วัสดีค่ะน้องๆ^^ ไม่น่าเชื่อเลยว่าการพัฒนาสมองเนี่ยเริ่มต้นจากการกินได้มากทีเดียว แต่ไม่ใช่แค่เรื่องอาหารบำรุงสมองนะคะ เพราะที่ พี่มิ้นท์ กำลังพูดถึงนี่ก็คือ "วิธีกิน" ซึ่งวิธีกินก็สามารถบำรุงสมองทำให้สมองแข็งแรงได้ด้วย 


            "การเคี้ยวอาหาร"  เรื่องเล็กๆ ที่หลายคนมองข้าม เวลากินข้าวจะให้มานั่งเคี้ยวข้าวช้าๆ เป็นเต่าเคี้ยวผักบุ้งก็คงเป็นไปได้ยากแหละเนอะ เพราะฉะนั้นก็เลยไม่แปลก ที่คนส่วนใหญ่สักแต่ว่ากินๆ เคี้ยวๆ กลืนให้อิ่มไปหนึ่งมื้อ แต่น้องๆ รู้มั้ยคะว่าการเคี้ยวข้าวให้ละเอียดมีประโยชน์มากจริงๆ ไม่ใช่แค่ดีต่อระบบย่อยอาหารให้ทำงานน้อยลงเท่านั้น เพราะทางการแพทย์ได้ยืนยันมาแล้วว่าการเคี้ยวข้าวให้ช้า และนานขึ้น จะช่วยให้สุขภาพดี และอายุยืนยาว ที่สำคัญยังส่งผลดีต่อสมองในหลายๆ ด้านอีกด้วย

                  
          น้องๆ อาจจะเกิดคำถามว่าแค่เคี้ยวข้าวให้ละเอียดขึ้น มันจะเกี่ยวกับสมองได้ยังไง?? ขอบอกเลยว่าเกี่ยวอย่างแรงเลยค่ะ เพราะ
การเคี้ยวอาหารจะช่วยให้ต่อมน้ำลาย และต่อมใต้หูหลั่งฮอร์โมนออกมา และระหว่างที่เราเคี้ยวอาหารอยู่ ปริมาณออกซิเจนในสมองจะเพิ่มขึ้น เซลล์สมองจะทำงานได้ดีขึ้น เมื่อปริมาณออกซิเจนเพิ่มขึ้น เลือดในสมองก็จะไหลเวียนได้สะดวก และที่สำคัญก็ยังช่วยกระตุ้นพลังในการขบคิด และสร้างสมาธิได้ด้วย ซึ่งตรงข้ามกับผู้ที่เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด กลุ่มคนประเภทนี้ก็มีโอกาสที่สมองจะอ่อนแอตามไปด้วย


          อ่านมาถึงตรงนี้ น้องๆ คงอยากรู้แล้วว่า แล้วเคี้ยวแบบไหนล่ะ ที่จะเรียกว่าละเอียดแล้วจะส่งผลดีต่อสมอง ซึ่งการเคี้ยว 30-50 ครั้ง/คำ จะช่วยควบคุมอารมณ์ให้เย็นขึ้น ลดความเครียดได้ด้วยค่ะ แต่ถ้าอยากให้สมองแล่นฉิวก็ควรเคี้ยวอย่างน้อย 60 ครั้ง/คำ ร่างกายจะดูดซึมสารอาหารได้ดี จะช่วยให้สมองทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าใน 1 คำสามารถเคี้ยวได้ถึง 200 ครั้ง สม่ำเสมอทุกมื้อ จะยิ่งทำให้สมองมีประสิทธิภาพมากขึ้น สมองสามารถขบคิดกระบวนการคาดการณ์ และวินิจฉัยปัญหาต่างๆ ได้แม่นยำมากขึ้นอีกด้วย

 

   

          นอกจากการเคี้ยวอาหารให้ละเอียด และนานขึ้นแล้ว ในหลักการเดียวกัน ในช่วงระหว่างวันหรือช่วงสอบ ถ้าสามารถเคี้ยวหมากฝรั่งได้ก็จะดีเช่นกันค่ะ เพราะการเคี้ยวหมากฝรั่งก็ช่วยเรื่องสมาธิและเพิ่มออกซิเจนในสมอง ทำให้สมองปลอดโปร่ง และกระตุ้นความจำได้ดี แต่การเคี้ยวหมากฝรั่งในห้องเรียนของน้องๆ ก็มีสิทธิ์โดนคุณครูว่าได้เหมือนกัน ดังนั้น ก็ควรดูกาลเทศะด้วยนะคะ ที่สำคัญอย่าไปป้ายตามโต๊ะ เก้าอี้ ผนัง ฯลฯ ด้วยล่ะ (เป็นพฤติกรรมที่ไม่น่ารักมากๆ!!)


          เห็นมั้ย... แค่เรื่องเล็กๆ อย่างเคี้ยวอาหารก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลดีทั้งต่อร่างกาย และสติปัญญาของน้องๆ ได้ ดังนั้น น้องๆ ก็ไม่ควรมองข้ามเรื่องเล็กๆ เหล่านี้นะคะ เคี้ยวให้ถูก เคี้ยวให้เป็น ก็มีสิทธิ์เรียนเก่งขึ้นได้ค่ะ (ที่สำคัญไม่ทำให้อ้วนด้วยนะ^^) เรามาเคี้ยวข้าวให้ช้าขึ้นกันเถอะ !!
 

รูปภาพประกอบ  www.goodfoodgoodlife.in.th

http://new.goosiam.com

www.nongdome.com

พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

61 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
มิยาคูล Member 24 พ.ค. 54 09:33 น. 4

ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าจะมีประโยชน์ขนาดนี้  เด๋วจะลองทำดูนะคะ
ได้ผลยังงัยแล้วจะมาบอกต่อค่ะ

0
กำลังโหลด
TimeStop Member 24 พ.ค. 54 15:18 น. 5
 วันนี้เพื่อนกินเสร็จไป 2 คนผมเพิ่งกินเสร็จ-*-
กินเรื่อยๆอะไม่รีบแต่ไม่ถึงขนาดกินช้านะ
งง เพื่อนร่วมโต๊ะมากมาย นั่งกินไปคุยไปแปปเดียวข้าวหมด-*-
เหมือนตักเข้าไปเีคี้ยว 3 ทีแล้วกลืนอะ
0
กำลังโหลด
Kim_Heechul-Sarang Member 24 พ.ค. 54 16:18 น. 6
โอ้ =[]=
แต่ว่าเดี๋ยวนี้ เวลามันไม่รอใครเนี่ยสิ
จะเคี้ยวข้าวช้าๆก็ท่าจะแย่หน่อย...
เอาไว้กินข้าวที่บ้านแบบไม่รีบร้อนมากก็ค่อยเคี้ยวให้ละเอียดแล้วกัน
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
a.dEnxgis ♥ Member 24 พ.ค. 54 22:09 น. 15
เปิดเทอม กินข้าวนานมาก
เพื่อนรอเราอยู่คนเดียว -0-

เพื่อนคนนึงมันว่าง
นั่งรอ แล้วนับว่าเราเคี้ยวข้าวกี่ครั้ง

มันบอกว่า 50 ครั้ง 555555555555555555555555555

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Nanny_bbvip Member 26 พ.ค. 54 17:58 น. 20
นึกว่าเคี้ยวหมากฝรั่งมากๆไม่ดีนะเนี่ย
(เราเข้าใจว่าพอเคี้ยวมากๆ กระเพาะหรืออวัยวะอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ จะสร้างน้ำย่อยออกมา
ทำให้รู้สึกหิว เพราะเราเคยเป็นเลยสันนิฐานอย่างนั้น จริงรึป่าวไม่รู้)
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด