สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวน่าสนใจออกมาเยอะแยะ ทั้งการเมือง บันเทิง เศรษฐกิจ แถมละครก็น่าดูหลายเรื่อง เชื่อว่าทำเอาน้องๆ แอบตามลุ้นเฝ้าหน้าจอทีวีจนไม่อ่านหนังสือเตรียมตัวสอบแน่ๆ อะแฮ่มๆ..อยากบอกว่าตอนนี้ใกล้สอบแล้ว ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้อยู่ ระวังคะแนนสอบร่วง พ่อแม่จะตีเอานะคะ T^T
ส่วนใครที่กำลังอ่านหนังสืออย่างขะมักเขม้น ก็ขอให้ทำข้อสอบราบรื่น อ่านโจทย์ปุ๊บรู้คำตอบปั๊บ ทำเสร็จก่อนเวลา และเพื่อให้การสอบเป็นไปอย่างราบรื่นสุดๆ ไม่สะดุดขาตัวเอง พี่มิ้นท์มีข้อควรระวังในการสอบมาเตือนน้องๆ ลองไปเช็คกันว่ามีอาการที่ส่อแววทำให้คะแนนร่วงอยู่หรือเปล่าน้าา...
คำสั่งมี แต่ไม่อ่าน
ร้อยทั้งร้อยกลัวว่าความรู้ที่อ่านมาจะหายไป เมื่อเข้าห้องสอบจึงรีบเปิดข้อสอบแล้วทำๆๆ ให้เสร็จรวดเดียว โดยที่ไม่ดูคำสั่งเลยแม้แต่นิดเดียว ใครที่ทำตัวแบบนี้อยู่ระวังไว้ให้ดีนะคะ เพราะส่อแววมาแล้วว่าน้องๆ เป็นคนไม่รอบคอบ หากเขาสั่งว่าให้ตอบ 2 ข้อถึงจะได้ 1 คะแนน แต่ความเคยชินทำให้น้องๆ ตอบข้อเดียว แค่นี้ก็เสียคะแนนไปฟรีๆ แล้วค่ะ
ดังนั้นไม่อยากพลาดคะแนนด้วยเรื่องง่ายๆ เสียเวลาอ่านคำสั่งนาทีเดียว ช่วยชีวิตน้องๆ ได้เยอะเลยนะ
สะเพร่า
คำๆ เดียวรวมทุกอาการไว้หมด เช่น ข้ามข้อที่ทำไม่ได้แต่ลืมทำสัญลักษณ์ไว้หน้าข้อ พอทำโจทย์ข้อต่อไปก็เมาเผลอไปกากบาทในข้อเดิม กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อ่านโจทย์ข้อ 100 แล้วกระดาษคำตอบอยู่ข้อ 99 นั่นแหละค่ะ ความสะเพร่าแบบนี้พี่มิ้นท์เองก็เคยเป็นค่ะ เจอแบบนี้บอกได้คำเดียวว่าเซ็งมากๆ เพราะไม่รู้ว่าเริ่มผิดตั้งแต่ข้อไหน ฮือๆ
ดังนั้นถ้าต้องข้ามข้อไหนหรือต้องการกลับมาทวนข้อไหน อย่าลืมทำสัญลักษณ์ไว้หน้าข้อเตือนตัวเองด้วยนะคะ ไม่งั้นเจ็บใจแย่เลย!!
เจตนาทุจริต
ทุกวันนี้คนที่สอบผ่านมาด้วยการทุจริตสอบมีอยู่จริงค่ะ ไม่ว่าจะเอาโพยเข้าห้องสอบ จดยุบยิบๆ ตามตัว การส่งซิกกับเพื่อนในห้อง หรือหาความรู้รอบโต๊ะ ทุกวิธีการถือว่ามีเจตนาทุจริตทั้งนั้น สุดท้ายน้องอาจจะได้คะแนนมา แต่คะแนนนั้นก็ได้มาแบบไม่บริสุทธิ์นะคะ ความผิดต้องติดอยู่ในใจแน่นอน
นอกจากนี้ ทุกๆ โรงเรียนมีมาตรการดูแลเรื่องการทุจริตสอบอยู่แล้ว ซึ่งโทษแต่ละโรงเรียนก็จะคล้ายๆ กัน คือ เริ่มตั้งแต่ตักเตือน ทำทัณฑ์บน ปรับตก พักการเรียน ไล่ออก!! ฉะนั้นอย่าเอาตัวเองไปเสี่ยงเลย โดนจับได้รู้ไปถึงไหน อายไปถึงนั่น สู้ทำเองแล้วได้คะแนนมาแบบบริสุทธิ์ใจดีกว่านะ
เจอข้อสอบปุ๊บ หลับปั๊บ
คนที่เข้าห้องสอบแล้วหลับเลยมีอยู่ 2 ประเภท คือ ทำไม่ได้เลยหลับ กับ ประเภทที่เห็นข้อสอบว่าง่ายเลยหลับ(แล้วค่อยตื่นมาทำ) แต่ไม่ว่าจะเป็นประเภทไหนก็ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะถ้าเกิดหลับลึกแล้วตื่นขึ้นมาตอนเหลือ 10 นาทีสุดท้าย ต่อให้อัญเชิญเทวดาหรือเจ้าที่บริเวณนั้นมาช่วยก็ทำไม่ทันแน่นอน อาการแบบนี้เรียกว่า "ประมาท" ค่ะ สุดท้ายถ้าเกิดต้องมั่วข้อสอบ โอกาสที่จะได้คะแนนดีๆ มีน้อยเหลือเกิน
มั่วแบบไม่มีเทคนิค
มาถึงจุดตกต่ำที่สุดในการสอบคือ ไม่รู้คำตอบ!! ตรงนี้ต่างคนต่างมีวิธีการเดาข้อสอบแตกต่างกันไป ตั้งแต่วิธีเบสิกอย่างร้องเพลงแล้วจิ้ม มั่ว สุ่ม ทิ้งดิ่ง ฯลฯ วิธีแบบนี้เป็นการมั่วแบบ 100% คือไม่ได้ใช้ความคิดเลย แน่นอนว่ามักจะผิดค่ะ
ดังนั้นถ้าไม่อยากให้คะแนนหายไปต่อหน้าต่อตา ควรมีเทคนิคในการเดาข้อสอบบ้าง เช่น การตัดช้อยส์ข้อที่ผิดออกไปก่อน การใช้หลักความน่าจะเป็นในการเฉลี่ยคำตอบ ก ข ค ง หรือ การพิจารณาดูทีละคำตอบว่ามีเล่ห์กลแอบแฝงอยู่บ้างหรือเปล่า เป็นต้น ลองฝึกมั่วแบบมีหลักการดู คะแนนจะได้ไม่ร่วงนะจ๊ะ
เครียดเกินกว่าเหตุ
พี่มิ้นท์รู้ค่ะว่าทุกคะแนนมีความสำคัญต่อเกรดทั้งนั้น แต่ลำพังจะเครียดกังวลจนกินไม่ได้ นอนไม่หลับก็ไม่ใช่เหตุผลที่ดีนัก ดังนั้นไม่ว่าจะก่อนสอบหรือระหว่างอยู่ในห้องสอบ น้องๆ ควรทำตัวสบายๆ หายใจเข้า-ออกลึกๆ ช่วยให้ผ่อนคลายได้ อย่าปล่อยให้ความเครียดเข้ามาครอบงำ ยิ่งอยู่ในห้องสอบด้วยแล้ว ความเครียดอาจทำให้น้องๆ ปวดหัว คิดไม่ออก หรือตื่นเต้นจนอาจโจทย์ผิดก็เป็นได้ ท่องไว้ อย่าเครียดๆๆ
ลังเล โลเล คิดลึกซึ้ง
น้องๆ เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มั้ยคะ ฝนคำตอบไปแล้ว แต่พอไปดูช้อยส์ข้ออื่นก็รู้สึกว่ามันถูกไปหมด แล้วลังเลเปลี่ยนใจไปตอบข้ออื่น สุดท้ายพอเฉลยออกมาคำตอบแรกดันเป็นคำตอบที่ถูก เหตุการณ์นี้ทำเอาหลายคนต้องเสียคะแนนไปแบบไม่น่าให้อภัย
ความลังเล โลเล ไม่มั่นใจ เป็นอาการนึงที่จะทำให้น้องๆ เสียคะแนนค่ะ ในทางจิตวิทยามีคนเคยบอกเอาไว้ว่าคำตอบแรกมักเป็นคำตอบที่ถูกต้อง เราต้องเชื่อในสัญชาตญาณของเรา คนอีกประเภทนึงคือ คนที่คิดลึกเกินไป ความจริงโจทย์อาจจะถามตรงไปตรงมา แต่น้องๆ คิดลึกจนเลือกตอบข้อที่ผิด ><
ร่างกายขาดความพร้อม
นอกจากความรู้จะต้องพร้อมแล้ว การเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกายก่อนเข้าสอบก็เป็นเรื่องจำเป็นค่ะ ข้อแนะนำที่ควรทำ คือ คืนก่อนสอบนอนให้เพียงพอจะได้ไม่งัวเงียในห้องสอบ เวลาง่วงๆ สมองเราคิดอะไรไม่ค่อยออกค่ะ หรือ 1 วันก่อนสอบไม่ค่อยกินของแสลง ของเปรี้ยว ของดองต่างๆ ที่จะทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน ลองคิดดูว่านั่งทำข้อสอบอยู่แล้วรู้สึกอยากปรู๊ดปร๊าดขึ้นมาจะมีสมาธิทำข้อสอบอยู่มั้ย
พึ่งแต่ไสยศาสตร์ แต่อ่านหนังสือไม่ถึงหน้า
วิธีดูว่าแต่ละโรงเรียนสอบวันไหนดูได้ง่ายนิดเดียว แค่ไปหน้าโรงเรียน ถ้าพระพุทธรูปหน้าโรงเรียนเต็มไปด้วยควันธูป น้ำแดงหรือของไหว้ต่างๆ ก็พอเดาได้แล้วว่าต้องสอบแน่ๆ 5555 เพราะเดี๋ยวนี้ความเชื่อและการบนบานศาลกล่าวสำคัญไม่แพ้การอ่านหนังสือเลยค่ะ แต่พี่มิ้นท์อยากจะบอกว่าความเชื่อก็อยู่ในส่วนความเชื่อ การขอพรหรือบนเป็นเพียงการเสริมสร้างกำลังใจเท่านั้น เพราะสุดท้ายจะสอบผ่านหรือไม่ผ่านก็ขึ้นอยู่กับความรู้ที่ได้จากการอ่านหนังสืออยู่ดี เอาเป็นว่าใครที่มัวแต่เดินสายไหว้พระขอพร แต่ไม่อ่านหนังสือเลย พี่มิ้นท์คอนเฟิร์มเลยว่าส่อแววคะแนนร่วงแน่นอน
พี่มิ้นท์หยิบมาเตือนกันในช่วงนี้ก็เพราะกำลังอยู่ในช่วงสอบ น้องๆ อาจวุ่นอยู่กับการอ่านหนังสือจนหลงลืมข้อปฏิบัติเหล่านี้ไป... บางคนบอกพี่คะ! นี่มันชีวิตหนูเลย!! อ้าว..ใครมีรู้ตัวว่ามีอาการเหล่านี้อยู่ รีบเปลี่ยนพฤติกรรมนะคะ คะแนนสอบจะได้สวยหรูดูเริ่ดๆ จ้า
แต่สำหรับใครที่สอบเสร็จแล้วรู้ตัวว่าทำไม่ค่อยได้ หากทำเต็มที่แล้วก็ไม่ต้องเสียใจค่ะ เราทำดีที่สุดแล้ว ไว้ปลายเทอมรอแก้ตัวกันอีกทีก็ไม่สายเกินไปค่ะ
20 ความคิดเห็น
เป็นประจำ
เจ็บใจอะ แต่บางครั้งการแก้ลังเลมันก็ถูกอะ
แล้วแบบนี้ควรแก้ไงดี
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 14 สิงหาคม 2556 / 16:35
สรุปเรียนไม่รู้เรื่อง มีสอบทีไรตกทุกที พยายามแก้ตัวเอง ฟังที่ครูสอน แต่มันก็เผลอหลับ ง่วงทุกครั้งจนเรียนไม่รู้เรื่องเหมือนเดิม T^T เศร้ามากตอนนี้ เปิดเทอมมาคะแนนยังไม่เคยถึงครึ่ง
เคล็ดลับที่ดีมีอยู่ว่า....1ทำสิ่งที่โค-ตะ-ระ ชอบก่อนสอบ
2ไม่ต้องอ่านหนังสือนะค่ะ หรือจะอ่านก็แค่เปิดผ่านๆอ่ะนะ
3ต่อจากข้อ 2 เพราะว่าเราต้องเริ่มจากเข้าใจบทเรียนแล้วล่ะนะ
4ต่อจากข้อ 3 เวลาเรียนก็ต้องจิตใจให้โล่งๆนะ
5ต่อจากข้อ 4 คิดว่าเรียนคือปัจจัยในการดำรงชีวิตประจำวัน เช่น เรามีชีวิต เพราะมีเลือด หรือ มีออกซิเจน
สรุป....
จะทำอะไรก็ให้ตั้งใจไว้ก่อน เรื่องสอบก็เหมือนกับข้าว เรื่องเรียนก็เหมือนกับน้ำ ต้องคู่กันกับชีวิตนะค่ะ
ป.ล.ที่บอกมาเนี่ย เราก็เป็นนะค่ะ และท่สำคัญเราไม่เคยอ่านหนังสือเลยด้วย แต่ได้ที่ 1 มาครองแบบชิลๆเลย สู้ๆนะค่ะ ลองเอาไปใช้ แต่ใช้ให้พอเหมาะ เดี๋ยวจะกลายเป็น 'คว้าน้ำเหลว' แทน
อันนี้เราคิดทฤษฎีขึ้นมาเองก่อนมาเห็นในเว็บ
เราก็เป็นจิตแพทย์ได้เหมือนกันนะเนี่ย 55555
ตอนสอบ )o(
เราเคยทำโจทย์คณิตข้อนึง แบบเห็นโจทย์แล้วคิดไม่ออกอ่ะ มันต้องทำไงว้าาาา...
เราก็เลยจัดการมั่วซะ! (แต่มีหลักการนะจ๊ะ) โดยการนึกสูตรต่างๆนานาตั้งแต่สมัยโคตรเง่าของพระเจ้าเหายังไม่กำเนิด...
ผลที่ได้คือ...!!! สูตรยาวเฟื้อยลงลึกไปถึงแก่นแท้ของหลักการ!!
ตอนครูเฉลย lol
ห๊ะ!! โจทย์มันง่ายขนาดนี้เลยหรอฟร๊ะ!? แล้วที่ตูคิดมามันคืออารายย.. อาราย .อาราย (ตกอยู่ในภวังค์ชั่วขณะ)
ข้อที่ลั่งเลโลเล คิดลึกซึ้ง ทำให้ผิดแล้วทำให้เสียคะแนนด้วย
ตัวปัญหาก็คือ "ลังเล"
เราไม่ค่อย(และไม่เคย)อ่านคำสั่งเลย เลยตอบผิด ทำไม่ถูก แงๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตก 2 วิชา!!
และก็พาเพื่อนทั้งห้องตกเพราะรอรหัสมือจากเรา 55
ถามตัวเอง ครูออกข้อสอบไม่รู้เรื่อง หรือตูเองโง่ฟะ (โจทย์ชีวะ บอกคำดียว มหัศจรรย์)เงิบ
คิดลึกก็มีคำตอบ คิดตื้นก็มีคำตอบ