีที่มีงานล้นมือ แถมยังหาเวลาว่างยากมากๆ ด้วย
แต่พรหมลิขิตก็บันดาลชักพาจริงๆ ช่วงที่นิยายแนวเกิดใหม่กำลังฮิตๆ เธอเกิดความรู้สึกอยากแต่งนิยายของตัวเองขึ้นมาบ้าง ในที่สุดก็เอาชนะจิตใจตัวเองด้วยการเปิดนามปากกา Lovely Poet และลงมือเขียนนิยายเรื่องแรกจนจบได้ในเวลาเพียงไม่นาน จากนั้นเธอก็ตั้งใจท้าทายตัวเองอีกครั้งด้วยการเขียนนิยายเรื่อง เชิญตีกันไปเถิด ข้าจะทำสวน จนก้าวขึ้นไปติดท็อปได้ในที่สุด
บอกเลยว่าเรื่องราวของนักเขียนมือใหม่คนนี้ไม่ใช่แค่การเขียนนิยายขึ้นไปติดท็อปแน่นอนค่ะ เพราะเรื่องราวระหว่างทางก่อนที่เธอจะเขียนนิยายจนมีรายได้เทียบเท่าเงินเดือนอย่างทุกวันนี้ ต้องไม่มีใครคาดคิดแน่ๆ ว่านักเขียนสาวคนนี้ จะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเขียนได้เพียงไม่กี่เดือน แถมยังมีรายได้จากการขายตอนอ่านหน้ามาช่วยกู้วิกฤติการเงินในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ได้ด้วย เรื่องราวของเธอคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ใช่ไหมคะ มาติดตามเส้นทางนักเขียนของเธอกันเลย!
สิงตัวเป็น “นักอ่าน” มานาน
ขอลองเป็น “นักเขียน” ดูบ้าง
“สวัสดีค่ะ ชื่อ โบว์ ค่ะ นามปากกาที่ใช้ก็ Lovely Poet เป็นสาวออฟฟิศ อายุอานามก็ 33 ปีเข้าไปแล้วค่ะ 555 ตอนนี้ มีนิยายอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรกจบไปแล้ว ชื่อว่า As You Wish - เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องสมปรารถนา กับเรื่องที่ 2 ที่กำลังแต่งอยู่ตอนนี้คือเรื่อง เชิญตีกันไปเถิด ข้าจะทำสวน ค่ะ”
“เรามาเป็นนักเขียนจริงจังเพิ่งจะสามเดือน จริงๆ ก็ประมาณ 2 เดือนนิดๆ เองค่ะ ตอนแรกเราก็สิงตัวอยู่ตาม Dek-D ในฐานะนักอ่านคนหนึ่ง นึกมาตลอดว่า อยากมีผลงานเป็นของตัวเองบ้างจังเลยนะ เราชอบนิยายแนวไหน เราก็คิดว่า เออ ถ้ามันเป็นสไตล์ของเรา เราจะเขียนออกมาแบบไหนดี ดังนั้น เรื่องแรกพออยากลองทำปุ๊บ ก็ลงมือทำเลย วางพล็อตในหัวได้ ก็ขึ้นตอนแรกเลยค่ะ”
“แล้วเราเป็นมือใหม่มากๆ เรื่องแรกเลยจบแบบรวบรัดตัดตอนไปสักหน่อย เพราะกลัวและไม่มั่นใจว่าเราจะพานักอ่านออกทะเลไหม จนมาถึงเรื่องที่ 2 เชิญตีกันไปเถิด ข้าจะทำสวน เราอยากลองท้าทายตัวเอง ด้วยการลองดูซิว่า เราจะเขียนเรื่องยาวรอดไหม ปรากฏว่าผลตอบรับออกมาดีมากๆ นักอ่านทุกท่านน่ารักมาก และเฮฮาไปกับนักเขียนดีมากๆ เลยค่ะ ”
“การเขียนนิยายเป็นความฝันของเราเลย แต่อะไรหลายๆ อย่างในชีวิต ก็ทำให้เราต้องมาจบที่การทำงานออฟฟิศ แต่เราก็ยังอยากทำตามความฝันของตัวเองให้ได้ อีกทั้งเราอยากมีรายได้เสริม จากสถานการณ์หลายๆ อย่างในปัจุบัน จึงต้องแบ่งเวลาให้ดีๆ และตอนนี้เราก็มีความสุขกับมันมากๆ เลยค่ะ”
ก้าวแรกของการเป็นนักเขียน
คือลองแต่งนิยายให้จบ!
“เรื่องแรกเริ่มเขียนเมื่อเดือนมิถุนายน 64 นี้เอง ผลตอบรับสำหรับเราในฐานะมือใหม่ถือว่าดีมากค่ะ แม้จะไม่เท่าเรื่องที่สอง แต่เราก็ปลื้มมากที่มีคนชอบเรื่องที่เราแต่ง และเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการจะสื่อ ถ้าถามว่ายากไหม มันยากตรงที่ต้องหาข้อมูลเยอะหน่อยค่ะ เราสายศิลป์ไม่ใช่สายวิทย์เลย 555 ก็เอาสีข้างเข้าถูไปบ้าง ใช้จินตนาการบ้างปนเปกันไป ”
“แน่นอนว่าแรงบันดาลใจหลักๆ ก็มาจากการอ่านค่ะ เราเป็นนักอ่านตัวยงที่อ่านมาหลายแนวมากๆ แต่จะชอบแนวเกิดใหม่เป็นพิเศษ ทีนี้พอนึกอยากจะเขียนเองบ้าง จึงตั้งเป้าก่อนว่า เราอยากเขียนแนวไหน เซ็ทติ้งยังไง ปัจจุบัน ย้อนยุค พอมันไปต่อได้ เราก็อาศัยแรงบันดาลใจมาจากนิยายต่างๆ ที่เราเคยอ่าน เช่น บรรยากาศเป็นแบบไหน แล้วถ้าเป็นเรา เราจะสื่ออย่างไร ก็เลยออกมาเป็นอย่างที่ได้อ่านกันค่ะ”
“As You Wish - เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องสมปรารถนา เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ที่อยากจะลองเขียนแนวกลับมาเกิดใหม่ ส่วนตัวเราเป็นผู้หญิง เราเลยให้ตัวเอกเป็นผู้หญิง เพราะเรารู้สึกว่าอาจจะสื่อมุมมองความเข้าใจออกมาได้ดีกว่า บวกกับความกลัวในตอนแรกว่าอาจเขียนออกมาได้ไม่ดีพอ จึงไม่กล้าออกมาจากกรอบที่สร้างไว้เท่าไหร่ พอวางพล็อตได้ปุ๊บก็เขียนปั๊บ ตัวละครน้อยมาก เนื้อเรื่องค่อนข้างกระชับ แต่สุดท้ายก็สามารถเขียนจนจบเป็นเรื่องแรกได้ค่ะ”
“เรื่องที่สอง เชิญตีกันไปเถิด ข้าจะทำสวน เรื่องนี้ก็อย่างที่เปรยไว้ที่หน้านิยายว่าอยากจะลองท้าทายตัวเอง เพราะในเรื่องที่แล้วแรกนักอ่านหลายท่านติงว่าเรื่องสั้นไป เราก็เลยลองดูค่ะ เราอยากจะลองเขียน แนวเกิดใหม่ ผสมกับทำสวนแบบที่เราชอบ และอยากจะสื่อสารกับทุกคนว่า ถ้าเราเขียนแนวทำสวนในแบบของ Lovely Poet จะออกมาเป็นแบบนี้แหละ แล้วก็เลยกลายมาเป็นอย่างที่ได้อ่านกันค่ะ”
“ฟีดแบ็กโดยรวม ต้องบอกว่าดีกว่าที่คาดหวังไว้มากๆ ค่ะ ตอนแรกเราก็ไม่ได้คาดหวังเลยว่า นักเขียนมือใหม่มากๆ อย่างเรา จะสามารถทำตามความฝันได้ไวขนาดนี้ ตอนนี้สำหรับเราแล้วถือว่าได้ก้าวเข้ามาอยู่ในโลกของการเป็นนักเขียน เริ่มต้นมาได้หนึ่งก้าวแล้ว ภูมิใจมากๆ ค่ะ ”
ลองขายตอนอ่านล่วงหน้า
เพราะอยากมีรายได้สนับสนุนความฝัน
“ที่เราเปิดขายนิยายหลักๆ ก็คือ เพราะเราตั้งใจว่าอยากจะลองดู ว่าทางนี้จะเป็นทางที่เราสามารถไปต่อในอนาคตได้หรือเปล่า เราสามารถยึดมันเป็นอาชีพได้ไหม ถ้าเราทำสำเร็จ เราก็พร้อมที่จะเดินต่อไป แน่นอนว่าเราต้องการรายได้มาช่วยค่าใช้จ่ายของที่บ้านด้วยค่ะ”
“เราขายแบบตอนอ่านล่วงหน้า เพราะรู้สึกว่าทุกคนก็มีความพร้อมแตกต่างกัน เป้าหมายหลักของเราก็คือ อยากให้ทุกคนสามารถเข้าถึงผลงานของเราได้ แต่เราก็ยังอยากหารายได้เสริมเพิ่มด้วย จึงมาจบที่การเปิดขายเป็นตอนล่วงหน้าค่ะ นักอ่านที่มีทุนทรัพย์ และพร้อมจะสนับสนุนเราก็ซื้อตอนล่วงหน้าได้ ส่วนนักอ่านท่านไหนที่ไม่สะดวกซื้อตอนล่วงหน้า ก็รออ่านในอีก 7 วัน ซึ่งส่วนตัวแล้วเราคิดว่ากำลังดีค่ะ ”
“เราคาดหวังว่าจะมีนักอ่านที่พร้อมสนับสนุนเราจาก 100 มีสัก 10 คน เราก็ดีใจมากแล้วค่ะ จากเรื่องแรกที่เปิดตอนอ่านล่วงหน้าแบบนี้เหมือนกัน เราก็เลยสามารถคาดหวังได้ว่าต้องมีคนซื้อแน่นอน แล้วฟีดแบ็กของการขายตอนล่วงหน้าก็ดีกว่าที่คิดเอาไว้มากๆ เลยค่ะ ขอบคุณนักอ่านทุกท่านด้วยที่สนับสนุน แน่นอนว่าเป็นแรงใจที่ดีมากๆ ในการที่จะช่วยให้เราตัดสินใจเดินทางนี้ต่อไปค่ะ ”
“รายได้ถ้า ณ เดือนสิงหาคมนี้ก็น่าพอใจมากค่ะ เราได้เงินเกินกว่าที่คาดมาก พอๆ กับเงินเดือนของเราแล้ว 555 รายได้ส่วนนี้ก็เอาไปช่วยค่าใช้จ่ายที่บ้านเป็นหลัก แบ่งเบาภาระเราไปได้เยอะเลยค่ะ”
ชีวิตต้องมีเป้าหมาย
ทั้งการเขียน และความฝัน
“สำหรับการเขียน เราตั้งโจทย์ก่อนค่ะว่าเราต้องการเขียนอะไร แนวไหน พอเราตั้งแล้วเราก็เริ่มวางคาแรคเตอร์ของตัวละครแต่ละตัว เริ่มที่พระเอก นางเอกก่อน แล้วก็ค่อยๆ ขยายไปเรื่อย ตั้งปมว่าปมหลักในเรื่องคืออะไร วางแนวทางไว้คร่าวๆ ว่า เนื้อเรื่องควรจะไปแบบไหน เช่นเรื่องนี้เราอยากให้มันเบาสมอง ไม่เครียด เฮฮานะ ทีนี้ทุกอย่างมันก็ดำเนินไปค่ะ การวางแผนไว้ก่อนช่วยให้เราไม่หลงทาง ไม่จับนั่นจับนี่มายำจนดูออกทะเล สามารถทำให้เราเขียนแต่ละตอนออกมาได้ทุกวันตามที่เราตั้งเป้าไว้ค่ะ”
“ส่วนเป้าหมายในชีวิตตอนนี้คืออยากเป็นนักเขียนอาชีพจริงจังค่ะ อยากลงให้นักอ่านทุกท่าน ได้อ่านวันละหลายๆ ตอน 555 แต่ตอนนี้อะไรหลายๆ อย่าง ทำให้เราไม่สามารถทิ้งงานประจำที่ทำอยู่ได้ แต่เราก็จะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะได้ลองทำตามความฝันนี้ค่ะ”
“เรารู้สึกว่าการเขียนนิยายทำให้เราได้เพื่อนเยอะขึ้นค่ะ 555 นักอ่านทั้งหลายที่มาคอมเมนต์พูดคุยกัน ทำให้เราไม่เหงาเลย ส่วนรายได้จากการวางขายตอนล่วงหน้าช่วยกู้วิกฤติการเงินของเราจากเศรษฐกิจตอนนี้ได้ดี ขอบคุณนักอ่านด้วยนะคะ”
“สุดท้ายนี้ ขอให้นักเขียนทุกคนสู้ๆ ค่ะ เรารู้สึกว่าเราอยากเขียน อยากบอกอะไรก็เขียนเลย ต้องลองเท่านั้นถึงจะรู้ว่าเราจะสามารถทำมันได้ดีหรือไม่ดี อย่ากลัวที่จะลอง อย่าเก็บความคิดด้านลบมาลดกำลังใจของตัวเอง ให้นำคำติชมทั้งหลาย มาเป็นแรงกระตุ้นให้เราทำให้ดีขึ้น เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยากก้าวเข้ามาเปิดเวทีของตัวเองค่ะ ”
“ฝากติดตามผลงานทั้งสองเรื่องเลยนะคะ ตอนนี้กำลังตั้งใจปั่นเรื่อง เชิญตีกันไปเถิด ข้าจะทำสวน ให้เต็มที่ ชอบก็กดให้กำลังใจกันได้ค่ะ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องเบาสมอง ไม่เครียด อยากให้ทุกคนเฮฮาไปด้วยกัน ยังไงก็ช่วยขำมุก 5 บาท 10 บาทของเราด้วยนะคะ เราแอบไปทำเพจ FB ไว้ด้วย Lovely Poet ค่ะ ติดต่อกันที่ช่องทางนั้นได้เลยค่ะ ขอบคุณแรงสนับสนุน และกำลังใจจากนักอ่านทุกๆท่านเลย ช่วงนี้ก็รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ”
ลองดูกันหน่อยไหมคะ? ลองใช้เวลาว่างมาเขียนนิยายกัน ถึงเราจะไม่เคยแต่งนิยายมาก่อน แต่ถ้าเราชอบอ่านนิยาย และอยากจะมีผลงานเป็นของตัวเองดูบ้าง ลองก้าวเข้ามาเป็นนักเขียนเหมือนที่นักเขียนสาวคนนี้ทำกันได้นะคะ
แม้ว่าเธอจะเพิ่งก้าวเข้ามาเป็นนักเขียนได้เพียงไม่กี่เดือน แต่บอกได้เลยว่าเธอใช้ประสบการณ์จากการเป็นนักอ่านได้คุ้มค่ามากๆ ทั้งเรื่องของการหาแรงบันดาลใจ การอัปนิยายสม่ำเสมอ และการพยายามเขียนนิยายให้จบเรื่องเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักอ่านในผลงานเรื่องต่อๆ ไป ซึ่งบอกได้เลยว่าสิ่งที่เธอทำนั้นส่งผลให้นิยายเรื่องล่าสุดมียอดวิวมากถึงหลักแสน และยังมีนักอ่านเข้ามาสนับสนุนตอนอ่านล่วงหน้าจนทำให้เธอมีรายได้มาสนับสนุนความฝันอย่างไม่คาดคิด
ดังนั้น หากใครชอบอ่านอยู่แล้ว มาลองใช้ประโยชน์จากความชอบของเราด้วยการลองเขียนนิยายที่เราอยากอ่านกันดูสักเรื่องหนึ่งค่ะ ตั้งเป้าง่ายๆ แค่เขียนจบเรื่องก็พอเนอะ ระหว่างนี้ใครพอมีไอเดียบ้างแล้ว มาเริ่มต้นเขียนนิยายกัน! ^^
แสดงความคิดเห็น