Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

วิธีสร้างกำลังใจนักเขียน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
วิธีสร้างกำลังใจนักเขียน


การเขียนนิยายออกมาแต่ละเล่มนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กำลังใจเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด เป็นแหล่งพลังงานที่จะนำพานักเขียนฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายทั้งภายนอกและภายในไปสู่ความสำเร็จได้

การสร้างทัศนคติ (mindset) และอุปนิสัยของนักเขียนที่ดีให้กับตนเองจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

บันทึกที่ผมนำมาแบ่งปันนี้เป็น mindset ส่วนตัวที่ผมใช้แล้วได้ผลดี ช่วยให้ผมรักษากำลังใจในการเขียนให้มั่นคงอยู่เสมอ

  1.   โฟกัสในสิ่งที่ควบคุมได้  อย่าเสียพลังไปกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้

เราควบคุมได้ว่าเราจะเขียนงานเสร็จหรือไม่
เราควบคุมได้ว่าเราเขียนสม่ำเสมอหรือไม่
เราควบคุมความสนใจและความตื่นเต้นกับสิ่งที่เราเขียนได้
แต่เราไม่มีอำนาจควบคุมว่านิยายของเราจะสำเร็จหรือไม่
ฉะนั้นก็เขียนให้สุดความสามารถ (ควบคุมได้) แต่อย่าไปคาดหวังในผลลัพธ์ (ควบคุมไม่ได้)
ถ้าเราเขียนออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ผลลัพธ์มันย่อมดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้เช่นกัน

  2.  ตั้งเป้าหมายให้เป็นลำดับอย่าข้ามขั้นตอน

อยากให้นิยายดัง อยากให้คนอ่านแล้วชื่นชอบ
คนอ่านชอบอ่านนิยายคุณภาพที่อ่านแล้วสนุก
นิยายคุณภาพที่อ่านสนุก เขียนโดยนักเขียนที่มีทักษะในการเล่าเรื่องที่ดี

เป้าหมายแรกของเราจึงควรตั้งคำถามว่า ทำอย่างไรเราถึงจะเป็นนักเขียนที่มีทักษะในการเล่าเรื่องที่ดีได้ ฝึกฝนตัวเองให้เป็นนักเขียนที่มีศักยภาพในการผลิตนิยายที่ดีออกมาให้ได้เสียก่อน ถ้าเรายังสร้างงานเขียนคุณภาพออกมาไม่ได้ จะหวังให้มันดังก็คงเป็นไปไม่ได้เช่นกัน

คำถามจึงไม่ใช่ว่าทำยังไงนิยายถึงจะดัง  แต่ทำยังไงเราถึงจะเป็นนักเขียนที่เก่งพอจะเขียนนิยายดังออกมาได้ต่างหาก

       เราได้เขียนจนจบแล้วหรือยัง?

บางคนเขียนแค่ไม่ถึง 5 บท พอไม่ได้รับคำชม ไม่มียอดวิว ก็ท้อแท้ซะแล้ว
บางคนเขียนจบเล่มแรกก็หวังดังเปรี้ยง หวังให้ยอดขายเป็นหมื่นเป็นแสน

อยากได้ผลลัพธ์เหมือนนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ
อยากได้ผลลัพธ์แบบเขา ก็ต้องทำเหตุให้ได้เท่ากับหรือมากกว่าเขาก่อน ความทุ่มเท การฝึกฝนขัดเกลาฝีมือ ความอดทนความพยายามของเรา เทียบกับนักเขียนหลักแสนหลักล้านวิวแล้วเป็นอย่างไร?

       เราได้ใส่ใจทุ่มเทพัฒนางานเขียนของตัวเองมากแค่ไหน?
       เราภูมิใจในนิยายที่เราเขียนมากแค่ไหน? ถ้าตัวเรายังไม่ชอบนิยายของเราเอง ก็คงเป็นการยากที่จะให้คนอื่นมาชื่นชอบนิยายของเราได้

เมื่อเราสร้างผลงานที่ทำให้เราภูมิใจออกมาได้แล้ว เราค่อยหวังว่ามันจะขายได้ ตอนนี้แหละถึงควรเริ่มต้นกระบวนการโปรโมทนิยาย เพราะเรามั่นใจแล้วว่าเรามีของดีอยู่ในมือที่อยากให้โลกได้อ่าน

  3.   วิธีรับมือกับความล้มเหลว

ต้องยอมรับความจริงก่อนว่านิยายที่จะประสบความสำเร็จในแง่ยอดขาย (mass ขายได้หลักแสนหลักล้าน) นั้นเป็นไปได้ยาก และมีเพียงน้อยเรื่องที่จะประสบความสำเร็จถึงระดับนั้น

ภาพรวมคร่าว ๆ นักอยากเขียน 100 คน อาจเขียนจบได้สัก 1 คน และนิยายที่จบแล้วสัก 100 เรื่องอาจประสบความสำเร็จ (ในยอดขาย) ได้สัก 1 เรื่อง ซึ่งต่อให้นิยายเล่มนั้นจะมีคุณภาพที่ยอดเยี่ยม แต่ปัจจัยภายนอกหลายอย่างที่เราควบคุมไม่ได้ก็อาจทำให้มันไม่ mass ไม่เป็นที่นิยม หรือไม่ประสบความสำเร็จในยอดขาย

ฉะนั้นแล้ว ถ้าเป้าหมายของเราคือนิยายดัง ขายได้หลักแสนหลักล้าน เราก็มีโอกาสที่จะล้มเหลวได้มาก
แต่ถ้าเป้าหมายของเราคือ เขียนให้จบ ให้ออกมาดี เป็นนิยายที่เราภูมิใจและมีความสุขที่ได้สร้างมันออกมา เราก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้ง่าย และมีความสุขไปกับทุกๆ วันในการเขียนของเรา

อย่างเรื่องราวของคุณ Brandon Sanderson นักแต่งนิยายแฟนตาซีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของยุคนี้ ที่นิยายดัง ๆ แต่ละเรื่องของเขามียอดขายเป็นหลักหลายสิบล้านเล่ม

ก่อนที่จะโด่งดังเขาได้แต่งนิยายจบถึง 12 เล่มแต่ไม่ได้รับการตีพิมพ์สักเล่ม โดนปฏิเสธจากทุกสำนักพิมพ์ และพ่อแม่ก็เป็นห่วงเขามาก ตอนนั้นเองที่เขาตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ความสำเร็จหน้าตาเป็นอย่างไร?” ถ้าเขาตายตอนอายุ 100 ปี และได้เขียนนิยาย 150 เล่มแต่ไม่ได้รับการตีพิมพ์สักเล่ม เขาจะโอเคกับมันไหม? เขาจะเขียนต่อไปไหมถ้าเขารู้ว่านิยายทั้งหมดที่เขาเขียนจะไม่ได้รับการตีพิมพ์เลย?

เขาตอบตัวเองว่า “ใช่ ผมจะทำ ผมจะเขียนต่อไป เพียงแต่ว่าผมอาจจะต้องหาอาชีพจริงๆ จังๆ ทำด้วย แต่ผมจะยังคงเขียนต่อไป จะเล่าเรื่องราวของผมต่อไป ผมตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าผมจะเขียนแม้รู้ว่าผมจะขายงานไม่ได้เลย จะไม่สามารถเลี้ยงชีพด้วยการเขียนได้”

พอเขาตัดสินใจได้แบบนี้ มันเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก และต่อมาบุคคลนี้ก็ได้กลายเป็นตำนานนักเขียนที่ยังมีชีวิตอยู่
นั่นแหละครับ กำลังใจของนักเขียนระดับเบสเซลเลอร์โลก

เป็นกำลังใจของผู้ที่อุทิศชีวิตให้กับการแต่งนิยาย ถ้ากำลังใจเราถึงระดับนี้แล้วจะไม่มีคำว่าล้มเหลวอยู่ในหัวใจเลย เพราะในทุก ๆ ขณะที่ได้สร้างเรื่องราวของเราออกมาโลดแล่นในโลกนี้ มันจะเป็นความสุข เป็นความสำเร็จล้ำค่าโดยตัวมันเองแล้ว

"""
cr. บทความจากเพจ   นักเขียนรถแห่

แสดงความคิดเห็น

>

6 ความคิดเห็น

LesserPANDA 23 มี.ค. 67 เวลา 13:32 น. 2

มายเซ็ตสำหรับบางคนก็เป็นสิ่งที่ยาก เป็นกลจให้นข.ทุกท่านค้นหาเป้าหมาย ไอดอล หรือต้นกำเนิดแห่งพลังของตนเองให้พบนะคะ


ตอนนี้ท้อมาก จริง ๆ แล้วศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นไม่ใช่ความล้มเหลว แต่เป็นเวลา ตอนนี้มีแต่เป้าหมายแต่ไม่มีเวลา อาจจะเพราะความสามารถไม่พอ เลยทำให้ไม่มีเวลาล่ะมั้ง 55555

4
Ciel En Rose / Rosanna Tea 23 มี.ค. 67 เวลา 13:41 น. 2-1

เป็นกำลังใจให้นะคะ ช่วงนี้เราก็งานเข้าเยอะมากค่ะ แบบมีแพลนออกจากบ้านทุกวันเลย ไม่ค่อยว่างอัปนิยาย

สู้ ๆ นะคะ พอว่างก็จะกลับมามีไฟค่ะ

0
รตินธร์ 23 มี.ค. 67 เวลา 14:45 น. 2-2

ภารกิจในชีวิตก็เป็นอุปสรรคใหญ่จริงๆครับ เป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีนะครับ

0
LesserPANDA 23 มี.ค. 67 เวลา 19:30 น. 2-3

ขอบคุณค่ะ


พยายามแบบ ทำงานไป ช่วงพักก็หยิบมือถือเขียนนิยาย หมดช่วงพัก ทำงานต่อ พักกินข้าว เขียนนิยายไปด้วย เสร็จกลับมาทำงานต่อ ทำแบบนี้ไปสักพักก็รู้สึกว่า...นี่มันคือการทำงานตลอดเวลาแบบไม่ได้พักเลยนี่หว่า 555 พลังใจไปได้ แต่พลังกายมะไหว ท้อแท้ แง้

0
รตินธร์ 23 มี.ค. 67 เวลา 21:22 น. 2-4

หาเวลาพักระหว่างวันสักหน่อยด้วยครับ ^^ งีบสั้นๆ สัก 15 นาทีก็ช่วยเยอะนะ

0
Gasterious 24 มี.ค. 67 เวลา 08:18 น. 4

ช่วงหลังมานี้ค่อนข้างยอมรับว่าขี้เกียจบ่อยเยอะมาก อาจเพราะด้วยการหมดกำลังใจมากเสียเป็นส่วนใหญ่ จนกระทั่งพอเข้ามาอ่านในกระทู้นี้จนถึงท่อนที่พูดถึงคุณ Brandon Sanderson นี่ รู้สึกเหมือนจุดประกายในตัวเอง ชนิดที่ว่าหลงลืมไปเลยว่าจุดเริ่มแรกตอนเราเข้ามาในวงการนี้เพราะอะไร


ยอมรับว่าอาจเพราะด้วยเรื่องโซเชียลส่วนหนึ่ง และด้วยเพราะช่วงวัยที่เริ่มเข้าใกล้ 30 ไปทุกที การจะประสบความสำเร็จในด้านนี้เรื่อง 'โชคลาง' มันก็มีส่วน แต่ในท้ายที่สุด เป้าหมายจริง ๆ และสังเกตเห็นได้ชัดมากสุด ไม่ใช่เรื่องของการทำยอดขายให้ได้หลักล้าน ไม่ใช่เรื่องของการทำยอดวิวให้ดังเปรี้ยงปร้าง แต่กลับเป็นเรื่องที่เบสิกมาก ๆ กับการ 'สนุก' ไปกับเรื่องราวที่เขียนและตั้งใจเขียนมันให้จบ


คิดดูแล้วมันก็ไม่ง่ายเหมือนกันนะครับ -การเขียนให้จบอ่ะนะ ยิ่ง-เรื่องการทำยอดขายนั่นอีก ยิ่งแล้วใหญ่ เวลาเราเห็นคนที่เขาเขียนงานได้ไม่กี่ปี แต่สามารถขายงานได้ไวกว่าเรา (ที่เขียนมานานมากกว่า) มันก็เกิดอาการแอบอิจฉาอยู่หน่อย ๆ เสมือนว่าเอาตัวเองไปลงในสนามแข่งที่ไม่ควรลงไปตั้งแต่แรกซะอย่างงั้น


ขอบคุณสำหรับวิธีการสร้างกำลังใจที่ดีนะครับ รู้สึก Feel Good กับตัวเองหน่อยนึง อย่างน้อยก็มองข้ามความย่ำแย่ที่ตัวเองขายงานไม่ออกไปแล้ว ที่เหลือ ณ ตอนนี้คงเป็นเรื่องต้องหาอาชีพจริง ๆ จัง ๆ ทำ ควบคู่ไปกับการตั้งใจเขียนงานต่อไป ตราบเท่าที่ยังมีแรงไหวนี่ล่ะ xD

1
รตินธร์ 26 มี.ค. 67 เวลา 09:11 น. 4-1

ยินดีครับ เริ่มต้นจากความสุขในการเขียน ความสำเร็จที่เขียนจบ ฟินกับผลงานของเรา ดื่มด่ำกับประสบการณ์ที่เราพัฒนาฝีมือขึ้นในแต่ละขั้นตอน ^^

0
☀Jan K.D. January☀ 25 มี.ค. 67 เวลา 14:57 น. 5

ขอบคุณสำหรับเชื้อเพลิงค่ะ! https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-big-06.png

เมื่่อเช้านี้ยังนั่งคิดขณะอยู๋บนเรือเลยว่า เราต้องเขียนต่อไปแหละ เพราะพล็อตเรื่องต่อไปที่เรายังไม่เริ่มมันน่าสนุกมาก และคงน่าเสียดายถ้าเราไม่ได้เขียนมันออกมา เพราะงั้นเล่มที่ค้างอยู่ต้องจบให้ได้ เพราะอยากเขียนเล่มต่อไปแล้ว 55555

2
รตินธร์ 26 มี.ค. 67 เวลา 09:12 น. 5-1

อารมณ์เดียวกันเลยครับ ^^ เรื่องที่มันอยู่ในหัวใจ ไม่เล่าออกมาไม่ได้

0