เปิดตัว ภาพยนตร์โฆษณา ม.รังสิต ปีนี้..

 

            มหาวิทยาลัยรังสิต ย้ำบทบาทการเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีความหลากหลายทางวิชาการมากที่สุด ผ่านภาพยนตร์โฆษณาคณะ 27 เรื่อง ฝีมือนักศึกษา และศิษย์เก่าสาขาวิชาการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะนิเทศศาสตร์ ขณะที่ภาพยนตร์โฆษณามหาวิทยาลัย ปี 2552 เดินหน้าแนวคิด CSR ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สนองนโยบาย “สร้างสรรค์สังคมธรรมาธิปไตย” ยก 4 โครงการจิตอาสาเพื่อเป็นที่พึ่งให้แก่สังคม ภายใต้สโลแกน “สร้างบัณฑิตรู้ลึก สร้างสำนึกเพื่อสังคม"

            นายสุภัทร เอกกุล ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการตลาด มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ประเด็นที่มหาวิทยาลัยต่างๆ นำเสนอผ่านภาพยนตร์โฆษณา ส่วนใหญ่จะเป็นการนำประเด็นที่คิดว่าตนเองมีความโดดเด่นที่สุดมานำเสนอ เช่น มีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาต่างชาติ หรือมีการผลิตบัณฑิตที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน หรือมีเทคโนโลยีอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัย

            แต่สำหรับกรณีมหาวิทยาลัยรังสิตนั้น ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดี ได้ประกาศแนวทาง “สร้างสรรค์สังคมธรรมาธิปไตย” ให้มหาวิทยาลัยรังสิตไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อสังคม เพราะว่ามหาวิทยาลัยคือขุมพลังแห่งปัญญาของชาติ มหาวิทยาลัยรังสิตจะไม่ตั้งอยู่บนหอคอยงาช้าง เราต้องให้อะไรแก่สังคม เพราะเราเองก็เป็นสมาชิกของสังคมด้วย เราจึงไม่ต้องการสร้างบัณฑิตที่เป็นคนเก่งเท่านั้น แต่ต้องเป็นบัณฑิตที่มีสำนึกต่อสังคม การผลิตภาพยนตร์โฆษณาในครั้งนี้ ที่นำเอากรณีศึกษา CSR ของมหาวิทยาลัยรังสิต ที่เป็นที่พึ่งให้แก่สังคม โดยอาศัยวิชาการ องค์ความรู้หรือภูมิปัญญาจากคณะวิชาต่างๆ จึงสอดคล้องกับแนวทางหลักของมหาวิทยาลัย ภายใต้สโลแกน “สร้างบัณฑิตรู้ลึก สร้างสำนึกเพื่อสังคม

            นอกจากนี้ ในฐานะที่มหาวิทยาลัยรังสิตเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ที่มีความหลากหลายทางวิชาการมากที่สุดในประเทศ มีจำนวนคณะ สาขา หลักสูตร ที่ตอบสนองความต้องการ หรือความขาดแคลนมากที่สุด จึงเป็นที่มาของการเริ่มนำจุดแข็งของแต่ละคณะมานำเสนอเป็นภาพยนตร์โฆษณาทั้ง 27 เรื่อง เพื่อที่จะลงไปในรายละเอียด เจาะเข้าไปในแต่ละคณะได้” ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการตลาด มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าว

            ด้านอาจารย์ไกรสร วงศ์อนันต์ศักดิ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะนิเทศศาสตร์ ม.รังสิต ในฐานะโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์โฆษณาคณะ 27 เรื่อง กล่าวว่า แนวคิดในการทำหนังโฆษณาของแต่ละคณะแตกออกมาสโลแกนความหลากหลายทางด้านวิชาการของมหาวิทยาลัย ซึ่งตนมองว่า ม.รังสิต เป็นสสานที่ที่นักศึกษาสามารถเลือกชีวิตของตนเองได้อย่างที่ตนเองเป็น นอกจากนี้ ต้องการที่จะนำเสนอบุคลิกของคณะทั้ง 27 คณะ เพราะแต่ละคณะจะมีบุคลิกหรือจุดเด่นที่แตกต่างกัน

            บางคณะไม่จำเป็นต้องนำเสนอภาพบรรยากาศการเรียนเพราะเป็ฯทีรู้จักกันดี บางคณะต้องพยายามสื่อความหมายว่าเรียนจบแล้วสามารถไปประกอบอาชีพอะไรได้บ้าง หรือบางคณะเกี่ยวข้องกับความเจริญก้าวหน้าของประเทศ จึงเป็นเหตุผลให้ทางทีมงานต้องทำการวิจัยคณะเพื่อหามุมมองที่จะนำเสนอจุดเด่นของคณะนั้นๆ และนำมาเป็น Key message ให้ตอบรับกับบุคลิกของแต่ละคณะ และต้องไม่หนีไปจากสโลแกนของมหาวิทยาลัย

            สำหรับการทำงาน เรามีทีมงานซึ่งเป็นนักศึกษาปัจจุบัน จำนวน 20 คน และศิษย์เก่า 10 คน จากสาขาวิชาการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะนิเทศศาสตร์ ม.รังสิต มาช่วยในกระบวนการผลิต ตั้งแต่การหาแนวคิด ทำการวิจัย วิเคราะห์ข้อมูล เขียนสคริป เตรียมงานถ่ายทำ ตัดต่อ ลงเสียง ใส่กราฟิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้กำกับซึ่งเป็นศิษย์เก่าจะเป็นผู้คุมกองถ่าย และเปิดโอกาสให้นักศึกษาปัจจุบันหมุนเวียนกันมาทำงานในด้านการผลิต

ย้ำจุดยืนด้าน CSR อย่างมั่นคงจิตสาธารณะ (Success Together)

            นายสมเกียรติ รุ่งเรืองวิริยะ ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ถ้าพูดถึงเรื่องการกำหนดแนวคิดหลัก รวมถึงวิธีการเล่าเรื่องของการผลิตภาพยนตร์โฆษณา โดยมากจะมีอยู่ 2 ประเภท ประเภทแรกพูดถึง “กระบวนการ” ผลิตบัณฑิต ให้เห็นว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความเพียบพร้อมไปทุกด้าน เหมือนสารคดีที่แพนกล้องไปแพนกล้องมา ให้เห็นว่ามีบรรยากาศอาคารสถานที่สวยงาม มีห้องแล็บหรือสตูดิโอทันสมัย มีอาจารย์ดูแลใกล้ชิด

             ประเภทที่ 2 เป็นการพูดถึง “ผลลัพธ์” คือบัณฑิตที่ประสบความสำเร็จ ซึ่ง ม.รังสิต เองก็เคยย้ำประเด็นความสำเร็จนี้ถึง 5 ปีติดต่อกัน จนวันนี้เชื่อมั่นว่ามหาวิทยาลัยรังสิตได้ก้าวพ้นการสื่อสารใน 2 ระดับแรกมาแล้ว จึงเลือกฉีกประเด็นไปพูดแนวทางที่ 3 คือเรื่องจิตสาธารณะ เราจะไม่ได้สร้างคนเก่งและประสบความสำเร็จอย่างเดียว ขณะเดียวกันต้องมีสำนึกเพื่อสังคมด้วย

            ปีที่แล้วภาพยนตร์โฆษณา CSR เรื่องแรกของม.รังสิต ชื่อชุด “หมอม้ง” นำเอาเรื่องราวชีวิตจริงของนายแพทย์กันตพงศ์ เล่าลือพงศ์ศิริ ชาวเขาเผ่าม้ง ซึ่งได้รับทุนการศึกษาเป็นกรณีพิเศษจากมหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งเมื่อจบการศึกษาแล้ว ก็ได้ไปปฏิบัติหน้าที่เป็นแพทย์ช่วยเหลือสังคม รักษาผู้ป่วยยาเสพติด ตามอุดมการณ์ของหมอม้งที่ว่า “ม.รังสิตให้โอกาสผม ผมจะช่วยคนด้อยโอกาส”มาปีนี้ ตอนแรกที่ประชุมทีมงานเกี่ยวกับแนวทางการสื่อสารประเด็นในงานโฆษณาก็มีโจทย์ให้เราต้องขบคิด หาทางออกให้ได้ กล่าวคือ แม้ว่าภาพยนตร์หมอม้งจะประสบความสำเร็จ มีเสียงตอบรับ ชื่นชมเป็นจำนวนมาก แต่เราเองก็กังวลเกี่ยวกับบุคลิกของหนัง ซึ่งมันจะสะท้อนเป็นบุคลิกของแบรนด์ไปด้วย

               “เพราะการหยิบเรื่อง CSR มาคุยกับกลุ่มเป้าหมายของเราไม่ใช่เรื่องง่ายเลย CSR ต้องการความจริงจัง ผู้ชมมักจะรู้สึกว่านั่นเป็นองค์กรที่ดี เสียสละ ไม่มุ่งแต่แสวงหากำไร กลุ่มผู้ใหญ่ ผู้ปกครองชอบ แต่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นอาจจะเฉยๆ เพราะเรื่องใหญ่ในชีวิต สิ่งที่อยู่ในจิตใจของเขาคือคำถามต่ออนาคตว่าเข้ามาเรียนแล้วจะมีความสุขไหม เมื่อเรียนจบไปแล้ว จะมีงานทำ หรือจะประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างที่เคยฝันเอาไว้หรือเปล่า

               หนังโฆษณาประเภทที่หยิบกรณีตัวอย่างความสำเร็จของรุ่นพี่มาเป็นแรงบันดาลใจให้รุ่นน้องจะทำได้ง่ายกว่า แต่กรณีของ ม.รังสิตปีนี้ เราเพิ่มมิติให้ลึกขึ้น ไม่ต้องเลือกระหว่าง CSR กับ Success Stories โดยชี้ให้เห็นว่าตัวเราและสังคมสามารถประสบความสำเร็จไปด้วยกัน บัณฑิตก็ประสบความสำเร็จ และสังคมก็มีความสุข”

120 โครงการจิตอาสาจากมหาวิทยาลัยรังสิต สู่สังคม

            สำหรับภาพยนตร์โฆษณาของมหาวิทยาลัยรังสิตในปีนี้ จึงเป็นการรวบรวมโครงการ กิจกรรมเพื่อสังคมกว่า 120 โครงการ ของมหาวิทยาลัยรังสิต ที่ตอบสนองความต้องการในด้านการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่สังคม คัดกรองมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายเหลือ 4 โครงการ ได้แก่

               1.โครงการสุขภาพชุมชน เป็นโครงการที่มหาวิทยาลัยรังสิต ออกบริการสุขภาพเพื่อชุมชน มาตั้งแต่ปี 2539 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ใช้คำสรุปความหมายโครงการว่า “จากความหวังดี สู่ความสบายดี”

               2.โครงการผลิตข้าววิตามินสูง “ซันออไรซา” ผลงานของ ผศ.ยุพกนิษฐ์ พ่วงวีระกุล อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งพัฒนามาจากงานวิจัยในห้องปฏิบัติการสู่การผลิตระดับโรงงานต้นแบบของมหาวิทยาลัยรังสิต ต่อเนื่องสู่กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ต.คลองควาย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี โดยในปี พ.ศ. 2549 กลุ่มเกษตรกรได้รวมตัวกันจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน ชื่อ “วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรเฉลิมพระเกียรติบ้านทางยาว” เพื่อผลิต แปรรูป และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าวมอลต์อย่างจริงจัง เน้นการใช้ชีวิตแบบพอเพียง ใช้คำสรุปความหมายโครงการว่า “จากห้องทดลอง สู่ท้องทุ่ง”

              3.โครงการ ออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือใช้ “เก้าอี้ฟาง” ซึ่งนักศึกษาคณะศิลปะและการออกแบบ นำฟางข้าวมามัดให้ทรงตัวโดยไม่ย้อมสี เป็นแบบธรรมชาติ สามารถถ่ายทอดความรู้ให้แก่ชาวบ้านนำไปผลิตเป็นสินค้าเพื่อวางจำหน่ายได้ ใช้คำสรุปความหมายโครงการว่า “จากความคิดสร้างสรรค์ สู่การสร้างมูลค่า”

              4.โครงการผลิตเกมธรรมะเพื่อสังคม ส่งเสริมพุทธศาสนา ผลงานของนักศึกษาและคณาจารย์สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ เกม และมัลติมีเดีย คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นการผลิตเกมขึ้นมาซึ่งไม่ได้เป็นเกมต่อสู้ หรือยิงฆ่าฟันกัน อย่างที่เห็นกันอยู่ทั่วไป แต่เป็น "เกมธรรมะ" ที่ใช้ชื่อเกมว่า "เกมเณรสิขา พิชิต 5 มาร" ใช้คำสรุปความหมายโครงการว่า “จากเกมในจอ สู่ศีลในใจ”

           ประเด็นหลักที่บอกว่าเป็น CSR ของมหาวิทยาลัยรังสิตในภาพยนตร์โฆษณาครั้งนี้ คือการส่งต่อความรู้ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ของมหาวิทยาลัยรังสิตสู่สังคม แต่การส่งต่อความรู้นี้ เราไม่ได้เป็นสถานะของตัวเองเป็นผู้ให้ แต่เป็นการเรียนรู้ไปด้วยกัน ระหว่างนักศึกษากับชาวบ้าน โทนหรืออารมณ์ของหนังจึงต้องการให้ดูแล้วยิ้ม และมีความสุข

             “ผมคิดว่า CSR มันไม่ใช่เรื่องของคนรวยช่วยคนจน คนมีโอกาสช่วยคนด้อยโอกาส คนเมืองใหญ่ช่วยคนชนบท หรือต้องเป็นองค์กรที่ประสบความสำเร็จ ยิ่งใหญ่ ร่ำรวย แล้วถึงจะเสียสละ บุคลิกแบบนั้นจะดูกร่างๆ ไม่ใช่ CSR หัวใจหลักของ CSR มันน่าจะเป็นเรื่องดีเอ็นเอ หรือความดีงามที่อยู่ภายใน ไม่ว่าจะในฐานะของมนุษย์ปุถุชน หรือในฐานะองค์กร ที่ทุกคนสามรถช่วยกัน คนละไม้ คนละมือ สร้างตัวอย่างความดีงามเล็กๆ ของตัวเอง”

เฉือนคมความคิด แกะกล่องคนทำโฆษณามืออาชีพ

            คุณอวิรุทธิ์ ไพบูลย์อัตถกิจ ครีเอทีฟ บริษัท โปสการ์ด จำกัด กล่าวแสดงความเห็นต่อแนวทางการสร้างสรรค์ชิ้นงานโฆษณาสถาบันการศึกษาว่า ถ้ามองจากเมื่อ 5-6 ปีก่อนไม่เหมือนเดี๋ยวนี้เลย ตอนนี้ดุเดือดขึ้นเยอะ มองง่ายๆ ถึคนไม่มองเรื่องของไอเดีย เห็นแต่ในแง่ของ Value Production ต้องยอมรับว่าทุ่มทุนกันเยอะมาก

            ส่วนเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ ผมมองว่าเมจเซสของ ม.รังสิต ล้ำหน้ากว่าที่อื่น ในขณะที่เราเคยพูดเรื่อง Success Stories คุณภาพของนักศึกษา เราขยับไปพูดเรื่องที่ใหญ่ขึ้น เปรียบเทียบว่าถ้า ม.รังสิตเป็นคน จะเป็นคนที่ค่อยๆ โตขึ้น เป็นคนที่ตกตะกอนในความคิดของตัวเองมากขึ้น จากคนที่มีพลังของความหนุ่มสาว มีความทะเยอทะยานอยากไขว่คว้าหาความสำเร็จ แล้ววันนี้รู้สึกว่าความสำเร็จเหล่านั้นสามารถไปทำอะไรเพื่อให้สังคมดีขึ้นได้ ตรงนี้คือการคิดแบบคนที่โตขึ้น

               “ผมว่าเด็กจบ ม.6 เดี๋ยวนี้เห็นอะไรมากขึ้น โลกอินเทอร์เน็ตทำให้เด็กๆ สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่างๆ ได้มากกว่าสมัยก่อน เพราะฉะนั้น การจะสร้างหนังโฆษณาออกมาสักเรื่องหนึ่ง แต่ละสถาบันต่างแข่งขันกันว่าใครแปลกใหม่กว่ากันทั้งในแง่ของไอเดียและภาพที่นำเสนอ ต้องงัดจุดดีของตัวเองมาพูด แต่ก็อยู่ที่ความล้ำหน้าในแง่ของวิธีคิดใครเจ๋งกว่ากัน

                    ผมมองว่าคุณภาพการเรียนการสอนทุกที่มีมารตรฐาน จึงเป็นความท้าทายของคนทำงานครีเอทีฟที่จะงัดกลเม็ดเด็ดพรายออกมา จึงไม่น่าแปลกใจที่การทำหนังโฆษณาสถาบันการศึกษาทุกวันนี้มีความพิถีพิถันมากขึ้น Value Production หรือคุณค่าของภาพที่เห็นสวยงามขึ้น สมัยก่อนก็จะใช้เพียงกล้องแพนภาพไปมาเรื่อยๆ แต่เดี๋ยวนี้มีการใช้เทคนิคแพรวพราว และในฐานะที่ผมได้ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยรังสิตมาหลายปี ผมพูดได้เลยว่ามหาวิทยาลัยอื่นอิจฉาเรา คนทำงานครีเอทีฟก็อิจฉาเรา ผมบอกได้เลย”

            ในขณะที่ คุณศิวกร จารุพงศา ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณา บริษัท วิ้งค์ วิ้งค์ จำกัด (Wink Wink Production) กล่าวถึงจุดเด่นของภาพยนตร์โฆษณามหาวิทยาลัยรังสิตว่า ภาพยนตร์โฆษณาตัวนี้ไม่ใช่โฆษณาที่ตั้งใจทำให้คนดูรู้สึกโอ้โหไปกับมัน เพราะเรากำลังพูดในสิ่งที่มหาวิทยาลัยอื่นยังไม่เคยพูดถึง เราพูดถึงโครงการจริงที่มหาวิทยาลัยรังสิตทำมาเป็น 10 ปีๆ นั่นคือเรื่องการให้โอกาสนักศึกษาได้ทำงานวิจัยหรือทำโครงการต่างๆ ซึ่งเข้าไปสู่ชุมชนจริงๆ

            ดังนั้น ตั้งแต่แรกก็ไม่ตั้งใจจะสร้างภาพให้มันดูฮือฮา ผมว่าหนังทำหน้าที่ในการถ่ายทอดความจริง สิ่งที่นักศึกษาได้ลงมือทำจริงๆ ความสุขที่นักศึกษาเหล่านั้นจะได้รับเวลาที่ทำประโยชน์เพื่อชุมชน ตรงนี้คือสิ่งที่หนังถ่ายทอดออกมามากกว่า เป็นแนวอีโมชั่นนอล (Emotional) ที่คนดูแล้วมีรอยยิ้ม

            เสน่ห์ของหนังอยู่ที่ความรู้สึกจริง แล้วก็ความรู้สึกดีๆ ที่อยากให้คนดูได้รู้ว่าเด็กที่เข้าไปทำโครงการรู้สึกอย่างไร การถ่ายทำจึงไม่อยากให้ภาพออกมาเป็นการจัดสร้าง จัดทำอะไรกันมากๆ วิธีการเล่าเรื่องผ่านภาพที่เรียบง่าย การเลือกใช้ภาพขาวดำสีแบบโมโนโทนยิ่งทำให้หนังดูจริงใจ การวางเฟรมเป็นพาโนราม่าก็เพื่อให้เหมือนหนังใหญ่ ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่ ดูแกรนด์ ดูแล้วรู้สึกอิ่มเอมใจ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

49 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ลิงบาบู 4 เม.ย. 52 18:43 น. 4
ดูโฆษณาของ มหาวิทยาลัยอื่น ๆ ก็ชอบในแนวคิดมากๆ
แต่ดูของ มหาวิทยาลัยรังสิต แล้ว ไม่แค่ชอบ แต่รักเลย
มันเป็นอะไรที่ทำแล้ว ทำได้จริง เพราะเราเป็นคนไทยละมั้ง ถึงได้รัก
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
TiNaA 4 เม.ย. 52 23:11 น. 6
หรอ คห.5 แหวะ

RSU ไฮโซกว่าเยอะ

55555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555++++++
5555555555555555555555555555555555555555555555555+++++++++++
555555555555555555555555555555555555+++++++++++

ยังไงปีหน้าช้านก็จะเรียนที่นี่5555555555555555555555
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
rsu 5 เม.ย. 52 01:21 น. 8
เริ่ดค่ะ!!!!
มหาลัยเราเองอ่ะ

อยากให้เดกๆๆมาเรียน
จะได้รู้ว่าเอกชน ก้อเริ่ด ไม่แพ้รัฐบาลนะค่ะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
RSU 5 เม.ย. 52 18:15 น. 11
คห.10

ค่าเทอมจะฟรีเค้าก้อพิจารณาที่GPAนะคร๊า

ไม่ใช่ว่าเปนดาราแล้วจะได้มาเรียนฟรี เกรดเฉลี่ยไม่ถึง 3 ก้อไม่ได้

เค้าวัดที่คุณภาพมากกว่าปริมาณนะจ๊ะ

แล้วที่ว่า ม.กรุงตีกใหม่อะไรแหนะ

Rsu เค้าก้อมี RSU Complex ทั้ง Condo Shopping MAll สตูฯใหม่ สระว่ายน้ำ สนามเทนนิส

ไม่กี่พันล้านเหมือนกัน ล่ะก้อไม่กึ่ร้อยไร่หรอก ถ้าไม่รุก้อไม่น่าพูดนะ

เสียหน้าป่าวววว

ก้อแค่คณะเยอะที่สุดในประเทศไทย มี สถาบันการ ทันต เภสัชอะไรอย่างงี้
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
SIM 5 เม.ย. 52 20:37 น. 13
เอ๊ะ ๆๆ ๆๆ ๆ!
คห. 10
แน่ใจหรอค้ะ
ทำไงดีอะ ม.รังสิต ไม่ล้ำหน้าา เท่าไรหรอกนะ
ใครจะไปล้ำหน้าา เท่า ม.กรุงเทพได้หละ

เราก็แค่รำคาญอะนะ ไม่ได้มาก่อกวนอะไรหรอกก
เห็นชอบเปรียบเทียบจัง ว่า ม.กรุงเทพกะ ม.รังสิตอันไหนดีกว่า
(ในนี้ไม่เห็นจะมีใครเปรียบเทียบสักคน)

ปล. อย่าให้เขารู้สิค่ะ
0
กำลังโหลด
TON 5 เม.ย. 52 21:05 น. 14
อุ้ยยย !! ใช้อาจารย์จากธรรมศาสตร์น้ะ
คณะเยอะเนี่ยยยยยย

นิเทศเดินเรียนนน น่าภูมิใจจัง

เนื้อที่มีแค่นั้นนน เป็นร้อยไร่

ต้ายตายยยยยย
ช่างกล้า เน้อะ

แล้วคำว่า Complex อะ

เคาะหัวหน่อยนะ
แล้ว หาชื่อที่มะซ้ำกับชาวบ้านเค้าอะ

เสียหน้า
ช่วย สำเหนียก ไว้ใช้กับตัวเองก้อคงจะเหมาะน้ะ
0
กำลังโหลด
Patty 5 เม.ย. 52 21:10 น. 15
คุน คุนน ทั้งหลายยย !!

อนาคตชาติเราหรอเนี่ยย !! *

อย่ามาว่ากันเองเล้ยยย
พวก ม.รัฐบาลทั้งหลายเค้าก้อดูถูกพวกคุนอยู่


เง้อออ *
0
กำลังโหลด
>>oOเดะวุ่นวายOo<< Member 5 เม.ย. 52 21:16 น. 16
เหอๆ ยังไงก็จะเข้าม.รังสิต เเต่ตอนนี้อยู่เเค่ม.5 -*- ^^ สาขาเกม เค้าเจ๋งจิง เเต่จะเข้าคอมอาร์ตแหะ - -* คห.10 น่าหมั่นไส้โคด ไร้สาระ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เอริน 5 เม.ย. 52 22:15 น. 19
ทำไม ม. เราไม่ทำโฆษณาบ้างนะ

แหม !!**จุฬาฯ**อย่างเราถึงโฆษณาไปก็เปล่าประโยชน์

ก็นะ รู้กัน หุหุ

**ไม่ค่อยภูมิใจเรย พราวนด์มากก
0
กำลังโหลด
เอริน 5 เม.ย. 52 22:18 น. 20
ม.เราไม่มีคอมเพลกซ์

ไม่มีแบล็คบ็อกซ์

ไม่มีช็อปปิ้งมอลล์

แต่มี**ศาลาพระเกี้ยว**จ้า

เหอะ ๆ ๆ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด