สวัสดีค่ะ ใครที่ช่วงนี้กำลังเตรียมตัวสอบ ก็อย่าลืมรีบเคลียร์งาน เคลียร์การบ้าน แล้วรีบอ่านหนังสือเตรียมพร้อมให้เรียบร้อยนะคะ พี่อีฟขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้น้องๆ ผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ ใครที่ติดซีรีส์ต่างประเทศทั้งเกาหลี ทั้งตะวันตก อาจจะต้องอดใจเอาไว้ก่อน ให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปก่อน แล้วค่อยกลับมาดู ก็ยังไม่สายค่ะ
ใครที่ช่วงนี้ต้องอดดูซีรีส์เรื่องโปรด พี่อีฟก็ไม่ใจร้ายค่ะ เคล็ดลับการเรียนในวันนี้ เลยขอเอาใจน้องๆ ที่กำลังอินซีรีส์ และตั้งใจฝึกภาษาจากซีรีส์เหล่านี้กันอยู่ มาดูไปพร้อมกันว่า ถ้าสนใจเรียนภาษาต่างประเทศเพื่อเป็นความรู้ติดตัวแล้ว หัวใจสำคัญของการเรียนภาษาเหล่านี้ ที่จะทำให้มันเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลยค่ะ
1. แรงบันดาลใจต้องมาไม่มีขาด
เชื่อแน่ว่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้น้องๆ หลายคน สนใจเรียนภาษาต่างประเทศ อาจจะมาจากดารา นักร้องที่ชื่นชอบ เพื่อติดตามผลงานได้อย่างใกล้ชิด หรือบางคนที่สนใจอาจจะมาจากเพลงที่ฟัง ภาพยนตร์ที่ดู ก็เพื่อที่จะทำให้เข้าใจความหมายได้ลึกซึ้ง หรือดูได้สนุกมากขึ้น หรือบางคนอาจจะมีความมุ่งมั่นในการไปเที่ยวต่างประเทศ เพื่อเอาตัวรอดในต่างแดนได้ ฯลฯ หลายๆ เหตุผลไม่มีถูกผิด แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่สามารถทำให้เราอยากเรียนภาษาเพิ่มมากขึ้นได้ค่ะ
หลายคนที่ชอบบ่นทุกครั้งเวลาเรียนภาษา ว่ายากมาก เรียนไปหลายครั้งอยากถอดใจเลิกเรียนกลางทาง พี่อีฟอยากจะให้หาแรงบันดาลใจในการเรียนมาเป็นตัวเติมเชื้อไฟค่ะ อย่างน้อย ถ้าเรารู้ว่าเรียนไปเพื่ออะไร เรียนแล้วจะได้ความรู้สึกแบบไหนกลับคืนมา พี่อีฟเชื่อว่า น้องๆ จะมองความยากนั้นให้เป็นเรื่องท้าทาย และถ้าผ่านไปได้ จะกลายเป็นความภาคภูมิใจแน่นอนค่ะ
2. ฝึกฝนเท่านั้นที่สำคัญ
ถ้าอยากใช้ภาษาต่างประเทศให้คล่องแคล่ว สิ่งสำคัญที่สุดที่พี่อีฟอยากจะแนะนำ ก็คือ การหมั่นฝึกฝนค่ะ ลองนึกภาพตามว่า ถ้าน้องๆ อ่านเยอะมาก แต่ไม่เคยทบทวน ไม่ฝึกพูด ฝึกเขียน สิ่งที่รู้มาไม่เคยถูกนำไปใช้ พี่อีฟเชื่อว่าไม่เกิน 1 ปี น้องๆ จะเริ่มลืมสิ่งที่เคยจำได้แน่นอน พี่อีฟเคยเจอน้องๆ หลายคนที่เวลาสอบได้คะแนนเต็ม แต่เวลาที่ต้องใช้ภาษาในการสื่อสารจริงๆ กลับพูดไม่ออก ดังนั้นฝึกใช้จริงให้เยอะที่สุด บ่อยที่สุด แล้วจะเกิดประโยชน์กว่านั่งจ้องความรู้ในตำราเพียงอย่างเดียว
ถึงแม้น้องๆ หลายคนจะเน้นการพูดที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงได้ แต่อย่าลืมว่าการเขียนก็เป็นสิ่งสำคัญนะคะ เพราะถ้าหากไปสมัครงาน สมัครสอบ หรือต้องเจอการติดต่อสื่อสารแบบเป็นทางการ การเขียนที่ดีและการเขียนที่ถูกต้อง จะนับว่าเป็นสิ่งสำคัญเลยค่ะ ดังนั้น อย่าลืมฝึกฝนทุกทักษะให้เชี่ยวชาญด้วยนะคะ
3. กล้าพูด กล้าปรับปรุง
ลองนับๆ ดูแล้ว ถ้าเราเรียนภาษาต่างประเทศ ในที่นี้พี่อีฟขอยกตัวอย่างภาษาอังกฤษแล้วกันนะคะ ถ้าเราเรียนตั้งแต่ชั้นประถม จนจบชั้นมัธยม เรามีโอกาสเรียนภาษาอังกฤษถึง 12 ปี! แต่บางทีก็เป็น 12 ปีที่เราไม่สามารถสื่อสารได้เลย หนึ่งในสาเหตุหลักๆ ที่หลายคนเรียนภาษาแล้วไม่ประสบความสำเร็จ คือ การขาดความกล้าค่ะ โดยเฉพาะความกล้าในการพูด เนื่องจากกลัวพูดผิดบ้าง สำเนียงไม่เหมือนบ้าง บางคนอยากหัดพูดให้ได้สำเนียงตามต้นฉบับก็ไม่กล้าพูดเพราะกลัวเพื่อนจะมองไม่ดี
อยากเก่งต้องเปลี่ยนทัศนคติในเรื่องนี้ค่ะ การฝึกพูด ฝึกใช้ภาษา ไม่ใช่เรื่องผิด ดังนั้นตัดความกังวลเรื่องคนอื่นได้เลย ทุ่มเทกับการฝึกให้เต็มที่ นอกจากการฝึกจากภาพยนตร์ เพลง หรือทอล์คต่างๆ ที่เคยฟัง อีกหนึ่งตัวช่วยที่ได้ผลสุดๆ คือ ฝึกพูดกับเจ้าของภาษาโดยตรงค่ะ ผิดบ้าง ถูกบ้าง เพื่อนๆ ชาวต่างชาติเขาไม่ตำหนิเรานะคะ มีแต่จะแนะนำที่ถูกต้องให้ค่ะ และอย่าลืมนะคะ รู้ว่าผิดตรงไหน ก็ปรับปรุงทันที นอกจากจะได้ฝึกพูดแล้ว ยังได้ฝึกฟังเพื่อนชาวต่างชาติไปในตัวด้วย ไม่ต้องถึงกับแปลได้ทุกคำค่ะ แค่ฝึกจับใจความได้ก็พอ คิดแบบนี้แล้ว ครั้งหน้าที่มีชาวต่างชาติมาถามทาง อย่าลืมรีบแสดงน้ำใจแนะนำเลยนะคะ
.jpg)
4. เปลี่ยนชีวิตประจำวันให้เป็นภาษาที่สนใจ
ก่อนอื่นต้องขอถามน้องๆ ว่า ในชีวิตประจำวันของน้องๆ เจอภาษาต่างประเทศที่ตัวเองสนใจ วันละกี่ชั่วโมงคะ บางคนอาจจะตอบว่าเฉพาะเวลาที่เรียน หรือบางคนอาจจะตอบว่าเฉพาะเวลาที่ฟังเพลง หรือดูภาพยนตร์ ซึ่งนับๆ ดูแล้ว ก็ถือว่าเป็นเวลาที่น้อยนะคะ ถ้าเทียบกับกิจกรรมอื่นๆ ในแต่ละวัน น้องๆ หลายคน เรียนเสร็จแล้ว ก็อาจจะลืมไปในทันที ถ้างั้นจะดีกว่าไหมคะ ถ้าเราเปลี่ยนเวลาที่ได้เจอภาษาเหล่านี้ กลายเป็นตลอดทั้งวันค่ะ
เริ่มจากวิธีง่ายๆ ที่จะได้ใช้ชีวิตประจำวันไปกับภาษาต่างประเทศที่เราสนใจ โดยการเปลี่ยนเมนูภาษาที่ใช้ในโทรศัพท์ให้กลายเป็นภาษานั้นๆ ลองเขียนคำศัพท์ต่างๆ ตามเครื่องใช้และอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน ลองเรียกครอบครัว สัตว์เลี้ยง หรือทักทายเพื่อนๆ ให้เป็นภาษานั้นๆ ลองฝึกพูดกับครู เพื่อน หรือคนในครอบครัวด้วยภาษาต่างประเทศค่ะ อาจจะเริ่มง่ายๆ จากคำศัพท์ ไปจนถึงแบบยากๆ ที่เป็นประโยค ใครที่เคยทำกิจวัตรประจำวันอะไรที่เป็นภาษาไทย ก็ลองเปลี่ยนให้เป็นภาษาต่างประเทศให้หมดค่ะ ถึงแม้อาจจะไม่เก่งขึ้นมาภายในข้ามคืน แต่รับรองว่าน้องๆ ต้องคุ้นชินกับคำศัพท์เหล่านี้ และสามารถจดจำมาใช้ได้อีกแน่นอนค่ะ
5. อย่าท้อ เพราะทุกอย่างต้องใช้เวลา
ใครที่หวังว่าจะเรียนวันนี้ แล้วเก่งวันนี้เลย ขอบอกว่าวิธีนี้ใช้ไม่ได้กับภาษาต่างประเทศค่ะ ทุกอย่างอยู่ที่การฝึกฝนเป็นประจำ สม่ำเสมอ ยิ่งเป็นวิชาที่เราไม่มีพื้นฐานมาก่อนด้วย การปูพื้นฐานให้แน่น เพื่อทำความเข้าใจ ยิ่งเป็นเรื่องสำคัญและอาจจะต้องใช้เวลา ถึงแม้น้องๆ จะเลือกเรียนจากความชอบ แต่พอรู้สึกว่าตัวเองไม่เคยเก่งขึ้นสักที ก็มักจะที่หาเหตุผลร้อยแปด พร้อมที่จะถอดใจทิ้งความรู้ไว้กลางทางค่ะ
ดังนั้น ความคิดแรกที่น้องๆ ต้องเปลี่ยนก็คือ ทุกอย่างต้องใช้เวลา อย่าโทษตัวเองที่ไม่เก่งขึ้นสักที อย่าโทษภาษาว่ายากเกินไป และอย่าท้อถ้ายังไม่ประสบความสำเร็จ ถึงแม้เราอาจจะยังไม่ใช้คนที่เก่งที่สุด ยังพูดไม่คล่อง หรือยังสื่อสารไม่ได้ แต่อยากให้น้องๆ ลองมองย้อนกลับไป เชื่อว่าเราต้องเดินมาใกล้จากจุดเริ่มต้นแล้วแน่นอน อย่างน้อยก็หนึ่งก้าวค่ะ ถ้าวันนี้เรายังไม่ท้อ พรุ่งนี้จะต้องมีก้าวต่อๆ ไปแน่นอน
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 5 วิธีที่พี่อีฟนำมาฝากกัน ถ้าทำตามนี้ได้ น้องๆ ก็สามารถเรียนภาษาได้ด้วยตัวเองแล้ว อย่าลืมค่ะ ว่าการเรียนภาษาต่างประเทศ อาจจะเป็นเรื่องยากและต้องใช้เวลา แต่ก็อย่าท้อเด็ดขาดนะคะ หมั่นฝึกทุกๆ วัน อย่าหมดกำลังใจ น้องๆ คนไหน มีเทคนิคอื่นที่ใช้ อยากแชร์ให้เพื่อนๆ ฟัง ก็มาบอกกันได้นะคะ จะได้เก่งไปพร้อมกันค่ะ :D
6 ความคิดเห็น
ภาษาอังกฤษนี้ เป็นภาษาพื้นฐานอยู่แล้วที่ทุกคนต้องอ่าน-เขียน-พูดได้ ส่วนภาษาอื่นๆนี่เป็นทางเลือกครับ ส่วนตัวของผมนี่ได้แค่ภาษาอังกฤษอย่างเดียวเอง ต้องเรียนอีกเยอะเลย :)
ต้องทำให้ได้ๆๆๆๆๆ
เดี๋ยวลองเอาไปใช้บ้างนะคะ