ตะลึง!! ลิฟท์ที่เร็วที่สุดในโลก เร็วกว่าลิฟท์ปกติเกือบ 10 เท่า

                วัสดีค่ะน้องๆ... หากมี "บันได" "บันไดเลื่อน" และ "ลิฟท์" อยู่ตรงหน้ารอให้น้องๆ ใช้งาน น้องๆ จะเลือกอะไรคะ­­.... ก่อนอื่นก็คงต้องดูว่าเราจะเดินทางไปชั้นไหน หากไปชั้นใกล้ๆ ก็เดินด้วยลำแข้งตัวเองได้ แต่ถ้าหากต้องขึ้นไปสิบกว่าชั้น "ลิฟท์" คงเป็นคำตอบสุดท้าย

(รูปนี้เป็นเพียงรูปประกอบบทความ ไม่ใช่ลิฟท์ที่เร็วที่สุดในโลกนะ)

               ลิฟท์แต่ละอาคารต่างก็มีลักษณะที่แตกต่างกัน ทั้งรูปร่าง ความทันสมัย และความไวของลิฟท์ บางที่เดินขึ้นบันไดอาจจะเร็วกว่า แต่บางที่ก็ไวซะรู้สึกวูบ ใจหายวาบกันเลยทีเดียว แต่เชื่อว่าต่อให้เร็วแค่ไหน ก็คงไม่มีทางเร็วไปกว่าลิฟท์ที่ พี่มิ้นท์ จะแนะนำในวันนี้แน่นอนค่ะ

               ปกติแล้ว ลิฟท์ในอาคาร สำนักงาน โรงพยาบาล หรือตามห้างต่างๆ ที่น้องเคยขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นลิฟท์โดยสาร ซึ่งลิฟท์ประเภทนี้ โดยทั่วไปจะมีความเร็วอยู่ 3 ระดับ คือ

              - ลิฟท์ความเร็วต่ำ มีความเร็วไม่เกิน
60 เมตรต่อนาที หรือ แค่ประมาณ 3.6 กม./ชั่วโมง
              - ลิฟท์ความเร็วปานกลาง มีความเร็ว 90 - 105 เมตร/นาที
              - ลิฟท์ความเร็วสูง มีความเร็วตั้งแต่ 120 เมตร/นาที หรือ 7.2 กม./ชั่วโมง จะใช้ในตึกที่มีความสูงมากกว่า 25 ชั้น

             แต่จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าลิฟท์ที่มีความเร็วสูงที่สุด มีความเร็วถึง 1,080 เมตร/นาที หรือประมาณ 64.8 กม./ชั่วโมง!!!

    
              ลิฟท์ความเร็วสูงนี้ เป็นนวัตกรรมที่ผลิตขึ้นจาก บริษัทมิตซูบิชิ อิเล็คทริก คอร์ปอเรชั่น มีความเร็วในการเคลื่อนที่ถึง 1,080 เมตร/นาที ถ้าเทียบเป็นหน่วยกิโลเมตร ก็ต้องบอกว่าเร็วถึง 64.8 กิโลเมตร/ชั่วโมงเลยทีเดียว (รถเมล์ไทยยังจำกัดความเร็วอยู่แค่ 60 กิโลเมตร/ชั่วโมงเองนะ) แต่ในความเร็วนี้เค้าไม่ได้ละทิ้งเรื่องความปลอดภัยเลยค่ะ
            เจ้าลิฟท์ความเร็วสายฟ้าฟาดตัวนี้ มีกำหนดติดตั้งในอาคารเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ ประเทศจีน ซึ่งเป็นอาคารที่มีความสูงถึง 632 เมตร ด้วยความเร็วขนาดนี้ จึงถือได้ว่าทำลายสถิติเดิมจากความเร็วลิฟท์ 1,010 เมตร/นาที ที่ติดตั้งอยู่ในอาคารไทเปได้อย่างราบคาบ

             
ในด้านความปลอดภัย ได้ถูกออกแบบมาอย่างดี โดยมีเซฟตี้เกียร์ ทำหน้าที่ล็อคลิฟท์ให้ติดกับรางลิฟท์ เพื่อป้องกันไม่ให้ลิฟท์ตกเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน นอกจากนี้เบรกก็ทำจากวัสดุเซรามิกสมัยใหม่ ทนต่อการขัดถูกอย่างดีเยี่ยม ต่อให้เกิดแรงเสียดสีและความร้อนสูงแค่ไหน ก็ไม่ขาดง่ายๆ รวมถึงมีระบบกันกระแทกที่ฐานของลิฟท์ด้วย

             
สายสลิง ผลิตจากเหล็กกล้ามามัดรวมกัน ซึ่งมีพื้นที่หน้าตัดและความหนามากกว่าสายสลิงในลิฟท์ธรรมดา และปัญหาเรื่องการยึดตัวของสายสลิงก็น้อยด้วย ดังนั้นก็ช่วยลดปัญหาการสั่นของตัวลิฟท์ได้

              และถ้าหากใครเคยขึ้นลิฟท์สูงๆ จะรู้ว่า เมื่อถึงจุดๆ นึง หูของเราจะอื้อ เพราะบรรยากาศเปลี่ยนแปลง ความกดอากาศภายนอกต่ำกว่าแรงดันภายในตัวเรา แต่ถ้าได้ลิฟท์ตัวนี้ จะไม่เกิดปัญหานี้เลยค่ะ เพราะจะมีการติดตั้งเครื่องควบคุมบรรยากาศ ซึ่งประกอบไปด้วยพัดลม ท่อลม และกล่องที่สลับระหว่างอากาศเข้าและออกได้ เรียกว่าไฮเทคสุดๆ

               เป็นยังไงกันบ้างคะน้องๆ สำหรับลิฟท์ความเร็วสูงนี้ หลายคนอาจกำลังคิดสนุกๆ ว่าอยากขึ้นไปชั้นบนสุดและลงมาล่างสุด แบบไม่แวะชั้น  พูดแล้วใจหายแว๊บ ท้องไส้ปั่นป่วนเหมือนกันนะเนี่ย 5555 แล้วน้องๆ ล่ะค่ะ อยากขึ้นลิฟท์ตัวนี้กันบ้างรึป่าว

อขอบคุณข้อมูลและรูปภาพประกอบจาก
www.mtec.or.thwww.popsci.com
www.platinum-engineering.net
http://nyuwassermanblog.career.admin.nyu.edu/
www.skytower.md


พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

24 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Sky Iceburn Member 25 ก.ค. 55 20:48 น. 7

ถ้าเกิดอยากเล่นรถไฟเหาะ ก็ไม่ต้องไปสวนสนุกแต่ไปขึ้นลิฟต์ได้เลยสินะคะ=w=;;;
//ยังไงก็น่ากลัวอยู่ดีค่ะ กลัวความสูงไม่พอ กลัวลิฟต์ตกด้วยค่ะ!!!T^T

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ซ่อนนาม Member 25 ก.ค. 55 22:06 น. 10
...เหมือนตกฟิสิกส์กันหลายคน
ไม่สิไม่ได้ตกหรอก แต่ลืมที่จะนำความรู้มาประยุกต์ใช้กับชีวิตจริงต่างหาก
(ดังนั้นแปลได้ว่าระบบการศึกษาไทยล้มเหลว - ฮา)

คือ... ความเร็วมันไม่มีปัญหาเลย ปัญหาคือความเร่งต่างหาก
ความเร่งจะทำให้แรงเฉื่อยเปลี่ยน เมื่อแรงเฉื่อยเปลี่ยน เราจะรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงนั้น
ดังนั้นแม้ความเร็วจะมากแค่ไหน แต่ถ้าความเร่งเปลี่ยนแปลงไม่มากจะไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น
ตัวอย่างง่าย ๆ ก็รถยนต์ เราจะรู้สึกตัวตอนที่เร่งความเร็วหรือเบรคเท่านั้น
หากอยู่ที่ 160กม/ชม แต่ไม่ได้เปลี่ยนความเร็ว เราก็ไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น
แน่นอนลิฟต์นี้เองก็เช่นดัน หากไปใช้ ดีไม่ดีไม่รู้ตัวเลยว่ามันถึงที่หมายแล้วด้วยซ้ำ

ส่วนเรื่องการปรับแรงดัน... นี่เป็นเรื่องปรกตินะสำหรับลิสต์ในอาคารระฟ้าเช่นนี้
มันมีอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใด ทว่าความเร็วลิฟต์นี่สิที่น่าสนใจ

ส่วนระบบลิฟต์เองก็แตกต่างจากอาคารปรกตินะ
ถ้าไปดูอาคารระฟ้าให้ดีจะพบว่า ลิสต์หลายตัวขึ้นลงแค่บางชั้นเท่านั้น
เช่นอาคารสนงของเซ็นทรัลเวิร์ล (เดินไปดูได้) ลิฟต์จะแบ่งโซนเอาไว้
ตัวนี้อาจจะตั้งแต่ชั้น 1-15 ตัวต่อมาอาจจะ 1,16-30 สุดท้ายอาจจะ 1,31-45 เป็นต้น
(ตัวเลขนี้ไม่ได้อ้างอิงตามอาคารสนงของเซ็นทรัลเวิร์ลนะ)
ที่ทำอย่างนี้ก็เพื่อทั้งประหยัดเวลา และให้สะดวกเวลาขนย้ายผู้คน
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
amayuri Member 26 ก.ค. 55 10:10 น. 12
อย่างนี้ถ้าเวลาลงลิฟต์ อาจจะรู้สึกเหมือนตกตึกก็ได้นะคะ

ตัวเราอาจลอยได้ด้วย(แรงเฉื่อย)
0
กำลังโหลด
jade Member 26 ก.ค. 55 13:42 น. 13
ยังกลัวๆ กับลิฟท์อยู่บ้าง

เวลาขึ้นลิฟท์นานๆ เช่น ลิฟท์ตึกสยามกิตต์ (จะช้าไปไหน - -" 5555) จะรู้สึกเวียนๆ ^^
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Nonthapat Member 26 ก.ค. 55 19:06 น. 15
โหความเร็วขนาดนี้มันจะเวียนหัวมั้ยเนี่ย และ ลิฟต์เนี่ยเป็นอุปกรณ์ที่ปลอดภัยสุด หวังว่าคงปลอดภัยเพราะความเร็วมาก -w-
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด