สวัสดีค่าน้องๆ... ปัญหานึงของการเรียนทุกวันนี้ คือ หลักสูตรการศึกษาไทย ออกแบบให้เราต้องเรียนหลายวิชา ผลก็คือ เราต้องทนเรียนในวิชาที่ไม่ชอบ นับดูแล้ววิชาที่ไม่ชอบอาจจะเยอะกว่าวิชาที่ชอบด้วยซ้ำไป โดยเฉพาะฟิสิกส์ ที่ติดอันดับต้นๆ ที่นักเรียนสายวิทย์ส่ายหน้าหนี
ฟิสิกส์ เป็นหนึ่งในวิชาหมวดวิทยาศาสตร์ที่ศึกษากฎของธรรมชาติ วัตถุ พลังงานต่างๆ เรียกว่า เป็นพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ทั้งหมด ซึ่งเนื้อหาในรายวิชานี้ค่อนข้างเยอะและยิ่งเรียนสูงยิ่งละเอียดขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญยังมีเรื่องของการคำนวณเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้หลายคนถอนหายใจไปกับวิชานี้ สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เราเกลียดฟิสิกส์เข้าไส้ขนาดนั้น มีอยู่ 3 สาเหตุ คือ
สาเหตุแรก เรียนแล้วไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจแบบเว่อร์ๆ ด้วย คือ เรียนยังไงก็มึนหัวตึ๊บ ไม่รู้ว่าโจทย์นี้ต้องใช้กับสูตรไหน หรือ ต้องทำอะไรต่อไป สาเหตุที่สอง พอเรียนไม่เข้าใจแล้ว ก็ทำข้อสอบไม่ได้ ฟิสิกส์ถือเป็นวิชาปราบเซียนเด็กสายวิทย์เลย เคยมีน้องมาเปรยๆ บอกว่า วิชานี้ขอแค่ผ่านก็พอ ไม่ขอคะแนนสูง แต่บางคนบอกว่า เกิดมายังไม่เคยสอบผ่านฟิสิกส์เลย โอ้ว...อาการหนัก และสาเหตุสุดท้าย คือ เกรดออกมาไม่ดี ในเมื่อเรียนไม่เข้าใจ ทำข้อสอบไม่ได้ แล้วเกรดจะดีได้อย่างไร คราวนี้พอน้องๆ เห็นตัวเลขเกรดที่ได้รับ ก็เลยออกอาการไม่ปลื้ม และคิดไปว่าวิชานี้ช่างยากเย็น ไม่เหมาะกับเราเหลือเกิน
พี่มิ้นท์ก็คิดเหมือนน้องๆ ค่ะ ว่าฟิสิกส์เป็นวิชาที่ยาก แต่มันก็ไม่ถึงกับทำให้ชีวิตใครย่ำแย่ได้ขนาดนั้น ถ้าเรามีจุดเริ่มต้นหรือทางแก้ที่ดี หนทางการเรียนวิชานี้ ก็น่าจะไปได้สวยนะ เราลองมาดูวิธีการเรียนที่จะเปลี่ยนทัศนคติของน้องๆ ให้กลับมาสนใจวิชาฟิสิกส์กันดีกว่า
1.ทำความเข้าใจเรื่องง่ายๆ เสียก่อน ถ้าเมื่อไหร่ที่พื้นฐานยังไม่เข้าใจ ก็ไม่มีทางที่เรื่องอื่นๆ จะเข้าใจได้ เพราะการเรียนฟิสิกส์ ยิ่งสูง เนื้อหาก็ยิ่งยาก จะต่อยอดความรู้เก่าไปเรื่อยๆ ดังนั้น น้องๆ ควรทุ่มเทเวลาทบทวนตั้งแต่เรื่องแรกๆ ซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆ เพื่อเป็นการสร้างฐาน ไม่ว่าจะเป็นสูตร เป็นทฤษฎีหรือเนื้อหาอะไรก็ตาม ยิ่งฐานแข็งแรงเท่าไหร่ ปลายยอดของเราก็จะเพอร์เฟคมากขึ้นเท่านั้น จะว่าไปก็เหมือนกับการขึ้นบันไดค่ะ จะก้าวไปขั้นที่สองได้ ก็ต้องผ่านก้าวแรกไปก่อน แต่ถ้าเราคิดจะก้าวข้ามไปขั้นที่สองเลย ทีนี้งานเข้าแน่นอนค่ะ
2. คิดฟิสิกส์ให้เป็นภาพ อย่างที่พี่มิ้นท์ได้บอกไปตั้งแต่แรกว่าฟิลิกส์เป็นเรื่องของธรรมชาติ ดังนั้นน้องๆ อย่าไปคิดว่ามันเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ เพราะยิ่งคิดแบบนี้ เราจะแอนตี้สิ่งที่จะเรียน หลักการเรียนนั้นง่ายมากๆ ขอให้คิดว่าทุกอย่างเป็นเรื่องรอบตัวเราทั้งนั้น ถ้าเป็นไปได้เจอคำอธิบายอะไรมา ก็คิดให้เป็นภาพหรือเหตุการณ์ไปเลย เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติ เช่นการเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์ก็นึกถึงยิงปืนใหญ่ หรือ นึกว่าเรากำลังเล่นแองกรี้เบิร์ดอยู่ก็ได้ การคิดฟิสิกส์ให้เป็นภาพ ช่วยให้เราสนุกกับการเรียนฟิสิกส์มากขึ้น
3.หาวิธีเรียนของตัวเองให้เจอ วิธีเรียนของตัวเองไม่เหมือนกัน จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่ฟิสิกส์หรอก แต่เป็นทุกวิชาเลย หากเราเจอหนทางการเรียนของตัวเอง จะช่วยให้น้องๆ ไม่ต้องฝืนกับสิ่งที่เราไม่ได้เป็น เช่น บางคนจินตนาการไม่เก่ง ชอบท่องมากกว่า ก็ขยันท่อง + ทำโจทย์ ก็สนุกไปกับมันได้ บางคนชอบใช้จินตนาการ ตอนสอบแค่จำสูตรก็ทำข้อสอบได้ ไม่ต้องนั่งอ่านหนังสือทั้งวันก็ได้ ดังนั้นเลิกสงสัยไปได้เลย ถ้าเห็นเพื่อนที่นั่งเล่นเกมอยู่ทุกวัน แต่ผลสอบออกมาได้คะแนนดี๊ดี
4.ทำข้อสอบอย่างรู้เป้าหมาย เป้าหมายในที่นี้ คือ รู้ว่าโจทย์ถามอะไร ต้องการอะไร ซึ่งพี่โหน่งจากออนดีมานด์ได้เคยให้เคล็ดลับการทำข้อสอบฟิสิกส์ไว้ว่า การทำข้อสอบฟิสิกส์ให้ใช้หลักการกระจัด คือ การหาเส้นทางที่สั้นที่สุด คือ เมื่อเจอโจทย์แล้ว ต้องลากจากสิ่งที่โจทย์ให้ไปยังสิ่งที่โจทย์ถาม แล้วลากเส้นตรง ดังนั้นวิธีที่เร็วที่สุด คือ หาสิ่งที่โจทย์ถามให้เจอแล้วถอยกลับ
ถึงแม้ว่าวิชานี้จะทำเอาหลายคนปวดหัว แต่พี่มิ้นท์ก็ไม่อยากให้น้องๆ ทิ้งมันนะคะ อย่างน้อยก็มีประโยชน์อีกมากมายสำหรับการเรียนต่อในมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะน้องๆ Dek-D.com เชื่อว่าต้องเป็นเด็กวิทย์อยู่เยอะแน่นอน ดังนั้นใครที่รู้สึกไม่ชอบวิชานี้ ลองเปลี่ยนทัศนคติและหันหน้าไปตั้งใจเรียนดูอีกซักครั้ง เทอมนี้เราเกลียด เทอมหน้าเราอาจจะชอบก็ได้
ส่วนน้องๆ ที่กำลังจะขึ้น ม.4 สายวิทยาศาสตร์ก็อย่าลืมเอาเคล็ดลับข้อแรกไปใช้กันด้วยนะคะ ก้าวแรกของเราสำคัญเสมอ :)
|
59 ความคิดเห็น
โอ้ ขอบคุณมากค่ะ
ชอบให้เพื่อนอธิบายให้ฟังมากกว่า เป็นขั้นตอนดี
ถ้าเป็นการเรียนรู้แบบมีภาพอนิเมชั่น ผมว่าทำให้เข้าใจฟิสิกส์ง่ายขึ้นกว่าการอ่านหนังสือเรียนมาก
เพราะมันจะเกิดจินตนาการ และทำให้เข้าใจในบทเรียน
(จินตนาการสำคัญกว่าความรู้นะเออ)
ที่ผมไม่ถนัดจริงๆคือ เคมี!! (เจอกี่ทีก็นรกแตกทุกสนามสอบไป)
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 6 มีนาคม 2555 / 16:54
แต่ผมก็ไม่ชอบวิชานี้อยู่ดี มันดูแบบอะไรก็ไม่รู้อะ จะไปชอบพวกชีวะเคมีมากกว่า
พ่อแม่เชียร์ให้เข้าทางวิศวะ เลยตั้งใจเข้ามาอ่านกระทู้นี้เต็มที่เลย กะไว้ว่าอาจจะชอบฟิสิกส์ขึ้นมาบ้าง ฮ่าๆๆๆๆๆ เพราะใจจริงอยากเรียนบัญชี(เวลาเรียนคณิตเรื่องสถิติเป็นอะไรที่ชอบมาก แบบทำแล้วมันสนุก แล้วก็รักในเรื่องนี้) แต่ก็แอบเสียดายฟิสิกส์ เคมี ชีวะ อันแสนหรึโหดที่อุส่าเรียนมาตั้ง 3 ปี = =
ปลงงงงงงงงงงงงง.
คห.7
อย่าไปคิดว่าเสียดายสิ่งที่เรียนมานะ เพราะถ้ารู้ว่าชอบอะไรแต่ไม่เลือกที่จะทำนี่มาเสียใจทีหลังว่าวันนั้นน่าจะเลือกเรียน...มันรู้สึกแย่ยิ่งกว่าอีก
เสียดายเวลาหรือเสียดายความสุขมากกว่ากันล่ะ :-)
เราเคยคิดเหมือนกันว่าถ้าเป็นอาชีพอื่นนอกจากพวกหมอ วิศวะ นักวิจัย คงเสียดายะไรทั้งหลายทั้งปวงที่เรียนมาอยู่นี่มากกกกเลยล่ะ แทนที่จะสอบชิลๆเก็บคะแนนไปเรื่อยๆตามปกติจะมาเรียนให้ตกแล้วตกอีกอยู่ที่นี่ทำไม แต่พออยู่ๆไปก็เริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าสิ่งสำคัญในการทำอะไรมันอยู่ที่ใจรักจริงๆ :))
ฟิสิกส์เป็นวิชาชวนปวดหัวของเราและรูมเมตเราหลายๆคน ถึงได้ชวนกันอ่านคอลัมน์นี้นะนี่ 555 เราไม่ถนัดฟิสิกส์แต่บอกจริงๆว่าเห็นคนเก่งๆเค้ามองฟิสิกส์เป็น"ภาพ"จริงๆนะ
อย่างเราไปให้อ.สอนอินทริเกรตหาโมเมนท์ความเฉื่อยของรูปทรงต่างๆเงี่ย ตอนแรกอ่านเอง งงแทบตายมันมาจากไหนวะะะ พออ.วาดรูปให้ดูคือแบบ ชัดอะ ภาพฟ้องทุกอย่างจริงๆ เข้าใจแจ่มแจ้งเลย 5555
ป.ล. ชอบคำนำมากค่ะ เพราะระบบการเรียนของไทย... น่าจะสอนให้รู้จักตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก+ให้ความสำคัญกับจินตนาการมากกว่านี้นะ ไม่น่ากว่านแหมาจนถึงม.ปลายเล้ยย เหนื่อย.
ให้ไม่มีได้เนี่ย
เรียนก็ไม่อยากเรียน ทั้งๆที่พยายามแล้วนะ
การบ้านก็ทำไม่ได้ แม้แต่ตอนสอบยังอ่านวิชานี้สุดท้ายเลย
ใครที่เก่งเลข หรือชอบเลขเนี่ย
ขอแบ่งปันวิธีทำตัวให้ชอบเลขขึ้นมาบ้างได้มั้ย
แล้วก็ถอนหยใจอีกที เฮ้ออออออ ทำใจ ฮ่าๆๆๆ
พอถึงเรื่องไฟฟ้ายากๆ
ได้เกรด4
งงกับตัวเอง -,.-