รวมเด็ด!! สุดยอดที่เที่ยว ใช้เวลาว่างให้ฉลาด

             สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com...  เคยถามตัวเองบ้างมั้ยคะว่า ปิดเทอมว่างๆ แบบนี้ทำอะไรดี อยู่บ้านเฉยๆ ก็เปลืองน้ำเปลืองไฟ จะไปเที่ยวก็เปลืองตังค์ค่ากิน ค่าเที่ยว ช้อปปิ้งเสื้อผ้า!! ถ้าใครมีคำถามแบบนี้อยู่ในหัว พี่มิ้นท์มีทางออกที่ดีมากกกก... ให้น้องๆ ได้เที่ยวแบบได้ความรู้ ประหยัดเงินและไม่น่าเบื่อด้วย สถานที่ที่กำลังจะพาไปก็คือ "พิพิธภัณฑ์" นั่นเองค่ะ

              น้องๆ รู้หรือเปล่าคะว่าประเทศไทยมีพิพิธภัณฑ์อยู่ถึง 1,289 แห่งทั่วประเทศ ทั้งที่เป็นของหน่วยงานรัฐ เอกชน และชุมชนต่างๆ ที่รวมมือกันจัดขึ้นมา นับว่าเป็นประเทศที่มีพิพิธภัณฑ์มากที่สุดติดอันดับโลกเลยนะคะ โดยสถิติเมื่อไม่กี่ปีก่อนไทยแลนด์มีพิพิธภัณฑ์เยอะเป็นอันดับ 2 รองจากอเมริกาเพียงแค่ประเทศเดียว แต่ทว่า..คนเข้าชมกลับมีปริมาณสวนทางกับจำนวนพิพิธภัณธ์แบบคนละทิศละทาง พิพิธภัณฑ์บางแห่งแทบจะไม่มีคนเข้าเลย (น่าสงสารจัง T^T) ดังนั้นวันนี้พี่มิ้นท์จึงขอเสนอพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจในแต่ละภูมิภาคให้น้องๆ ลองเข้าไปหาความรู้กัน ตามไปดูกันเล้ยย

  ⇒ พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 จ.แม่ฮ่องสอน

            พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 นี้ น้องๆ จะได้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แบบเต็มๆ เพราะในสมัยช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นได้เข้ามาหลบภัยที่อำเภอขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน หลังแพ้สงครามที่อินเดียและพม่า แต่สุดท้ายทหารเหล่านั้นก็เสียชีวิตเพราะอาการบาดเจ็บและความอดอยาก ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องเล่าเท่านั้น แต่ภายในยังมีสิ่งของโบราณของกองทัพทหารญี่ปุ่นให้ดูอีกจำนวนมากเลยค่ะ

  ⇒ พิพิธภัณฑ์เล่นได้ จ.เชียงราย

            ฟังชื่อก็น่าเข้าไปเล่นแล้ว พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชน เกิดจากความร่วมมือร่วมใจกันของกลุ่มคนเฒ่าคนแก่ ที่ต้องการถ่ายทอดภูมิปัญญาชาวบ้านของคนสมัยก่อนให้คนสมัยนี้จับต้องได้ทั้งรูปร่าง สี กลิ่น เสียง ผ่านอุปกรณ์การเล่นพื้นบ้านต่างๆ ในสมัยก่อน นอกจากจะได้ความรู้เรื่องแนวคิดและสภาพสังคมในอดีตแล้ว น้องๆ ยังได้เพลิดเพลินกับของเล่นที่อาจจะไม่มีในสมัยนี้แล้วก็ได้ น้องๆชาวเหนือคนไหนว่าง ลองหาข้อมูลแล้วยกแกงค์กันไปเที่ยวได้เลย

  ⇒ พิพิธภัณฑ์และศูนย์การเรียนรู้ด้านปิโตรเลียม กรมการพลังงานทหาร จ.เชียงใหม่

            ขอปิดท้ายที่ จ.เชียงใหม่อีกที่ค่ะ ปัจจุบันนี้คนไทยเพิ่งสนใจและตื่นตัวเรื่องพลังงานกัน พี่มิ้นท์ก็เลยอยากแนะนำน้องๆ ว่าประเทศไทยเราก็มีแหล่งความรู้เรื่องพลังงานอยู่เหมือนกัน โดยพิพิธภัณฑ์นี้ น้องๆ จะได้รู้ตั้งแต่ประวัติศาสตร์การสำรวจ ขุดเจาะ ผลิตและการกลั่นปิโตรเลียมของคนไทย รวมไปถึงความเป็นมาของ "บ่อน้ำมันฝาง"  ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันแห่งแรกของไทยด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีสถิติการใช้พลังงานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และการเสนอทิศทางการใช้พลังงานในอนาคต ทั้งพลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน พลังงานนิวเคลียร์ ฯลฯ ใครอยากอัพเดทความรู้ด้านพลังงาน มาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

   ⇒ พิพิธภัณฑ์สิรินธร จ.กาฬสินธุ์

           ตามตำราเรียนวิทยาศาสตร์ทุกเล่มบอกเอาไว้ว่าโลกยุคก่อนเป็นยุคไดโนเสาร์ ซึ่งเราก็ได้แต่เรียน ยังไม่เคยเห็นของจริงและซากของมันซักที แต่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้น้องๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับไดโนเสาร์อย่างแจ่มแจ้ง มีการจัดแสดงซากกระดูกไดโนเสาร์ และนิทรรศการเกี่ยวกับไดโนเสาร์ เช่น วิถีชีวิตของไดโนเสาร์ การล่าเหยื่อ การป้องกันตัว ฯลฯ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์แห่งแรกของไทยด้วยค่ะ

           นอกจากเรื่องไดโนเสาร์แล้ว ยังมีความรู้อื่นๆ อีก เช่น โลกและจักรวาล ธรณีวิทยา ไปจนถึงการกำเนิดมนุษย์ค่ะ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตระการตามาก

   ⇒ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง  จ.อุดรธานี

          น้องๆ คงคุ้นชื่อบ้านเชียงกันพอสมควร เพราะบ้านเชียงนับเป็นแหล่งโราณคดีที่สำคัญของประเทศไทยเลย ซึ่งเครื่องปั้นดินเผาที่บ้านเชียงนั้นสันนิษฐานว่าเป็นเครื่องปั้นดินเผาลายเขียนสีที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปเอเชียอาคเนย์หรืออาจจะเก่าแก่ที่สุดในโลกเลยก็ได้

          โดยพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเชียง จะแสดงทั้งในเรื่องขั้นตอนการขุดค้นทางโบราณคดี วัฒนธรรมของบ้านเชียงในอดีต ไปจนถึงเรื่องเครื่องมือเครื่องใช้ ที่แสดงถึงเทคโนโลยีในสมัยโบราณ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ จะได้เห็นโบราณวัตถุ เครื่องปั้นดินเผาแบบต่างๆ อย่างจุใจ

   ⇒ พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีไทยโบราณ จ.นครราชสีมา

          พิพิธภัณฑ์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นพิพิธภัณฑ์ด้านวัฒนธรรมเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ที่นี่ก็เช่นกัน พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีไทยโบราณ เป็นที่รวบรวมอุปกรณ์เครื่องใช้ไม้สอยของไทยโบราณที่มีแนวคิดทางวิศวกรรม เช่น ตะบันไฟในอดีต เป็นหลักการการจุดระเบิดในกระบอกสูบ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือที่จัดว่าเป็นของหายากอีกหลายชนิด เช่น กบไสไม้ขนาดเล็ก สว่านแบบต่างๆ ในสมัยโบราณ ส่วนของบางอย่างพูดไปอาจจะไม่รู้จักแล้วก็มี ดังนั้นถ้าใครอยากรู้เทคโนโลยีในอดีต ลองมาเห็นด้วยตา เชื่อว่าได้เห็นซักสี่ห้าชิ้นก็คุ้มแล้วค่ะ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา ค่ะ

   ⇒ พิพิธภัณฑ์ขนมไทย อัมพวา จ.สมุทรสงคราม

          ถ้ามีโอกาสน้องๆ ก็คงอยากลองกินขนมจากเมืองนอกบ้าง แต่น้องๆ รู้มั้ยคะว่าขนมที่อร่อยที่สุดในโลกสำหรับคนไทย ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลเลย มันก็คือขนมไทยนั่นเองค่ะ ปัจจุบันขนมไทยแบบต้นฉบับเริ่มหายากขึ้นทุกที บางชนิดเอ่ยชื่อไปก็ไม่รู้จักแล้ว แต่ถ้าได้ลองมาพิพิธภัณฑ์ขนมไทย ที่อัมพวา น้องๆ จะได้รู้จักขนมไทยทั้งที่คุ้นตาและไม่คุ้นตาเพิ่มมากขึ้น

          พิพิธภัณฑ์ขนมไทยแห่งนี้ได้รวบรวมและเผยแพร่ทุกอย่างเกี่ยวกับขนมไทยไว้ได้มากที่สุด โดยจัดแสดงขนมไทยจำลองชนิดต่างๆ ได้เห็นแล้วต้องบอกว่าน่ากินมากเพราะเขาจำลองไว้ให้เหมือนจริงที่สุด และที่สำคัญคืออนุญาตให้จับต้องได้ด้วย (แต่ควรจับอย่างสุภาพด้วยนะคะ) เท่านั้นยังไม่พอยังมีส่วนที่ให้ความรู้กี่ยวกับขนมไทย วิธีการขนมไทย มีการสาธิตการทำให้ดูด้วยค่ะ ใครที่มีโอกาสแวะมาเที่ยวอัมพวาอย่าลืมแวะมาชมความน่ารักของพิพิธภัณฑ์ขนมไทยกันด้วยนะ

   ⇒ เมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ

          เมืองโบราณเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวหลายคนปลื้มค่ะ พูดได้เลยว่ามาที่นี่ก็เหมือนได้เที่ยวทั่วเมืองไทยเลย เพราะเมืองโบราณเป็นแหล่งเรียนรู้ที่รวบรวมเอาสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมจากทุกภาคทั่วประเทศทั้งโบราณสถาน พระราชวัง สถาปัตยกรรมต่างๆมารวมไว้ด้วยกันบนพื้นที่กว่า 600 ไร่  เช่น หอพระแก้ว, พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท, วิหารสุโขทัย, ตลาดน้ำภาคต่างๆ, พระบรมธาตุ ไชยา สุราษฎร์ธานี, ประสาทหินพนมรุ้ง, เขาพระสุเมรุ เป็นต้น ซึ่งจะแยกไว้เป็นภาคๆ สะดวกดีค่ะ

          เป็นอีกแหล่งการเรียนรู้ที่เที่ยวทั้งวันก็ไม่รู้จะเที่ยวทั่วมั้ย ได้ความรู้ และถ่ายรูปออกมาสวยด้วยนะ สำหรับใครที่อยากมา พกร่มมาด้วยก็ดีนะคะ^^

   ⇒ สวนผีเสื้อและโลกแมลง จ.ภูเก็ต

           สวนผีเสื้อและโลกแมลงที่ จ.ภูเก็ต ถือได้ว่าเป็นสวนผีเสื้อที่มีขนาดใหญ่ มีทั้งส่วนที่เป็นนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับผีเสื้อและแมลงบนโลก และยังมีสวนผีเสื้อที่เราจะได้เห็นผีเสื้อบินว่อนตัวเป็นๆ กว่า 40 สายพันธุ์เลยค่ะ รวมถึงยังได้เห็นแมลงสายพันธุ์ต่างๆ ได้ด้วยตาตัวเอง นิทรรศการที่นี่ฉีกภาพนิทรรศการเดิมๆ ที่น้องๆ เคยเห็นแน่นอน ได้เห็นจากของจริงไม่ใช่แค่เพียงรูปภาพ ในบรรยากาศที่สีสันสดใสและให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติจริงๆ

   ⇒ เมืองจำลอง จ.ชลบุรี

          ถ้าใครอยากดูโบราณสถานจำลองแนะนำให้ไปเมืองโบราณที่สมุทรปราการ แต่ถ้าอยากดูสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของโลกแบบจำลอง พี่มิ้นท์แนะนำให้มาที่เมืองจำลองหรือมินิสยาม ที่พัทยา จ.ชลบุรี ค่ะ สถานที่ต่างๆ จะถูกจำลองให้เหลือขนาด 1:25 ความจริงแล้วมีสถานที่จำลองทั้งไทยและต่างประเทศเลยนะคะ อย่างของประเทศไทยจะเป็นสถานที่สำคัญๆ ของประเทศ เช่น สถานนีรถไฟหัวลำโพง พระปฐมเจดีย์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฯลฯ ส่วนโซนยุโรปก็น่าสนใจไม่แพ้กัน มีทั้งหอไอเฟล มหาวิหารโคโลญ อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ เป็นต้น บางทีแอ๊บถ่ายรูปกับที่เที่ยวระดับโลก เพื่อนนึกว่าเราไปมาจริงๆ ก็มีค่ะ ฮ่าๆ

   ⇒ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ม.บูรพา จ.ชลบุรี

           สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล หรือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบางแสน เป็นแหล่งความรู้ชั้นดีสำหรับน้องๆ ที่สนใจสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลค่ะ ที่นี่ได้รวบรวมและเลี้ยงสัตว์น้ำเค็มชนิดต่างๆ ไว้จำนวนมาก รวมถึงมีพิพิธภัณฑ์และนิทรรศการเกี่ยวกับระบบนิเวศและอาณจักรของสิ่งมีชีวิตในทะเล เช่น แพลงตอน ปะการัง ดอกไม้ทะเล ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์เปลือกหอย

           ส่วนที่น่าสนใจของสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลแห่งนี้ อยู่ที่ส่วนของปลาที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทร มีการเลี้ยงปลาขนาดใหญ่ เช่น ปลาหมอทะเล ปลาฉลามครีบดำในตู้เลี้ยงขนาดใหญ่ บรรจุน้ำถึง 1,000 ตันเลยทีเดียว

   ⇒ พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ จ.กรุงเทพมหานคร

          หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนว่าภายในกองทัพอากาศนั้นมีพิพิธภัณฑ์อยู่ด้วย หรือถ้าอยากมาดูเครื่องบินจะต้องมาเฉพาะวันเด็กเท่านั้น แต่ความจริงแล้วพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศยินดีต้อนรับน้องๆ ทุกวัน(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) แบบฟรีๆ เลยค่ะ แน่นอนว่ามาพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศต้องได้เห็นเครื่องบินรูปแบบต่างๆ ทั้งที่เคยประจำการในกองทัพอากาศ เครื่องบินที่หาดูได้ยาก ไปจนถึงอากาศยานที่ใช้ปราบปรามผู้ก่อการร้าย บอกได้คำเดียวว่าเท่สุดๆ

          พร้อมกันนี้ก็ยังมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับกองทัพอากาศ  เครื่อง เครื่องแบบทหารอากาศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ อุปกรณ์การบิน ห้องปรับอากาศความดันต่ำ เครื่องฝึกบินจำลอง เป็นต้น ใครอยากเป็นนักบินอยู่แล้วคงได้แรงบันดาลใจกลับไปเป็นกระบุงเลยค่ะ

   ⇒ บ้านแมวไทยโบราณ อัมพวา จ.สมุทรสงคราม

           น้องๆ รู้หรือเปล่าคะว่าแมวไทยโบราณมีกี่สายพันธุ์?? เชื่อว่าหลายคนไม่เคยรู้ ดีไม่ดีอาจไม่เคยสนใจเลยด้วยซ้ำ ที่แห่งนี้จะทำให้น้องๆ ได้รู้เรื่องแมวไทยมากขึ้นค่ะ ปัจจุบันแมวไทยพันธุ์โบราณแท้ๆ สูญพันธุ์ไปกว่า 13 ชนิดแล้ว ส่วนที่ยังเหลืออยู่มีเพียง 5 ชนิดเท่านั้น คือ แมววิเชียรมาศ แมวโคราช แมวศุภลักษณ์ แมวโกญจา(แมวดำปลอด) และแมวขาวมณี

           หลายคนสงสัยว่ารู้เรื่องแมวแล้วได้อะไรขึ้นมา ต้องบอกก่อนว่าสัตว์ในแต่ละประเทศต่างก็มีสายพันธุ์ที่แตกต่างกันไป อย่างของไทยเราก็มีตามที่ได้บอกไปแล้วข้างต้น หากไม่มีพิพิธภัณฑ์แบบนี้้ขึ้นมา คงไม่มีทางได้รู้จักสายพันธุ์พวกนี้แน่นอน ดังนั้นการได้มาดูมาเห็นด้วยสายตาตัวเอง น้องๆ ก็จะได้ความรู้มากขึ้น และถ้ามีโอกาสบอกต่อ เล่าให้รุ่นลูกรุ่นหลายฟังก็ถือว่ามีส่วนช่วยอนุรักษ์ได้ด้วยนะ

   ⇒ พิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราช

              ขึ้นชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑ์การแพทย์ของโรงพยาบาลศิริราช น้องๆ ที่เคยไปคงนึกถึงพิพิธภัณฑ์ซีอุยเป็นอันดับแรก แต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นค่ะ พิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราชมีพิพิธภัณฑ์ย่อยอีกหลายแห่งที่น้องๆ สามารถเข้าไปชมได้ เช่น

                - พิพิธภัณฑ์พยาธิวิทยาเอลลิส เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงวิวัฒนาการทางการแพทย์สาขาพยาธิวิทยา น้องๆ จะได้เห็นเลยว่าถ้าร่างกายของเราเป็นโรคต่างๆ จะมีลักษณะอย่างไรบ้าง

                - พิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ สงกรานต์ นิยมเสน ที่นี่รวบรวมงานด้านนิติเวชศาสตร์ของศิริราช เช่น ศพ ชิ้นส่วนมนุษย์ โครงกระดูกต่างๆ วัตถุพยานจากคดีต่างๆ เช่น การฆาตกรรม ฆ่าตัวตาย เป็นต้น ใครที่คิดจะเข้าพิพิธภัณฑ์นี้ต้องใจถึงนิดนึงนะคะ ฮ่าๆ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือที่ใช้ในการชันสูตรพระบรมศพรัชกาลที่ 8 รวมถึงโครงกระดูกของ ศ.นพ.สงกรานต์ นิยมเสน  และศพซีอุยก็อยู่ในพิพิธภัณฑ์นี้ด้วยค่ะ

                - พิพิธภัณฑ์ประวัติการแพทย์ไทย อวย เกตุสิ่งห์ พิพิธภัณฑ์นี้เน้นในความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย การคลอดบุตรแบบโบราณ การปรุงยา การนวดแผนโบราณ ไปจนถึงสมุนไพรนานาชนิดที่ใช้ในการแพทย์

                - พิพิธภัณฑ์ปรสิตวิทยา รวบรวมตัวอย่างปรสิตและสัตว์มีพิษต่างๆ ที่สำคัญต่อการแพทย์ เช่น แมลง งู พยาธิ ฯลฯ ซึ่งมีไว้เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ของนักเรียนแพทย์ด้านปรสิตวิทยานั่นเอง

                - พิพิธภัณฑ์กายวิภาค-คองดอน ขึ้นชื่อว่ากายวิภาคแล้ว แน่นอนว่าน้องๆ จะได้เห็นชิ้นส่วนและระบบในร่างกายมนุษย์ของจริงทุกระบบ  แต่นอกเหนือจากที่ว่ามานี้ยังมีส่วนที่แสดงถึงพัฒนาการการเกิดของมนุษย์ การพิการแต่กำเนิด เด็กแฝด เป็นต้น

            จัดเต็มทุกเรื่องที่เกี่ยวกับด้านการแพทย์จริงๆ เอ้า!! ใครอยากเป็นหมอพลาดไม่ได้เลยนะ
    
            จริงๆ ในประเทศไทยยังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอีกเป็นร้อยๆ ที่เลยค่ะ ไม่ว่าจะอยู่ภูมิภาคไหน จังหวัดไหนก็มีแหล่งที่พร้อมให้น้องๆ เข้าไปเรียนรู้ แต่จะให้พี่มิ้นท์เอามาหมดเกรงว่ากว่าจะเปิดอ่านได้เว็บต้องล่มก่อนแน่ๆ ซึ่งถ้าใครอยากรู้เพิ่มเติมสามารถใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาได้เลย หรือสนใจพิพิธภัณฑ์แนวไหน ทิ้งคำถามไว้ก็ได้ค่ะ

            สำหรับใครที่พร้อมออกเดินทางแล้วก็ลองชวนเพื่อนๆ ออกเดินทางด้วยกันสัก 1 วัน ไปที่ที่สนใจจริงๆ ไปเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว เชื่อเถอะว่าประเทศไทยยังมีสิ่งที่น่าสนใจทั้งทางด้านศิลปะ วัฒนธรรม ชีวิตความเป็นอยู่ของคนสมัยก่อนอีกมากมาย ลองแบ่งเวลามาศึกษาสังคมไทยกันบ้าง ชีวิตจะได้ไม่อินเทอร์เน็ตจนเกินไปนะคะ เปิดเทอมมายังมีเรื่องเม้าท์กับเพื่อนๆ อีกด้วย เริ่ดเว่อร์^^

ขอขอบข้อมูลและภาพประกอบในบทความจาก

เชื่อหรือไม่!! ดมกลิ่นกุหลาบตอนนอน เช้ามาความจำดีขึ้น


แบบทดสอบ : คุณ "ขี้เกียจเรียน" แค่ไหน


คนขี้ลืม... อย่าทำแบบนี้เด็ดขาด