สวัสดีค่ะ น้องๆ ชาว Dek-D นอกจากเรื่องเรียนที่น้องๆ ให้ความสำคัญกันแล้ว ก็มีเรื่องการใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียน ที่น้องๆ ก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กันเลยค่ะ เช่น เราจะมีเพื่อนคบรึเปล่า เพื่อนในกลุ่มทะเลาะกัน มีปัญหากับรุ่นพี่รุ่นน้อง ฯลฯ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นหลายๆ ปัญหา อาจจะมีจุดเริ่มต้นจากนิสัยของน้องๆ แต่ละคนค่ะ
บางคนก็เป็นคนที่มีเสน่ห์ ใครเห็นก็อยากเป็นเพื่อนด้วย แต่กับบางคนชอบโมโหร้าย ใครเห็นก็กลัวทุกครั้ง ช่วงเปิดเทอมที่ผ่านมา มีใครที่มีเพื่อนน้อย หรือไม่ค่อยมีเพื่อนกล้าเข้าใกล้ เพราะเป็นคนที่หงุดหงิดง่าย โกรธง่ายบ้างรึเปล่าคะ ถ้าใช่ รีบใช้ช่วงเวลาปิดเทอมนี้เปลี่ยนแปลงตัวเองไปพร้อมกันเลยดีกว่า หรือถ้าใครไม่แน่ใจ ลองมาสำรวจตัวเองด้วย 8 ข้อง่ายๆ จากสำนักพิมพ์ Read comics กันก่อนเลยค่ะ
( ) 1. ฉันมักหงุดหงิดเวลาต้องเข้าแถวหรือรออะไรสักอย่าง
( ) 2. เวลาพูดฉันมักไม่ค่อยใช้สมองมาก
( ) 3. ฉันมักขัดหรือตัดบทคำพูดคนอื่น
( ) 4. ฉันมักตอบโดยไม่ฟังคำถามให้ชัดเจน
( ) 5. คนอื่นๆ ชอบบอกว่าฉันเป็นคนอารมณ์รุนแรง
( ) 6. เวลาทำอะไรฉันมักไม่สนใจผลที่จะตามมา
( ) 7. ฉันมักเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองพูดหรือทำลงไป
( ) 8. ฉันไม่ชอบวางแผนล่วงหน้าและไม่ค่อยชอบทำงานตามลำดับขั้น
ถ้าใน 8 ข้อนี้ น้องๆ คนไหน ตอบ "ใช่" เกิน 4 ข้อ แสดงว่าน้องๆ เข้าข่ายเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยอยู่แล้ว อย่าลืมว่าความโกรธไม่ใช่เรื่องผิดค่ะ ทุกคนสามารถมีอารมณ์โกรธได้ แต่คงไม่ดีแน่นอนค่ะ ถ้าน้องๆ ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้
5 เทคนิคควบคุมความโกรธ
ใครที่ทำแบบทดสอบแล้วเริ่มจะเข้าข่ายควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ก็รีบนำเทคนิคทั้ง 5 ข้อ จากหนังสือ LV. UP! เปลี่ยนไลฟ์สไตล์สักที เรียนดี เฟรนด์ลี่ ป็อบปูล่า ไปหัดควบคุมอารมณ์กันดีกว่า
เมื่อพบว่าตัวเองกำลังจะโมโห ...
► 1. หยุดคิด วิธีนี้อาจจะยากหน่อยสำหรับคนเพิ่งเริ่มต้น แต่รับรองว่าถ้าทำบ่อยๆ น้องๆ ต้องควบคุมอารมณ์โกรธได้ทุกครั้งแน่นอนค่ะ เริ่มจากการทำสมองให้โล่ง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ดึงตัวเองออกมาจากสถานการณ์ที่ทำให้โมโหก่อน ขอแค่ 3 วินาทีเท่านั้นค่ะ น้องๆ ก็จะมีสติมากขึ้น น้องๆ หลายคนอาจจะสงสัย ว่าทำไมเวลาแค่ 3 วินาที ทำให้เรามีสติมากขึ้นได้
เพราะโดยปกติ เวลาที่มีเหตุการณ์กระตุ้นอารมณ์โมโหของเรา ข้อมูลจะถูกส่งไปตามระบบประสาท โดยไปที่อะมิกดาลา (amygdala) และเปลือกสมอง ซึ่งอะมิกดาลาสามารถทำให้เราตอบสนองต่อเหตุการณ์อย่างอัตโนมัติ และอาจจะรุนแรงได้ แต่ถ้าสมองเรามีเวลาเพียง 3 วินาที เปลือกสมองจะรีบเข้ามาจัดระเบียบข้อมูลเรื่องที่เกิดขึ้น และออกคำสั่งใหม่กับร่างกายที่ทำให้เกิดความโกรธและความรุนแรงน้อยลงค่ะ แต่ถ้าเรื่องที่มากระตุ้นหนักมาก 3 วินาที ก็อาจจะไม่พอนะคะ ดังนั้น เราเลยอาจจะเคยได้ยินว่า โมโหเมื่อไหร่ ก็ให้ 1-10 แทนค่ะ จะได้มีเวลามากขึ้น
► 2. เบี่ยงเบนสมาธิ ลองดูค่ะ ถ้ามีสถานการณ์เกิดขึ้นตรงหน้าแล้ว ให้เราลองหันไปสนใจเรื่องอื่น หรือสิ่งอื่นรวบตัวแทนความโกรธนั้น เช่น จ้องแก้วน้ำบนโต๊ะ จ้องนาฬิกาบนฝาผนัง มองบรรยากาศรอบตัวหรือวิวทิวทัศน์นอกห้อง มองเสื้อผ้าของเพื่อน ฯลฯ ซึ่งการที่เราหันไปสนใจเรื่องอื่นนอกจากความโกรธที่กำลังเกิดขึ้น จะช่วยให้เราบรรเทาอารมณ์โกรธลงได้ค่ะ
► 3. สะกดจิตตัวเอง ฟังดูอาจจะน่าตกใจนะคะ ว่าต้องทำยังไง จะทำได้รึเปล่า จริงๆ การสะกดจิตตัวเองที่หมายถึง ก็คือการพูดกับตัวเองในใจหรือการบอกตัวเองในใจค่ะ เพราะน้องๆ หลายคนที่มีอารมณ์รุนแรง ชอบโกรธ หรือโมโหง่าย เป็นเพราะมองเรื่องราวหรือเหตุการณ์รุนแรงกว่าความเป็นจริงค่ะ เช่น คิดว่าเพื่อนต้องตั้งใจแกล้งหรือทำร้าย หรือคิดว่าเหตุการณ์ควรจะต้องรุนแรงถึงจะแก้ปัญหาได้ บอกเลยว่าน้องๆ กำลังคิดผิดค่ะ
ตรงกันข้ามเลยค่ะ เพราะจริงๆ แล้ว แม้กระทั่งเหตุการณ์หรืออารมณ์ที่รุนแรง ก็สามารถบรรเทาลงได้ ด้วยการบอกกับตัวเองในใจ เช่น เหตุการณ์ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น หรือเพื่อนไม่ได้ตั้งใจหรอก ฯลฯ ซึ่งคำพูดเหล่านี้จะช่วยให้อารมณ์ของเราเย็นลงแทบจะในทันทีเลยค่ะ แต่ต้องระวังว่าอย่าเผลอใช้คำพูดรุนแรงหรือแง่ลบนะคะ เพราะอาจจะเพิ่มอารมณ์โกรธมากกว่าเดิมค่ะ
แย่แล้ว เผลอโมโหออกไปแล้ว ...
► 4. ออกจากตรงนั้นไปก่อน น้องๆ อาจจะเคยได้ยินนะคะ ว่าคนสองคนที่กำลังโกรธกัน ไม่ควรพูดคุยกันตอนนั้น แต่ควรปรับอารมณ์ให้เย็นลง และมีเหตุผลในการพูดคุยกันก่อน เหมือนกันค่ะ ไม่ว่าน้องๆ กำลังโมโหใคร จะเป็นเพื่อนพี่น้อง ก็ต้องรีบออกไปจากบริเวณนั้นก่อนค่ะ เพื่อลดการปะทะกัน ควรหยุดพูดคุยกันในช่วงเวลาที่ทั้งสองคนไม่ยอมรับฟังกัน ควรรอให้ใจเย็นก่อน แล้วจึงกลับมาพูดคุยกันใหม่ค่ะ
► 5. เหลือทางถอยให้ตัวเอง หรือง่ายๆ ก็คือ น้องๆ อย่าควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ จนไม่เหลือโอกาสให้เราได้ควบคุมสติและถอยมาตั้งหลักนะคะ ถ้าเราเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่คับขันแล้ว ก่อนที่จะออกจากสถานการณ์ที่คุกรุ่น ให้เราได้มีโอกาสอธิบายสั้นๆ ให้คู่กรณีรับรู้ด้วยว่า ตอนนี้เรากำลังโมโหมาก ขออยู่คนเดียวก่อน หายโกรธแล้วค่อยมาพูดคุยหรือตกลงแก้ปัญหากันใหม่ จะเป็นวิธีที่ดีกว่าการออกจากสถานการณ์โดยไม่อธิบายอะไรค่ะ
เป็น 5 เคล็ดลับที่ไม่ลำบากอะไรมากมายเลยนะคะ การเอาชนะความโกรธและการควบคุมอารมณ์ บางทีก็ต้องเริ่มต้นจากตัวเองค่ะ เพราะเราไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์ที่ต้องเจอได้ ถ้าน้องๆ ทำ 3 ข้อแรกได้แล้ว อีก 2 ข้อหลังอาจจะไม่จำเป็นต้องทำเลยก็ได้ค่ะ
และถ้าปิดเทอมนี้เรารู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเอง ไม่โมโหง่ายและโมโหร้าย พี่อีฟมั่นใจว่าเปิดเทอมใหม่นอกจากจะช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากเพื่อนๆ หรือรุ่นพี่ รุ่นน้อง ในโรงเรียนแล้ว ยังช่วยให้น้องๆ มีเพื่อนเพิ่มมากขึ้นอีกด้วยค่ะ
8 ความคิดเห็น
จะลองทำดูนะค่ะ ขอบคุนสำหรับคำเเนะนำค่ะ
เราชอบสะกดจิตตัวเอง555 ทำตลอดเลยเวลาคิดอะไรที่ไม่ดี
ทุกข้อเลยจาาาา