5 เรื่อง ที่คนภายนอกมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับ "คณะทันตะฯ"

      หนึ่งในอาชีพในฝันของเด็กรุ่นใหม่ ก็คือ ทันตแพทย์ อาชีพที่ว่ากันว่ารายได้ดี (มากกก) แต่เบื้องหลังกว่าจะเป็นหมอฟันได้ ก็ต้องฝ่าฟันตั้งแต่การสอบเข้าที่แข่งขันโหดสุดๆ เข้าเรียนได้แล้วก็ต้องเรียนอีก 6 ปี ต้อง dent-is-try ให้สมกับเป็น Dentistry จริงๆ แต่จะว่าไปแล้วก็ยังมีหลายคนที่เข้าใจอาชีพนี้แบบผิดๆ ถึงขั้นบอกว่า "เรียนง่ายนิดเดียว" พูดแบบนี้แทงใจเด็กทันตะฯ มากๆ ไหนลองมาดูกันว่า ยังมีเรื่องไหนที่เด็กทันตะฯ ถูกเข้าใจผิดอีกบ้าง?
 


 
    1. ไม่มีอะไรเรียนหรอก ช่องปากเล็กนิดเดียว?
       มาข้อแรก ก็เข้าใจผิดอย่างแรงงงง ช่องปากคนเราเล็กนิดเดียวก็จริง แต่ซับซ้อนมาก และยิ่งเล็กก็ยิ่งยาก (ไม่อย่างนั้นคงไม่แยกออกมาส่วนเดียว) อาจจะดูเหมือนว่าหมอฟันรักษาช่องปากก็ต้องเรียนแต่ช่องปาก ที่มีแค่ฟัน เหงือก ลิ้น แต่ไม่ใช่เลย นิสิตนักศึกษาทันตแพทย์ต้องเรียนเรื่องระบบร่างกายด้วย โดยในปี 2 จะต้องเรียนมหกายวิภาคศาสตร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อวิชา "กรอสอนาโตมี" หมอฟัน ต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับด้านร่างกายด้วย แต่หมอฟันจะเน้นเรียนร่างกายส่วนบนมากกว่า เพราะหมอฟันจะรักษาพลาดไม่ได้เหมือนกัน!
       ไม่ใช่เฉพาะแค่เรื่องร่างกายเท่านั้น แต่นิสิตนักศึกษาทันตะฯ ต้องเรียนเรื่องยา เรียนสถิติ เรียนภาษาอังกฤษ เรียนกฎหมาย ไปจนถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในช่องปาก เพราะทุกอย่างเกี่ยวข้องกับอาชีพ "ทันตแพทย์" ทั้งหมด นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมต้องเรียนถึง 6 ปี ดังนั้นอย่าเข้าใจผิดคิดว่าเด็กทันตะฯ เรียนน้อยนะ

   2. เรียนหมอฟัน เพราะสอบหมอไม่ติด?
       นี่มันยุคไหนกันแล้ว! ไม่มีใครมานั่งคิดว่าสอบคณะนั้นไม่ติดเลยต้องมาเรียนคณะนี้ ทุกวิชาชีพสำคัญเท่ากันหมด หมอฟันก็คือ หมอประเภทหนึ่งที่ช่วยผู้ป่วยให้หายจากอาการเจ็บปวดได้เหมือนกัน ที่สำคัญอัตราการแข่งขันก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ คะแนนการสอบเข้าคณะทันตแพทยศาสตร์ ก็สูสีกับคณะแพทย์เลยทีเดียว คะแนนเด็กทันตะฯ บางคนก็สอบติดแพทย์ได้แบบสบายๆ
       ทุกวันนี้ คณะทันตแพทยศาสตร์ เป็นคณะในฝันของเด็กไทยหลายคน ไม่เชื่อลองถามเด็กทันตะฯ ดูสิ หลายคนมุ่งมั่นอยากเป็นหมอฟันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วล่ะ

   3. หมอฟัน เรียนง่ายๆ ไม่เครียด?
       ในทางตรงกันข้าม หลายคนเคยคิดว่า อยากเข้ามาเรียนทันตะฯ เพราะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหมอเหมือนกัน แต่เรียนไม่หนักเท่าแพทย์ อันนี้ก็คิดผิดค่ะ! ไม่ว่าจะคณะไหนก็เรียนหนักทั้งนั้น แต่หนักไปคนละแบบ คณะแพทย์อาจจะหนักไปที่การท่อง การสอบ แต่ทันตะฯ วิชาการเราก็แน่น ภาคปฏิบัติก็ทำกันไม่ได้หลับไม่ได้นอน ไหนจะต้องแกะสลักฟัน ทำฟันปลอม ดัดลวด จะมาทำลวกๆ ก็ไม่ได้ เพราะอาจารย์ตรวจกันเข้ม ทำไม่ผ่านก็ให้กลับไปทำใหม่ ไม่แคร์เลยว่าเมื่อคืนจะได้นอนหรือเปล่า
      นี่ยังไม่นับชั้นปี 5-6 ที่ต้องลงคลินิกจริงๆ รักษาคนไข้จริงๆ เราจะได้สัมผัสความท้าทายรูปแบบใหม่  "นัดคนไข้ยังไง ให้มาหาเราให้ได้" เพราะส่วนใหญ่แล้ว คนไข้มักจะเท ไม่ยอมมารักษา เมื่อนักศึกษาไม่มีคนไข้ ก็สอบตกสิคะ! นิสิตนักศึกษาทันตะฯ หลายคนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำฟันไม่เหนื่อยเท่า โทรตามคนไข้ให้มารักษา  


 

   4. จบทันตแพทย์มา ต้องทำได้ทุกอย่าง
       ข้อนี้ก็ยังเข้าใจผิดอยู่ โดยทั่วไปแล้ว งานทันตกรรมหลักๆ เช่น ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน (อย่างง่าย) นิสิตนักศึกษาจบใหม่ สามารถทำได้ทุกคน พูดง่ายๆ ก็คือ เมื่อจบออกมาแล้วจะได้เป็นทันตแพทย์ทั่วไป (GP) ก็สามารถทำงานเหล่านี้ได้ แต่ถ้าการจัดฟัน การทำฟันในเด็ก การรักษารากฟัน หรืองานด้านการศัลยกรรมช่องปาก แบบนี้ต้องเรียนเฉพาะทางเพิ่มเติมหลังจบ ป.ตรี 6 ปี ดังนั้น ถ้าต้องการรักษาเฉพาะทาง แล้วคิวคุณหมอยาว ก็ให้เข้าใจคุณหมอด้วยว่า งานเหล่านี้เป็นงานเฉพาะทาง ไม่ใช่คุณหมอท่านใดจะทำก็ได้
       สำหรับน้องๆ ที่อยากเรียนทันตะฯ ในช่วง 6 ปีก็ลองค้นหาตัวเองว่าชอบงานด้านไหนที่สุด แล้วเลือกเรียนต่อได้เลย

   5. หมอฟัน หมายถึงชอบฟันกำไรในคลินิกหรือเปล่า
       เรื่องนี้มีดราม่าให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ ว่าทำไมค่ารักษาทางทันตกรรมถึงแพงมาก ถอนฟัน 5 นาทีก็หลายร้อย หรือ ผ่าฟันคุด 15 นาที เสียไป 2,000 ข้อนี้ต้องบอกว่าทุกอย่างมันมีต้นทุนเสมอ ต้นทุนค่าวัสดุอุปกรณ์ทางทันตกรรมก็มูลค่าสูงอยู่แล้ว ไหนจะค่าเล่าเรียน 6 ปีที่เอาไปผ่อนบ้านได้สบายๆ ต้องฝึกฝีมือ ฝึกวิชากันมามากมาย ถึงจะสอบใบประกอบวิชาชีพออกมาเป็นหมอฟันได้ ดังนั้นการรักษาทางทันตกรรม จึงดูแพงกว่าการรักษาชนิดอื่น
       แต่ทั้งนี้ ค่ารักษาของแต่ละคลินิกอาจจะไม่เท่ากัน ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ป่วยที่ยอมรับค่ารักษาได้หรือไม่ แต่โดยทั่วไปแล้ว ค่ารักษาในโรงพยาบาลของรัฐจะถูกกว่าคลินิกเอกชน

 
      บอกเลยว่า 6 ปีในคณะทันตแพทย์ เป็น 6 ปีที่สนุก โหด มันส์ ฮา แน่นอนสำหรับคนที่ฝันจะเป็นทันตแพทย์ นี่เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งเท่านั้น อยากรู้จักคณะทันตแพทยศาสตร์ให้มากกว่านี้ แนะนำหนังสือ กว่าจะเป็นหมอฟัน ที่เล่าประสบการณ์การเรียน วิชาเรียน และเส้นทางอาชีพอย่างละเอียด มีขายตามร้านหนังสือทั่วไป หรือ สั่งออนไลน์ที่เว็บเด็กดี ตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ เพียง 120 บาทเท่านั้น! คลิกเลย
 
ข่าวประชาสัมพันธ์
ข่าวประชาสัมพันธ์ - Columnist ข่าวประชาสัมพันธ์ภายในเว็บไซต์ Dek-D.com

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น