สมุดใครว่าง จดไม่เคยทัน! มาดู 5 เทคนิคจดเนื้อหาให้เป๊ะกันเถอะ! (มีแจกหนังสือจ้า)

ประกาศผลน้องๆ ที่ได้รับรางวัลหนังสือ 5 รางวัล รางวัลละ 1 เล่มนะคะ
1. 'j'za 
2. Baba-bobo 
3. The Pandora Princess  
4. Baby_B.A.P_Jingkrabell 
5. Yam Tanchanok 
น้องๆ ที่ได้รับของรางวัล พี่อีฟจะติดต่อไปทางข้อความลับเพื่อยืนยันการรับของรางวัลนะคะ
และขอบคุณน้องๆ ทุกคน ที่เข้ามาแชร์วิธีจดของตัวเองกัน พี่อีฟได้วิธีใหม่ๆ เพียบเลย จะลองไปทำตามแน่นอนค่ะ :D

วิธีการจดเลคเชอร์ ส่วนตัวเป็นคนพกสมุดบันทึกหรือไดอารี่อยู่แล้ว บวกกับมีเพื่อนๆแนะนำมาเลยมีวิธีการจดเลคเชอร์เนื้อหาแบบนี้ .... 

-ถ้าอ.อธิบายในหนังสือแล้วมีเนื้อหาเพิ่มเติมก็จะใช้วิธีจดลงไปในหนังสือการโยงเนื้อหาเพิ่มเติมไว้ข้างๆหรือข้างบนที่มีพื้นที่เหลือ

-ถ้าไม่มีหนังสือ ส่วนมากจะทำเหมือนหมายแมพ ทำแบบที่เราเข้าใจ จะใช้ปากกาแดง,น้ำเงิน ดินสอ สลับกันเพื่อไม่ให้สับสน บ้างก็ใช้อักษรย่อแบบที่เราเข้าใจเอง

เป็นคนที่ไม่ค่อยชอบอ่านอะไรที่มีแต่ตัวหนังสือเยอะๆเลยใช้วิธีแบบนี้เพื่อเวลาอ่านทบทวนเราจะได้เข้าใจกับสิ่งที่เราสรุป ย่อ หรือจดบันทึกเอาไว้ และความคิดส่วนตัวคิดว่าการใช้สีสันของปากกาจะทำให้เราจำง่ายหรืออยากจะอ่านมันมากขึ้น วิธีนี้ใช้ได้ผลมากเลยล่ะ 

 My lecture????

เป็นหนึ่งคนที่ชอบจดนู่นนี่นั่นตลอดเวลาค่ะ! เทคนิคไม่มีอะไรยากเลย....

1.เลือกกระดาษกับปากกาจดโน๊ตค่ะ กระดาษที่หนูใช้โดยส่วนใหญ่จะเป็นกระดาษแบบไร้เส้น(หรือถ้ามีก็จะบางมากและห่างกันที่1 cm.ค่ะ) เนื้อกระดาษต้องดี น่าจด ส่วนปากกาจะเป็นปากกาหลายๆสี (เลือกยี่ห้อตามความชอบเลย~)

2.ก่อนเข้าห้องเรียน(โดยเฉพาะวิชายากๆ)ให้ตั้งสติค่ะทำสมาธิซักนาทีแล้วเข้าห้องจะช่วยให้ฟังแล้วเข้าหัวมากขึ้น จดได้ดีขึ้น

3.จดเฉพาะใจความสำคัญ คือ บางทีอาจารย์จะพูดมาสิบประโยคเพื่อพรรณนาให้นักเรียนเห็นภาพแต่เราก็เลือกที่จะจดแค่ใจความประโยคเดียว และใช้เวลาส่วนที่อาจารย์พรรณนานั่นแหละค่ะ วาดรูปน่ารักๆลงไปให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้น เวลาย้อนกลับมาอ่านจะได้ อ๋อ..... ตอนนั้นเป็นแบบนี้นะ

4.อุปกรณ์สำคัญคือไฮไลท์! เอาไว้เน้นตรงสูตรต่างๆ หรือประโยคที่ครูย้ำหนักๆ

5. จดเป็น mindmap หรือแผนภาพความคิด วิธีนี้จะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมๆของเรื่องที่เรียนค่ะ แต่การจดเเบนี้มีความจำเป็นที่จะต้องอ่านมาก่อนบ้างผ่านๆตามากกว่าวิธีอื่นค่ะ

6. ฟังแล้วค่อยจด คือการฟังก่อนว่าเนื้อหาเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร อาจารย์เน้นตรงไหน (แต่ต้องจดตามอย่างรวดเร็วเลยนะ!)

7. ใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษในวิชาที่เป็นภาษานั้น จะช่วยให้เราจำคำศัพท์ไปเลยไม่ต้องมานั่งท่องทีหลัง

8. รูปน่ารักๆช่วยได้ค่ะ วาดอะไรน่ารักๆใส่ลงไปเพื่อเพิ่มสีสันให้สมุดเล็กเชอร์ของตัวเอง

เท่านี้เองค่ะ ไม่ว่าวิชาไหนที่หนูจำเป็นต้องจดเล็กเชอร์ ก็เอาเกรดสี่มากอดสบายๆแล้ว^^

     **เทคนิคการจดเลคเชอร์ของหนูก็คือ mind mapping ค่ะ การวาดแผนที่ความคิดเป็นการจดงานด้วยสมองสองซีก ตามแบบของผู้คิดค้น คือโทนี่ บูซาน 

mind mapping ของหนูจะใช้วิธีการจดบันทึกที่ใช้สีสัน และรูปแบบ ประเด็นสำคัญ หรือกุญแจ รวมทั้งรูปภาพต่างๆ โดยข้อมูลเหล่านี้จะทำให้เห็นองค์รวม เวลาวาดmind mappingก็จะใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ในการสอดคล้องประสานข้อมูล ประเด็นสำคัญๆ ทั้งหมดอย่างสมเหตุสมผล เป็นระบบ mind mapping ช่วยให้ระดมสมองสองซีกมาใช้อย่างเต็มศักยภาพ เราจะจำแม่นในเวลาที่น้อยลง          

                                              mind mapping จะช่วยคือ ''_" 

1.แสดงความเชื่อมโยงของประเด็นที่เก่ียวข้องกัน สามารถเชื่อมโยงแนวคิดและประเด็นต่างๆในรูปแบบที่ช่ยวให้เราเข้าใจได้ดีขึ้น

2.จะช่วย"คั้น"เนื้อหาวิชาหนักๆ mind mapping จดลงแต่คำกุญแจเท่านั้น จึงเป็นการสรุปแนวคิด และประเด็นสำคัญที่ต้องรู้ในเนื้อหาเรื่องนั้นๆ อย่างครบถ้วน 

3.ช่วยให้สนุกกับากรเรียน เวลาดูหนังสือที่เขียนเป็น mind mapping เราจะไม่ง่วงเหงาหาวนอน จะรู้สึกเพลิน โรคเบื่อเรียนก็จะบรรเทา

4.ช่วยพัฒนาไปสู่ความทรงจำชั้นยอด (สีจะช่วยเพิ่มความทรงจำถึง 50เปอร์เซ็นต์)

5.รับประกันว่าเข้าใจลึกซึ้งและใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้เต็มที่

    ดังนั้นใช้ mind mapping จดงาน จะทำข้อสอบได้ไปกว่าครึ่ง ชัยชนะในสนามสอบจึงอยู่แค่เอื้อมมมมม!

การแลคเชอร์ของหนูก็คือ

    1.หนูจะอัดเสียงที่ครูพูดไว้ก่อนค่ะถ้าเป็นเรื่องที่ยาวแล้วต้องใช้เวลาในการอธิบายแต่ถ้าไม่ยากมากหนูก้จะจดใส่สมุดโดยการย่อและก็จดตามสไลด์เพาเวอร์พ้อยของครูค่ะ

   โดยวิธีจดในสมุดของหนูก็คือ หนูจะจับเฉพาะใจความสำคัญและก็บางครั้งจะใช้คำของตัวเองให้อ่านง่ายและเข้าใจง่ายขึ้นค่าาาา และที่หนูใช้บ่อยหนูจะใช้ปากกาสีค่ะมันจะทำให้ดูน่าอ่านและก็ดึงดูดให้อ่านมากกว่าด้วยค่ะ (คห.ส่วนตัวน้าาค้าาา)

2.เมื่อจดในสมุดเสร็จแล้วถ้ามีเวลาว่างหนูก็จะจดใหม่ใส่สมุดเล่มเล็กอีกรอบค่ะโดยที่อ่านก่อนแล้วนำไปจดเพื่อทดสอบความจำแล้วเสริมความเข้าใจด้วยค่าาาา

3.ใช้การวาดรูปช่วยบางครั้งค่ะ (แต่ไม่ค่อยไดใช้เพราะวาดรูปไม่ค่อยสวยค่าา) และบางครั้งก็ใช้โพสอิสติดไว้ตามแถบข้างของสมุดแล้วเขียนหัวข้อไว้ค่ะ จะได้รวบรัดและอ่านถูกตามที่ครูออกสอบค้าาา

    

-รีโพสนะคะตะกี้ลืมล้อกอิน-

นี่เป็นวิธีที่เราใช้มานานนะคะ เรียนรู้วิธีมาจากเพจในเฟสบุ๊คค่ะ 

แบ่งหน้ากระดาษเป็น 3 ช่อง 
ช่อง 1 เนื้อหาสำคัญๆ เอาที่จดทัน ใช้ภาษาตัวเองเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นค่ะ

ช่อง 2 เป็นพวก key word หัวข้อสำคัญที่พอพูดปุ๊ปนึกออกว่าเป็นอะไรค่ะ หรือจะเป็นที่อาจารย์พูดบ่อยๆก็ได้นะคะ

ช่อง 3 เอาเนื้อหาที่เราจดมาในหนึ่งคาบมาสรุปในช่อง 3 ค่ะ พอสรุปเสร็จก็ตัดแล้วเอามาร้อยใส่ห่วง ไว้อ่านเวลาอยู่นอกบ้านก็ได้นะคะ เวลาจะสอบก็อ่านง่ายค่ะ เพราะเราเเยกไว้อยู่ อ่านแป๊ปเดียวก็จำได้ค่ะ เพราะจดด้วยมือตัวเอง 

ปล.ใช้สีตกแต่งด้วยก็ได้นะคะ จะน่าอ่านค่ะ

ใช้ปากกาหลายๆสี แล้วก็เน้นวาดรูป จะช่วยให้เราเห็นภาพ เห็น concept และจำง่ายขึ้น

ของเราไม่ค่อยเน้นสวย แต่เน้นจดเนื้อหาสำคัญครบ มักจดด้วยดินสอ ไม่ก็ปากกาลบได้เพราะเวลาเขียนผิดจะได้แก้ไวกว่า ถ้าเป็นคำทับศัพท์ก็จดด้วยภาษาอังกฤษ ทำให้รู้จักศัพท์ใหม่ๆ วาดรูปเล็กน้อยพอให้ดูออก จดให้สั้นทีสุด

จดข้อมูลสำคัญค่ะ แล้วก็ใช้ วิธีตามเว็บอ่ะค่ะ แบ่งหน้ากระดาษเป็น 3 ช่อง ช่อง 1 เนื้อหาสำคัญๆ เอาที่จดทัน ใช้ภาษาตัวเองเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นค่ะ ช่อง 2 เป็นพวก key word หัวข้อสำคัญที่พอพูดปุ๊ปนึกออกว่าเป็นอะไรค่ะ หรือจะเป็นที่อาจารย์พูดบ่อยๆก็ได้นะคะ ช่อง 3 เอาเนื้อหาที่เราจดมาในหนึ่งคาบมาสรุปในช่อง 3 ค่ะ พอสรุปเสร็จก็ตัดแล้วเอามาร้อยใส่ห่วง ไว้อ่านเวลาอยู่นอกบ้านก็ได้นะคะ เวลาจะสอบก็อ่านง่ายค่ะ เพราะเราเเยกไว้อยู่ อ่านแป๊ปเดียวก็จำได้ค่ะ เพราะจดด้วยมือตัวเอง ปล.ใช้สีตกแต่งด้วยก็ได้นะคะ จะน่าอ่านค่ะ

อัดเสียงเลยค่ะเวลาจดวิชาไหนไม่ทันพอจะเรียนก็เตรียมมือถืออัดเสียงไว้เลยค่ะแต่ถ้าไม่ทันจริงๆแอบดูของเพื่อนตรงที่เราจดไม่ทันหลังจากเรียนเสร็จ 55555555555555

-รีโพสนะคะตะกี้ลืมล้อกอิน-

นี่เป็นวิธีที่เราใช้มานานนะคะ เรียนรู้วิธีมาจากเพจในเฟสบุ๊คค่ะ 

แบ่งหน้ากระดาษเป็น 3 ช่อง 
ช่อง 1 เนื้อหาสำคัญๆ เอาที่จดทัน ใช้ภาษาตัวเองเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นค่ะ

ช่อง 2 เป็นพวก key word หัวข้อสำคัญที่พอพูดปุ๊ปนึกออกว่าเป็นอะไรค่ะ หรือจะเป็นที่อาจารย์พูดบ่อยๆก็ได้นะคะ

ช่อง 3 เอาเนื้อหาที่เราจดมาในหนึ่งคาบมาสรุปในช่อง 3 ค่ะ พอสรุปเสร็จก็ตัดแล้วเอามาร้อยใส่ห่วง ไว้อ่านเวลาอยู่นอกบ้านก็ได้นะคะ เวลาจะสอบก็อ่านง่ายค่ะ เพราะเราเเยกไว้อยู่ อ่านแป๊ปเดียวก็จำได้ค่ะ เพราะจดด้วยมือตัวเอง 

ปล.ใช้สีตกแต่งด้วยก็ได้นะคะ จะน่าอ่านค่ะ

อ่านหนังสือครั้งที่1 อ่านพอจับใจความหลัก อ่านครั้งที่2 สรุปใจความ ครั้งที่3 สรุป 

แนะนำเอาเข้าใจ มีสีสันให้ดูสะอาดตาหน่อย

ใช้สีช่วยจำ ถ้าข้อความสำคัญก็สีแดง สำคัญน้อยลงสีส้ม ใช้สีโทนเดียวกัน ในหมวดเดียวกัน

บางวิชา อย่างชีวะ ควรวาดรูปประกอบไปด้วย ขีดเส้นให้เข้าใจ 

สวัสดีค่ะ วิธีจดเลคเชอร์ของเราคือ.. 1.ตั้งสติ ตั้งใจฟังค่ะ จับใจความสำคัญจากการฟังแล้วจดเป็นใจความสำคัญค่ะ ประมาณว่าไม่ต้องจดทุกคำพูดเอาที่เป็นใจความสำคัญค่ะ 2.วาดรูปค่ะ อันไหนที่เราคิดว่าจำเป็นรูปภาพน่าจะง่ายกว่าก็วาดรูปเลยค่ะ เพิ่มเติมสีสันให้เราจำได้ดีก็ยิ่งดีมากเลยค่ะ สะดุดตาด้วย ~^^ 3.ใช้ตัวย่อค่ะ ตัวย่อนี่สำคัญจริงๆ5555 จากคำว่า "ความ" ย่อเป็น ค. (ค.ควายจุด) ช่วยประหยัดเวลาด้วยคิคิ 4.การใช้ปากกาสี นี่ขาดไม่ได้เลยจริงๆ ก็ยังเชื่อเสมอว่าสีมีส่วนช่วยในการจดจำค่ะ55555 มีสีสันชวนอ่าน จบแล้วค่ะ ..ขอบคุณนะคะที่อ่านกัน : )

ทำมายแมปเลยค่ะ แล้วก็ใช้ลูกศรชีดโยงเอา ไม่งั้นก็ทำแบบลักษณะคล้ายๆแกทเชื่อมโยงน่ะค่ะ 

วิธีการจดเลคเชอร์ของหนูก็มีอะไรมากค่ะ แค่จดตรงจุดสำคัญๆที่ครูย้ำหนักหนา แล้วก็วาดรูปบ้างใช้ตัวย่อบ้าง ทำไมด์แมพบ้าง ถึงจะไม่ค่อยเน้นเรื่องความสวยแต่ก็ใช้ปากกาหลายๆสีในการจดด้วย เพราะมันจะทำให้จำได้ดีกว่าจดธรรมดา(คิดว่านะ)

ของเราจดเท่าที่ตัวเองเข้าใจก่อรส่วนตรงไหนไม่เข้าใจเราก็ค่อยไปจดค่ะ ลอกเพื่อนเอา5555 เราจะมีทริคค่ะ*เขาบอกว่าปากกาแดงจะทำให้จำง่ายกว่าเราก้จะใช้ปากกาแดงจดตรงที่สำคัญๆ ก้มีวาดรูปประกอบบ้าง ตกแต่งหน้ากระดาษให้สวยด้วยถ้าเรามีเวลานะคะ จะได้รู้สึกอยากหยิบขึ้นมาอ่านเวลาว่าง เราชอบใช่ปากกาสีจดค่ะแต่จะใช้ไม่เยอะจะได้ไม่สบสนแล้วก้ไม่มึนด้วย 5555 ตัวย่อด้วยค่ะสำคัญมากกก แบบว่าทั้งขก.ทั้งไว 5555

วิธีการจดเลคเชอร์ ส่วนตัวเป็นคนพกสมุดบันทึกหรือไดอารี่อยู่แล้ว บวกกับมีเพื่อนๆแนะนำมาเลยมีวิธีการจดเลคเชอร์เนื้อหาแบบนี้ .... 

-ถ้าอ.อธิบายในหนังสือแล้วมีเนื้อหาเพิ่มเติมก็จะใช้วิธีจดลงไปในหนังสือการโยงเนื้อหาเพิ่มเติมไว้ข้างๆหรือข้างบนที่มีพื้นที่เหลือ

-ถ้าไม่มีหนังสือ ส่วนมากจะทำเหมือนหมายแมพ ทำแบบที่เราเข้าใจ จะใช้ปากกาแดง,น้ำเงิน ดินสอ สลับกันเพื่อไม่ให้สับสน บ้างก็ใช้อักษรย่อแบบที่เราเข้าใจเอง

เป็นคนที่ไม่ค่อยชอบอ่านอะไรที่มีแต่ตัวหนังสือเยอะๆเลยใช้วิธีแบบนี้เพื่อเวลาอ่านทบทวนเราจะได้เข้าใจกับสิ่งที่เราสรุป ย่อ หรือจดบันทึกเอาไว้ และความคิดส่วนตัวคิดว่าการใช้สีสันของปากกาจะทำให้เราจำง่ายหรืออยากจะอ่านมันมากขึ้น วิธีนี้ใช้ได้ผลมากเลยล่ะ 

นี่เป็นการจดแบบของเราเนอะ55555

1. รอบแรกก็อ่านคร่าวๆก่อน อ่านแบบผ่านๆอะ ไม่ต้องโฟกัสมาก อ่านแบบให้มันซึมซับในสมองเข้าไปนิดนึง5555

2.  พออ่านคร่าวๆหมดแล้วก็ทำการเจาะลึกในเรื่องที่เราอ่าน เน้นไปเลย 

3. พูดออกมาเพื่อเป็นการทบทวนเรื่องที่เราอ่านไปเนอะ

4. ก็จดลงในสมุดด้วยภาษาพูดของเราเอง

ส่วนวิธีการจดก็ เราชอบจดแบบ จดตัวหนังสือวาดภาพประกอบอะ สนุกดี555555 ใช้สีเข้าช่วยติดสติ๊กเกอร์ เอาเทปแปะคือหนุก555555 แต่มันทำให้จำดีขึ้นนะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความสมำ่เสมอของแต่ละคนเนอะ ถึงจะจดเลกเชอร์ดีแค่ไหนแต่ถ้าไม่ได้เอาขึ้นมาอ่านมาทบทวนสมำ่เสมอก็เปล่าประโยชน์นะจะ 

ใช้วิธีการจดแบบแผนผังมโนภาพค่ะ จดแล้วแตกหัวข้อไปเรื่อยๆเชื่อมโยงกันค่ะ ทำให้รู้ว่าเรื่องนี้ต่อจากเรื่องไหน

สำหรับวิธีของเรา เราจะย่อเนื้อหาก่อนเรียนเอาไว้ก่อน เวลาที่อาจารย์สอนค่อยจดเพิ่มเติมจากที่ย่อเอาไว้แล้ว วิธีนี้ทำให้เราไม่มีปัญหาเรียนไม่ทันเลยล่ะ 

ใช้ปากกาหลายๆ สี ขึ้นหัวข้อใหม่ก็เปลี่ยนสี อันไหนที่ดูสำคัญๆ หรืออ.เน้นก็จะตีกรอบเพิ่ม วาดการ์ตูนมุมกระดาษไว้ล่วงหน้า โดยแต่ละหน้าไม่ซ้ำกัน พอเรานึกถึงตัวการ์ตูนตัวนี้ ก็จะนึกถึงเนื้อหาไปพร้อมกันด้วย

ใช้คำย่อบ้าง และด้วยความที่เรียนภาษาก็จะเลือกคำในภาษาอื่นที่เขียนง่ายกว่าแซมๆ ไปด้วยพอให้ตัวเองรู้เรื่อง (คนเดียว)

ปกติแล้วเวลาเรียนจะมีสมุดอีกหนึ่งเล่มไว้เขียนอะไรเพิ่มเติมค่ะ เวลาเลคเชอร์จะฟังอาจารย์ให้เข้าใจก่อน เขียนเพิ่มเติมในส่วนที่ไม่รู้ไว้ข้างๆ บางทีก็เขียนใส่สมุดอีกเล่มแยกไว้ ดอกจันหรือขีดเส้นใต้ย้ำว่าตรงนี้สำคัญ หรืออาจออกข้อสอบ พอเรียนจบหนึ่งบทจะมาทบทวนแล้วทำเป็นสรุปในแบบตัวเอง ขีดออกมาเป็นข้อๆให้จำง่าย ไม่ค่อยเน้นสีค่ะ ดูยุ่งและรกไปนิด แต่ก็แบ่งหมวดหมู่ด้วยสีที่ชัดๆ และถ้ามีเวลาว่างก็จะเอาบทเรียนบทต่อๆไปมาทบทวน จำคอนเซปคร่าวๆก่อนค่ะ  

การจดเลคเชอร์ในแบบฉบับของฉัน

ส่วนตัวเป็นคนชอบความเรียงค่ะ เวลาจดส่วนมากจะจดให้เป็นความเรียง อันไหนใช้ตัวย่อได้ในแบบที่เราเข้าใจก็จะใช้ เช่น สารละลาย ก็ใช้ สลล. เซลล์ เวลาขี้เกียจเขียนภาษาไทยก็จะเขียน cell ภาษาอังกฤษ คิดว่ามันน่าจะเขียนไวกว่า55555 บางครั้งก็ฟังก่อนค่ะ ฟังครูพูดให้จบแล้วเอามาเรียบเรียงใหม่ในแบบที่เราเข้าใจ แล้วก็เขียนลงไปโลด อันไหนสำคัญๆ ก็ใช้ปากกาเน้นข้อความหรือปากกาสีค่ะ ส่วนลายมือก็ไม่ต้องไปสนใจอะไรมาก 5555 เอาแค่เราอ่านออกพอ เนื้อหาบางส่วนก็อาจจะทำเป็นมายแมพค่ะถ้าสมมุติว่าเรียบเรียงเป็นความเรียงแบบที่ตัวเองชอบไม่ได้จริงๆ แต่ในมายแมพจะมีเนื้อหาน้อยๆ เน้นแค่คีย์เวิร์ดสำคัญๆ ใช้ตัวย่อสนุกสนานมากเลยในส่วนนี้555555 แล้วก็ต้องเอาปากกาสีทำวงกลมหรือสี่เหลี่ยมให้ดูดีขึ้นหน่อย เพราะเราแอบโรคจิตชอบอ่านความเรียง555555 เดี๋ยวจะไม่สนใจมายแมพต้องทำให้มีสีสันนิดนึง ;)