สวัสดีค่ะน้องๆ ตอนนี้รับตรง-แอดมิชชั่นปี 58 ได้เริ่มขึ้นแล้วนะคะ น้องๆ ที่เรียนอยู่ ปวช.ปี 3 ก็ถึงทางที่จะต้องตัดสินใจแล้วล่ะค่ะว่าจะไปต่อระดับ ปวส. หรือว่าจะเรียนต่อปริญญาตรี ซึ่งถ้าเลือก ปวส. ก็ต้องทำข้อสอบ V-NET ที่ทาง สทศ. จัดสอบให้ได้คะแนนดีๆ นะคะ เพราะว่าบางสถาบันจะใช้คะแนน V-NET เป็นเกณฑ์ตัดสินรับเข้าเรียนในแต่ละสาขา เรียกว่าเป็นคะแนนปูทางเพื่อเข้า ปวส. เลยค่ะ
แต่ถ้าใครเลือกที่จะเรียนต่อในระดับปริญญาตรี พี่แป้งก็ได้รวมเรื่องที่น้องๆ ปวช.ต้องรู้ก่อนที่จะกระโดดเข้าสู่สนามสอบรับตรง-แอดมิชชั่น 58 ค่ะ คิดว่าเป็นการปฐมนิเทศน์ของน้อง ๆ เพื่อเตรียมตัวก่อนที่จะลงสนามสอบเต็มตัวละกันนะคะ โดยเรื่องอะไรบ้างที่น้องๆ ปวช. ต้องรู้ ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
ข้อแรก : รับตรง VS แอดมิชชั่น ต่างกันยังไง?
การสอบเข้ามหาวิทยาลัยในระบบการศึกษาไทยแบ่งออกเป็น 2 ทางใหญ่ๆ คือ รับตรง และ แอดมิชชั่น น้องๆ หลายคนคงสงสัยว่า 2 ทางนี้ต่างกันยังไง?? เพราะฉะนั้นเรามาเริ่มที่รับตรงกันก่อนเลยค่ะ รับตรง คือ เราไปสอบกับมหาวิทยาลัยนั้นๆ เช่น มีรับตรงของ ม.เกษตรศาสตร์ เราก็สมัครไปที่ ม.เกษตรศาสตร์ หรือ มีรับตรงของ ม.ขอนแก่น เราก็ยื่นใบสมัครไปที่ ม.ขอนแก่น ได้เลย
ส่วนแอดมิชชั่นนั้นเป็นระบบกลางค่ะ เราสามารถเลือกได้ว่าอยากเข้าที่ไหน พูดง่ายๆ ว่าสามารถเลือกคละคณะ คละสถาบัน ได้ โดยไม่เกิน 4 อันดับค่ะ เช่น
อันดับ 1 เลือกคณะบริหารฯ ม.A
อันดับ 2 เลือกคณะการจัดการ ม.B
อันดับ 3 เลือกคณะบัญชีฯ ม.C
อันดับ 4 เลือกคณะครุศาสตร์ ม.D
แต่ให้ระวังไว้ว่าในรอบแอดมิชชั่นกลางจะมีบางคณะที่น้องๆ ปวช.เลือกไม่ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นคณะทางสายวิทยาศาสตร์ที่รับเฉพาะเพื่อนๆ ม.ปลายสายสามัญที่เรียนวิทย์-คณิตเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าน้องๆ จะแอดมิชชั่นก่อนที่จะเลือก 4 อันดับก็ต้องศึกษาเกณฑ์ในการคัดเลือกด้วย เพราะถ้าคุณสมบัติไม่ผ่านก็เสียอันดับฟรีๆ เลยถึงแม้ว่าคะแนนเราจะได้ก็ตาม
-------------------------------------------------
ข้อที่ 2 : ดูยังไงว่า ปวช. สอบได้หรือไม่ได้?
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การรับเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ไม่ค่อยรับเด็ก ปวช. แต่ว่าไม่ใช่ว่าไม่รับเลยนะคะ ถ้ามาดูกันในส่วนของระเบียบการจะเห็นได้เลยว่ามีหลายโครงการที่รับน้องๆ ปวช. แต่คำที่ใช้จะไม่ใช่ตรงๆ ว่าเป็น ปวช. ค่ะ จะใช้เป็นคำว่า ม.6 และเทียบเท่า คำว่า "เทียบเท่า" นี่แหละค่ะเป็น Keyword สำคัญในการดูโครงการรับตรงต่างๆ ถ้าเจอโครงการไหนที่บอกว่ารับ ม.6 และเทียบเท่าก็สมัครได้เลยค่ะ แต่บางโครงการก็จะมีบอกแยกเลยนะคะว่ารับ ม.6 และ ปวช. และจะระบุลึกไปอีกว่าเป็น ปวช. สาขาอะไร
หลักการดูโครงการรับตรงง่ายๆ แบบไม่ต้องเสียเวลาคือ ให้เลื่อนหาดูตรงหัวข้อ "คุณสมบัติผู้สมัคร" ได้เลยค่ะ ตรงนั้นแหละที่บอกว่ารับนักเรียนในระดับชั้นไหนบ้าง ถ้าไม่มีคำว่า เทียบเท่า หรือ ปวช. ล่ะก็ ปิดโครงการนั้นไปได้เลย ส่วนในรอบแอดมิชชั่นกลางจะตรงกันข้ามค่ะ ส่วนใหญ่แล้วในรอบแอดมิชชั่นกลางจะสามารถสมัครได้ทุกสายการเรียนเลยค่ะ เว้นแต่บางคณะ บางสถาบัน ที่จะระบุท้ายระเบียบการว่ารับเฉพาะ ม.6 สายวิทย์ สายศิลป์ เพราะฉะนั้นถ้าจะเลือกรอบแอดมิชชั่นแล้วควรจะเช็คก่อนว่าสาขาที่เราจะเลือกเค้ากำหนดไว้หรือเปล่า ถ้าไม่มีกำหนดสายการเรียนแสดงว่าสมัครได้ค่ะ สามารถอ้างอิงจากระเบียบการแอดมิชชั่นปี 57 ได้เลย คลิก
-------------------------------------------------
ข้อที่ 3 : สัดส่วนแอดมิชชั่นคืออะไร?
น้องๆ ปวช.คงได้ยินคำว่าสัดส่วนแอดมิชชั่นบ่อยๆ สัดส่วนแอดมิชชั่นคือ สัดส่วนของคะแนนที่จะใช้ในรอบแอดมิชชั่นกลางค่ะ ซึ่งประกอบไปด้วย GPAX 20% O-NET 30% GAT PAT 50% โดยทั้ง 3 ส่วนนี้จะขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้ค่ะ คะแนนในส่วนของ O-NET และ GAT PAT เราต้องสมัครสอบเอง แต่ว่า GPAX ที่มีค่าน้ำหนัก 20% เราไม่ต้องไปหาที่ไหนค่ะ เพราะว่าส่วนนี้คือเกรดเฉลี่ยสะสมตั้งแต่ ปวช.ปี 1 - 3 นั่นเอง ทางระบบที่สมัครแอดมิชชั่นจะดึงเกรดเฉลี่ยของเราตรงนี้มาเอง
คะแนนของแอดมิชชั่นกลางจะคิดเป็น 30,000 คะแนน โดยแบ่งออกเป็น GPAX 20% เท่ากับ 6,000 คะแนน O-NET 30% เท่ากับ 9,000 คะแนน และ GAT PAT 50% เท่ากับ 15,000 คะแนน ตอนนี้ก็ยังพอมีเวลาที่จะเร่งเกรดเฉลี่ย(GPAX) ขึ้นมาได้อีก 2 เทอมนะคะ ส่วน O-NET กับ GAT PAT ก็ต้องรอสอบค่ะ เมื่อได้คะแนนทั้ง 3 ส่วนมาคำนวณรวมกันแล้วจะได้คะแนนที่เป็นฐาน 30,000 คะแนนมา โดยการคิดคะแนนไม่ต้องยุ่งยากเลยค่ะ ทำคะแนนที่เราได้ไปใส่ใน โปรแกรมคำนวณคะแนน ได้เลย
ข้อที่ 4 : O-NET สำคัญไฉน?
การสอบ O-NET สำหรับน้อง ปวช. หากคิดว่าจะไม่แอดมิชชั่นกลางไม่ต้องสอบก็ได้ค่ะ ไม่ได้บังคับสอบ แต่ ปวช.เราจะต้องสอบ V-NET แทน อย่างไรก็ตามหากคิดว่าตัวเองอยากแอดมิชชั่นเข้ามหาวิทยาลัย ก็ควรสอบไว้จะดีกว่า เพราะ O-NET เป็นองค์ประกอบถึง 30% ถ้าไม่สอบก็ถือว่าหมดสิทธิ์แอดมิชชั่นทันที เพราะฉะนั้นถ้าจะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยพี่แป้งแนะนำว่าสอบไว้ดีกว่าค่ะ
ในบรรดาข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเป็น O-NET, 7 วิชาสามัญ หรือว่า GAT PAT เมื่อเทียบกันแล้วบอกเลยว่าการสอบ O-NET ง่ายที่สุดแล้วค่ะ เป็นการสอบพื้นฐานความรู้ทั่วไป บางวิชาสามารถเก็บได้จากการทำข้อสอบ ส่วนบางวิชาที่ไม่ถนัดก็ต้องลองอ่านเนื้อหาดู ถ้าเกิดว่าอ่านไม่รู้เรื่องก็ลองหาคลิปติวตามยูทูปเอานะคะ O-NET จะประกอบไปด้วย 8 วิชา คือ คณิต ไทย สังคม อังกฤษ และวิทยาศาสตร์ค่ะ ส่วนอีก 3 วิชาที่เหลือคือ ศิลปะ การงานฯ สุขศึกษา ซึ่ง 3 วิชาหลังนี้ส่วนใหญ่จะไม่ใช้ในรับตรง ใช้ในรอบแอดมิชชั่นแทนค่ะ
-------------------------------------------------
ข้อที่ 5 : 7 วิชาสามัญ สอบทำไม?
การสอบ 7 วิชาสามัญ ถ้าถามว่าจำเป็นมั้ย? ขอตอบว่าจำเป็นสำหรับคนที่เลือก "รับตรง" ค่ะ ถ้าใครเลือกที่จะรอรอบแอดมิชชั่นกลางก็ข้ามผ่านการสอบ 7 วิชาสามัญได้เลย
แต่ละโครงการรับตรงจะมีการคัดเลือกต่างกัน บางโครงการก็ใช้การสอบข้อเขียนเอง แบบนี้สายเด็ก ปวช. เลยค่ะ ไม่ต้องสอบอย่างอื่น แค่สมัครแล้วเตรียมตัวไปสอบโครงการนั้นได้เลย
แต่ก็มีบางโครงการที่จะเรียกเอาคะแนนของเราแทน คือไม่ต้องไปสอบที่สถาบันนั้น ๆ แต่เราต้องส่งคะแนนที่เรามีไปให้ทางโครงการนั้นดูว่าคะแนนเราสู้คนอื่นได้มั้ย? ถึงเกณฑ์หรือไม่ ซึ่งบางโครงการก็ใช้คะแนน GAT PAT บางโครงการก็ใช้ 7 วิชาสามัญ แต่ไม่ต้องกลัวนะคะว่าจะสมัครสอบไม่ทัน ส่วนใหญ่โครงการรับตรงที่ใช้ 7 วิชาสามัญจะเผยระเบียบการออกมาให้ดูก่อนวันสมัครสอบ 7 วิชาสามัญค่ะ เพื่อที่น้อง ๆ จะได้รู้ว่าต้องสมัครสอบวิชาไหนบ้าง
-------------------------------------------------
ข้อที่ 6 : GAT PAT ต้องสอบหรือไม่?
บอกตรงนี้เลยว่า GAT PAT นี่สำคัญมาก (ดอกจันไว้เลย 10 ดอก) เพราะว่าเป็นผลสอบที่ใช้ทั้งรอบรับตรงและแอดมิชชั่นกลาง รับตรงบางโครงการก็ไม่ใช้ 7 วิชาสามัญ แต่จะใช้เป็น GAT PAT แทน ส่วนรอบแอดมิชชั่นกลางก็ไม่ต้องพูดถึง มีสัดส่วนถึง 50% เรียกว่าชี้ชัดกันไปข้างนึงเลยว่าจะรอดหรือไม่รอด ซึ่งการที่เรียน ปวช. มาก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะสอบไม่ได้นะคะ แต่ก็ต้องรู้ก่อนว่าแต่ละวิชามีความสำคัญยังไงบ้าง ไปดูทีละตัวดีกว่า
- GAT เป็นวิชาพื้นฐานมาก มี 2 ส่วนคือเชื่อมโยง(ภาษาไทย) และ วิชาภาษาอังกฤษ
สมัครเลยเพราะรอบแอดมิชชั่นกลางทุกสาขา ทุกสถาบัน ใช้คะแนน GAT หมดค่ะ
มีตั้งแต่ 10% ไปจนถึง 50% เลยค่ะ
- PAT 1 วิชาคณิตศาสตร์ เป็น PAT ที่ใช้เยอะเหมือนกัน เป็นอีกวิชาที่พี่แป้งแนะนำเลยว่า
เด็ก ปวช. ต้องสอบ โดยเฉพาะสายพาณิชยกรรมศาสตร์ และ สายอุตสาหกรรม PAT 1
ใช้หลายคณะเลยค่ะ เช่น บัญชฯ บริหารฯ การโรงแรมฯ การจัดการฯ นิเทศฯ คหกรรมฯ
เอาเป็นว่าเป็นอีก 1 วิชาที่ต้องสมัครเลยค่ะ
- PAT 2 วิทยาศาสตร์ วิชานี้เหมาะกันน้อง ๆ ปวช. สายช่างอุคสาหกรรมที่จะเข้า
คณะวิศวกรรมศาสตร์ค่ะ ส่วนสาขาอื่นไม่ต้องสอบก็ได้ค่ะ
- PAT 3 วิชาเฉพาะวิศวกรรมศาสตร์ เฉพาะน้อง ๆ ปวช. สายช่างอุตสาหกรรมที่จะเข้า
คณะวิศวกรรมศาสตร์ เหมือนกันค่ะ สาขาอื่นก็มองข้ามไป
- PAT 4 สถาปัตยกรรมศาสตร์ ใช้เฉพาะเข้าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ค่ะ น้องคนไหน
อยากเข้าคณะนี้ก็สมัครเลยค่ะ แต่ถ้าไม่เข้าก็ไม่ต้องค่ะ ข้ามไปเลย
- PAT 5 วิชาเฉพาะครู เป็นวิชาที่ใช้สำหรับเข้าคณะครุศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ หรือใครที่
ไม่เข้าก็สมัครเผื่อไว้ได้ค่ะ ข้อสอบไม่ยากมากค่ะ
- PAT 6 ศิลปกรรมศาสตร์ วิชานี้เหมือนสถาปัตยกรรมศาสตร์เลยค่ะ แต่ต่างกันตรงนี้ใช้
เฉพาะเข้าคณะศิลปกรรมศาสตร์ ถ้าไม่ใช้ก็บอกผ่านไปเลยค่ะ
- PAT 7 วิชาภาษา แบ่งออกเป็น 6 ภาษาคือ ฝรั่งเศส เยอรมัน จีน ญี่ปุ่น บาลี และอาหรับ
ใครมีมีความรู้เรื่องภาษาพี่แป้งแนะนำว่าสอบไปเลยค่ะ เพราะบางคณะก็สามารถใช้แทน
PAT 1 ได้ หรือบางคณะก็เรียกเอา PAT 7 กับ GAT 2 วิชาเท่านั้น
สรุปวิชาที่ควรสอบคือ GAT, PAT 1, PAT 5 และ PAT 7 ค่ะ มี 4 วิชานี้เข้าได้หลายคณะ แต่จะสอบมากกว่านี้ก็ได้นะคะ การสอบ GAT PAT จะมีทั้งหมด 2 รอบต่อปีค่ะ เรียกว่า 1/58 และ 2/58 ที่ใช้ 58 เพราะเป็นปีที่เราจะเข้ามหาวิทยาลัยค่ะ ส่วน 1 กับ 2 ก็เป็นรอบแรกกับรอบที่ 2 ค่ะ จำง่ายๆ แค่นี้เอง
-------------------------------------------------
ข้อที่ 7 : ตามหาข่าวรับตรง-แอดมิชชั่น 58 ได้ที่ไหน?
การตามข่าวรับตรง-แอดมิชชั่น 58 มีหลายช่องทางมากเลยค่ะ ถ้าในส่วนของแอดมิชชั่นก็ตามได้ที่เว็บของ สอท. ที่ www.cuas.or.th ซึ่งข่าวจะอัพเดทในช่วงของแอดมิชชั่น ประมาณต้นปี 2558 ค่ะ
แต่ถ้าเกิดติดตามเรื่องการสมัครสอบไม่ว่าจะเป็น O-NET, GAT PAT หรือ 7 วิชาสามัญ ก็เข้าไปเลยที่เว็บของ สทศ. ที่ www.niets.or.th ค่ะ
ในส่วนของรับตรงก็สามารถติดตามได้ที่เว็บไซด์ของแต่ละสถาบันได้เลยค่ะ ถ้างง ๆ ละก็สามารถตามข่าวได้ที่ www.dek-d.com ที่นี่ได้เลยค่ะ รวมทุกข่าวเกี่ยวกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยไว้ที่เดียวเลย
ตอนนี้ก็มีข้อมูลคร่าวๆ แล้วว่าการเตรียมตัวต้องเป็นไปในแนวทางไหน ใครที่คิดว่ายังมีเวลาอีกตั้งหลายเดือนเนี่ยพี่แป้งบอกเลยว่าคิดผิดเลยค่ะ ถ้ายังไม่ได้เริ่มอะไรเลยนี่ถือว่าช้ามากแล้วค่ะ เพราะว่าการเรียนของสายอาชีพไม่ค่อยเน้นเนื้อหาวิชาการเหมือนสายสามัญ ซึ่งข้อสอบที่จะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นเนื้อหาวิชาการ!!! เพราะฉะนั้นน้องๆ ปวช. ต้องทำการบ้านอย่างหนักในการทำข้อสอบ O-NET, 7 วิชาสามัญ และ GAT PAT ค่ะ
ถ้าอยากปรึกษาเกี่ยวกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเด็ก ปวช. ก็สอบถามพี่แป้งหรือพี่เกียรติได้นะคะ โดยการติดต่อก็ไม่ยากเลย ทางแรกเม้นท์ไว้ที่กล่องคอมเม้นท์ด้านล่างเลยค่ะ ทางที่ 2 ไปตามทวิตเตอร์พี่ทั้ง 2 คนได้ที่ @paengdekd หรือ @kiatkarine ถ้าใครไม่เล่นทวิตเตอร์ก็ถามมาทาง My.ID ก็ได้ค่ะ คลิกดูด้านล่างได้เลยค่ะ อย่าลืมนะคะว่าเริ่มเตรียมตัวได้แล้ว แล้วก็ขอกล่าวต้อนรับเข้าสู่ "รับตรง-แอดมิชชั่น 58" อย่างเป็นทางการค่ะ เข้ามาเป็นครอบครัวเดียวกันนะคะ
บทความสายอาชีพ
บอร์ดสายอาชีพ
@Paengdekd
ตายๆ ทั้งโปรเจค สอบต่างๆนาๆ แถมงานอีกมากมายในเวลาเรียน++
43 ความคิดเห็น
หนูเรียนปวชอยู่ค่ะ จะต้องแอดมิดชั่นแล้ว ไม่พร้อมเลย ความรู้ไม่แน่น เรียนสามัญแค่ตอนปีหนึ่งพอปีสองก็เรียนแต่วิชาเอก พอปีสามก้อฝึกงาน แต่อยากเรียนนิติ มช. (หวังสูง55) แต่หนูเรียนออกแบบมา เปนกำลังใจให้ด้วยนะค่ะ ขอบคุนสำหรับ7เรื่องที่พี่มาบอกเล่านะค่ะ ไม่งั้นมืดแปดด้าน
เป็นคนนึงที่เรียน ปวช มาครับ บอกไว้เลยว่าไม่มีความจำเป็น ที่จะต้องกังวลเรื่องสอบเข้ามหาลัย
เด็ก ปวช แนะนำให้สอบตรงครับ จะมีโอกาสเข้าเรียนในสายที่ตัวเองชอบได้มากกว่า
แต่ถ้าจะแอดมิชชั่น ควรอ่านหนังสือวิชาสามัญให้มากๆ ครับ เพราะส่วนใหญ่เด็ก ปวช. อย่างเรา
เน้นไปด้านปฏิบัติ มากกว่าทฤษฎี และเน้นพวกวิชาชีพซะส่วนใหญ่ ทำให้เสียเปรียบ ในเรื่องวิาสามัญ
ปล. ขอให้สู้ๆ ครับ
///แก้ไขข้อความผิด
พี่แป้งครับ มีเทคนิคในการเริ่มอ่านหนังสือ แล้ว จำการอ่านหนังสือยังไงหรอครับ
ขอบคุนนะค่ะ สงสัย??อยู่ตั้งนาน แหน่ะ
หนูเรียน ปวช.อยู่ปี3 แล้วค่ะ สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ตั้งใจว่าถ้าเรียนจบ ปวช แล้วจะต่อมหาลัยเลย (ศิลปศาสตร์ ภาษาอังกฤษ) คือ หนูมีความรู้สึกว่าตัวเองชอบด้านภาษา ปล เพื่อนๆเห็นว่ายังไงค่ะ
พี่อยากแนะนำน้องๆเพิ่มเติมสักนิดนะคะ
พี่เอง ก็จบสายอาชีพมา สาขา ช่างไฟฟ้า (สาขาอาจไม่เกี่ยวกับสิ่งที่จะพูด แต่เผื่อมีใครอยากรู้๕๕๕)
เริ่มนะ สั้นๆ ไม่ยาวมาก
พี่อยากขอให้น้องๆ ลองสมัครโควต้า หรือ สอบตรง ก่อนแอดนะคะ โอกาสจะสูงกว่ามากๆเลย อย่างที่ มจพ. ก็จะรับปวช. ปวส. ในแต่ละสาขาค่อนข้างเยอะในสองรอบนี้
อย่าเพิ่งหวัดแอดมิชชันอย่างเดียวนะคะ พลาดมาจะเสียใจเอานะ
สุดท้าย ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคน ขอให้สมหวังนะคะ
น้องเรียนปวช.อยู่ค่ะ อยากเลยครุศาสตร์(บัญชี) ราชภัฎ้เชียงใหม่ ต้องทำยังไงบ้างค่ะ ต้องสอบอะไรบ้างค่ะ
โหยยยย คะแนน GAT PAT 50% ฮืออออออ ตอนนี้เรียนบัญชีค่ะ แต่ยิ่งเรียนก็ยิ่งรู้สึกเหมือนมันไม่ใช่ทางตัวเองทั้งๆที่เรียนก็เรียนได้ คะแนนสอบก็ดีแต่ความรู้สึกมันยังบอกว่าไม่ใช่อะไรที่ทำแล้วมีความสุขจริงๆ เราเป็นติ่งค่ะยอมรับเลย เป็นติ่งมาตั้งแต่อายุ 11 แล้วที่ติ่งมาจนถึงทุกวันนี้ก็เพราะภาษาค่ะ ชอบภาษาเกาหลีมากๆ ตอนนี้ฝึกเองจนอ่านออกเขียนพอได้แปลพอได้บ้างแล้ว เลยอยากไปเรียนอะไรที่ตัวเองรักจริงๆ สู้ๆนะคะทุกคน เราต้องผ่านมันไปได้ ฮึบ! แต่คืออยากรู้อ่ะค่ะว่าเขาจำกัดอายุมั้ยคะ ในการสมัคร
ใครรู้ว่าสมัครo-netวันไหน
ผมเรียนปวช.3คับ แต่ตอนนี้ผมต้องการเตรียมตัวสำหรับข้อมูลที่จะใช้สอบ v-net บ้างอะครับ ว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะให้คะแนน v-net ของผมไม่ต่ำเกินไป และถ้ามีกำหนดการคร่าว ๆ เกี่ยวกับการสอบบอกด้วยจะดีมากครับ และสอบรายวิชาไหนบ้างก้จะขอบคุณอีกครั้งครับ [bb-04][bb-04][bb-06]