เผยโฉม 4 นักเรียนขั้นเทพ ด้านชีววิทยา

            สวัสดีครับ.. เป็นเด็กดี เด็กเก่ง เด็กขยันสมชื่อกันอยู่แล้ว.. สำหรับเพื่อนๆ 4 ยอดขุนพลขั้นเทพชีววิทยา ที่เร็วๆ นี้จะถูกส่งออกนอกไปทำ การแข่งขันชีววิทยาโอลิมปิกที่ประเทศญี่ปุ่น งานนี้ก่อนจะดัง พี่ลาเต้ เลยชิงตัวมาให้ชาวเด็กดีรู้จักกันก่อนคร๊าบ

 >> “กวง” เรียนชีววิทยา ต้องอาศัยการออกแบบ

            เริ่มต้นคนแรกที่ “กวง” หรือ นายจตุพร วนิชานนท์ เรียนอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ที่เล่าถึงการเรียนชีววิทยามาว่า วิชาชีววิทยาทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติมีจุดเด่นต่างกัน การทำแลป หรือการฝึกปฏิบัติจะทำให้เรารู้จักสังเกต วิเคราะห์ และใช้ความคิด

            ส่วนทฤษฎีเน้นข้อเท็จจริง และความเขาใจ แต่ลึกๆ แล้ว ชอบภาคทฤษฎีมากกว่า บางทีการทำแลปก็จำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจพื้นฐานในการออกแบบ การทดลองหรือการอธิบาย ก็เหมือนกับฐานตึก ที่จะต้องมีพื้นอิฐที่แน่นหนา ทำให้เราก่อสร้างถึงยอดตึกได้

 >> “เพชร” เรียนอยู่ม.ปลาย แต่ต้องอ่านชีววิทยาของมหาวิทยาลัย

            คนที่สองมาต่อกันที่ “เพชร” หรือ นางสาวนันทนัช วุฒิไกรวิทย์ อยู่ ม. 6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ที่เปิดเผยมาว่า ชอบชีววิทยา และคณิตศาสตร์สุดใจ โดยมองว่าคณิตศาสตร์เป็นพื้นฐานของกระบวนการคิดของเรา ส่วนชีววิทยาเป็นวิชาที่เป็นศาสตร์บูรณาการที่ต้องอาศัยความรู้จากทุกสาขาวิชาเพื่อโยงเข้ามาตอบปัญหากับสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัว และตัวเราเอง

            น้องเพชร ยังเล่าต่อว่า การแข่งขันโอลิมปิกวิชาการนั้นถือเป็นการโอกาสให้เด็กที่สนใจในสาขาวิชาการต่างๆ ของแต่ละประเทศได้มาพบกัน ซึ่งโอกาสนี้หาได้ไม่ง่ายเลย “ดีใจ และภูมิใจมากที่ได้เป็นผู้แทนประเทศไทย นับว่าเป็นเกียรติสูงสุดสำหรับเด็กม.ปลาย รู้สึกกดดัน เพราะรุ่นพี่ทำไว้ดีมากๆ แต่ตั้งใจว่าจะทำให้ดีที่สุด โดยได้ฝึกทำข้อสอบปีก่อนๆ อ่านหนังสือเพิ่มเติมในเรื่องที่ยังอ่อน และฝึกทำแลปเรียนทฤษฎีกับอาจารย์มหาวิทยาลัย”

>> “ฝ้าย” เรียนสายวิทย์ และชื่นชอบวิชาสังคมศึกษา

            คนที่สามตามมาติดๆ คือ “ฝ้าย” นางสาวฝันฝ้าย สมเกียรติ อยู่ ม.6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ถึงจะเป็นเด็กสายวิทย์ แต่น้องฝ้ายก็บอกว่า ชอบเรียนวิชาสังคมศึกษา และชีวิทยา เพราะทำให้เข้าใจธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากขึ้น ที่เลือกแข่งชีววิทยาโอลิมปิกเพราเป็นวิชาที่ชอบ และสนใจอยู่แล้ว ที่สำคัญคือเป็นวิชาที่สนุก

            น้องฝ้าย เล่าต่อว่า ที่ก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ส่วนหนึ่งที่เป็นกำลังใจสำคัญคือครอบครัว คุณแม่จะคอยติดตามดูว่าขาดเหลืออะไรบ้าง หรือเราไม่เข้าใจอะไร ก็จะพยายามไปสรรหาสิ่งที่เราขาดมาให้ ส่วนคุณพ่อจะคอยให้กำลังใจตลอด อยู่เป็นเพื่อนเวลาอ่านหนังสือที่บ้าน พออ่าน ๆ อยู่ พ่อก็เอาขนมมาให้กิน

            “การเตรียมตัวก่อนไปแข่ง คือ พยายามทำใจให้ไม่เครียด เมื่อไหร่ที่เครียดก็หาทางระบาย เช่น เล่าให้เพื่อนฟัง ทำงานอดิเรกที่ตัวเองชอบ ทบทวนบทเรียนที่เรียนมา และทำโจทย์เก่า พยายามใช้เวลาแต่ละวันให้คุ้มค่าที่สุด เราจะได้ไม่เสียใจ เพราะทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว”

>> “นุ้ย” ตามรอยพ่อแม่ที่เป็นอดีตเด็กสายวิทย์มาติดๆ

            ปิดท้ายด้วย “นุ้ย” หรือ นายวีรภัทร คิ้ววงศ์งาม อยู่ ม. 6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ น้องคนนี้เป็นหนุ่มที่มีแรงบันดาลใจจากความสนใจในธรรมชาติ และได้ความสนับสนุนจากครูอาจารย์ในโรงเรียน จึงมีความสนใจในวิชาชีววิทยามากขึ้นจึงได้เข้าร่วมโครงการโอลิมปิกวิชาการ

            นายนุ้ย ชอบวิทยาศาสตร์ เพราะสามารถฝึกกระบวนการคิดให้เป็นเหตุเป็นผล อีกทั้งยังเป็นศาสตร์ที่ทำให้เข้าใจธรรมชาติรอบตัวด้วย น้องนุ้ยบอกอีกว่า พ่อกับแม่ต่างก็เรียนมาทางด้านวิทยาศาสตร์ และมีเวลาอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นในครอบครัวจะมีการพูดคุยกันถึงเรื่องต่างๆ รอบๆ ตัว เช่น ดินฟ้าอากาศ ต้นไม้ต่าง ๆ  ซึ่งเป็นการส่งเสริมกระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์ไปในตัว

            เอาหละครับ.. ได้รู้จักเพื่อนๆ คนเก่งตัวแทนประเทศไทยทั้ง 4 คนกันแล้ว ชาวเด็กดีอย่าลืมส่งแรงเชียร์ แรงใจไปให้พวกเขาด้วยนะครับ.. ส่วน พี่ลาเต้ ไม่มีอะไรจะฝากนอกจากคำว่า “ไทยแลนด์ สู้ๆๆๆๆ” คร้าบ..อิอิ..

            ลาเต้ลิขิต : ไปแข่งที่ญี่ปุ่นรักษาสุขภาพด้วยเด้อ ระวังติดหวัด 2009 นะ ^_^