ใครว่าเราทำแต่สิ่งที่ไร้สาระ?? 
สิ่งที่ทำเพราะชอบ ก็พัฒนาสมองได้นะ



       บางคนอาจถูกผู้ใหญ่บอกว่า "ทำอะไรไร้สาระ ไปหาหนังสืออ่านบ้าง" หรือ "มัวแต่เล่นอยู่นั่นแหละ หัดตั้งใจเรียนให้เหมือนเล่นบ้างได้ไหม" แต่จริงๆ เราก็แค่ทำสิ่งที่ชอบใช่ไหมล่ะ ถ้าเราชอบจริงๆ เราก็ต้องทำให้ความชอบนั่นเกิดประโยชน์สิ+++ เอามาพัฒนาสมองเสียเลย!!!
       พี่เกียรติอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง
เกี่ยวกับการเรียนและสมอง มีชื่อบทหนึ่งว่า ขอให้คิดว่า "อยากเป็นเหมือนไอสไตน์" ที่เล่าถึงการเรียนรู้ที่ดีนั้น เกิดจากการสิ่งเราได้ทำในที่ชอบ และก็นึกไปถึงบทความ "คิด" ให้ฉลาด..."คิด" แบบดาวินชี ของพี่มิ้นท์ เว็บคอลัมนิสต์คนสวยของเรา ในบทความของพี่มิ้นท์มีข้อน่าสนใจ คือ  หลัก Arte/Secienza การคิดโดยใช้สมองทั้งซีกซ้ายและซีกขวา คิดให้สมดุลกันระหว่างข้อเท็จจริงกับจินตนาการ และหลัก Connessione การรู้จักสังเกตความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ รอบตัว แล้วจากทั้งหนังสือที่พี่เกียรติอ่านกับบทความของพี่มิ้นท์ ทำให้พี่เกียรติ เจอเรื่องน่าสนใจเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับการพัฒนาสมองของเรา!!!

    
  
          สมองของเราจะเรียนรู้ได้ดีต่อเมื่อได้เรียนและรู้ในเรื่องที่เราสนใจ พอเรารู้สึกสนุกที่จะเรียนรู้และหาคำตอบของสิ่งที่กำลังเรียนรู้ได้ทำสำเร็จ เจ้าสมองจะหลั่งสารโดพามีน ที่ทำให้เรามีความสุขขณะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แล้วเซลล์ประสาทจะมีการจัดการรูปแบบและเชื่อมต่อไซแนป เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ในสมองอย่างมีระบบ สมองก็จะพัฒนา เราก็ยิ่งจะมีความตั้งใจทำในสิ่งที่เราสนใจมากขึ้นไปอีก และมันทำให้สมองของเราได้เรียนรู้สิ่งใหม่มากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ตามลำดับ เพราะฉะนั้น ถ้าเราอยากทำให้สมองพัฒนาและมีความสุขไปด้วย เราก็สามารถเริ่มต้นเรียนรู้จากสิ่งที่เราสนใจได้ แค่เราต้องเริ่มต้นหาแรงบันดาลใจ จากสิ่งที่เราชอบทำ!!!

           แต่ถ้าแค่รู้ว่าชอบทำอะไร แล้วก็ทำอยู่แต่สิ่งเดิมๆ เราก็จะไม่ได้พัฒนาสมองได้เท่าที่ควร พี่เกียรติจึงขอนำเสนอวิธีการต่อยอดจากความชอบเราสู่การพัมนาสมองอย่างเป็นระบบ โดยให้เราเชื่อมโยงและมองหาสิ่งใหม่ๆที่เราจะได้เรียนรู้ จากสิ่งที่เราชอบเดิม เป็นวิธีคิดรูปแบบเดียวกับอัจฉริยบุคคลหลายๆคน และใช้การเชื่อมโยงในลักษณะแผนภูมิ คล้ายการทำ Mind Map เพื่อทำให้เราเห็นภาพขยายความคิดของเราอย่างเป็นรูปธรรม

           1. เตรียมกระดาษเปล่า ดินสอ ปากกาสีตามชอบ
           2. สังเกตตัวเองว่าชอบหรือสนใจเรื่องอะไร และเขียนสิ่งนั้นลงไปในกระดาษ ลากเส้นโยงเตรียมไว้เลย
           3. นึกคิดถึงสิ่งที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราสนใจนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะดูไร้สาระหรือเปล่า ให้เขียนสิ่งที่รู้สึกแว่บแรกเลยก็ได้ แล้วมาเขียนต่อๆ กันเลยตามตัวอย่างจ้า







พอเราทำเสร็จ เราก็จะเห็นว่า...เจ้าสิ่งที่เราสนใจเพียงสิ่งเดียวนั้น มันมีเรื่องให้น่าเรียนรู้ต่อได้มากขนาดไหน แล้วเราก็ค่อยๆ ไปศึกษาเรื่องต่างๆ นั้นทีละเรื่องเลย

      ตัวอย่างที่ 1 เริ่มจากเพียงชอบเที่ยวในกรุงเทพฯ และคิดต่อเรื่อยๆ ก็ได้เรียนรู้สิ่งที่น่าสนใจอีกมาก เช่น เรื่องราวในพิพิธภัณฑ์ที่ไปเที่ยว >> เหตุปัญหารถติดในกรุงเทพฯ >> การแก้ไขด้วยรถไฟฟ้า >> ใครสร้าง >> ข่าวสารบ้านเมือง ฯลฯ

        ตัวอย่างที่ 2 เริ่มจากนิยายชื่อดัง (ทันสมัยไหมล่ะ ฮา) >> ศึกษาประวัติแม่มด >> ประวัติศาสตร์ยุโรป >> คติของไทย >> ได้ภาษาอังกฤษจากศัพท์ และชื่อเฉพาะต่างๆ ฯลฯ
 

        น้องๆ มั่นใจได้เลยว่า เจ้าสิ่งที่เรากำลังเรียนรู้นี้ ไม่ทำให้เราเบื่อแน่นอน แล้วลองคิดดู ถ้าเราได้เรียนรู้เจ้าสิ่งเหล่านี้ไปเรื่อยๆ เราจะเป็นอย่างไร? นี่เป็นขั้นแรกสุด ในการฝึกนิสัยของคนฉลาด คือ มีความอยากรู้อยากเห็นเป็นที่ตั้ง และรู้จักไขหาคำตอบของสิ่งที่อยากรู้นั้น และยังได้สนุกไปกับการเรียนรู้นั้นๆ ด้วยนะ 
      ต่อไปเราจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ เลย ที่สำคัญแรงบันดาลใจในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาสมองเหล่านี้ก็ไม่ได้มาจากใครที่ไหน มาจากตัวเรานี่เอง สุดยอดเลย!!!




แหล่งอ้างอิง:
บัณฑิต โรจน์อารยานนท์,แปล. ความลับของสมอง : ทำงานอย่างไรให้สมองมีความสุข.
          กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น), 2552.

พี่เกียรติ
พี่เกียรติ - Community Master ถนัดแฝงตัวตามกระทู้เด็กดี มีความสนใจเป็นล้านเรื่องขึ้นอยู่กับดราม่าขณะนั้น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

33 ความคิดเห็น

- ▼△ Guitar. Member 18 ก.ค. 54 10:45 น. 1
ใช่เลยค่ะ =[]=
พ่อกับแม่ชอบบอกว่าอ่านอะไรไร้สาระ
หัดไปอ่านหนังสือเรียนบ้างอย่างนี้
ประจำ -..-

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เจ้าหญิงทอมบอย Member 18 ก.ค. 54 11:57 น. 4
 เราก็อ่านนิยาย แม่ชอบว่าไร้สาระ เวลาทำงานตัวเองก็แอบเล่นเกมเหมือนกันแหละ หึ -^-
0
กำลังโหลด
Mokira Midoriko Member 18 ก.ค. 54 12:44 น. 5
เอ๋ ความคิดเห็นที่สี่ไปว่าแม่อย่างนั้นเลยเหรอค้าาา (งั้นเราก็อ่านนิยายต่อไปค่ะ ฮุฮุ)
แตขอบคุณนะคะพี่
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ซาโยนาระจุ๊บๆ Member 18 ก.ค. 54 13:07 น. 7
ก็เล่นเกมกับอ่านหนังสืออ่านเล่น หลังเลิกเรียนนี้แหละค่ะ
แม่บอกว่าไร้สาระ T ____________ T
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
karupin Member 18 ก.ค. 54 16:36 น. 12
 อ่านYกันนี่ ไปเรียนด้านเเพทย์รึผู้เชี่ยวชาญด้านนี้คงจะเหมาะ 
จะได้หาทางรณรงค์ การมีsexเเบบ ช*ช อย่างปลอดภัย =)
0
กำลังโหลด
`❤ ยุนแจยูซูมินริค.(๕) Member 18 ก.ค. 54 18:29 น. 13
ตอบคห.สอง

ชอบอ่าน ชอบแต่งแบบนี้.. ได้ทักษะภาษาไทยไงครับ เพราะกว่าจะกลั่นความรู้สึก(?) ออกมาเป็นหนังสือ ถ่ายทอดให้คนอ่านจินตนาการได้ ต้องใช้คำ ประโยค วลี ที่กินใจและมีความหมาย ก็เลยได้ทักษะภาษาไทยไงครับ

พีเอส.ผมก็ชอบ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
||-HeDw!g & P!gw!Dgeon-|| Member 18 ก.ค. 54 19:12 น. 16
แฮร์รี่ แฮร์รี่ :))))
เคยคิดจะเอากระดาษแผ่นใหญ่มาวาดผังความคิดทั้งหมดที่นึกออกเกี่ยวกับแฮร์รี่ด้วยแหละ แต่ไม่ได้ทำซักที เพราะกลัวออกมาไม่สวยแล้วไม่รู้จะไปแปะที่ไหน 55555+
0
กำลังโหลด
DomiNoiiz'DZM Member 19 ก.ค. 54 11:55 น. 17
คนเราไม่จำเป็นจะต้องหมกมุ่นอยู่กับตำราเรียนเสมอไปหรอกคะ
ควรจะผ่อนคลายด้วยการอ่านหนังสือเบาๆบ้าง
หรืออะไรที่เราชอบจะดีกว่า เพื่อไม่ให้สมองของเราต้องใช้งานมากเกินไป :) 
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด