สวัสดีจ้าชาว Dek-D.com เย้ๆๆ ปิดเทอมกันแล้ว พี่แนนเห็นน้องๆ หลายคนหน้าตาแจ่มใส กระชุ่มกระชวย เพราะจะได้พักผ่อนเต็มที่ ใครคิดโปรแกรมอะไรไว้บ้างช่วงปิดเทอม ก็จะได้สมหวังกันสักที อิอิ ว่าแต่ใครมีแผนจะไปเที่ยวไหนกันบ้าง พาพี่แนนไปด้วยคนนะคะ ^_^ แม้ว่าจะเข้าสู่ช่วงปิดเทอมอันแสนหลั่นล้า แต่ว่าก็มีน้องๆบางกลุ่มที่อาจจะต้องใช้ช่วงเวลานี้ คิดและตัดสินใจเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งของชีวิตเราเลยหล่ะ อย่างน้องๆ ม.3 ที่กำลังหาที่เรียนต่อ ม.4 กันอยู่ นอกจากจะกำลังหาโรงเรียนที่จะสอบเข้าแล้ว อีกปัญหายอดฮิตของน้องๆ ม.3 ก็คือ จะต่อเข้าแผนการเรียนไหนดีหนอ?? 2 ตัวเลือกใหญ่ๆ ที่น้องๆ ชั่งใจเลือกกันไม่ถูก ก็หนีไม่พ้นว่า จะเลือก "สายวิทย์" หรือว่า "สายศิลป์" กันดี เพราะน้องๆบางคนยังไม่แน่ใจตัวเองว่าจะเป็นอะไรต่อไป แต่บางคนก็มุ่งมั่นตั้งเป้าเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีหลายสายแบ่งได้ตามความชอบ และความถนัด เช่น หมวดสายวิทย์ วิทย์ - คณิต วิทย์ - คอมพิวเตอร์ วิทย์ - บริหาร ฯลฯ สายวิทย์ - น้องๆที่อยากเลือกสายนี้ ก็ต้องมั่นใจในวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์พอสมควรเลยหล่ะ ต้องชอบขบคิด ศึกษาค้นคว้า ทดลอง แล้วก็มองการไกลว่า อนาคตจะไปต่อคณะที่เกี่ยวกับสายวิทย์ ไม่ว่าจะแพทย์ สาธารณสุข วิศวกรรมศาสตร์ ฯลฯ หมวดสายศิลป์ ศิลป์ - คำนวณ ศิลป์ - สังคม ศิลป์ - ญี่ปุ่น ศิลป์ - เยอรมัน ศิลป์ - จีน ฯลฯ สายศิลป์ - สายนี้มีแยกไปอีกหลายทางเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นศิลป์ - สังคม ที่ต้องเน้นเรื่องของวิชาด้านสังคม และอาจจะต้องเน้นเรื่องพื้นฐานวิชาภาษาไทย หรือจะศิลป์-คำนวณ ที่ต้องมีพื้นฐานมากๆเรื่องของวิชาคณิตศาสตร์ ส่วนสายศิลป์-ภาษาต่างๆ อันนี้ ต้องเน้นที่ภาษาอังกฤษ แล้วก็ภาษาที่3 ที่น้องๆสนใจกันเลยหล่ะ แต่ว่าสายไหนที่โดนใจน้องๆ อยากเรียนต่อตอน ม.4 พี่แนนลองไปสืบถามมาแล้วค่ะ คนแรก หนุ่มคมเข้ม แต่ชื่อน้องเก๋ บอกกับพี่แนนว่า "อยากเรียนสายวิทย์ครับ เพราะผมชอบการคำนวณและการทดลองในห้องแล็ป แล้วก็ชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ" ลองบอกว่าชอบแบบนี้ สายนี้เหมาะกับน้องๆแน่ๆ ว่าแต่ อยากจะทดลองเรื่องอะไรคะ อิอิ มาถึงอีกหนึ่งสาวน้อย น้องหนูนา ที่บอกถึงแผนการเรียนที่โดนใจมาว่า "อยากเรียนสายศิลป์ค่ะ เพราะ คิดว่าตัวเองหัวคงจะถนัดด้านนี้มากกว่า ถ้าเป็นสายวิทย์คณิตก็อยากเรียนอยู่เหมือนกัน เพราะมีทางเลือกเยอะกว่าสายไหน ๆ แต่คิดว่าคงไม่ไหวแน่ๆ กลัวเรียนไปอาจต้องเปลี่ยนสายกลางครันค่ะ" ตัดสินใจได้แบบนี้ ก็มุ่งมั่นต่อไปได้เลยค่ะ พี่แนนเอาใจช่วย!! เห็นแต่ละคนเลือกกันไปคนละสายแล้ว ชาว Dek-D.com หล่ะคะ แอบโดนใจ หรือฝันอยากเรียนสายไหนกันบ้าง โดยเฉพาะน้อง ม.3 มีตัวเลือกอยู่ในใจกันแล้วใช่ไหมคะ เลือกสายอะไร อย่าลืมมาบอกพี่แนนนะคะ โย่วๆ |
แสดงความคิดเห็น
ถูกเลือกโดยทีมงาน
ยอดถูกใจสูงสุด
<<สายวิทย์คณิต >>
ไม่ได้โหดร้ายนะค่ะ
เรียนไปเรียนมา ก็เริ่มชินแล้วล่ะค่ะ
^^ แต่ขอแนะนำนะ ถ้าเกลียดคำนวณอ่ะ
ให้ ลองทำใจชอบมันสักนิด เดี๋ยวมาเรียนแล้วจะทรมาน
อีกอย่างที่อย่าทำนะค่ะ ::การลอก::
เพื่อนเราอ่ะ เข้ามาเรียนได้ แต่อาศัยการลอกตอนสอบเข้าช่วย
ซึ่งในความเป็นจริง ตอนสอบเข้ามหาลัยอ่ะ
เพื่อนมันอยู่ให้ลอกไหม? ก็ไม่
การสอบมีไว้ให้เรารู้ว่าเราเรียนไป เราสมารถทำได้เท่าไหน
ถ้าใครจะต่อสายนี้ขอแนะนำให้ขยันๆ ไว้นะค่ะ
เวลาสอบอย่าลอกนะ เดี๋ยวมันจะชิน
แล้วเราก็ไม่ได้อะไรจากการลอก หรอกยกเว้นคะแนน
แต่ความรู้นี่สิ ไม่ได้มาเท่าไร บางคราวอาจไม่มีเลย
ลองคิดใหม่ สอบตกแต่พยายามเอง น่าภูมิใจกว่าลอกนะ
เราก็เคยตกเคมี ได้คะแนนน่าเกลียดมากแต่บ่ได้ลอกใครนะ
พอสอบตกก็มานั่งอ่าน นั่งทวน แล้วเราก็เริ่มทำได้
แต่กลับกัน เพื่อนที่ลอก เขาก็ลอกต่อไป ๆ ๆ ๆ
บ่นว่าสอบตก แต่วันๆเห็นเล่นแต่ MSN facebook นอนตี 1 ตี 2
- -* มันจะสอบได้ไหมนั่น?
กำลังโหลด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?
120 ความคิดเห็น
แต่ความจริงมันไม่ใช่
สายวิทย์สมัครคณะของสายศิลป์ได้ แต่
สายศิลป์สมัครคณะของสายวิทย์ไม่ได้
จึงเป็นเหตุว่าคนส่วนใหญ่อยากให้ลูกได้เรียน วิทย์-คณิต เพราะทางเลือกมีมากกว่า
ดังนั้นถึงจะชอบมาทางนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ก็ขอแนะนำให้อดทนเรียนวิทย์คณิตไปก่อน 3 ปี
เวลาเรียนอาจลำบากหน่อย แต่ถ้าเราขยัน อดทน มีความตั้งใจ มีการคบเพื่อนที่ดี เราเรียนจบถึงม.6ได้แน่นอน
ส่วนถ้ายังอยากมาทางสายศิลป์จริงๆ ก็ไม่ได้คิดขัดแย้งอะไร แต่อยากบอกสักนิดว่ามันหาคณะไปต่อได้ยาก เพราะสายวิทย์เขาก็สามารถสมัครได้ในทุกๆคณะที่เรามีสิทธิ์สมัคร เรียนสายนี้จึงต้องขยันและอดทนให้มากกว่าสายวิทย์เสียอีก
จากรุ่นพี่ที่อวดรู้คนหนึ่งและอยากจะแนะนำน้องๆ
ชอบมีรุ่นน้องมาถามว่าเรียนสายไหนดี
น้องเอ๊ย ถ้าพี่เลือกถูกต้องฟันโช๊ะพี่ไม่นั่งเรียนสายวิทย์มาสามปีหรอกกก
โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่เรียนยากเหมือนกัน เท่าที่ดู สายวิทย์เนี่ย หลายคนที่เรียนอยู่ก็ใช่ว่าจะเรียนสบายนะคะ ตกเลขยาก ตกฟิสิกส์กันเป็นว่าเล่นเลย ^^
อ่านหนังสือหนัก งานเยอะ ใครจะเรียนก็ต้องสู้มากๆ นะคะ โดยเฉพาะเด็กโควต้า เรียนกันลำบากพอสมควรเลย
ส่วนสายศิลป์...เราเรียนศิลป์ญี่ปุ่น หลั่นล้า เวลาสอบเลขนี่ เพื่อนมันเขียนชื่อที่หัวข้อสอบ ดิ่งแล้วออกจากห้องเลย ประมาณว่า...ศูนย์ก็โอ
แต่สายศิลป์ถึงจะเรียนง่าย แต่เราต้องสู้ เพื่อให้ตัวเองมีจุดเด่น เก่งให้โดดเด่นถึงจะรุ่งค่ะ ^^ เพราะคนเรียนเยอะ
และเห็นด้วยกับความเห็นแรก มันจนตรอกมากค่ะ ทุนก็แทบไม่มี คณะก็แทบไม่มี จบไปจะไปทำอะไร คนจบสายศิลป์บานตะไท ฯลฯ รู้สึกสิ้นหวังบ่อยเหมือนกันค่ะ
ดังนั้นเราจึงต้องเก่งมากๆ ค่ะ และพยายามเปิดหูเปิดตาหาข้อมูลทุนโน่นนี่ หาทางเอาทุนไปต่อตรีนอกจะดีที่สุดค่ะ หรือรอเอนท์ไปก่อน ช่วงปริญญาตรี ทุนเฉพาะของแต่ละคณะก็จะมีมาเรื่อยๆ เองแบบเยอะแยะเลยค่ะ ^^
ตัวเองตอนเลือกเนี่ยเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเป็นสิบรอบ ทะเลาะกับที่บ้าน เครียดแทบตาย เพราะหัวไปทางเลขไม่ไหว แต่วิทยาศาสตร์เนี่ยชอบเรียน สุดท้ายเลยเลือกสายภาษา เพราะเรียนญี่ปุ่นมาแล้ว และภาษาอังกฤษก็ค่อนข้างดี ประกอบกับนิสัยส่วนตัวมันขี้เกียจ + ห่วงว่าเกรดเฉลี่ยจะไม่ดี ทำให้สอบชิงทุนไม่ได้ เลยมาสายนี้ดีกว่า
สายศิลป์อีกอย่างที่สำคัญคือบุคลิกค่ะ เพื่อนๆ ส่วนใหญ่ถึงจะเรียนแบบปานกลาง ค่อนไปทางไม่เก่ง แต่พวกเขาจะมีหัวครีเอท เป็นผู้นำ กล้าพูดกล้าทำ ทำกิจกรรมเยอะ เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป คอนเนคชั่นเยอะ และมีเสน่ห์ในตัว ซึ่งพวกนี้พอโตไปช่วยได้เยอะค่ะ และสำคัญกว่าการเรียนเก่งอีก (อิจฉาแฮะ ToT)
สายวิทย์คิดว่าไปไม่ไหวจะมาเอนท์สายศิลป์ ยากพอควรนะคะ เพราะตอนนี้มันมี PAT 7 ภาษาที่สาม ที่พวกทางสายศิลป์เรียนมา แต่ถ้าใครไปเรียนพิเศษมาก็โอค่ะ แต่ถ้าไม่ แนะนำว่าไปทางศิลป์คำนวณน่าจะดีกว่านะคะ
คิดให้ดีค่ะ เพราะแนะนำยากเหมือนกัน ถ้าไปสายวิทย์ ขอให้มั่นใจว่าสู้ไหว และต้องพยายามรักษาเกรด ไม่งั้นเกรดเสียไปแก้ไม่ได้ จะพลาดทุนไปหลายอย่างเลยนะคะ
ถ้าไปทางสายศิลป์ ก็ให้แน่ใจเรื่องบุคลิก และว่าเราจะสามารถทำตัวเองให้เด่นกว่าคนอื่นได้ค่ะ โดยเฉพาะเรื่องภาษา ต้องฟิตมากๆ ให้เกินจากในห้องเรียนนะคะ เพราะเรียนในห้องมันช้ามาก ตามหลักสูตร จบไปก็พูดไม่ได้อยู่อย่างนั้น (วันๆ อาจารย์ให้นั่งคัดอักษรจีนอยู่อย่างนั้นอ่ะ)
ก็เลยมาเลือกศิลป์ญี่ปุ่นแทน
เพราะเราชอบประเทศญี่ปุ่น
ตอนนี้คณิตพลิกฟื้นมาดีขึ้นแล้ว
แต่ยังกังวลวิทย์อยู่เลยTT
กำลังหาที่เรียนอยุ่ ไม่รู้จะเรียนฟิสิกส์ที่ไหนดีToT
แต่ไม่ท้อนะคะ คิคิ อิอิ
ประเทศไทยค่อนข้างแปลกๆ นะ
อย่างสารพัดหมอ เภสัช จะใช้คณิตศาสตร์ทำไมไม่รู้เนอะ...
อาชีพที่ไปทางชีววิทยาและเคมีมีมากมาย แต่พวกเราที่ไม่เก่งเลข ไม่เก่งฟิสิกส์ ถึงจะชอบเรียนวิทยาศาสตร์กายภาพก็พลอยหมดสิทธิ์เพราะเลข อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก
ทำโจทย์เยอะๆ ทำโจทย์เรื่อยๆ ช่างสังเกต ลองเอาสิ่งต่างๆรอบตัวมาคำนวณ ใช้หลักฟิสิกส์ดูมันจะทำให้เข้าใจ เก่งทั้งโจทย์ข้อสอบ เก่งทั้งปฏิบัติค่ะ
เพื่อนเราแปดสิบเปอร์เซ็นต์เรียนพิเศษวิชาวิทย์ๆทั้งหลาย ... แต่ตก ตกแบบทุเรศอะ
เพื่อนเราอีกประมาณไม่ถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ไม่เรียนพิเศษ เพราะต้องอยู่บ้านช่วยพ่อแม่ทำงาน ... ผ่าน ได้เกรดสี่ แถมยังเป็นคนสอนพวกที่เรียนพิเศษอีก
เราว่าการเรียนพิเศษมันมีข้อเสียเยอะอะ มันทำให้เราไม่ฟังอาจารย์ มันทำให้เราไม่เคารพอาจารย์
(เห็นเป็นกันแทบทุกคนเลย หาว่าอาจารย์สอนผิด น่าเบื่อ จะสอนให้ยืดยาวทำไม บลาๆ)
อ้าวว นอกเรื่อง
คือเรื่องสายอะ อย่างเราตอนอยู่ม.ต้นเขาก็มีให้เลือกสายตั้งแต่ม.๑ เราก็เรียนวิทย์มาตั้งแต่ตอนนั้น
พอมาม.๔ไม่รู้จะเรียนอะไรเลยเรียนวิทย์ต่ออีกสามปี = =
แต่ก็ไม่ไหวอะ สายวิทย์ฉลาดอย่างเดียวไม่ได้ ขยันอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีพร้อมทั้งสองอย่างรวมไปถึงความช่างสังเกตด้วยถึงจะรุ่ง
สายศิลป์ก็อย่างที่คนอื่นๆบอกไป คือมันต้องสร้างความโดดเด่นให้ตัวเองไม่งั้นมันจะสู้ใครไม่ได้
อย่างเราไปเรียนภาษาจีนเพิ่มเอง ขณะที่เรียนวิทย์ไปด้วยถึงจะตกๆบ้างผ่านๆบ้างแต่ก็ไม่แย่เท่าไร
เราสอบแพทยังได้เยอะกว่าศิลป์จีนอีกอ่ะ เพราะงั้น สายศิลป์ มันก็บอกอยู่แล้วว่าศิลป์
มันต้องมีอะไรที่แปลก และเป็นของตัวเองถึงจะถีบตัวออกมาจากการถูกดูถูกของพวกครูอาจารย์ได้
แต่ส่วนตัว(เริ่มยาว 555 ไม่ได้กะให้อ่านกันหรอก อยากแสดงความคิดเห็นเผื่อมีผู้ใหญ่ได้อ่านบ้างอะไรบ้าง)
คิดว่าสายศิลป์ควรได้เรียนกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และควรจะมีความรู้ทางด้านวิทย์พื้นฐานให้แน่น
เพราะวิทยาศาสตร์ คือสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา ใช้หลักเหตุผล ทำให้เราคิดได้อย่างมีกระบวนการมากขึ้นอะ
จบ พอ ส่วนตัว ถ้าวิทย์เลขไม่โง่และไม่รู้จะเรียนอะไร ก็เลือกวิทย์ไว้ก่อนแล้วกัน
เพราะยังไงยื่นคะแนนพวกสายภาษาก็มีให้ยื่นเลขอยู่ดี
ไม่รอดแน่ แต่คณิตเราพอไหวนะ ' 55
เราเกรด 3 กว่า แต่รร.คัดเกรดสูงเว่อมากกกกกกกกกก TT'
สงสารตัวเองสงสารเรามั้ย? อย่างน้อยศิลป์-ภาษาก็ได้อะ นี่ศิลปกรรมเชียว
วาดภาพก็วาดไม่เป็น และไม่ชอบด้วยไม่มีหัวคิดด้านออกแบบตกแต่งอะไรเลย
มหาลัยอยากเรียนนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ :)
แต่เราสุดจะเกลียดคณิตมาก= =
ในทางกลับกันเราเรียนอังกฤษได้เข้าใจมาก(กว่า)
เลยเข้าศิลป์ภาษาเดียวของร.ร.คือ ฝรั่งเศส
ตอนนี้เป็นปลื้มมากกกกกกกกกกก♥
แต่ยังไม่รู้เลยจะไปต่อมหาลัย ณ แห่งหน ตำบล คณะ ไหนT T
สุดท้าย แม่ถีบเปรี้ยงมาศิลป์ - คำนวณ บอกว่าถ้าไม่เรียนวิทย์ก็ขอคำนวณเห๊อลูก ภาษาเดี๋ยวแม่ให้เรียนเพิ่ม
แล้วเราจะทำอะไรกับค่านิยมที่ฝังรากลึกมานานได้นอกจาก "ทำใจ" เฮ้อออ
วันนี้ก็ไปยืนยันสิทธิ์มาแล้ว อยากจะร้องไห้ บ๊ายบายภาษาที่รัก
/me แม่คะ ได้ข่าวว่าเลขเสริมหนูจะถึงสามรึเปล่ายังไม่รู้นะคะ
ไม่อยากเข้าสาย วิทย์คณิต เพราะ ไม่ใช่เรา แน่ ๆ
เลยเลือกศิลป์ภาษาดีที่สุด - -;;
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราคิดมาตั้งแต่อยู่ม.2 จะเรียนสายไหนดี อยากไปทางภาษา แต่เราก็ไม่ใช่คนที่เก่งภาษามาก กลัวอีกว่าจะเรียนไม่ไหว ก็ยังลังเลๆ ใจนึงก็อยากลองเข้าหมอ แต่ถ้าไม่เข้าหมอก็จะเบนมาทางสายภาษา ก็เลยคิดว่ามันคุ้มไหม เรียนสายวิทย์เพื่อเข้าหมอ แต่ถ้าไม่ติด 3 ปีก็เปล่าประโยชน์ สู้ไปทางภาษาตั้งแต่ต้นเลยไม่ดีกว่าเหรอ แต่คิดไปคิดมาก็.. เอาน่า ลองดูสักตั้ง ขนาดพี่ชายมันยังทำได้เลย แล้วทำไมเราจะทำไม่ได่้!(เพราะมันชอบดูถูกเรา - - เลยแค้นมันบ่อยๆ มันทำได้ เราก็ต้องทำได้!!)
รู้ตัวอยู่ว่าเป็นคนไม่ชอบวิชาจำพวกวิทย์คณิต เกลียดคณิตมากๆ เพราะทฤษฎีมันเยอะ แล้วเราก็ประเภทวิเคราะห์โจทย์ไม่เป็น มันก็เลยลามไปถึงวิชาฟิสิกส์ด้วยเพราะเวลาทำโจทย์มันก็ต้องวิเคราะห์โจทย์ออกมาก่อน ส่วนทางด้านเคมีก็ไม่เก่ง สิ่งเดียวที่ทำให้เราเลือกแผนวิทย์คือวิชาชีววิทยา(ที่ไม่ใช่ชีวเคมี)
ทีนี้พอมาลองนั่งคิดๆดูอีกทีแล้ว แน่ใจเหรอว่าเกลียดวิชานี้จริง? พอลองมองดูตัวเองแล้วก็รู้ทันทีเลยว่าเกลียดวิชาไปตามอาจารย์ผู้สอน คือถ้าครั้งสองครั้งแรกเรียนกับอาจารย์คนไหนไม่รู้เรื่อง จะพาลเกลียดวิชานั้นไปทันที พอรู้อย่างนี้แล้วมันก็เลยสายวิทย์ก็สายวิทย์!
ใครที่เข้าม.4สายวิทย์คณิตมาใหม่ๆอย่าท้อนะคะ แล้วก็อย่ากดดันตัวเอง แรกๆเราอาจจะรู้สึกว่ามันเหนื่อย แล้วก็หนัก เรียนอะไรก็ไม่รู้ ไม่รู้เรื่องเลย ถ้าไม่รู้เรื่องนี่ถามครูหรือถามเพื่อนที่รู้เรื่องก็ได้ ให้ช่วยอธิบายให้หน่อย ช่วยได้เยอะนะคะ เพราะเราไม่เรียนพิเศษเลย - - อาศัยถามเพื่อนเอา เรื่องงานหนักการบ้านเยอะสักพักก็จะค่อยๆชินไปเองค่ะ(เพราะมนุษย์มีสิ่งที่เรียกกว่าการปรับตัว : อาจารย์ชีวะเขาว่ามางี้)
ปล.ว่าจะแสดงความเห็นสักสองสามบรรทัด ไปๆมาๆยาวเชียว = =
ที่เราเลือกมานั้น เราไม่ต้องไปเสียใจอะไรกับมัน
เพราะตอนที่เราตัดสินใจ เราทำไปตามใจตัวเอง
ไม่ได้ตามใคร : )