Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ขอบคุณเธอนะ อดีต-อนาคต

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ขอบคุณช่วงเวลา
เรื่องมันนานมามากแล้วที่ผมและเธอจากกัน ช่วงนั้นเป็นช่วงตอนเรียนที่เรานั้นได้พบกัน มันทำให้รู้สึกคิดถึงแปลกๆ มันเป็นช่วงที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิต เป็นช่วงที่ผมเริ่มรู้จักการมีแฟนเป็นนครั้งแรก มันเป็นช่วงที่เราทั้งคู่เด็กกันมากๆ
                เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อตอนป.4 ตอนที่ผมและเธอได้เจอกัน เราเรียนอยู่ห้องเดียวจ ริงๆเราก็เป็นเพื่อนกัน เธอเป็นคนที่เรียนได้ดี ส่วนผมก็ไม่ต่างกันมาก เธอมันจะสอบได้ที่2 ส่วนผมสอบที่3 สลับกันไปทุกๆปี เธอเป็นเล่นดนตรีไทย ส่วนผมชอบเล่นฟุตบอล เราทั้งคู่ทำกิจกรรมของโรงเรียนตั้งแต่เด็ก แล้วเรื่องมันก็มีอยู่ว่า เพื่อนๆชอบแซวกันว่าผมกับเธอชอบกัน นั่นเป็นเรื่องที่ดี แต่ในตอนนั้นมันเป็นเรื่องที่ทำให้เราเขินจนหัวเสีย ไม่ชอบเพื่อนที่มาแซวเท่าไหร่ จนเริ่มทนคำแซวไม่ไหว จนได้มาคบกันแบบว่าเพื่อนตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น เราไม่เคยมีการขอเป็นแฟนกัน ไม่มีการจีบกัน แต่รู้ตัวอีกที่เราก็เป็นแฟนกันแล้ว//เราไม่เคยจับมือกัน นั่นก็เป็นเพราะว่าผมนั้นเขินเอามากๆ อย่างที่สองก็คือเดี๋ยวเพื่อนจะเห็น แล้วเรื่องของเราก็เดินทางมาสักระยะหนึ่งจนถึงช่วงป.6 เราจะนัดเดทกันบ่อยครั้งที่หอสมุด ให้พ่อแม่มาส่งอ้างว่ามาทำงานที่ครูสั่ง เรานั่งอ่านหนังสือพูดคุยกันน้อยมากเช่นเคย นั่นเป็นเพราะผมเขินเอามากๆและนั่นเป็นวันแรกที่ผมกล้าจับมือเธอและเราก็เป็นเช่นนั้นมาจนเข้าช่วงที่ผมต้องเสียใจครั้งที่หนึ่ง
                เธอและครอบครัวได้ย้ายที่อยู่ไปต่างจังหวัด ทำให้เธอต้องย้ายโรงเรียนตามไป มันทำให้ผมเสียใจมากๆตามประสาเด็กน้อยที่พึ่งรู้จักความรักหัวใจกับผมอยากวิ่งไปหาเธอเหมือนกับหนังเรื่องแฟนฉันที่-เจี๊ยบมันวิ่งตามรถน้อยหน่าไปอย่างนั้น แต่ทำได้เพียงแค่นิ่งเฉย เดี๋ยวถูกเพื่อนๆล้อเอาได้ ก่อนไปเราได้ขอเบอร์แม่ของกันและกัน 55 เพื่อที่จะได้โทรคุยกันและเธอก็จากไป          เราโทรคุยกันเกือบทุกวันจนแม่นั้นเกือบยกโทรศัพท์3310ของแม่ให้ผม แล้วเราก็คุยกันแบบห่างๆแบบนั้นสักระยะหนึ่ง จนสุดท้ายข่าวดีก็มาถึง เธอจะได้ย้ายกลับมาเรียนต่อที่เดิม ทำเอาผมใจเต้นกับการรอคอยการกลับมาของเธอ
                เธอกลับมาแล้ว แต่กลับมาครั้งนี้เราเรียนกันคนละห้อง เพื่อนๆต่างคิดถึงเธอพูดคุยกับเธอแบบไม่ขาดสาย ส่วนผมนั้นก็เช่นเดิม เขินเอามากๆและไม่ค่อยกล้าเข้าไปคุยกับเธอ จนเธอนั้นเดินเข้ามาหาแล้วคุยกับผมเอง ผมจำไม่ได้แล้วว่าเราคุยอะไรกันแต่คิดว่าคงคุยกันน้อยมากๆแต่ก็เต็มไปด้วยความดีใจและยิ้มจนแก้มจะปริ เรายังเป็นแฟนที่ดีต่อกันช่วยเหลือกันเรื่องการเรียน และทุกๆเลิกเรียนเราจะรอพ่อแม่มารับกันบ้านด้วยกัน แต่ต้องเว้นระยะห่างสัก400เมตร เพราะกลัวว่าพอแม่เธอจะว่าเอา ตกเย็นเราก็คุยโทรศัพท์กัน เราจะคุยกันเยอะกว่าอยู่ต่อหน้าเพราะผมจะเขินน้อยกว่า มีครั้งหนึ่งเธอนัดกับเพื่อนๆให้มากินหมูกระทะที่บ้านเธอ เราไปกัน3-4คนโดยให้พ่อแม่ไปส่ง ผมมือสั่นมากที่ได้ม้บ้านเธอครั้งแรกในฐานะเพื่อนๆ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก มันดีมากๆ เวลาผ่านไปสักพัก ในระหว่างนั้นการเรียนผมก็ค่อยๆแย่ลง และอาจจะเกเรบ้างในช่วงม.3 ทำให้ช่วงชีวิตต่อจากนี้ของผมเปลี่ยนไป
                ผมได้บอกเลิกกับเธอไปตอนช่วงม.3เทอม2 ผมไม่ได้บอกกับเธอว่าผมเลิกกับเธอเพราะอะไร ทำเอาเธอเสียใจมากๆคำตอบในใจของผมนั้นคือ เธอนั้นดีเกินไป นั่นเป็นเหตุผลที่ฟังดูแล้วมันเห็นแก่ตัวมากใช่มั้ย แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้าง มันคือเรื่องจริงทั้งหมดที่ผมบอกไป เธอดีเกินไปตั้งแต่แรกตั้งแต่เราคบกันมา จนผมนั้นไม่เคยกอดเธอเลยสักครั้งอยากมากสุดแค่ลูบผมเธอแบบห่างๆ ผมเขินเธอผมไม่ค่อยกล้าคุยกับเธอเวลาเจอหน้ากัน                หลังจากที่ผมบอกเธอไปผมก็พยายามหลบหน้าเธอตลอด ส่วนเธอนั้นก็ยังคอยเป็นห่วงผมอยู่ห่างๆไม่ว่าจะเป็นวันสอบเธอก็จะให้เพื่อนเอาหนังสือติวมาผมหลายๆครั้ง ผมก็ปฏิเสธเธอไปหลายครั้ง จนวันหนึ่งเธอให้เพื่อนขี่รถเอามาให้ผมจนถึงบ้าน คุณคิดว่าเธอดีเกินไปมั้ยครั้บสำหรับผม              แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพักเธอก็คงทำใจได้ส่วนผมก็ติดเพื่อนไม่ค่อยรู้เรื่องราวชีวิตของเธอเท่าไหร่แล้ว เราจะกันบ้างช่วงที่ผ่านมา เรายิ้มให้กันตลอดทำให้ผมโล่งใจที่เธอไม่ได้รังเกียจผม ทั้งที่ใจของผมอยากกับไปคบกับเธออีกแต่มันก็สายไปซะแล้ว ต่อมาเราแทบไม่ได้เจอหน้ากันพอดีกับการจบ.3ของโรงเรียน ต่างคนต่างย้ายโรงเรียน เธอได้เรียนโรงเรียนในเมือง ส่วนผมเรียนโรงเรียนนอกเมือง ผมห่างกับเธอแทบจะสุดขั้วทั้งเรื่องระยะทางและชีวิต จนเรื่องราวของผมเกือบจะสิ้นสุดขาดจากกัน...
                จนกระทั่ง3-4ปีผ่านไป เฟสบุ๊คของผมได้มีชื่อเธอเด้งขึ้นมา ผมดีใจมากแบบบอกไม่ถูก ช่วงนั้นเราสองคนต่างมีชีวิตที่เป็นของใครของมัน เธอมีแฟนส่วนผมก็เช่นกัน เราคุยแชทกันหนึ่งครั้งในฐานะเพื่อนเก่า แต่ก็ลบแชทอยู่ดีเพราะกลัวจะทะเลาะกับคนที่อยู่ข้างๆผม จนมีเรื่องบังเอิญเกิดขึ้น ช่วงดึกวันหนึ่งผมได้เจอเธอที่ตลาดนัดใกล้โรงเรียนเก่าของเรา เธอมาช่วยที่บ้านขายของที่ตลาด                เช่นเดิมครับ ผมเขินมากอยากจะหลบหน้าเธอแต่ก็สู้ใจของผมตอนนี้ที่อยากจะคุยกับเธอไม่ได้ ผมเดินเข้าไปทักเธอ เราชวนกันไปนั่งคุยกันที่ริมทะเลสาบ เริ่มจากคำว่าเป็นไงมั่ง สบายดีรึป่าว จากนั้นความรู้สึกของผมก็กลับมา  ผมเขินจนทำอะไรไม่ถูก เราคุยกันน้อยมากๆแต่ผมและเธอยิ้มไม่หยุด จนเธอถามว่าไม่พูดอะไรบ้างหรอ ไม่มีอะไรจะพูดอ่ะ ผมตอบ แล้วเธอพูดมาว่า นึกถึงเมื่อก่อนเนาะ  มันตลกมากเลย ผมแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก มันจุกในอกมันดีใจจนผมต้องขอลาเธอกลับก่อน มันทำให้ทั้งวันของวันที่มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก จนมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นหลังจากนี้เพียงไม่กี่อาทิตย์
                ช่วงดึกวันหนึ่งผมได้รับสายจากเพื่อนสนิทสมัยโรงเรียนเก่า ว่าแฟนเก่า-เสียแล้วนะ ผมได้ยินถึงกับพูดอะไรไม่ถูกไม่เชื่อหูตัวเองที่ได้ยินอย่างนั้น ใช่ เสียแล้วได้ดูข่าวรถตู้โดนไฟครอกมั้ย ใช่อยู่ในรถคันนั้น ผมวางสายปล่อยโฮ ทำอะไรไม่ถูก ไม่อยากจะคิดว่านั่นคือเรื่องจริง ผมทำอะไรไม่ถูกจนโทรหาแม่ของผมแล้วร้องไห้ ผมเสียใจจริงๆ
ไม่อยากจะคิดว่าคืนนั้นของผมกับเธอจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้เจอกันและคุยกัน ในใจผมคิดเสมอว่าเดี๋ยวเราคงจะได้เจอกันอีกเป็นครั้งคราว แต่ไม่เลย เราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว เป็นครั้งหนึ่งที่ผมเสียใจมาก


ถ้าหากเพียงได้รู้ ว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย ฉันก็คงทำได้ดีกว่า แค่พูดทักทาย
แต่เพราะฉันไม่รู้ ความรู้สึกที่ควรจะอยู่ ในประโยคสุดท้าย เธอไม่เคยได้ยิน
เพลงนี้มันคือจริงมากๆเป็นเพลงที่ผมเลี่ยงที่จะฟังมาตลอด มันทำให้ผมคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วเสียใจมาก แต่ก็ขอบคุณเธอนะที่ทำให้รู้ว่า เวลาเรารักใครควรดูแลเค้าให้เต็มที่ ดูแลเค้าให้ดีที่สุด ก่อนที่อะไรมันสายไป
ตอนนี้ผมกับแฟนอยู่คบกันมา8ปีแล้วครับ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเธอที่ทำให้ผมเข้าใจหลายๆสิ่ง เราทะเลาะกันน้อยมากๆแทบจะไม่มี เวลาผมมองหน้าแฟนของผม ผมอยากจะกอด จะดูแลแฟนของผมให้ดีที่สุด เพื่อวันข้างหน้าของผม จะได้ไม่เสียใจอีกครั้ง
 

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

bbank 27 ก.ย. 66 เวลา 09:21 น. 1-1

เรามีเบบี๋ตัวน้อยแล้วด้วยแหละ น่ารักเชียว คิดถึงเธอนะ...

0