Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อยากรู้ความแตกต่างระหว่างคำว่า บรรยาย"ให้เห็นภาพ" กับ "เวินเว่อ" หน่อยครับ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตรงนี้ไม่ได้จะจี้ใครหรืออะไรหรอกนะครับ
แต่ผมสงสัยสองคำนี้อยู่มาก.......
มันมีเส้นกั้นบาง ๆ อยู่จริง
แต่ไม่รู้หรอกนะว่า
นักเขียนท่านอื่นจะใช้คำอื่นรึเปล่า

จึงอยากรู้ว่านักเขียนท่านอื่นจะคิดเห็นกันอย่างไรครับ?
และเพื่อที่ได้เอาไปปรับปรุงนิยายตนเองต่อไป
โดยไม่ส่งผลต่อพล็อตเรื่อง

แสดงความคิดเห็น

>

10 ความคิดเห็น

TunKoB 17 พ.ค. 65 เวลา 13:00 น. 1

มันมีเส้นบางๆระหว่างคำว่าเว่อเว้ออยู่ครับ การบรรยายถ้ามาคู่กับเนื้อหาที่ชวนน่าติดตามมันก็โอเค จะกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว กลับกันถ้าไปบรรยายในส่วนที่ไม่จำเป็นให้เห็นภาพ มันจะกลายเป็นเวิ่นเว้อ ยกตัวอย่างบรรยายรูปหน้านางเอกว่าสวยอย่างไร โอเคตรงนี้จัดไปเถอะมันเป็นส่วนสำคัญที่นักอ่านเขาก็คงอยากจะรู้ อยากจะอ่าน กลับกันบรรยายบรรยากาศฝนตก ที่จริงแค่เขียนบอกว่าตัวเอกมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นฝนตกก็พอแล้ว แต่ถ้าไปบรรยายว่าฝนตกอย่างไร ก้อนเมฆเป็นอย่างไร บรรยายคางคกกำลังเดิน เนี่ยเวิ่นเว้อ นักอ่านเขาไม่ได้อยากจะอ่านอะไรแบบนั้น ใส่มาทำไม? ลองคิดนิยายที่บรรยายให้เห็นภาพทุกอย่างในเรื่องดูสิ เนื้อเรื่องไม่ไปไหน บรรยายทุกสรรพสิ่ง

1
Greatzer01 17 พ.ค. 65 เวลา 13:04 น. 1-1

โอเคครับ ถ้ากรณีที่เป็นฉากเค้นอารมณ์ละครับ

นิยายของผมจะมีฉากแบบนี้ค่อนข้างเยอะ

พอรีไรท์ใหม่ทีหนึ่งแล้ว มันยังรู้สึกตะหงิดใจ......

ว่าเขียนเกินไปป่าว...เห็นภาพ เข้าอารมณ์ยัง.....

เลยทำให้เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่อยากตั้งกระทู้ถามงี้ขึ้นมา

0
A.L. Lee 17 พ.ค. 65 เวลา 13:05 น. 2

อืมมมม จะให้ยกตัวอย่างความเวิ่นเว้อก็ทำไม่เป็น เพราะปกติเขียนกระชับ แต่โดยรวมก็คือ บรรยายสิ่งที่ไม่จำเป็นเยอะเกินไป รวมถึงใช้คำฟุ่มเฟือย บรรยายซ้ำซ้อนไปมา เขียนสามย่อหน้าแต่ได้ใจความเท่าสามบรรทัด นั่นคือเยิ่นเย้อค่ะ


ถ้าทำได้ ให้เลือกใช้คำที่กระชับ เห็นภาพ และมีพลัง จะเหมาะกับนิยายสมัยนี้มากกว่า แต่ถ้าต้องการสร้างบรรยากาศ เป็นฉากสำคัญ ฉากบีบคั้น จะบรรยายมากหน่อยก็ได้ แต่เลี่ยงการใช้คำฟุ่มเฟือย


คุณโดนติงว่าเวิ่นเว้อใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นขอสักย่อหน้านึงได้ไหมคะ เดี๋ยวเราจะลองปรับให้คุณดู

9
Greatzer01 17 พ.ค. 65 เวลา 13:16 น. 2-1

อ่าได้ครับ ตอนแรก ๆ เคยโดนวิจารณ์ว่า ใช้ภาษาไม่เป็นโทนเดียวกันบ้าง

หรือต้องบรรยายให้เห็นภาพบ้างงี้ แต่ส่วนตัวเป็นคนที่บรรยายไม่เก่งมากมาย และอยากให้เล่าแบบกระชับที่สุด เลยจำเป็นต้องหาอ่านเพิ่ม เพื่อหาศัพท์เพื่มนี่แหละครับ


มันเกิดความสับสนและสงสัย จนต้องตั้งหัวข้อนี้ขึ้นมา


ที่จริง ๆ ตัวอย่างคือกะจะให้ช่วยแวะที่ตอนแรกเลยก็ได้ ที่ปรับแล้ว (และน่าจะมีปรับอีก)

แต่ผมลองยกย่อหน้านี้ละกันครับ



ท่ามกลางท้องฟ้าอันปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆสีทมิฬ.....หยดสายฝนโหมกระหน่ำ… ราวกับมันได้ตอบรับ.....ความโศกเศร้าของคน ๆ หนึ่ง.......น้ำเสียงของหญิงสาว ทำได้เพียงเรียกชื่อของเพื่อน..... ซึ่งนอนบนตักของเธอ...... บาดแผลที่เต็มไปด้วยการแทง.....และรอยฟันบนหน้าอกเฉียงขึ้น......เลือดไหลคลักไม่หยุดจากความสาหัสเกินรับได้......

0
A.L. Lee 17 พ.ค. 65 เวลา 13:24 น. 2-2

ถ้าแก้ของคุณ เราคงประมาณนี้


ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆทมิฬ สายฝนโหมกระหน่ำราวกับกำลังตอบรับความโศกเศร้าของหญิงสาว เธอเรียกชื่อของเพื่อนซึ่งนอนนิ่งอยู่บนตัก บนร่างเต็มไปด้วยบาดถูกแทง บนหน้าอกมีรอยฟันเฉียงขึ้น เลือดไหลไม่หยุด เป็นบาดแผลฉกรรจ์

0
Greatzer01 17 พ.ค. 65 เวลา 13:27 น. 2-3

อืมนี่ ก็กระชับกว่าเยอะ

ขอบคุณครับ สำหรับการแก้ให้ 55555

0
ErudiTo 17 พ.ค. 65 เวลา 15:07 น. 2-4

ขออนุญาตตอบในความเห็นย่อยแล้วกันนะครับ

เวิ่นเว้อ...กับบรรยายให้เห็นภาพ

สำหรับผมผมคิดว่ามันขึ้นอยู่กับบริบทและใจความที่เราอยากสื่อออกไปครับ


อยู่ที่เราจะเลือกใช้นั่นเอง


อย่างถ้าเรากำลังบรรยายถึงหน้าตาของนางเอก

เราก็จัดเต็มไปเลยครับ คิ้วโก่งดั่งคันศร ปากกระจุ๋มกระจิ๋มสีกุหลาบอะไรก็ว่าไป

ดีกว่าเราบรรยายเพียงแค่ว่า นางเอกสวย สวยมาก สวยจนคนทั้งทวีปคลั่งไคล้


แล้วตกลงนางเอกสวยยังไง ทำไมถึงทำให้คนอื่นคลั่งไคล้ได้?


เพราะงั้นเราถึงต้องบรรยายตรงนี้เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจว่าทำไมนางเอกถึงสวย ทำไมตัวละครนี้ถึงแตกต่างจากตัวละครอื่นๆครับ


กับบรรดาตัวประกอบแบบที่เราต้องใช้แล้วทิ้งเราคงไม่มัวมานั่งคิดคำบรรยายหน้าตาท่าทางผิวพรรณเขาหรอกครับ


กับสถานการณ์ทั่วไปก็เช่นกัน


ถ้าเป็นตอนที่ตัวเอกกำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยหรือกำลังตกผลึกความคิดสำคัญเราก็อาจจะบอกได้ว่าวันนั้น"ฝนตกแบบไหน"

เพื่อให้ผู้อ่านมีอินเนอร์ตามครับ


เช่น


วันนี้ฝนตก เมฆดำทะมึนเต็มท้องฟ้า


ข้านั่งคิดถึงสิ่งที่ผ่านมาแล้วก็เข้าใจได้ว่ามันไม่ใช่ความจริงแท้แม้แต่น้อย


กับ


วันนี้ฝนตก เสียงฝนที่พร่างพรมลงมาจากท้องฟ้าราวกับเสียงเพลงขับกล่อมบรรเลงจากสรวงสวรรค์

กลิ่นไอดินหอมระรินลอยออกมาพร้อมกับไอหมอกอ้อยอิ่งที่อยู่เหนือพื้นดินที่เจิ่งนองไปด้วยแอ่งน้ำฝน

ภาพก้อนเมฆสีดำทะมึนที่สะท้อนอยู่บนแอ่งน้ำนั้นราวกับภาพสะท้อนในหัวใจของข้า


ข้านั่งคิดถึงสิ่งที่ผ่านมาแล้วก็เข้าใจได้ว่ามันไม่ใช่ความจริงแท้แม้แต่น้อย


จะเห็นว่าตัวอย่างที่สองของผมนั้นดูเวิ่นเว้อร์มาก

แต่ถ้าเป็นผมผมจะเลือกเขียนแบบอย่างที่สองครับ


กับอีกอย่างหนึ่ง


ตัวเอกกำลังรีบไปช่วยเพื่อน


เราไม่ต้องบรรยายถึงขนาดที่ว่าตัวเอกสับเท้าข้างไหนก่อน วิ่งด้วยความเร็วเท่าไหร่ กลิ่นดินกลิ่นฝนเป็นยังไง


เพราะกว่าจะไปถึงในความรู้สึกของผู้อ่านเพื่อนคนนั้นคงเดี้ยงไปก่อนแล้วล่ะครับ ฮะๆ


ส่วนประโยคที่คุณยกมาถ้าเป็นผมจะแก้เป็น


ท่ามกลางท้องฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆสีดำทมิฬ


หยาดสายฝนที่โหมกระหน่ำลงมานั้นราวกับว่ามันกำลังแสดงถึงความโศกเศร้าในหัวใจของคนผู้หนึ่ง


"เธอ" ทำได้เพียงกรีดร้องและคร่ำครวญให้กับร่างที่อยู่ในอ้อมกอดของเธอ


ร่างที่เคยยิ้มให้ด้วยกัน


ร่างที่เคยหัวเราะไปด้วยกัน


ร่างที่"เธอ"เรียกมันว่าเพื่อน....


เลือดกำลังทะลักออกมาจากบาดแผลที่ถูกแทงไปทั่วร่างที่ "เธอ" กอดเอาไว้แน่่น


แต่ที่สาหัสกว่านั้นคือรอยแผลที่ถูกฟันตรงหน้าอก


แม้ว่า"เธอ"จะทำเช่นไรก็ไม่อาจห้ามเลือดที่กำลังไหลทะลักออกมาจากตรงนั้นได้เลย...


ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้แต่งที่ถนัดแนวไหนด้วยครับ

บางคนอาจจะถนัดบรรยายยาวๆภาษาสวยจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นวรรณกรรม

บางคนอาจจะห้วนๆสั้นกระชับ เข้าใจง่าย อ่านแล้วเร้าใจ


ทั้งหมดที่ผมเขียนไปมาจากความคิดของผมเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นนะครับ

ผิดถูกผมไม่ทราบ

ได้แต่หวังว่าความเห็นของผมจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนนักเขียนด้วยกันนะครับ

0
Greatzer01 17 พ.ค. 65 เวลา 15:14 น. 2-5

ส่วนที่คุณ ErudiTo แก้ให้ผมอีกแนว

ผมบอกได้แค่ว่า ไอ 2-3 บรรทัดนั้น

เหมือนจะเริ่มสปอย ส่วนอื่น ๆ แล้วเนี่ย 555555

0
บุคคลทั่วไป 18 พ.ค. 65 เวลา 01:09 น. 2-6

(แก้) ท้องฟ้ามืดครึ้มมีสายฝนโหมกระหน่ำ หญิงสาวเรียกชื่อเพื่อนคนที่นอนหนุนอยู่บนตักของเธอ (*) เลือดไหลคลั่กล้นออกมาจากปากแผลตรงหน้าอก (**)


*ตรงนี้ต้องหาอะไรมาเชื่อม เพราะมันกระโดดไม่มีรอยต่อ


**ตรงนี้ เลือดใครไหล?



0
Greatzer01 18 พ.ค. 65 เวลา 01:29 น. 2-7

**ตรงนี้ เลือดใครไหล?

อ่อ ขอโทษด้วยครับ อาจจะเพราะผมยกตัวอย่างมาไม่ครบ

คุณเลยเกิดข้อสงสัยแบบนี้ขึ้นมาสินะครับ?

ว่าใครเป็นกรรม หรือประธาน?

0
หลินเหลียน 23 พ.ค. 65 เวลา 11:25 น. 2-9

แต่ที่คุณแต่งงแบบนี้เราชอบมากเลยนะคะ มันไม่ได้ดูเวิ่นเว้อ แต่เป็นการพรรณนาให้เข้าถึงอารมณ์อ่ะค่ะ ถ้ามันเป็นฉากสำคัญใช้การเขียนแบบนี้ก็ดีนะคะ สำหรับเรา

0
ฮั่งเซี่ยวอุง 17 พ.ค. 65 เวลา 13:17 น. 3

ลองเปรียบเทียบอย่างนี้นะคะ

สถานการณ์ที่ต้องการบรรยาย : ผู้หญิงไปหาซื้อขนมปังของโปรด 1 ชิ้น ในร้านขนมปังโฮมเมดแถวบ้าน แต่ผิดหวังที่ขายหมดแล้ว


คำบรรยายแบบเห็นภาพ

กอแก้วผลักประตูเข้าไปในร้านขนาดกะทัดรัด กลิ่นหอมหวนของเบเกอรี่ปะทะเข้ามาในจมูก เมื่อกวาดตามองไปตามชั้นวางก็เห็นขนมปังอบใหม่น่าลิ้มลองหลายแบบ แต่ไม่ว่าชิ้นไหนก็ไม่อาจทำให้ใจของหญิงสาวไขว้เขวไปจากเป้าหมายได้ เธอคว้าถาดและที่คีบเบื้องหน้า ก้าวฉับๆ ไปยังชั้นวางด้านในซ้ายสุดอย่างคุ้นชิน แต่เมื่อถึงที่หมายกลับใจหายวาบ...ขนมปังหน้าทุเรียนนั้นหมดลงแล้ว!


คำบรรยายแบบเวิ่นเว้อ

กอแก้วผลักประตูเข้าไปในร้านขนาดกะทัดรัด แสงไฟสีส้มนวลๆ ให้บรรยากาศอันผ่อนคลาย กลิ่นหอมหวนของการผสานระหว่างเนย นม ไข่ และแป้ง อวบอวลเข้ามาในจมูก ตามชั้นวางมีขนมปังเรียงรายอยู่หลายชนิดจนละลานตา แต่ไม่ว่าจะเป็นขนมปังไส้ถั่วแดง ครีมฮอร์น ชูครีม พายแอปเปิ้ล หรือบลูเบอร์รี่ชีสพาย ก็ไม่อาจดึงเธอออกจากความตั้งมั่นอันแน่วแน่ในจิตวิญญาณได้ หญิงสาวเอื้อมหยิบที่คีบสีไม้โอ๊คและถาดรองสีเดียวกันขึ้นมา เดินอย่างรวดเร็วไปหาตำแหน่งที่คุ้นชิน เสียงรองเท้าส้นสูงของเธอดังกระทบพื้นเป็นจังหวะไปจนถึงบริเวณชั้นวางด้านซ้ายมือ เธอเดินเข้าไปจนสุดทาง เงยหน้ามองแล้วใจกลับตกหล่นไปอยู่ถึงตาตุ่ม...ขนมปังหน้าทุเรียนนั้นไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว!


สองวิธีการบรรยายนี้ จะเห็นว่าสุดท้ายก็สื่อถึงการกระทำเดียวกัน แต่จะเห็นว่า หากเวิ่นเว้อนั้น จะมีการลงรายละเอียดถึงสิ่งที่ไม่จำเป็นมากมาย เช่น ชนิดของขนมปัง สีของถาดและที่คีบ จังหวะเสียงก้าวเดิน ทำให้เนื้อเรื่องเดินไปอย่างช้าๆ และไม่ขยี้อารมณ์ในจังหวะที่ควรเร็ว (ไปพบกับความผิดหวังทันที)


อนึ่ง การบรรยายแบบเวิ่นเว้อนั้น ไม่ใช่ว่าไม่มีประโยชน์ แต่จะมีประโยชน์มากหากคุณเขียนนิยายแนวเมโลดราม่า ซึ่งต้องมีการขยี้ๆๆๆ รายละเอียดความรู้สึกลงไปให้คนอ่านอิน แต่หากเป็นนิยายแนวผจญภัยต่อสู้ หรือจังหวะที่ควรจะตื่นเต้น แต่มัวบรรยายเอิงเอยโคมไฟทุกช่อกลีบอยู่ ก็จะเสียอรรถรสไป


อาวุธเด็ดของนักเขียนคือต้องสามารถเขียนได้หลายแบบ และจะงัดแบบไหนมาใช้ ให้พิจารณาตามสถานการณ์ไปค่ะ

ขอให้มีความสุขในการเขียนนะคะ

2
Greatzer01 17 พ.ค. 65 เวลา 13:25 น. 3-1

ขอบคุณครับ ที่ทำให้ยกตัวอย่างให้เห็น 5555

ของผม น่าจะสลับกันครึ่ง ๆ กลาง ๆ แต่เอนเอียงไปทางเวิ่นเว่อแบบที่ยกตัวอย่างนี่แหละ

อาจจะเพราะต้องมีดราม่าแทรกอยู่นิดนึง... หรือฉาก..... ไม่สปอยก่อน 55555


แต่พอกับตอนต่อสู้ เนื่องจากฉากสู้มันค่อนข้างไว ผมคงไม่เขียนให้เวิ่นเว่อขนาดนั้น แค่ต้องจินตนาการให้เห็นภาพการเคลื่อนไหวให้ชัดเจน แขน ขา อยู่ท่าไหนยังยากเลย 55555

0
ฮั่งเซี่ยวอุง 17 พ.ค. 65 เวลา 13:29 น. 3-2

ลองปรับแก้ดูนะคะ

ฉากต่อสู้ อาจไม่ต้องบรรยายแขนและขาอย่างละเอียดทุกการกระทำได้นะคะ (ขึ้นกับว่าสู้แบบไหน) เช่น ไม่ต้องบรรยายว่าเอามือซ้ายยันพื้น มือขวาคว้าลูกบิดประตู เท้าซ้ายก้าวนำ แบบนั้นคือเวิ่นเว้อค่ะ

สามารถบรรยายว่า กระโจนลุกขึ้นมากระชากลูกบิดประตูเปิดออกไป แบบนี้ค่ะ

0
A.L. Lee 17 พ.ค. 65 เวลา 13:27 น. 4

โอเค ลองตัวอย่างละ


บรรยายกระชับ แต่อาจจะไม่สร้างอารมณ์ร่วมมากนัก


อีกสามเดือน อาเล็กของข้าจะมีอายุครบหกสิบปี

ด้วยนิสัยของอาเล็กแล้ว เขาเฉยชากับวันเกิดนัก ด้วยธรรมเนียมส่วนตัวแล้ว เขาจะไม่ออกไปไหนในวันเกิดทั้งสิ้น เพียงขลุกอยู่ในบ้านหลังเล็กนอกเมือง มันเป็นบ้านของเรา — ที่ข้า อาเล็ก และท่านอาอยู่ด้วยกัน —ข้าเติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูของท่านอาสองคน ผู้หนึ่งที่อายุน้อยกว่าว่าอาเล็ก และเรียกอีกผู้หนึ่งที่อายุมากกว่าว่าท่านอา พวกเขาเป็นผู้ชายทั้งคู่


บรรยายที่เราชอบ


อีกสามเดือน อาเล็กของข้าจะมีอายุครบหกสิบปี

ด้วยนิสัยของอาเล็กแล้ว เขาเฉยชากับวันเกิดนัก แม้ผู้คนที่รู้จักเขามากมายอยากจะฉลองให้เอิกเริก จัดงานเลี้ยงหรูหราที่เต็มไปด้วยอาหารเลิศรส แต่เขาก็มิได้นำพา ด้วยธรรมเนียมส่วนตัวแล้ว เขาจะไม่ออกไปไหนในวันเกิดทั้งสิ้น เพียงขลุกอยู่ในบ้านหลังเล็กนอกเมือง ตัวบ้านก่อจากอิฐแดง ด้านหลังติดทิวเขาที่มีต้นเบิร์ชเรียงรายเป็นแถว ด้านข้างมีลำธารเล็ก ๆ ไหลผ่าน ซึ่งเป็นลำธารที่ข้าชอบลงไปเล่นน้ำประจำ มันใสสะอาด บริสุทธิ์ ห่างไกลจากฝุ่นควัน และมลพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ถ่านหินอย่างไม่บันยะบันยังของตัวเมือง — นั่นแหละคือบ้านของเรา — ที่ข้า อาเล็ก และท่านอาอยู่ด้วยกัน — อ้อ พวกท่านงงหรือ ข้าลืมบอกไป ข้าเติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูของท่านอาสองคน เพื่อไม่ให้สับสน ข้าจึงเรียกผู้หนึ่งที่อายุน้อยกว่าว่าอาเล็ก และเรียกอีกผู้หนึ่งที่อายุมากกว่าว่าท่านอา พวกเขาเป็นผู้ชายทั้งคู่ แต่เลี้ยงดูข้าผู้เป็นหลานสาวแบบไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย



ส่วนแบบนี้ เราว่าเวิ่นเว้อไปค่ะ


อีกสามเดือน อาเล็กของข้าจะมีอายุครบหกสิบปี

ด้วยนิสัยส่วนตัวของอาเล็กแล้ว เขาเรียบเรื่อยเฉยชากับวันเกิดนัก แม้ผู้คนที่รู้จักเขามากมายอยากจะฉลองให้เอิกเริกกึกก้อง จัดงานเลี้ยงหรูหราที่เต็มไปด้วยอาหารเลิศรสหลากชนิด แต่เขาก็มิได้นำพาแม้แต่เสี้ยว ด้วยธรรมเนียมส่วนตัวแล้ว เขาจะไม่ออกไปไหนในวันเกิดทั้งสิ้น เพียงขลุกอยู่ในบ้านหลังเล็กนอกเมือง ตัวบ้านก่อจากอิฐแดง ด้านหลังติดทิวเขาที่มีต้นเบิร์ชนับร้อยนับพันต่อกันเป็นแถวยาวเรียงราย ด้านข้างมีลำธารเล็ก ๆ ไหลผ่านอย่างเอื่อยเฉื่อย ซึ่งเป็นลำธารที่ข้าชอบลงไปเล่นน้ำประจำทุกวี่ทุกวัน มันใสสะอาด บริสุทธิ์ หมดจดงดงามราวกับธารน้ำในสรวงสวรรค์ทั้งเก้า ห่างไกลจากฝุ่นควันที่มืดทึม และมลพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ถ่านหินอย่างไม่บันยะบันยังของตัวเมือง สร้างเมฆหมอกปกคลุมไปทั่ว — นั่นแหละคือบ้านแสนสวยของพวกเรา — ที่ตัวข้า อาเล็ก และท่านอาอยู่ด้วยกัน — อ้อ พวกท่านงงงันกันหรือ ข้าลืมบอกพวกท่านไป ข้าเติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูของท่านอาทั้งหมดทั้งสิ้นสองคน เพื่อไม่ให้สับสน ข้าจึงเรียกผู้หนึ่งที่อายุน้อยกว่าว่าอาเล็ก และเรียกอีกผู้หนึ่งที่อายุมากกว่าว่าท่านอา พวกเขาเป็นผู้ชายทั้งคู่ แต่เลี้ยงดูข้าผู้เป็นหลานสาวแบบไม่ขาดตกบกพร่อง หรือสร้างความลำบากใจให้ข้าเลยแม้แต่น้อยนิด


จะเห็นว่า แบบที่ 3 มีการใช้คำที่เฝือมาก ตัดทอนไปก็ยังได้ใจความเหมือนตัวอย่างที่ 2 ทุกประการ

แต่บางคนอาจจะไม่ชอบก็ได้ค่ะ อาจจะคิดว่าแบบที่ 2 ที่เราชอบ เยิ่นเย้อไปก็ได้ด้วยซ้ำ แต่คุณก็ค่อย ๆ ปรับไปนะ

0
Miran/Licht 17 พ.ค. 65 เวลา 13:59 น. 5

บรรยายให้เห็นภาพก็น่าจะประมาณนี้แหละค่ะ

อยากรู้ตัวอย่างการบรรยายฉากในนิยายแบบแค่ 2 บรรทัดแต่เข้าใจและมองเห็นภาพได้.

https://www.dek-d.com/board/view/3914105/


แต่บางครั้งการบรรยายให้เห็นภาพอย่างเดียว มันอาจจะไม่ได้อารมณ์ ซึ่งบางครั้งเราต้องการดึงบรรยากาศ ทำให้เราอาจจะต้องสำบัดสำนวนหรือเวิ่นเว้อบ้าง เช่น

https://image.dek-d.com/27/0060/1867/125435362 https://image.dek-d.com/27/0060/1867/125435364 https://image.dek-d.com/27/0060/1867/125435365

0
Ciel En Rose 17 พ.ค. 65 เวลา 14:08 น. 6

นี่ตัวอย่างของเราค่ะ ถึงแม้ยังไม่ดีที่สุด แต่ก็เคยได้รับคำชมอยู่บ้างค่ะ ลองดูได้นะคะ

https://image.dek-d.com/27/0236/1587/132875929

1
Helegriel ณ ชะอำ 17 พ.ค. 65 เวลา 14:32 น. 7

อืม เวิ่นเว้อไหมบอกแบบลอย ๆ ยากนะคะ 555

อยู่ที่เราบอกข้อมูลนี้แก่คนอ่าน จุดประสงค์เพื่ออะไร

คุณคิดถูกแล้วค่ะ ถ้าฉากเค้นอารมณ์ ก็ควรบรรยายเยอะ ถึงจะรู้ว่าเจ็บปวดเสียใจขนาดไหน

เป็นสืบสวน กำลังกวาดตาหาพิรุธต้องสงสัยในบุคคล/สถานที่นี้ ก็ต้องพรรณนาละเอียด ให้คนอ่านร่วมสังเกตจับผิดไปพร้อมกัน

เป็นแฟนตาซี มีป่ามีวัง อะไรแปลกๆที่คนอ่านไม่รู้จัก เราต้อนรับเข้าสู่โลกนิยายนี้ครั้งแรกก็ต้องบรรยายเยอะ


ไม่แน่ใจว่าคุณเคยอ่านเรื่องกามนิตไหม (บางโรงเรียนเลือกเป็นหนังสือนอกเวลา)

บทเปิดเรื่องนี้ หลาย ๆ คนวิจารณ์ว่าเวิ่นเว้อ เพราะพรรณนาธรรมชาติและบ้านเมืองยืดยาวมาก แค่ย่อหน้าแรกพูดถึงทุ่งนา ปาไป 200 กว่าคำ (ลองดูที่นี่ >> https://vajirayana.org/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%95/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87-%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%8D%E0%B8%88%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3 )


แต่ทำไม พวกนักวิจารณ์มืออาชีพถึงไม่ถือว่าเวิ่นเว้อ หนำซ้ำยกย่องเป็น "หนึ่งในหนังสือดี 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน"

เพราะจุดประสงค์คือนักเขียนต้องการเปรียบเทียบธรรมชาติ กับเนื้อหาเรื่อง คือ ตัวละครพระพุทธเจ้าชมดูทุ่งนากว้างใหญ่ตอนพระอาทิตย์ตก สวยงามมาก แต่ก็ต้องเดินทางจากไป

= วันใกล้หมด เวลาชีวิตท่านเองก็ใกล้สิ้นสุดแล้ว แม้หวนนึกถึงอดีตที่รุ่งเรือง แต่ยังไงถึงเวลาแล้วที่ท่านจะปรินิพพาน

= ความจริงของทุกชีวิตมนุษย์ในโลกนี้ตามแบบพุทธด้วยว่าเราทุกคนต้องตายกันทั้งนั้น ตายเสร็จเกิด เกิดเสร็จตาย วนลูป เหมือนพระอาทิตย์ขึ้นแล้วตกซ้ำไปมาทุกวัน


ดังนั้น คนอ่านจึงได้รู้ข้อมูลหลายอย่างพร้อมกันหมด ได้แก่ 1.ฉากภูมิศาสตร์ 2.ยุคสมัยของเรื่อง 3.ประวัติอายุตัวละคร 4.ทิศทางพล็อตเรื่องว่ากำลังจะปรินิพพาน 5.แก่นเรื่อง มนุษย์ละทิ้งโลกโลกียะบรรลุธรรม

ตอนอ่านบางคนอาจจะยังไม่กระจ่างในเดี๋ยวนั้น ก็เลยบ่น แต่จริง ๆ เมื่ออ่านต่อไปบทหลัง ๆ จะพบความสอดคล้อง แบบว่าอ๋อออ มิน่าล่ะเขาถึงเขียนอย่างนี้ ไม่ได้บรรยายเล่นให้หน้ากระดาษมันเต็มไปอย่างงั้น ๆ


สรุปคือ บรรยายมากหรือน้อยอยู่ที่ทำเพื่ออะไร 555

เยอะได้ ถ้ามีเหตุผล ไม่ถือว่าเวิ่นเว้อหรอกค่ะ

0
นิยายฝันหวาน 17 พ.ค. 65 เวลา 14:39 น. 8

ท่ามกลางท้องฟ้าอันปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆสีทมิฬ.....หยดสายฝนโหมกระหน่ำ… ราวกับมันได้ตอบรับ.....ความโศกเศร้าของคน ๆ หนึ่ง.......น้ำเสียงของหญิงสาว ทำได้เพียงเรียกชื่อของเพื่อน..... ซึ่งนอนบนตักของเธอ...... บาดแผลที่เต็มไปด้วยการแทง.....และรอยฟันบนหน้าอกเฉียงขึ้น......เลือดไหลคลักไม่หยุดจากความสาหัสเกินรับได้......


ใช้ศัพท์ไม่ค่อยถูกเท่าไหร่

เช่น หยดสายฝน มันไม่เข้ากับการโหมกระหน่ำ

เลือดไหลคลัก... อันนี้ เคยได้ยินแต่เลือดไหลทะลัก

ถ้าจะให้ลองปรับท่อนนี้ให้แบบไม่แตะเนื้อความมากมาย ก็น่าจะเป็น


ท่ามกลางท้องฟ้าอันปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆสีดำทมิฬ.....สายฝนโหมกระหน่ำสาดซัด… ราวกับมันได้ตอบรับ.....ความโศกเศร้าของคน ๆ หนึ่ง.......น้ำเสียงของหญิงสาว ทำได้เพียงเรียกชื่อของเพื่อน..... ซึ่งนอนหายใจรวยระรินบนตักของเธอ...... ใบหน้าเขาซีดเผือดร่างกายเต็มไปด้วยร่องรอยของการถูกแทง.....มีแผลถูกฟันบนหน้าอกค่อนข้างใหญ่......เลือดไหลทะลักไม่หยุดแลดูสาหัสไม่ใช่น้อย......

5555 ว่าจะไม่แตะ ก็แตะไปเยอะเหมือนกัน

3
นิยายฝันหวาน 17 พ.ค. 65 เวลา 14:50 น. 8-2

ถ้าจะอยากให้เห็นลักษณะแผล ก็จะประมาณนี้


ท่ามกลางท้องฟ้าอันปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆสีดำทมิฬ.....สายฝนโหมกระหน่ำสาดซัด… ราวกับมันได้ตอบรับ.....ความโศกเศร้าของคน ๆ หนึ่ง.......น้ำเสียงของหญิงสาว ทำได้เพียงเรียกชื่อของเพื่อน..... ซึ่งนอนหายใจรวยระรินบนตักของเธอ...... ใบหน้าเขาซีดเผือดร่างกายเต็มไปด้วยร่องรอยของการถูกแทง.....มีแผลถูกฟันในแนวเฉียงขึ้นบนหน้าอก......เลือดไหลทะลักไม่หยุดแลดูสาหัสไม่ใช่น้อย......

0
นิยายฝันหวาน 17 พ.ค. 65 เวลา 15:17 น. 8-3

ถ้าแบบเวินเว่อก็จะประมาณนี้

ท่ามกลางท้องฟ้าอันปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆสีดำทมิฬล่องลอยปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณ.....สายฝนโหมกระหน่ำสาดซัดไม่ลืมหูลืมตา… ราวกับมันได้ตอบรับ.....ความโศกเศร้าอาดูรของคน ๆ หนึ่งที่กำลังจะได้รับความสูญเสีย.......น้ำเสียงของหญิงสาว ทำได้เพียงเรียกชื่อของเพื่อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า..... ซึ่งนอนหายใจรวยระรินบนตักของเธอ...... ใบหน้าเขาซีดเผือดปราศจากสีเลือด ร่างกายเต็มไปด้วยร่องรอยของการถูกแทงนับสิบนับร้อย แทบจะทั่วร่างกายก็ว่าได้.....บนหน้าอกมีแผลถูกฟันค่อนข้างใหญ่เป็นรอยเฉียงขึ้นตั้งแต่ไหปลาร้าขวายาวลงมาจนถึงเอวด้านซ้าย......เลือดทะลักออกมาไม่หยุดไหลนองแดงฉานเต็มพื้นแลดูสาหัสไม่ใช่น้อย......

0
TunKoB 17 พ.ค. 65 เวลา 15:25 น. 9

คำถามของท่านมันอยู่ในหัวข้อการคุมโทนเรื่อง ต้องใช้ประสบการณ์ นักเขียนต้องรู้เองว่าควรจะบรรยายหรือไม่ ลองคิดภาพตาม ต่อให้ท่านบรรยายดี แต่ไปบรรยายทุกอย่างในเรื่อง บรรยายทุกตัวประกอบ บรรยายในสิ่งที่นักอ่านเขาไม่อยากรู้ ก็นั่นแหละ มันจะเป็นการสร้างพฤติกรรมให้นักอ่านกดข้าม อ่านข้าม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ เรื่องแบบนี้มันสอนความพอดีกันลำบาก โดยส่วนตัวผมเป็นคนบรรยายไม่เก่ง กากเลยก็ว่าได้ ดังนั้นนิยายผมไม่ค่อยเน้นฉากบรรยาย ก็อยากจะเก่งเหมือนกัน คงต้องฝึกแหละ .... แต่นักเขียนควรรู้ไว้อย่าง ช่วงเปิดเรื่องคือนาทีทองของนักเขียนที่จะตกนักอ่านด้วยความน่าสนใจ มันคือช่วงปล่อยของว่านิยายเรื่องนี้คืออะไร เกี่ยวกับอะไร น่าติดตามไหม นักอ่านเขาจะให้โอกาสท่านแบบจำกัด หมายความว่าท่านมีโควต้าในการเขียนดึงความสนใจจากนั้นอ่านไม่มากอย่างที่ท่านคิด ดังนั้นถ้าท่านไปใช้โควต้าตัวหนังสือกับสิ่งที่ไม่จำเป็นมากไป นักอ่านเขาจะตีตรานิยายท่านเข้าสู่ลิสต์ "ไม่น่าสนใจ" ทันที

1
นิยายฝันหวาน 17 พ.ค. 65 เวลา 15:31 น. 9-1

ตอนกลับไปอ่านตอนแรกของตัวเองในฐานะนักอ่านซะแล้ว ว่าดึงดูดมากน้อยแค่ไหน...เพราะขึ้นต้นเรื่องแทบจะเป็นบรรยายเกือบทั้งตอนก็ว่าได้

0
Hoshisora 18 พ.ค. 65 เวลา 15:49 น. 10

เป็นคำถามที่ตอบยากอยู่นะ แต่ถ้าเอาตามความเห็นผม เวินเว่อ คือการเล่าอะไรที่มันเยอะเกินควมจำเป็นอะคับ แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะ คือบางจุดของการเขียน มันก็มีส่วนที่เวินเว่อได้นิดหน่อย เพื่อแสดงสกิลด้านภาษาของเรา หรือเพื่ออธิบายให้เห็นภาพชัดๆ แต่ถ้าเวินเว่อมากไป นิยายเรามันจะมีแต่น้ำ อ่านแล้วเหนื่อยคับ

0