ประมวลเหตุการณ์ "ทะเลสีดำ" วิกฤตน้ำมันรั่ว ณ อ่าวพร้าว

           สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com... ประเทศไทยถือเป็นเมืองท่องเที่ยวจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะทะเลใสๆ หาดทรายสวยๆ ในบ้านเรา

           แต่ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา น้องๆ คงได้ยินข่าวกันมาแล้วว่าเกิดได้เกิดภัยพิบัติทางทะเลอันเกิดจากท่อน้ำมันรั่วและลอยเข้าสู่ฝั่ง ส่งผลให้น้ำทะเลและชายหาดที่อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง เปลี่ยนสภาพกลายเป็นสีดำอย่างที่ได้เห็น ต่างชาติก็ลงข่าวกันครึกโครมว่าสวรรค์เมืองไทยล่มไปเสียแล้ว T^T น้องๆ หลายคนที่ไม่ได้ติดตามข่าวอาจกำลังสงสัยกันอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น เรื่องเป็นมาอย่างไร วันนี้พี่มิ้นท์จะประมวลภาพรวมทั้งหมดมาให้อ่านค่ะ

           เริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ท่อน้ำมันในเรือบรรทุกน้ำมันดิบ 50,000 ลิตร ของบริษัทพีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) เกิดแตกขึ้นมา เมื่อแตกแล้วในขั้นแรกได้ทำการปิดวาล์วไปแล้วแต่ยังมีน้ำมันหลงเหลืออยู่ในท่อ ทำให้น้ำมันดิบรั่วออกมากลางทะเลบริเวณท่าเทียบเรือนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร แต่โชคร้ายกว่าที่คิดเพราะน้ำมันที่รั่วออกมาสกัดไว้ไม่อยู่ คลื่นลมทะเลพัดแรงจนคราบน้ำมันเข้ามาถึงชายฝั่งอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด เมื่อช่วงดึกของวันที่ 28 ก.ค. จนกระทั่งหาดทรายที่เคยสวยใสกลายเป็นสีดำตลอดเกือบ 1 กิโลเมตร โดยถูกคลุมด้วยคราบน้ำมันหนาถึง 20-30 เซนติเมตรและลงทะเลไปถึง 200 เมตรเลยทีเดียว จนผู้ว่าราชการจังหวัดต้องแจ้งปิดอ่าวและประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติทางทะเล พร้อมทั้งคอยป้องกันไม่ให้คราบน้ำมันกระจายไปชายหาดอื่นๆ

           ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นี้ แน่นอนว่าในเรื่องของระบบนิเวศน์เสียหายมากที่สุด สัตว์ทะเลทั้งปลา ปู หอย ฯลฯ ต้องตายไป และที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือแนวปะการัง ซึ่งได้ลงไปสำรวจกันมาแล้วพบว่าปะการังกว่าร้อยละ 30 ของอ่าวพร้าวถูกคราบน้ำมันเกาะแล้ว ต้องรีบฟื้นฟูโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นแนวปะการังก็จะถูกคราบน้ำมันเกาะและตายไปเช่นกันค่ะ บริเวณชายหาด โขดหินต่างๆ ก็ถูกเคลือบด้วยน้ำมันดิบจนกลายเป็นสีดำไม่น่ามอง สำหรับชาวประมงละแวกนั้นก็เดือดร้อนไม่แพ้กันเพราะออกไปหาปลาไม่ได้เหมือนเคย

          ผลกระทบด้านอื่นก็เป็นเรื่องการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบหนักไม่แพ้กัน เพราะอ่าวพร้าวเป็นอ่าวที่มีนักท่องเที่ยวมาพักจำนวนมาก แต่สภาพปัจจุบันคือไม่สามารถลงไปเล่นได้เลยค่ะ แถมยังมีกลิ่นเหม็นน้ำมันกระจายไปทั่วอีกด้วย ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากต้องออกจากอ่าวก่อนกำหนด

          อย่างไรก็ตามในช่วง 2-3 วันมานี้ น้องๆ จะเห็นได้ว่ามีทั้งเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานและทหารจากกองทัพเรือสวมชุดชีวภาพสีขาวมาช่วยกันกำจัดคราบน้ำมันบริเวณชายฝั่งกันอย่างขะมักเขม้น ทั้งวิธีการต่อสายดูดน้ำมันจากทะเล, ใช้พลั่วตักคราบน้ำมันบริเวณชายหาด ใช้แผ่นซับน้ำมัน เป็นต้น รวมถึงก่อนหน้านี้ทางบริษัทก็ใช้เรือฉีดพ่นสารเคมีสลายคราบน้ำมันไปแล้ว ก็ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคนและหวังว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และคืนความใสสะอาดของท้องทะเลให้กลับคืนมาไวๆ นะคะ^^

            

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพประกอบจาก
http://news.th.msn.com/ประมวลภาพ-วิกฤติน้ำมันรั่ว-ย้อมชายหาดเกาะเสม็ดเป็นสีดำ
www.tcijthai.com/tcijthainews/view.php?ids=2862
www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1375151780&grpid=03&catid=&subcatid=
รายการเจาะข่าวเด่น ช่อง 3.