ภาพประกอบของนิยาย Into the Light
บางท่านในที่นี้ อาจจะเคยได้อ่านนิยาย Into the Light ของข้าพเจ้าแล้ว ไม่ว่าจะภาคหลักหรือภาครอง (ใช่ มันมี Side Story ด้วยนะ :v ) หรือไม่ก็ยังไม่ได้อ่าน (ซึ่งก็ขอเชิญชวนทางนี้เลยครับ :v - https://writer.dek-d.com/story/writer/view.php?id=1722107) มันจะมีสิ่งหนึ่งที่เป็นองค์ประกอบของนิยายเรื่องนี้ และผมคิดว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งในการสื่อโลกนิยาย
สิ่งนั้นเรียกว่า Visual Art ... โดยเฉพาะภาพประกอบ
ด้วยความที่ว่า ITL ถูกเขียนขึ้นด้วยแนวคิดหลายแบบ หนึ่งในนั้นก็คืออิทธิพลอนิเมะ ดังนั้น ผมก็เลยอยากได้ภาพประกอบลงนิยายมาตั้งแต่ช่วงเขียนแรกๆ โดยนี่คือภาพสมัยแรกสุด จ้างให้น้องสาววาดให้
ต่อมา พอเริ่มมี Clip Studio Paint ใช้งาน ผมก็เริ่มวาดภาพประกอบเอง ทำให้นิยาย Into the Light เริ่มมีภาพประกอบ เริ่มมีความเป็น Light Novel ขึ้นมาบ้าง
ดังนั้น พอมีภาพประกอบมากพอสมควร ผมก็เลยอยากนำภาพวาดมานำเสนอให้ทุกท่านได้ลองชมกัน และอธิบายว่า ภาพที่เลือกมา มีหลักการออกแบบหรือการดีไซน์มาจากอะไร เผื่อเป็นแนวทางการออกแบบหรือการหา Reference ให้สำหรับสายวาดได้เช่นกัน
-
อย่างแรก ถ้าใครยังไม่รู้จัก นิยาย Into the Light หรือมุ่งสู่แสงสว่าง เป็นนิยายใน DekD นี่แหละ ที่ผมเขียนเอง มันเป็นนิยายแฟนตาซีที่อิงบรรยากาศคล้ายยุคสงครามโลก มีฉากหลังคือสงครามระหว่างสองมหาอำนาจคือยาชิม่าและเอลีเซีย เน้นเรื่องราวชีวิตของคนในช่วงเวลานั้น ไม่ว่าจะชีวิตของเจ้าชายและมิโกะสาว ซามูไรกับเจ้าหญิง และอีกหลายคู่ ท ่านสามารถอ่านได้จากนี่เลยครับ
https://writer.dek-d.com/story/writer/view.php?id=1722107
-
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
เอาล่ะครับ
ภาพแรกที่ผมอยากนำมาให้ทุกท่านได้ชมกัน คือธีมพื้นหลังนิยายและภาพประกอบตอนแชร์นิยายครับ
อันนี้ หลักการผมได้รับแรงบรรดาลใจมาจากภาพของ Kaiserreich ... mod ของเกมวางแผน Hearts of Iron 4 ซึ่งภาพเมนูจะมีรูปแบบคล้ายโต๊ะที่มีแผนที่ ภาพและเอกสารวางกองๆ กัน โดยองค์ประกอบบนโต๊ะนั้นบอกเล่าถึงบรรยากาศของโลกนั้น โดยที่ไม่ต้องเขียนอธิบายโต้งๆ เลยว่า เกิดอะไรขึ้น? มันคือการ Show don't tell รูปแบบหนึ่ง โดยในภาพนี้ ใจกลางนั้นคือแผนที่ภูมิภาคตะวันออกไกล แวดล้อมด้วยภาพทหารและภาพตัวละคร รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ ที่บ่งบอกบรรยากาศของนิยายว่า นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายสงครามแน่นอน โดยภาพประกอบที่ไม่ได้วาดเอง มาจากภาพ Diorama ที่ผมสร้างขึ้นใน Editor ของเกม Arma 3 และภาพอื่นๆ จากโลกจริง ที่เอามาปรับโทน ปรับความนุ่ม ให้มันดูเนียนคล้ายภาพวาดขึ้น
นี่คือภาพจาก Kaiserreich ตอนที่ออกเนื้อหา China Rework
ต่อจากนี้ไป คือภาพประกอบเนื้อหาในนิยายนะครับ ... ภาพเหล่านี้คือส่วนหนึ่งจากภาพประกอบตอน โดยในแต่ละตอนจะมีภาพแบบนี้ 1 ภาพ ซึ่งปัจจุบันก็กำลังทยอยวาดทีละตอนอยู่
หลังจากที่ดูภาพเหล่านี้แล้ว เราอาจจะพอมองออกว่าคนเหล่านี้แต่งเครื่องแบบยุคสงครามโลก แต่มันก็ยังมีรายละเอียดบางอย่างที่ดูแปลก ไม่ใช่สงครามโลกเสียทีเดียว เราอาจจะได้เห็นรายละเอียดบางอย่างที่เป็นลักษณะร่วมกัน
เราเห็นการผสมผสานระหว่างเครื่องแบบสมัยสงครามโลกกับองค์ประกอบที่ดูโบราณกว่า ซึ่งมีคำอธิบายดังต่อไปนี้
ชุดเกราะ - ในเรื่อง ITL มันมีสิ่งที่เรียกว่าชุดเกราะลงอาคม ... ด้วยความที่ ITL เป็นนิยายแนวแฟนตาซี จึงมีการใช้เวทมนตร์ในการฉาบม่านป้องกันบนชุดเกราะได้ ทำให้มันสามารถกันกระสุนได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้นคนที่สวมชุดเกราะนี้ ถ้าโดนยิงจะไม่ตายหรือเจ็บทันที เพราะกระสุนถูกสกัดไว้ก่อน อาจจะแค่จุกๆ แต่ถ้าโดนหลายนัดอย่างต่อเนื่อง เกราะอาจจะแตกและสามารถตายได้ ... สำหรับการออกแบบ ชุดเกราะพวกนี้จะอิงจากชุดเกราะที่เรียกว่า Cuirass ส่วนสไตล์จะอิงจากชุดเกราะสมัยใหม่คือศตวรรษที่ 16-19 เพราะดีไซน์มันสวยดี และมันสามารถใส่กับเครื่องแบบปกติได้ หลักการก็คล้ายเสื้อเกราะปัจจุบันพอสมควร ส่วนการออกแบบชุดเกราะของแต่ละฝ่ายจะอิงจากลักษณะเด่นของวัฒนธรรมที่เป็นต้นแบบของฝ่ายต่างๆ ในนิยาย เช่น ยาชิม่า = ญี่ปุ่น = ซามูไร ... เอลีเซีย = กรีก+ตะวันตก = เกราะ Linothorax + เกราะ Plate
ด้วยความที่โลก ITL มีเครื่องป้องกันลงอาคม มันเลยทำให้อาวุธระยะประชิดยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่ ดังนั้นในโลก ITL เราจะยังเห้นทหารหุ้มเกราะบางส่วนใช้อาวุธระยะประชิดในการรบ ควบคู่กับอาวุธปืนที่ใช้อย่างแพร่หลาย
อีกลักษณะหนึ่งที่อาจจะได้เห็นจากตัวละครที่เป็นชนชั้นสูง คือผ้าคาด (Sash) ซึ่งเป็นหนึ่งในคอสตูมยุคเก่า มีหน้าที่หลายแบบ ทั้งการแสดงสถานะทางสังคม การแสดงความจงรักภักดีต่อกลุ่มหรือฝ่าย การแสดงยศหรือประดับเครื่องแบบนายทหาร ซึ่งในนิยาย มันเป็นแฟชั่นไว้ประกอบสถานภาพ ทั้งเหล่าทัพและเครื่องราช ... มันอาจจะเป็นแฟชั่นที่ดูเก่าก็จริง แต่เหตุผลที่ใส่มาก็คือ มันสวยดี แต่คนในนิยายไม่ได้ผูกผ้าคาดลงสนามรบแน่นอน
ดังนั้น พูดง่ายๆ ในเชิงศิลปะก็คือ โลก ITL มันคือโลกสมัยใหม่ ยุคสงครามโลก ที่คนแต่งตัวผสมผสานกับยุคเรอเนสซองส์ โดยเอา Reference จากโลกจริงมาผสมผสานให้เป็นลักษณะของโลกอีกใบ ตามตรระกะของโลกใบนั้น
เราอาจจะมองเห็นว่า โลกใบนี้มันเป็นการผสมผสานระหว่างยุคสมัยใหม่และยุคโบราณ โดยเฉพาะเรื่องเจ้าขุนมูลนาย มันเป็นแบบนี้เพราะว่าโลกนิยายนี้เป็นโลกแฟนตาซีที่มีเวทมนตร์ การมีเวทมนตร์ทำให้ความคิดเรื่องขุนนางหรือชนชั้นต่างๆ ยังแนบแน่นและชัดเจนกว่าโลกจริง เพราะเวทมนตร์คือสิ่งที่ตอกย้ำว่า โลกใบนี้มีคนที่พิเศษกว่าคนอื่นๆ ทำให้เรื่องชนชั้นหรือแนวคิดโบราณยังฝังรากลึกกว่า แต่มันก็จะเริ่มเปลีั่ยนไปเพราะสิ่งที่เรียกว่าเทคโนโลยี เห็นได้จากความเป็นสมัยใหม่ โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เทียบได้กับยุคสงครามโลกในโลกจริง
พวกท่านคิดอย่างไรบ้าง สามารถแสดงความคิดเห็นได้เลยนะครับ สามารถสอบถามได้ตามสะดวกเลย และขอฝากนิยายไว้กับพวกท่านด้วยนะครับ ขอบคุณนะครับ
2 ความคิดเห็น
บังเอิญจริงๆ เลย ที่ตอนนี้ที่มีกระทู้เกี่ยวกับการวาดขึ้นมาพร้อมกัน 2-3 อัน และผมก็อยู่ในช่วงขุดงานเก่า ๆ มาดูพอดี ก็เลยเจองานเดิม ๆ ที่เคยทำสมัยโน้น คือแบบ โน้นจริงๆ คับ หลายรูปนี้น่าจะ 10 ปี + ซึ่งเป็นตอนที่ผมเริ่มหัดวาดรูปแบบจริงๆ จังๆ เพื่อเอามาประกอบเนื้อเรื่องเหมือนกัน และแนวคิดก็คล้ายๆ กับของคุณเลยคับ คือมีเกราะพิเศษให้ตัวละครสวมใส่ แต่ในการออกแบบแรกๆ ของผม จะเป็นเกราะทั้งตัวเลย ตามภาพข้างล่างคับ
สังเกตวันที่คับ ปี 54 ซึ่งก็นั่นล่ะ 12 ปีกว่าๆ 555+
ซึ่งตอนนั้น ผมยังไม่ได้คิดเนื้อเรื่องไปไกลเท่าไหร่ พวกนี้มันเลยเป็นเกราะเฉยๆ ตามปรกติคับ แต่เป็นเกราะที่แข็งแกร่งมากๆ เพราะตามเนื้อเรื่อง อาณาจักรของ Savior (ตามในรูป) จะมีจำนวนทหารจำกัด ทหารแต่ละคนเลยต้องเทพมากๆ แน่นอนว่าความเทพนี้ก็มาจากเกราะพวกนี้ล่ะคับ เป็นเกราะที่เสริมด้วยพลังมานา มีพลังป้องกันสูงมาก ทนได้ทั้งการโจมตีกายภาพและเวทมนต์ แต่คนที่ใช้ก็ต้องมีพลังพอจะคุมมันได้ด้วยเหมือนกัน
ซึ่งทำให้ในการรบ ทหาร Savior คือจะแทบไม่มีการสูญเสียเลยแม้แต่คนเดียว (ตามเนื้อเรื่องในตอนนั้นนะคับ) ส่วนพวกแม่ทัพ ก็จะใส่ชุดเกราะที่อลังการงานสร้างหน่อย ตามภาพข้างล่าง
้ทีนี้ช่วงก่อนทีี่ผมก็ห่างหายจากวงการวาดไปสักพักใหญ่ๆ ผมมีโอกาสได้จัดการเนื้อเรื่องของนิยายที่คิดจะแต่งใหม่ ก็เลยเปลี่ยนจากยุคโบราณมาเป็นยุคร่วมสมัยแทน จากนักรบสู้กันก็กลายเป็นนักเรียนสู้กันแทน และแนวคิดเรื่องชุดเกราะก็เปลี่ยนไปนิดหน่อย โดยเปลี่ยนให้เป็นชุดเกราะที่ประเทศข้างบน ส่งให้พวกนักเรียนใช้สู้ แต่เนื่องจากชุดที่ส่งมาดันมีน้อยกว่าจำนวนนักเรียน จึงจำเป็นต้องให้นักเรียนแต่ละคนใส่ชุดเกราะแค่คนละ 2-3 ชิ้น (แบ่งๆ กันใส่) ผลก็คือ ภาพของนักเรียนที่ใส่ชุดเกราะไม่เต็มชุด ตามภาพข้างล่างคับ
แต่ถึงจะใส่เกราะไม่เต็มตัว เกราะพวกนี้ก็ผลิตจากประเทศที่เทคโนโลยีล้ำมากๆ มันเลยยังเป็นเกราะที่เทพมากๆ อยู่ดีเหมือนเดิม และก็เป็นในส่วนเนื้อเรื่องด้วย นั่นก็คือถึงจะเป็นนักรบ แต่ยังไงตัวละครพวกนี้ก็ยังเป็นนักเรียนอยู่ดี เพราะงั้นอาวุธ/ชุดเกราะ ก็เลยจะขาด ๆ เกินๆ ตามที่เห็น นักเรียนก็ยังคงเป็นนักเรียน ยังต้องมีอะไรต้องเรียนรู้อีกเยอะ ยิ่งรู้เยอะก็จะยิ่งเก่ง ก็เหมือนมีเกราะติดตัวหลายชิ้นมากขึ้น อะไรประมาณนั้นคับ (แต่ตอนนี้ยังรู้ไม่เยอะ เกราะก็เลยยังมีแค่ที่เห็น และนักเรียนก็ยังคงเป็นนักเรียน เป็นคนที่อาวุธชุดเกราะไม่ครบ การส่งนักเรียนไปสู้เลยไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง เป็นประเด็นในเรื่องคับ)
ซึ่งแนวคิดเรื่องนักเรียนติดอาวุธพวกนี้ แน่นอนคับว่ามาจากเกมที่ดังในตอนนั้น 'Kantai collection' คับ ผมเห็นแล้วมันเท่ดีเลยเอามาดัดแปลงเป็นของตัวเองคับ 555+
ส่วนในตอนนี้ผมกำลังเขียนนิยายอีกเรื่องอยู่ เป็นจักรวาลเดียวกับพวกข้างบนล่ะ แต่เป็นคนละทวีปคับ และม่ีตัวละครบางตัวที่ใช้ชุดเกราะที่ว่าด้วย ว่าง ๆ ก็ลองเข้าไปอ่านได้คับ (พวกรายละเอียด จะอยู่ในตอนที่ 26 คับ)
https://writer.dek-d.com/dekdeallstar/writer/view.php?id=2463560
ช่วงออกแบบ แรกเริ่มเดิมทีเบื้องหลังแนวคิดชุดเกราะลงอาคมในนิยายผม ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลยครับ ... เอามาจากแนวคิดการทำ Enchantment ใส่ Item จากเกม RPG เนี่ยแหละครับ
แรกๆ ก็แบบนั้นเหมือนกันคับ เพราะความไม่อยากให้ตัวละครตาย เลยต้องบัพเกราะแบบเวอร์ๆ ไปเลยน่ะคับ 55+
ภาพพวกนี้ใส่ในทุกตอน รึว่าใส่เฉพาะหน้ารายละเอียดนิยายครับ
ใส่ทุกตอนครับ ตอนละ 1 ภาพ ตอนนี้กำลังทยอยวาดอยู่ครับผม
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?