หลังปีใหม่ผ่านพ้นไป อีกวันสำคัญที่ตามมาติดๆ ก็คือ วันเด็กแห่งชาติ ซึ่งในปีนี้ก็ตรงกับวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ชาว Dek-D.com หลายคนยังเนียนไปกับวันเด็กได้ ไหนๆ แวะมาบอกกันหน่อยว่าได้ไปเที่ยวฟรี กินฟรีที่ไหนมาบ้าง มาอวดให้พี่ๆ ทีมงาน Dek-D ช้ำใจหน่อย (ก็เลยวัยกันแล้วทั้งนั้น 555)
และเพื่อให้เข้ากับวันเด็กที่เพิ่งผ่านพ้นไป พี่มิ้นท์มีบทความโหยหาอดีตมาฝากกันอีกแล้ว เชื่อว่าหลายคนมีความทรงจำดีๆ สมัยเรียนอนุบาลหลายอย่าง จึงได้รวบรวมมาทั้งหมด 8 ข้อนี้ อยากรู้แล้วล่ะค่ะว่าจะเป็น 8 ข้อที่ตรงใจน้องๆ มั้ย ตามไปดูกันเลยจ้า
และเพื่อให้เข้ากับวันเด็กที่เพิ่งผ่านพ้นไป พี่มิ้นท์มีบทความโหยหาอดีตมาฝากกันอีกแล้ว เชื่อว่าหลายคนมีความทรงจำดีๆ สมัยเรียนอนุบาลหลายอย่าง จึงได้รวบรวมมาทั้งหมด 8 ข้อนี้ อยากรู้แล้วล่ะค่ะว่าจะเป็น 8 ข้อที่ตรงใจน้องๆ มั้ย ตามไปดูกันเลยจ้า
1. อนุบาลได้นอนกลางวัน
ทุกๆ วันหลังกินข้าวเที่ยงและแปรงฟันแล้ว (คาดว่า)ทุกโรงเรียนจะมีนโยบายให้เด็กนอนกลางวันด้วย เพื่อให้เด็กปรับตัวและคุ้นชินกับการเรียนในโรงเรียน และไม่ให้เด็กเครียดเกินไป แต่พอโตมาอยู่ ป.1 เท่านั้นแหละ เริ่มเรียนเต็มวัน ไม่มีให้นอนกลางวันอีกต่อไป ยิ่งเรียนสูงขึ้นยิ่งเรียนหนักขึ้น จนทุกวันนี้เลยแอบหลับในห้องเรียนโดยที่คุณครูไม่ต้องเรียกให้นอนเลย >
ทุกๆ วันหลังกินข้าวเที่ยงและแปรงฟันแล้ว (คาดว่า)ทุกโรงเรียนจะมีนโยบายให้เด็กนอนกลางวันด้วย เพื่อให้เด็กปรับตัวและคุ้นชินกับการเรียนในโรงเรียน และไม่ให้เด็กเครียดเกินไป แต่พอโตมาอยู่ ป.1 เท่านั้นแหละ เริ่มเรียนเต็มวัน ไม่มีให้นอนกลางวันอีกต่อไป ยิ่งเรียนสูงขึ้นยิ่งเรียนหนักขึ้น จนทุกวันนี้เลยแอบหลับในห้องเรียนโดยที่คุณครูไม่ต้องเรียกให้นอนเลย >
2. ขนมห่อละบาท
แม้ว่าของจะแพงขึ้นมากขนาดไหน แต่มั่นใจว่าของกินเล่นในโรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนระดับอนุบาล-ประถม จะมีขนมที่แบ่งขายราคาถูกๆ ราคาจะประมาณ 1-2 บาท ประเภทช็อกโกแลต ขนมกรุบกรอบห่อเล็กๆ ซึ่งขนาดก็จะพอดีตัวเราสมัยนั้น กินอิ่มแบบเพลินๆ ในช่วงบ่าย แต่พอเราโตขึ้นมาเรื่อยๆ จะให้ไปกินขนมห่อละบาทอาจจะหากินไม่ได้ บางทีอาจเจอแม่ค้ามองหน้า แต่ประเด็นสำคัญคือ มันไม่อิ่มอ่ะ อาจจะต้องหากินซัก 10 ห่อเป็นอย่างต่ำ
แม้ว่าของจะแพงขึ้นมากขนาดไหน แต่มั่นใจว่าของกินเล่นในโรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนระดับอนุบาล-ประถม จะมีขนมที่แบ่งขายราคาถูกๆ ราคาจะประมาณ 1-2 บาท ประเภทช็อกโกแลต ขนมกรุบกรอบห่อเล็กๆ ซึ่งขนาดก็จะพอดีตัวเราสมัยนั้น กินอิ่มแบบเพลินๆ ในช่วงบ่าย แต่พอเราโตขึ้นมาเรื่อยๆ จะให้ไปกินขนมห่อละบาทอาจจะหากินไม่ได้ บางทีอาจเจอแม่ค้ามองหน้า แต่ประเด็นสำคัญคือ มันไม่อิ่มอ่ะ อาจจะต้องหากินซัก 10 ห่อเป็นอย่างต่ำ
3. เรียนง่ายจัง
แม้จะรู้สึกว่าเด็กอนุบาลสมัยนี้เรียนยากกว่าสมัยก่อน แต่ก็ยังง่ายถ้าเทียบกับระดับชั้นปัจจุบัน เพราะการบ้านของหนูน้อยมีแค่ท่อง ก-ฮ นับเลข 1-100 ยากสุดก็บวกเลขหลักหน่วย เช่น 1+1 กลับบ้านมีการบ้าน 2 ข้อ เป็นต้น แต่ดูเดี๋ยวนี้สิทุกวันต้องเจอทั้งคณิตศาสตร์ชวนปวดหัว วิทยาศาสตร์ที่ไม่รู้จะเอามาประยุกต์ในชีวิตประจำวันยังไง ส่วนการบ้านน่ะหรอ แจกให้ทำยังกับมีเวลาให้ทำ 5 ปี ดังนั้นอีกเหตุผลที่อยากกลับไปเป็นเด็กอนุบาลก็คือ เรียนง่ายมากๆ นี่แหละค่า
แม้จะรู้สึกว่าเด็กอนุบาลสมัยนี้เรียนยากกว่าสมัยก่อน แต่ก็ยังง่ายถ้าเทียบกับระดับชั้นปัจจุบัน เพราะการบ้านของหนูน้อยมีแค่ท่อง ก-ฮ นับเลข 1-100 ยากสุดก็บวกเลขหลักหน่วย เช่น 1+1 กลับบ้านมีการบ้าน 2 ข้อ เป็นต้น แต่ดูเดี๋ยวนี้สิทุกวันต้องเจอทั้งคณิตศาสตร์ชวนปวดหัว วิทยาศาสตร์ที่ไม่รู้จะเอามาประยุกต์ในชีวิตประจำวันยังไง ส่วนการบ้านน่ะหรอ แจกให้ทำยังกับมีเวลาให้ทำ 5 ปี ดังนั้นอีกเหตุผลที่อยากกลับไปเป็นเด็กอนุบาลก็คือ เรียนง่ายมากๆ นี่แหละค่า
4. ชุดนักเรียนแบ๊วๆ
โตมาถ้าไม่ได้เรียนนานาชาติหรือเอกชนแพงๆ ก็แทบไม่ได้สัมผัสกับชุดนักเรียนน่ารักๆ เลย แต่สำหรับเด็กอนุบาลแล้ว เท่าที่เห็นแบ๊วเกือบทุกโรงเรียนเลยนะคะ เบาหน่อยก็กระโปรงสีแดง กระโปรงลายสก็อต ถ้าเวอร์ชั่นน่ารักสุดๆ ก็จะมีเอี๊ยมบ้าง เนกไทด์หรือโบว์บ้าง ฯลฯ แถมจะติดโบว์ ติดกิ๊บสีสันฉูดฉาด ลายพร้อยทั้งหัวก็ไม่ถูกตัดคะแนนความประพฤติอีกด้วย เรียกได้ว่าจะแต่งให้สดใสสมวัยขนาดไหนก็ได้ น่าอิจฉาจริงๆ
โตมาถ้าไม่ได้เรียนนานาชาติหรือเอกชนแพงๆ ก็แทบไม่ได้สัมผัสกับชุดนักเรียนน่ารักๆ เลย แต่สำหรับเด็กอนุบาลแล้ว เท่าที่เห็นแบ๊วเกือบทุกโรงเรียนเลยนะคะ เบาหน่อยก็กระโปรงสีแดง กระโปรงลายสก็อต ถ้าเวอร์ชั่นน่ารักสุดๆ ก็จะมีเอี๊ยมบ้าง เนกไทด์หรือโบว์บ้าง ฯลฯ แถมจะติดโบว์ ติดกิ๊บสีสันฉูดฉาด ลายพร้อยทั้งหัวก็ไม่ถูกตัดคะแนนความประพฤติอีกด้วย เรียกได้ว่าจะแต่งให้สดใสสมวัยขนาดไหนก็ได้ น่าอิจฉาจริงๆ
5. เรียนน้อยเหมือนไม่ได้เรียน
นอกจากจะมีนอนกลางวันและสื่อการเรียนการสอนน่ารักแล้ว เด็กอนุบาลยังเรียนน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับทุกระดับ กว่าจะเริ่มเรียนช่วงเช้าได้ก็ต้องกินนมโรงเรียนก่อน นั่งฟังครูท่อง ก-ฮ สัก 2-3 รอบก็ได้กินข้าวเที่ยง แล้วก็นอนกลางวัน ตื่นมาเล่น เรียนอีกชั่วโมงนึงก็ได้กลับบ้านแล้ว น่าอิจฉาจริงๆ เลย
นอกจากจะมีนอนกลางวันและสื่อการเรียนการสอนน่ารักแล้ว เด็กอนุบาลยังเรียนน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับทุกระดับ กว่าจะเริ่มเรียนช่วงเช้าได้ก็ต้องกินนมโรงเรียนก่อน นั่งฟังครูท่อง ก-ฮ สัก 2-3 รอบก็ได้กินข้าวเที่ยง แล้วก็นอนกลางวัน ตื่นมาเล่น เรียนอีกชั่วโมงนึงก็ได้กลับบ้านแล้ว น่าอิจฉาจริงๆ เลย
6. สื่อการเรียนการสอนน่ารักน่าเรียนสุดๆ
ในขณะที่ทุกวันนี้สื่อการเรียนการสอนของน้องๆ มีแต่หนังสือสีอึมครึม ข้างในก็ตัวหนังสือตัวเล็กๆ เรียงเต็มหน้ากระดาษ หนังสือหนาเป็นปึก ก็ชวนให้นึกถึงตำราเรียนของเด็กอนุบาล ที่จะมีเพียงเล่มบางๆ 4 สี รูปภาพการ์ตูนเต็มหน้ากระดาษ นอกจากหนังสือเรียนจะน่ารักน่าใช้แล้ว ยังมีสื่อการสอนอื่นๆ ที่ทำให้การเรียนในวัยเด็กน่าสนุกขึ้นอีกเยอะเลย เช่น โปสเตอร์ตัวการ์ตูน การ์ดคำต่างๆ ของเล่นตัวอักษร ฯลฯ จะว่าไปแล้วถ้าหนังสือเรียนของพวกเราเป็นแบบนี้บ้างก็คงเรียนสนุกขึ้นเยอะ ไม่ต้องวาดเล่นในหนังสือกันเอง 5555
ในขณะที่ทุกวันนี้สื่อการเรียนการสอนของน้องๆ มีแต่หนังสือสีอึมครึม ข้างในก็ตัวหนังสือตัวเล็กๆ เรียงเต็มหน้ากระดาษ หนังสือหนาเป็นปึก ก็ชวนให้นึกถึงตำราเรียนของเด็กอนุบาล ที่จะมีเพียงเล่มบางๆ 4 สี รูปภาพการ์ตูนเต็มหน้ากระดาษ นอกจากหนังสือเรียนจะน่ารักน่าใช้แล้ว ยังมีสื่อการสอนอื่นๆ ที่ทำให้การเรียนในวัยเด็กน่าสนุกขึ้นอีกเยอะเลย เช่น โปสเตอร์ตัวการ์ตูน การ์ดคำต่างๆ ของเล่นตัวอักษร ฯลฯ จะว่าไปแล้วถ้าหนังสือเรียนของพวกเราเป็นแบบนี้บ้างก็คงเรียนสนุกขึ้นเยอะ ไม่ต้องวาดเล่นในหนังสือกันเอง 5555
7. มีสนามเด็กเล่น
น้องๆ หลายคนอยากไปโรงเรียน(เมื่อตอนอนุบาล) ด้วยเหตุผล "จะไปเล่น" มากกว่าไปเรียน ก็ที่บ้านไม่มีสนามเด็กเล่นนี่นา แต่ที่โรงเรียนมีสนามเด็กเล่นพร้อมเครื่องเล่นเต็มไปหมด ไม่ว่าจะสไลเดอร์ ราวเหล็กให้ปีนไต่ๆ ม้าหมุน บ้านลูกบอล และอีกสารพัดเครื่องเล่นที่โรงเรียนจะสรรหามาให้เล่น
ประเด็นเรื่องของเล่นนี้พี่มิ้นท์มีเรื่องช้ำใจมาเล่าค่ะ ตอนอยู่อนุบาลก็มีเครื่องเล่นในสนามอยู่ 3-4 อย่าง แต่พอขึ้น ป.1 ปุ๊บ ทางโรงเรียนสร้างบ้านลูกบอลขึ้นมาใหม่ แล้วให้เฉพาะน้องอนุบาลเล่น ตอนนั้นได้แต่เกาะกรงลูกบอลร้องไห้ ได้แต่คิดในใจว่าทำไมไม่เกิดช้าอีกซัก 1-2 ปี
น้องๆ หลายคนอยากไปโรงเรียน(เมื่อตอนอนุบาล) ด้วยเหตุผล "จะไปเล่น" มากกว่าไปเรียน ก็ที่บ้านไม่มีสนามเด็กเล่นนี่นา แต่ที่โรงเรียนมีสนามเด็กเล่นพร้อมเครื่องเล่นเต็มไปหมด ไม่ว่าจะสไลเดอร์ ราวเหล็กให้ปีนไต่ๆ ม้าหมุน บ้านลูกบอล และอีกสารพัดเครื่องเล่นที่โรงเรียนจะสรรหามาให้เล่น
ประเด็นเรื่องของเล่นนี้พี่มิ้นท์มีเรื่องช้ำใจมาเล่าค่ะ ตอนอยู่อนุบาลก็มีเครื่องเล่นในสนามอยู่ 3-4 อย่าง แต่พอขึ้น ป.1 ปุ๊บ ทางโรงเรียนสร้างบ้านลูกบอลขึ้นมาใหม่ แล้วให้เฉพาะน้องอนุบาลเล่น ตอนนั้นได้แต่เกาะกรงลูกบอลร้องไห้ ได้แต่คิดในใจว่าทำไมไม่เกิดช้าอีกซัก 1-2 ปี
8. คุณครูใจดี
อย่างว่าแหละค่ะ ตอนเราเป็นเด็ก อยู่ในวัยกำลังน่ารัก ใครเห็นใครก็หลงรักอยากเข้ามาเล่นด้วย อีกทั้งวัยเด็กยังเป็นวัยที่ภูมิต้านทานต่อสังคมยังน้อยอยู่ คุณครูที่จะมาเป็นครูอนุบาลได้จึงต้องรู้จิตวิทยาเด็กเป็นอย่างดี ดังนั้นเราจะรู้สึกว่าครูอนุบาลที่ใจดีเนอะ เด็กร้องไห้ก็โอ๋ เด็กทำตัวน่ารัก เรียนเก่งก็แจกรางวัล แถมยังชื่นชมอยู่บ่อยๆ แต่พอโตมาเท่านั้นแหละ ลืมส่งการบ้านนิดเดียว ครูแทบจะโทรฟ้องแม่ให้อายเพื่อนบ้านเป็นเดือน บางทีก็อยากจะบอกเหมือนกันว่าถึงจะโตแล้ว พวกเราก็อยากได้ครูใจดีอยู่นะ จริงมั้ย ^_^
อย่างว่าแหละค่ะ ตอนเราเป็นเด็ก อยู่ในวัยกำลังน่ารัก ใครเห็นใครก็หลงรักอยากเข้ามาเล่นด้วย อีกทั้งวัยเด็กยังเป็นวัยที่ภูมิต้านทานต่อสังคมยังน้อยอยู่ คุณครูที่จะมาเป็นครูอนุบาลได้จึงต้องรู้จิตวิทยาเด็กเป็นอย่างดี ดังนั้นเราจะรู้สึกว่าครูอนุบาลที่ใจดีเนอะ เด็กร้องไห้ก็โอ๋ เด็กทำตัวน่ารัก เรียนเก่งก็แจกรางวัล แถมยังชื่นชมอยู่บ่อยๆ แต่พอโตมาเท่านั้นแหละ ลืมส่งการบ้านนิดเดียว ครูแทบจะโทรฟ้องแม่ให้อายเพื่อนบ้านเป็นเดือน บางทีก็อยากจะบอกเหมือนกันว่าถึงจะโตแล้ว พวกเราก็อยากได้ครูใจดีอยู่นะ จริงมั้ย ^_^
ยิ่งเขียน พี่มิ้นท์ยิ่งรู้สึกอยากกลับไปเรียนอนุบาลจริงๆ แต่ว่าถ้ากลับไปอนุบาลได้ ปีต่อมาขอโตเป็นผู้ใหญ่เลยนะ เพราะระหว่างทางกว่าจะเรียนจบนี่มันช่างเหนื่อยยิ่งกว่าหาทางไปดวงจันทร์อีก ฮ่าๆ แล้วน้องๆ ล่ะค่ะ เคยรู้สึกอยากกลับไปเป็นเด็กอนุบาลมั้ย แล้วมีเหตุผลอะไรบ้างที่อยากกลับไปอยู่วัยนั้น มาเปิดประเด็นกันได้น้า จะลองดูว่าอดีตวัยเด็กใครน่าอิจฉาที่สุด อิอิ
ขอขอบคุณรูปภาพประกอบจาก
www.bloggang.com/viewdiary.php?id=haipensuk&group=9&month=06-2012&date=14,
www.banmuang.co.th/2011/12/เจาะลึก-เด็กปฐมวัยเรีย/
www.bloggang.com/viewdiary.php?id=haipensuk&group=9&month=06-2012&date=14,
www.banmuang.co.th/2011/12/เจาะลึก-เด็กปฐมวัยเรีย/
51 ความคิดเห็น
ใช่เลยย
เรียนอนุบาลได้นอนกลางวัน
เหตุผลแรกโดนสุด
คิดถึงสมัยเรียนอนุบาลกับประถม
พอตอนเย็นกลับบ้านก็ได้เปิดดูรายการดีๆมีสาระ รายการเด็ก สารคดี การ์ตูน
หนังจีนกำลังภายใน ละครจักรๆวงศ์ๆเก่าๆที่เอามารีรันตอนเย็น และละครไทยเก่าๆ
ตอนนี้ดูได้แค่สารคดี การ์ตูน และละครไทยแนวที่ชอบเท่านั้น
สมัยที่เราเรียนอนุบาล 3 ทางโรงเรียนจะให้เด็กอนุบาลแต่งชุดไปรเวทมาเรียนทุกวันศุกร์
ตอนนี้หลังกินข้าว ครูมาสอนไม่ต้องเรียกหัวฟุบกับโต๊ะแล้วค่ะ ไม่ไหวแล้วค่ะ 55
อีกข้อนึงค่ะ
"ไม่มีการบ้านท่วมหัว"
อิจฉาตรงนอนกลางวันเนี้ยแหละ
ขอย้อนเวลากลับไปได้ไหม จะใช้ชีวิตของความเป็นเด็กอนุบาลให้คุ้มเลย
พี่คุณครูฝึกสอนใจดี เหมือนพี่เหมือนน้องกันทุกคน
แต่ครูประจำชั้น เก๋าๆหน่อย ก็เอ่อ... หาใจดียากหน่อยนะ
มีแต่โหดๆกะเด็ก สายระเบียบ ทำโทษเด็กดื้อไรงี้อ้ะ
อยากกลับไปเป็นครูอนุบาล ลูกๆ น่ารักกก คิดถึงงงงง
สำหรับเรา ทุกข้อที่กล่าวมาเหมือนมหาลัยมาก
1. ได้นอนกลางวัน...บางวันถ้ามีเรียนเช้า บ่ายๆอาจจะไม่มีเรียน ก็นอนได้ตามสบาย
2.ขนมห่อละบาท...ยอมรับว่าสมัยนี้ของไม่ถูกเหมือนเมื่อก่อน แต่ม.เราอยู่เชียงราย ค่าครองชีพต่ำกว่ากทม.เยอะเลย บอกตรงๆ ปิดเทอมกลับกทม.ทีนี่เราไม่กล้าซื้อข้าวจานละ45กินเลยนะ เพราะรู้สึกมันแพงมากๆๆๆ
3.เรียนง่ายจัง...อันนี้แล้วแต่คน แต่เราเลือกสายที่ชอบ มีแต่วิชาที่ถนัด เลยรู้สึกว่ามันง่ายกว่ามัธยมเยอะเลยอะ
4. ชุดนักเรียนน่ารัก...อืมมม เราว่ามันเท่มากกว่านะ ใส่แล้วดูสง่าดี ถ้าใส่ถูกระเบียบเป๊ะนะ ชอบกระโปรงทรงเอมาก
5. เรียนน้อยเหมือนไม่ได้เรียน...ที่อื่นไม่รู้เป็นไง แต่ที่ม.เรา สาขาเราเรียนสัปดาห์ละ21ชม.เอง แถมปกติอ.ก็ปล่อยเร็วกว่านั้นด้วย เรียนจริงๆประมาณ 16.3ชม. เทียบกับม.ปลาย เรียนวันละ7คาบ คาบละ50นาที 7*50*5 = 1,750 นาที = 29 ชม.
6. สื่อการเรียนการสอนน่ารัก...คือเวลาเรียน เราจะจดเล็กเชอร์ พอกลับหอก็เอาเรื่องที่จดมาจดใหม่ในสมุดอีกเล่มที่สวยๆ จดอย่างดี ใช้ปากกาหลายสี วาดรูปประกอบด้วย เวลาสอบแล้วเอามาอ่านรู้สึกมันน่าอ่านดีอะ
7. มีสนามเด็กเล่น...ที่นี่มีสวนสุขภาพ มีเครื่องออกกำลังกาย มีสระว่ายน้ำ สนามบอล เทนนิส ฯลฯ ถือว่าเป็นสถานที่เล่นสำหรับวัยรุ่นแล้วกันเนอะ
8.ครูใจดี...ยอมรับว่าครูมหาลัยมีใจดีบ้าง ใจร้ายบ้าง พวกไม่มีเหตุผลก็เยอะ(ไม่ได้ด่าสถาบันตัวเองนะ แบบนี้มีทุกที่แหละ) แต่อย่างน้อยครูก็ไม่ตี ขณะที่ครูอนุบาลเราตีเอาๆ ตีเกือบทุกวันเลย บอกตรงๆเราไม่ชอบให้ใครตีอะ ถ้าเราไม่ส่งงานตามเวลาก็ให้0ไปเลย ให้เกรดน้อย เป็นบทเรียนดีกว่าต้องตี แต่เราก็เข้าใจครูอนุบาลเพราะสมัยเด็กๆเรายังไม่รู้เลยว่าคะแนนสำคัญยังไง
ผู้หญิงผู้ชายเล่นด้วยกันได้ไม่มีใครมาล้อ
เรียนง่าย ได้นอน (ยุคนั้นพากันโดดนอนกลางวันกันเป็นว่าเล่น ปัจจุบันชิงหลับทุกคาบ)
อีกอย่างนึงคือ สมัยอนุบาลครูจะให้เด็กนอน แต่เอาเข้าจริงๆ เวลาเจอเพื่อนมันอยากเล่น ไม่ได้อยากนอน 55555 เราคนนึงล่ะ ครูให้นอนไม่นอน ลุกขึ้นมานั่งเล่น เพื่อนนอนหมด ไม่เป็นไร เล่นคนเดียวก็ได้ฟ่ะ เด็กเอนเนอร์จีสูง แต่พอโตมาอยากนอน กลับไม่ได้นอนซะงั้น
เถียงงงง!
รร.เรา อ.2 ก็ไม่ให้นอนกลางวันแล้ว แถมอนุบาลยัน ม.ปลาย ราคาขนมของสมุดเท่ากันหมด น้ำราคา 10 ขนาดน้ำราคาขนาดนี้ แล้วอย่างอื่นละจะขนาดไหน ;( ถูกก็ขนมปัง 5 บาท หมายถึงราคานะ ที่ถูกสุด แต่ขนมปัง 5 บาทนี่ไม่โอ