7 พฤติกรรมอันตราย!! เปลี่ยนการเรียนจาก "รุ่ง"เป็น"ร่วง"

        สวัสดีค่าน้องๆ... เป็นยังไงกันบ้างกับเปิดเทอมใหม่ วิชาใหม่ อาจารย์คนใหม่ กำลังมีความสุขอยู่กับการเรียนอยู่มั้ย หรือกำลังจะคอหักเพราะอ่านหนังสือจนฟุบหลับคาโต๊ะบ่อย^^ เอาเป็นว่าไม่ว่าจะอยู่สภาพไหน ขอให้น้องๆ ทำหน้าที่นักเรียนในทุกๆ วันให้ดีที่สุด

         คอลัมน์ฟิตเกรดวันนี้ พี่มิ้นท์ขอพักเรื่องเคล็ดลับการเรียน การสอบเอาไว้ก่อน แล้วมาว่ากันถึงเรื่องพฤติกรรมที่ฉุดเกรดของเรา ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไป - -!! ดังนั้นก่อนสอบกลางภาคนี้ ชวนน้องๆ มาเช็คกันว่ามีพฤติกรรมไหนกันบ้าง แก้ไขตอนนี้ยังทัน การเรียนของเราจะได้ไม่ "ร.ร่วง" นะจ๊ะ

  >> ขอเล่นเกมส์ก่อน การบ้านค่อยทำตอนเช้า
        พูดง่ายๆ คืออาการขี้เกียจ ผัดวันประกันพรุ่งนั่นเอง ได้การบ้านมาก็บอกกับตัวเองว่าเดี๋ยวกลับบ้านค่อยทำแล้วกัน แต่พอถึงบ้าน ก็เลือกเล่นเกมส์ เข้าเฟซบุ๊กก่อนซะงั้น มารู้ตัวอีกทีก็สี่ทุ่มได้เวลานอน การบงการบ้านทำไม่ทันอีกแล้วT^T หลายคนบอกว่าเป็นแบบนี้ทุกวัน
        ทางแก้ไม่มีอะไรดีไปกว่าสะกดจิตตัวเองและควบคุมตัวเองให้ได้ คิดซะว่าคอมเรายังไม่ไปไหน แต่วิชาความรู้ต่างหาก ที่เราจะลืมมัน ถ้าไม่ลงมือทำการบ้านตอนนี้ ต้องฝึกวินัยให้กับตัวเอง ก่อนที่งานจะสะสมเป็นดินพอกหางหมู รอเกรดร่วง

  >> ทำการบ้านตอนเช้าไม่ทัน/ทำไม่ได้ ลอกเพื่อนดีกว่า
        เหตุการณ์ต่อเนื่องจากพฤติกรรมแรก ต้องมานั่งปั่นงานที่โรงเรียน แต่ก่อนเข้าแถวก็มีเวลาแค่น้อยนิด ทำไม่ทันก็ต้องลอกเพื่อน แถมลอกกลางเสาธงอีกต่างหาก งานนี้อาจารย์เดินตรวจแถวจับได้คาหนังสือคาเขา อนาคตดับวูบแน่ๆ ค่ะ
       อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่ทำให้หมดกำลังใจทำการบ้านคือ "ความยาก" เคยสงสัยกันมั้ยคะว่าทำไมตอนเรียนก็เข้าใจนะ แต่ออกจากห้องเรียนปุ๊บก็ลืมเหมือนไม่เคยเรียนมาก่อน โดยเฉพาะวิชาคณิตหรือวิทยาศาสตร์ทั้งหลายที่ต้องแสดงวิธีทำ หลายคนจึงเลือกที่จะรอลอกเพื่อนแล้วมาอ่านเองตอนสอบ แต่สุดท้ายจะกลับมาอ่าน ก็อ่านไม่เข้าใจ เพราะไม่ได้ทำเอง
       ทางแก้คือ พยายามทำให้ได้จนสุดความสามารถก่อน หากต้องแสดงวิธีทำ น้องก็ควรลองคิดในกระดาษ หากได้คำตอบแล้วค่อยทำลงสมุด ดีกว่ามาลบๆ แก้ๆ ในสมุด ทำให้เราท้อ จนไม่อยากทำนอกจากนี้อาจจะออนไลน์ สายตรง ไปหาเพื่อนที่คิดว่าช่วยเราได้ ให้เค้าช่วยอธิบายหน่อย ง่ายๆ แค่นี้ ช่วยให้ชีวิตเรารุ่งได้แล้ว
    
  >> งานกลุ่ม ขอมีชื่อเอี่ยวด้วย แต่ไม่ทำนะ
        เกือบทุกวิชา จะมีรายงานกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มเล็กๆ ไปจนถึงกลุ่มใหญ่ๆ งานกลุ่มแบบนี้น้องๆ จะได้เห็นคนทุกประเภท ได้รู้ว่าใครเก่ง ไม่เก่ง กินแรงหรือขยัน แต่พฤติกรรมที่จะทำให้เกรดของน้องๆ ร่วงได้ ก็คือ การไม่ช่วยเพื่อนทำงาน ขอเอาชื่อไปอาศัยในกลุ่มเฉยๆ พี่มิ้นท์ไม่สนับสนุนอย่างแรงค่ะ เพราะเป็นการเอาเปรียบเพื่อน แต่ละคนย่อมมีศักยภาพที่แตกต่างกัน ดังนั้นต่างคนต่างก็ต้องมีหน้าที่ที่ต้องทำ ยังไงซะจำนวนมือ จำนวนสมองที่มากกว่า งานก็สำเร็จได้ด้วยดีอยู่แล้ว
        ที่บอกว่าการเกาะเพื่อนแล้วทำให้เกรด "ร่วง" ได้ เพราะคุณครูชอบเอางานของเรามาเป็นตัววัดความรู้ บางทีก็ออกข้อสอบเกี่ยวกับงานที่ทำ ดังนั้นถ้าไม่ช่วยอะไรซักอย่างเลยเราจะเอาอะไรไปสอบ นอกจากนี้หากอาจารย์เข้มงวด ท่านอาจจะจับตามองอยู่ก็ได้ว่าใครไม่ช่วยงาน แบบนี้มีหวังได้ 0 คะแนนคนเดียวในกลุ่มแน่นอน ส่วนตัวพี่มิ้นท์คิดว่างานกลุ่มเป็นเรื่องสนุกค่ะ ได้แชร์ความคิดได้คุยเล่น แถมได้เจอหน้ากันวันเสาร์อาทิตย์ด้วย :)

  >> หนังสือมีไว้เก็บที่บ้าน
        จำได้ว่าสมัยเรียนมัธยม กระเป๋าหนักมาก แต่พอ ม.ปลายก็เริ่มเบาลง ไม่ใช่ว่าหนังสือน้อยลงนะ แต่เริ่มไม่เอามาเรียน บางทีก็ฝากไว้ที่โรงเรียนบ้าง หากมีพฤติกรรมข้อนี้อยู่ก็ "ร่วง" ได้ง่ายๆ เหมือนกัน เช่น กำลังเรียนอยู่เลยแต่ไม่เอาหนังสือมา จะเรียนรู้เรื่องได้ยังไง บางทีเจอเพื่อนที่ไม่แบ่งให้ดูก็งานเข้าอีกนะคะ หนังสือมีไว้ให้ความรู้นะคะ ไม่ได้มีไว้ประดับบ้าน เอามาเรียนเถอะจ้า
         พฤติกรรมนี้ไม่มีทางแก้ นอกจากเอาเรียนซะบ้าง หนักนิดเบาหน่อยก็ทนๆ ไป คิดว่าหนังสือเหล่านั้น คือ อนาคตของเรา แบกมาทุกวันก็เต็มใจ^^

  >> เป็นกบในกะลา เปิดตำราแค่เล่มเดียว
        การหาความรู้ที่ถูกต้องไม่ควรจดจ่ออยู่กับตำราเพียงเล่มเดียว บางทีเรื่องเดียวกันแค่ต่างสำนักพิมพ์ ก็อาจจะเรียบเรียงเนื้อหาไม่เหมือนกัน การเน้นความสำคัญของเรื่องบางเรื่องไม่เหมือนกัน ดังนั้นการอ่านหนังสือแค่เล่มเดียว ก็เหมือนเอาชีวิตไปเก็บไว้อยู่ใต้กะลา ไม่เห็นสิ่งรอบๆ ตัว
        ทางแก้คือ ก่อนสอบแวะเข้าห้องสมุดบ้าง หรือทำรายงานอะไรก็ตาม เปิดหูเปิดตา ดูหนังสือหลายๆ เล่ม จะได้มองเห็นอะไรกว้างขึ้น รอบรู้ขึ้น

  >> ชอบยำ ยำทุกวิชาอยู่ในเล่มเดียว
        เชื่อว่าหลายคนกำลังทำอยู่ ถ้าสมุดวิชาไหนที่จดๆๆ อย่างเดียว ไม่ต้องส่งสมุด ก็คิดจะจดรวมทุกวิชาเอาไว้ในเล่มเดียว หมดเล่มก็ค่อยต่อเล่มใหม่ จุดประสงค์ คือ ไม่อยากแบกมาหนักนั่นแหละ น้องๆ  รู้มั้ยคะ การจดทุกอย่างเอาไว้ในเล่มเดียว เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะถึงเวลาอ่านรับรองว่างงแน่นอน นอกจากจะหาไม่เจอแล้ว อาจจะอ่านผิดวิชา ไปตอบข้อสอบมั่วก็ได้นะคะ
        ทางแก้ คือ แยกจดเป็นรายวิชา เพื่อความเป็นระเบียบ และสะดวกต่อการกลับมาอ่านค่ะ

   >> หาเรื่องเอาเวลาเรียนไปทำกิจกรรม
        เคยเจอมุกตลกบอกไว้ว่าวิชาที่เด็กไทยชอบมากที่สุด คือ วิชาที่อาจารย์ไม่มากับวิชาที่อาจารย์ติดประชุม เพราะไม่ต้องโดดเรียนเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็มีอีกหลายคนที่พยายามหาข้ออ้างในการโดดเรียน และหนทางนึงที่ทำได้ คือ การใช้กิจกรรมบังหน้า
        โดยเฉพาะกิจกรรมของโรงเรียน เช่น กีฬาสี งานอาสาต่างๆ หรือซ้อมทำกิจกรรมเฉพาะกลุ่ม ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ว่าจะกิจกรรมอะไรก็ตามควรเป็นงานที่ใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียน แต่เหตุผลส่วนใหญ่ คือ ทำไม่ทัน โดยเฉพาะกีฬาสี ทำให้ต้องอ้อนวอนอาจารย์แต่ละวิชาอยู่บ่อยๆ แต่ถ้าบ่อยเกินอาจารย์ก็จะจับทางได้ ทีนี้ล่ะระวังร่วงทั้งเกรด ทั้งกิจกรรมเลยนะคะ
          ทางแก้คือ แบ่งเวลาให้ถูก เรียนเป็นเรียน กิจกรรมเป็นกิจกรรม คนที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องมีทั้งการเรียนและกิจกรรมก็จริง แต่พื้นฐานความสำเร็จนั้น ก็ควรแบ่งเวลาให้เป็นด้วยนะคะ

         เป็นยังไงกันบ้างเด็กๆ 7 ข้อนี้มีกันคนละกี่ข้อคะ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าทุกข้อที่กล่าวมาไม่ใช่ความผิดร้ายแรงอะไร แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ควร ลด ละ เลิก เพราะแต่ละอย่างชวนให้เกรดตกจริงๆ ค่ะ ดูๆ แล้วข้อที่ยากที่สุด น่าจะเป็นพฤติกรรมแรก ก็ไม่รู้ว่าเฟซบุ๊กและพวกโซเชียลออนไลน์มีอะไรดี ถึงดึงดูดให้เข้าไปได้ทุกวัน ฮ่าๆๆ แต่เข้าเฟซบุ๊กแล้ว ก็อย่าลืมแวะเข้ามาเว็บ Dek-D.com บ่อยๆ ด้วยแล้วกันนะ รับรองว่าเข้าเว็บนี้การเรียนไม่ร่วงจ้าา เพราะมีคำแนะนำดีๆ เพียบ^^