5 คำสบประมาทยอดฮิตที่ "เด็กนิเทศฯ" เจอประจำ แต่ไม่เป็นความจริง!

     การตัดสินใจเลือกเรียนคณะในฝันเป็นสิทธิโดยชอบธรรมของน้องๆ ทุกคน แต่จนแล้วจนรอด อิทธิพลจากค่านิยมทางสังคม หรือความคิดส่วนตัวของผู้ปกครอง ก็มักมีผลต่อการเรียนต่อของเราบ้างไม่มากก็น้อย จนถึงขั้นทำให้น้องบางคนต้องมีปัญหากับครอบครัวเพราะอยากเรียนต่อในคณะที่พ่อแม่ไม่ปลื้ม...
   
   
     โดยคณะที่ขัดใจทางบ้านเป็นอันดับต้นๆ ของเด็กไทยก็คงหนีไม่พ้น "คณะนิเทศศาสตร์" ซึ่งเรียกได้ว่าเกิดดราม่ากันไปหลายหลังคาเรือนแล้วเหมือนกัน และคำทัดทานในการเลือกเรียนคณะนี้ก็มักมีแต่ประโยคซ้ำเดิมมาหลายชั่วอายุคน จนอาจทำใครหลายคนที่อยากจะก้าวเข้ามาเป็นเด็กนิเทศฯ รู้สึกหวั่นไหว และไม่มั่นใจว่าการเรียนการสอนในศาสตร์แห่งการสื่อสารนี้จะช่วยให้พวกเขาจบไปมีอนาคตที่ดีได้ แต่ความเป็นจริงแล้ว คำดูถูกต่างๆ ที่จะพูดถึงต่อไปนี้มันไม่เป็นความจริงเลยนะ จะบอกให้!!!
   
  
1. อยากเรียนนิเทศฯ อยากดัง หวังจะเป็นดาราเหรอ?
  
ความเข้าใจผิดนี้มีมาช้านานในสังคมไทย อาจจะด้วยเหตุที่ว่าดาราดังหลายคนมีประวัติการศึกษาจบปริญญาจากคณะนิเทศศาสตร์ แต่อันที่จริงแล้วใครก็สามารถเป็นดาราได้ ถ้ามีความสามารถในการแสดงและมีบุคลิกที่โดดเด่น ทว่าประเด็นนี้ก็ยังลามมาถึงน้องบางคนที่โดนทักแรงๆ ว่า "หน้าตาก็ไม่ได้ดี ไปเรียนนิเทศฯนี่เขาจบไปเป็นดารากัน แล้วเธอจะไหวเหรอ?" งานนี้เห็นทีจะต้องทำความเข้าใจใหม่ว่าการเรียนในคณะนิเทศศาสตร์นั้นมีหลากหลายสาขามากจ้ะ ทั้งเกี่ยวกับภาพยนตร์ การแสดง การสื่อสาร การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ วิทยุ โทรทัศน์ การเขียนต่างๆ ซึ่งถ้าได้พิจารณาหลักสูตรที่จากมหาวิทยาลัยต่างๆ แล้ว ก็จะสามารถเข้าใจได้ว่าเด็กนิเทศฯ มีแนวทางในการประกอบอาชีพในอนาคตได้มากมาย ซึ่งเป็นไปทั้งงานเบื้องหน้า หรืองานเบื้องหลังที่คนทั่วไปที่ได้รับชมผลงานของเราก็อาจไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเราคือใคร เพราะฉะนั้นประเด็นอยากดังนี่เบรคไปโลด
      
     
     
2. นิเทศฯ น่ะเหรอ? เรียนสบาย จบง่ายจะตาย
   
เรียนนิเทศฯ น่ะจบง่ายจะต๊าย (เสียงสูง)!!! ที่ต้องเสียงสูงแบบนี้ก็เพราะว่าการเรียนการสอนในคณะนิเทศศาสตร์ เป็นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับทฤษฎีให้แม่นยำ ก่อนจะนำไปประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติ ซึ่งมีทั้งการฝึกหัดใช้อุปกรณ์ต่างๆ จนไปถึงขั้นสร้างชิ้นงานต่างๆ ด้วยตัวเอง ตามโจทย์ที่อาจารย์ได้ให้มา โดยถ้าเราไม่มีความรู้พื้นฐานที่ดีพอแล้ว ผลงานของเราจะเป็นตัวสะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งแน่นอนว่าการให้คะแนนเป็นไปตามเนื้อผ้า ถ้าไม่ถึงเกณฑ์ก็มีสิทธิ์ F ไปตามระเบียบได้เช่นกัน แถมงานแต่ละชิ้นเป็นสิ่งที่ต้องทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจอย่างมาก ต้องเป็นทั้งผู้วางแผนที่ดีเยี่ยม และสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ดีเลิศได้พร้อมๆ กัน ลองดูตัวอย่างจากการออกกองหนังสั้นสักเรื่องดู แล้วจะรู้ว่ากว่าจะถ่ายงานได้แต่ละฉาก ต้องเตรียมบทกันมานานแค่ไหน ต้องเทคใหม่กี่ครั้ง ต้องนั่งรอพระอาทิตย์ขึ้นจนตกดินเพื่อให้ได้เวลาที่แสงสวยแค่ไม่กี่นาที หรือจะแบกกระเป๋ากล้อง ขาตั้งไฟ ขึ้นเขาลงห้วย ฯลฯ นั่นคงทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น ว่าเด็กนิเทศฯ ไม่ได้นั่งเรียนสบายๆ เพื่อรอเวลาจบการศึกษาอย่างแน่นอนจ้า คอนเฟิร์ม!
    
เครดิต : https://pixabay.com/
   
   
3. จบนิเทศศาสตร์ หางานยาก ตกงานก็ง่าย!
   
ถ้าเจอใครพูดแบบนี้ใส่ คงต้องแนะนำให้พวกเขาลองจินตนาการดูว่าถ้ามีวิทยุหรือทีวีตั้งอยู่แล้วเปิดมาไม่เจอรายการอะไรเลย อ่านหนังสือพิมพ์ก็ไม่มีข่าวสารใหม่ๆ มาให้อัพเดท แล้วพวกเขาจะรู้สึกอย่างไร? ชีวิตจะเงียบเหงาแค่ไหน? นี่แหละคือคำตอบที่ชัดเจนว่าคนจบนิเทศศาสตร์ ไม่มีทางตกงานง่ายตราบใดที่โลกนี้ยังต้องมีการสื่อสารกันอยู่ และอาชีพในสายงานด้านนี้ ยังต้องการคนรุ่นใหม่ที่มาแลกเปลี่ยนความไอเดียเจ๋งๆ เพื่อสร้างสีสันให้การสื่อสารทุกวันมีความน่าสนใจ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าเด็กนิเทศฯ จบใหม่จะหางานยากด้วยเช่นกัน เพียงเตรียมพร้อมด้วยการตั้งใจเรียนให้จบออกมาเป็นคนที่มีคุณภาพ สามารถนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์จริง ทำงานแบบทีมเวิร์คได้ รับรองว่าไปสมัครงานที่ไหนเขาก็ยินดีพิจารณาจ้ะ
   
   
เครดิต : https://pixabay.com/
   
    
4. จบนิเทศศาสตร์ ไส้แห้ง เงินเดือนน้อย!
  
ถือประโยคสุดคลาสสิกที่พูดกันมาแบบปากต่อปากจากรุ่นสู่รุ่นจนทำให้หลายคนท้อใจที่จะเรียนต่อในคณะนิเทศศาสตร์ เพราะมนุษย์เราทำงานก็หวังเพื่อจะหารายได้เลี้ยงตัวเอง จริงอยู่ที่เงินเดือนบางตำแหน่งของอาชีพในสายนี้ไม่ได้มากมาย แต่ก็ไม่ได้โหดร้ายขูดรีดจนตั้งตัวไม่ได้ และยังมีตำแหน่งอื่นๆ ที่ได้ค่าตอบแทนการทำงานสูงและมั่นคง เพราะคนที่จบนิเทศฯ สามารถเลือกทำงานได้อย่างหลากหลายทั้งในภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ และข้าราชการ ที่น่าสนใจกว่านั้นคือเด็กนิเทศฯ จำนวนไม่น้อยในสมัยนี้สามารถหารายได้พิเศษได้ตั้งแต่ยังเรียนอยู่ ด้วยการใช้ทักษะที่ฝึกหัดมาจากห้องเรียน เช่น รับถ่ายภาพ-วิดีโอ รับจ้างงานเขียนต่างๆ ซึ่งเป็นได้ทั้งอาชีพเสริมและผลงานปูทางไปสู่อาชีพหลักในอนาคตได้เช่นกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคนด้วยนะ เพราะต่อให้เรียนจบคณะไหนมาแล้วไม่ตั้งใจทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ก็คงทำงานหาเลี้ยงตัวเองไม่ไหวหรอกจ้า
  
   
   
5. อย่าไปคุยกับเด็กนิเทศฯ เลย พวกนี้ติสท์แตก ไร้ระเบียบวินัย
   
ที่สังคมมองเด็กนิเทศฯ ติสท์แตกไร้ระเบียบวินัย คงเป็นเพราะว่าลุคภายนอกที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงที่แสดงออกผ่านการแต่งกายแฟชั่นจ๋า มีบุคลิกเป็นคนเปิดเผย จนพากันคิดว่าเป็นต้องคนแรงๆ ที่เข้าถึงยากแน่ๆ ไม่น่าคบหา ถ้าต้องให้ทำงานด้วยคงปวดหัวกับคนแบบนี้แน่นอน ฯลฯ ซึ่งความกังวัลร้อยแปดกับเด็กนิเทศฯ นี้จะหมดไป ถ้าหากได้สัมผัสกับพวกเขาจริงๆ เพราะเด็กที่เรียนคณะนี้ถูกฝึกฝนให้ทำงานร่วมกับผู้อื่นมามากพอสมควร เนื่องจากวิธีการเรียนการสอนที่เน้นการทำงานแบบทีมเวิร์ค และต้องเป็นขั้นตอน ซึ่งต้องมีระเบียบวินัยสูง และที่สำคัญทุกคนจะต้องมีความคิดรอบคอบเนื่องจากการสร้างสรรค์สื่อแต่ละชิ้นมีความละเอียดอ่อน ซึ่งทำให้ต้องศึกษาค้นคว้าข้อมูลใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้ผลงานที่ออกมาเป็นที่พึงพอใจและเกิดประโยชน์แก่คนหมู่มาก จึงต้องเปิดรับความคิดเห็นและไอเดียที่หลากหลายจากคนหมู่มากอยู่ตลอดเวลา เห็นแบบนี้แล้วก็คงจะพอรู้แล้วนะว่า เด็กนิเทศฯ น่ะ น่ารักมาก!!!
  
เครดิต : https://pixabay.com/
    
    
     เมื่อความจริงเปิดเผย #dek60 เอ๋ยเธอจงอย่ากลัว เพราะการเรียนในคณะนิเทศศาสตร์มีอะไรที่น่าสนใจรอให้เข้าไปเรียนรู้อยู่มากมาย และถ้าใครยังมีข้อสงสัย หรืออยากรู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียน และสายอาชีพในอนาคตของเด็กนิเทศฯ หนังสือ "กว่าจะจบนิเทศฯ" ก็ได้รวมข้อมูลทุกอย่างที่ตอบโจทย์คนที่อยากเรียนคณะนี้ไว้อย่างครบครัน ที่สำคัญกำลังมีโปรโมชั่นพิเศษสุดๆ ลดราคาเหลือเพียง 130 บาทเท่านั้น สนใจคลิกที่นี่เลยจ้า!!! 
  
   
ข่าวประชาสัมพันธ์
ข่าวประชาสัมพันธ์ - Columnist ข่าวประชาสัมพันธ์ภายในเว็บไซต์ Dek-D.com

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

เวย์ ผู้เมากาวกลิ่นไวท์ช็อกโกแลต Member 18 พ.ย. 59 17:19 น. 1

เราก็เคยทำหนังสั้นนะคะ บอกเลยค่ะ ให้เวลาตลอดทั้งเทอม (สัปดาห์ละ 2 ชม.) กลุ่มเราเกือบทำไม่ทัน มีปัญหานักแสดงตีกันเอง ไฟล์มีปัญหา

เหนื่อยมากกกกกกกกกกก TT

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด