สวัสดีค่ะ ปีนี้เป็นปีแรกที่เปลี่ยนระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัยจากเดิมแอดมิชชั่นเป็น "ระบบ TCAS 61" (หรือที่เรียกไปกันก่อนหน้านี้ว่า Entrance 4.0) ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเช่น ไทม์ไลน์การสมัครสอบ เงื่อนไขการยื่นสมัคร หรือแม้แต่การสอบ GAT PAT ที่ลดลงเหลือรอบเดียว เพราะฉะนั้นการเตรียมตัวสอบของน้องๆ จะต้องเข้มข้นขึ้น เพราะการสอบแต่ละอย่างมีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น!
ส่วนใหญ่จะมีการแชร์ข้อสอบ GAT, PAT 1, PAT 3 และ PAT 7 กันเยอะมาก เพราะใช้สอบเข้าได้หลายคณะ แต่อีก PAT หนึ่งที่สำคัญไม่แพ้ใครเลยก็คือ PAT 4 วิชาความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ คนที่จะสอบ PAT 4 จะต้องมีความสามารถทางนี้ด้วย แต่ก่อนที่จะไปเตรียมตัวสอบนั้น เราไปรู้จักข้อสอบกันก่อนดีกว่าค่ะ โดย 2 พี่ใหญ่ใจดี พี่นัน นันทวัชร์ ชัยมโนนาถ และ พี่เอก เอกรัตน์ วรินทรา จากสถาบัน A le' Paint (เอ-เลอ-เพนต์) พร้อมแล้วเราไปพบพี่เค้ากันเลยค่ะ
พี่ Dek-D ถาม : น้องๆ ที่จะเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ต้องเป็นเด็กสายวิทย์หรือสายศิลป์คะ?
พี่นัน-พี่เอก ตอบ : เอาจริงๆ เลยนะครับ จะบอกว่าสายวิทย์แน่นอน เพราะว่าพื้นฐานของความเป็นสถาปัตยกรรมนั้นมันมาจากวิศวกรรม และอีกอย่างคือมหาวิทยาลัยที่จะสอบในเมืองไทยส่วนใหญ่ก็มีวิชาฟิสิกส์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย บางมหาลัยในปัจจุบันบางสาขาโดยมากมักเป็นโควตาเรียนดีก็กำหนดเลยว่าต้องเป็นสายวิทย์ แต่บางมหาวิทยาลัยก็เปิดกว้างสำหรับน้องๆ สายศิลป์อยู่เหมือนกัน การสอบแอดมิชชั่นคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ใช้ O-NET, GPAX, GAT และ PAT 4 กลายเป็นว่าเด็กสายศิลป์จะได้เปรียบขึ้นเหมือนกันนะ
ถ้าเราตัดเรื่องของเงื่อนไขการสอบออกไป พี่คิดว่าเด็กสายศิลป์เหมาะที่จะเรียนคณะนี้เท่าๆ กับสายวิทย์เลย เพราะเรื่องของสถาปัตยกรรมมันเป็นเรื่องของศิลปะประยุกต์ หมายความว่าเอาศิลปะมาใช้ประยุกต์กับความเป็นจริง สร้างประสบการณ์ให้กับที่ดีให้กับคนที่ใช้มัน ดังนั้นพี่ว่าจะสายอะไรมันบอกไม่ได้ว่าไม่เหมาะหรอก คนที่เหมาะคือคนที่คิดตลอดเวลา มองเห็นรายละเอียดความรู้สึกในสิ่งที่คนธรรมดามองไม่เห็น พ่อแม่หลายคนบอกว่าลูกของตัวเองวาดรูปเท่าไหร่ก็ไม่เก่งเท่าเด็กคนอื่น พี่ก็อยากจะบอว่าศาสตร์ทางสถาปัตยกรรม การวาดรูปนั้นไม่จำเป็นต้องวาดสวยมากก็ได้ แต่เน้นสื่อสารความคิดออกมาให้ได้ตรงตามที่ตัวเองต้องการสื่อเท่านั้นก็พอ ส่วนเรื่องของการวาดเก่งนั้นไม่ปฏิเสธหรอกยิ่งเก่งก็ยิ่งดี
การเป็นนักออกแบบที่ดี มันคือการเข้าใจชีวิต เข้าใจว่าจะสร้างสิ่งดีๆให้เกิดขึ้นได้อย่างไร เพื่อที่จะมอบอะไรดีๆที่เราจะให้กับสิ่งที่เราออกแบบ บางทีมันอาจจะไม่ต้องเวอร์ แปลก สร้างสรรค์ขนาดนั้นก็ได้ แต่สิ่งนั้นนำพามาซึ่งความสุขก็พอแล้ว เพราะสิ่งที่พี่ให้ความสำคัญมากๆ กับน้องที่มาเรียนเลยคือ “เรียนแล้วมีความสุข เรียนแล้วอยากเก่ง อยากพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ” ถ้าน้องมีแค่นี้อยู่ในใจนี่ล่ะครับ คือคำว่าเหมาะสำหรับพี่
พี่ Dek-D ถาม : การสอบเข้าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์มีวิธีไหนได้บ้างคะ?
พี่นัน-พี่เอก ตอบ : การสอบเข้าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์มีทั้งหมด 3 ทางครับ คือ ทางแรกคือการสอบตรง ทางมหาลัยจะเป็นคนกำหนดขึ้นมาเองครับ ว่าต้องสอบทั้งในส่วนของวิชาการวิชาไหนบ้าง จะใช้ข้อสอบ GAT PAT, วิชาสามัญ หรือจัดสอบวิชาความถนัดเอง
ทางที่ 2 คือ โควตา ก็จะมีทั้งโควตาพื้นที่ โควตาเรียนดี ที่ใช้ GPAX ด้วย อย่างเช่นที่ ส.ลาดกระบังฯ ก็กำหนด GPAX ไม่ต่ำกว่า 3.25 นอกจากเกรดแล้วก็จะดูปลงาน และก็สอบสัมภาษณ์ครับ ส่วนทางที่ 3 คือการแอดมิชชั่น(ระบบกลาง) ที่ใช้เกณฑ์ GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 10% และ PAT 4 40%
พี่ Dek-D ถาม : ลักษณะข้อสอบ PAT 4 เป็นอย่างไรบ้างคะ?
พี่นัน-พี่เอก ตอบ : ข้อสอบ PAT 4 เปลี่ยนแปลงตลอดตั้งแต่ปีแรกที่ออกมา เพิ่งจะนิ่งๆ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา กลายเป็นข้อสอบหนึ่งที่ออกมาในรูปแบบที่ชัดเจน แน่นอน คือมีแบบแผนในแต่ละข้อว่าต้องการอะไร โดยรูปแบบของการตรวจนั้นก็จะมีแบบแผนเป็นไปตามกฎที่วางไว้เป๊ะๆ เลย ซึ่งมันจะต่างจากข้อสอบสอบตรงของแต่ละมหาวิทยาลัยที่ใช้มาตรฐานของอาจารย์ที่ต้องวิเคราะห์ (อาจจะไม่เป็น Pattern ที่แน่นอน)
ตัวข้อสอบ PAT 4 จะแบ่งออกเป็นทฤษฎีปรนัยในช่วงแรก ประมาณ 10-20 ข้อ ซึ่งก็จะมีทฤษฎีสถาปัตย์แทรกอยู่ รวมไปถึงฟิสิกส์เรื่องของกลศาสตร์เข้ามาบ้าง ส่วนถัดมาเป็นการมองวิเคราะห์ในเชิงเรขศิลป์ คือ สามารถใช้วิชารูปแบบของมิติของวัตถุที่โจทย์เสนอ ตรงนี้ไม่ได้ยากอะไรมากมาย แต่ส่วนต่อไปค่อนข้างมีปัญหาคือ ส่วนของการระบายสีให้เกิดภาพตามที่โจทย์กำหนด ตรงนี้ตัวข้อสอบจะมี Pattern มาให้แล้วเราต้องระบายสีเป็นขาว เทา ดำ เข้าไป เพื่อให้เกิดภาพตามโจทย์ ข้อนี้ยากอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าซ้อมอย่างต่อเนื่องก็จับหลักได้ไม่ยาก
หลังจากนั้นข้อสอบจะเน้นไปที่การเขียนแบบออกมาเป็น “สมมาตร” หรือ Isometric และมีการให้แสงและเงา เพื่อให้เรานั้น Check เงาที่เกิดขึ้นกับตัววัตถุนั้น ตรงนี้ต้องนั่งไล่สอนกันตั้งแต่พื้นฐานเลย และค่อยๆ เปลี่ยนรูปทรงให้ยากขึ้นเรื่อยๆ บางปีข้อสอบถึงขั้นเอาอาคารมาให้เราเขียนและ Check เงาด้วย ก็ถือว่าโหดสำหรับคนที่ไม่ได้เรียนและไม่มีความรู้ทางด้านนี้
ในส่วนของการเขียนผลิตภัณฑ์ ซึ่งบางปีก็อาจจะให้เส้นมา แล้วให้เราเติมให้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ตามที่โจทย์กำหนด หรือบางปีอาจจะให้ออกแบบเป็นบรรจุภัณฑ์ก็ได้ ซึ่งข้อสอบส่วนนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงทุกปี ส่วนสุดท้ายคือ การอ่านโจทย์แล้วให้ตีความเขียนออกมาในรูปแบบของทัศนียภาพ ซึ่งข้อสอบ PAT 4 ไม่ได้มีการให้ลงสี จะเน้นไปที่การลงขาว เทา ดำ เป็นหลักครับ
พี่ Dek-D ถาม : ลักษณะข้อสอบรับตรงของคณะสถาปัตยกรรมศาสต์แต่ละสถาบันเป็นอย่างไร?
พี่นัน-พี่เอก ตอบ : พี่จะขอพูดในแต่ภาพรวมของมหาวิทยาลัยนะครับ ยกมา 5 มหาวิทยาลัยคือ จุฬาฯ, ม.ศิลปากร, ส.ลาดกระบังฯ, ม.เกษตรศาสตร์ และ ม.ธรรมศาสตร์
จุฬาฯ
สอบตรงของที่นี่เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า เกรดเฉลี่ยต้องเกิน 3.00 (ไม่เอามาคิดเป็นค่าน้ำหนัก) ถ้าเป็นภาควิชาสถาปัตยกรรม, สถาปัตยกรรมภายใน, ภูมิสถาปัตยกรรมและสถาปัตยกรรมผังเมือง ใช้ PAT 4 เป็นหลัก และใช้ 9 วิชาสามัญวิชาภาษาอังกฤษ, คณิต 1 และ ฟิสิกส์
ส่วนใหญ่แล้วเด็กที่พี่สอน พอใกล้ช่วงเวลาที่จะสอบ ที่นี่เราจะแยกเด็กออกมาต่างหาก เพื่อเน้นทำข้อสอบ ฝึกทักษะทางวิชานี้โดยตรงเลย ทำให้โอกาสเกิดการผิดพลาดน้อยมาก บางปีติดทุกคนได้อย่างไม่ยาก เพราะตัวเด็กเองก็ขยันและมุ่งมั่นมาอยู่แล้ว กว่าจะฝ่าฟันมาถึงช่วงนี้ได้ ส่วนวิชาการของภาคนี้นั้นก็จะเน้น 9 วิชาสามัญ จริงๆ แล้วยังมีอีกภาควิชานะที่หลายคนมักลืมไปคือ ภาควิชาสถาปัตยกรรมไทย ซึ่งจริงๆ แล้วภาคนี้ถือเป็นภาคที่โดดเด่นของจุฬาฯ เลยก็ว่าได้ ก็จะมีการสอบข้อสอบเป็นของตัวเองเหมือนกัน เน้นไปที่ทฤษฎีทางความเป็นไทย และการวาดรูปแสดงองค์ประกอบอาคารและความเป็นไทย
พี่ Dek-D ถาม : ลักษณะข้อสอบรับตรงของคณะสถาปัตยกรรมศาสต์แต่ละสถาบันเป็นอย่างไร?
พี่นัน-พี่เอก ตอบ : พี่จะขอพูดในแต่ภาพรวมของมหาวิทยาลัยนะครับ ยกมา 5 มหาวิทยาลัยคือ จุฬาฯ, ม.ศิลปากร, ส.ลาดกระบังฯ, ม.เกษตรศาสตร์ และ ม.ธรรมศาสตร์
จุฬาฯ สอบตรงของที่นี่เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า เกรดเฉลี่ยต้องเกิน 3.00 (ไม่เอามาคิดเป็นค่าน้ำหนัก) ถ้าเป็นภาควิชาสถาปัตยกรรม, สถาปัตยกรรมภายใน, ภูมิสถาปัตยกรรมและสถาปัตยกรรมผังเมือง ใช้ PAT 4 เป็นหลัก และใช้ 9 วิชาสามัญวิชาภาษาอังกฤษ, คณิต 1 และ ฟิสิกส์
ส่วนใหญ่แล้วเด็กที่พี่สอน พอใกล้ช่วงเวลาที่จะสอบ ที่นี่เราจะแยกเด็กออกมาต่างหาก เพื่อเน้นทำข้อสอบ ฝึกทักษะทางวิชานี้โดยตรงเลย ทำให้โอกาสเกิดการผิดพลาดน้อยมาก บางปีติดทุกคนได้อย่างไม่ยาก เพราะตัวเด็กเองก็ขยันและมุ่งมั่นมาอยู่แล้ว กว่าจะฝ่าฟันมาถึงช่วงนี้ได้ ส่วนวิชาการของภาคนี้นั้นก็จะเน้น 9 วิชาสามัญ จริงๆ แล้วยังมีอีกภาควิชานะที่หลายคนมักลืมไปคือ ภาควิชาสถาปัตยกรรมไทย ซึ่งจริงๆ แล้วภาคนี้ถือเป็นภาคที่โดดเด่นของจุฬาฯ เลยก็ว่าได้ ก็จะมีการสอบข้อสอบเป็นของตัวเองเหมือนกัน เน้นไปที่ทฤษฎีทางความเป็นไทย และการวาดรูปแสดงองค์ประกอบอาคารและความเป็นไทย
ม.ศิลปากรข้อสอบที่ ม.ศิลปากร ไม่มีค่อยมีอะไรซับซ้อนมากครับ เกรดเฉลี่ยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละปีได้ แต่โดยรวมจะอยู่ที่ช่วง 2.00-2.50 ในส่วนของข้อสอบวิชาการก่อนหน้านี้ จะจัดทำข้อสอบเองเลย แต่ในปีล่าสุดเปลี่ยนมาใช้คะแนนจาก 9 วิชาสามัญ ส่วนของข้อสอบ “ความถนัดทางสถาปัตยกรรม” นั้น ทางคณะยังคงจัดสอบข้อสอบของตัวเองอยู่ ซึ่งตัวข้อสอบจะแตกต่างไปจาก PAT 4 ค่อนข้างเยอะอยู่เหมือนกัน มีความครบรสมากกว่า เริ่มจากส่วนของปรนัยอย่างน้อยๆ ก็ 30 ข้อเลย คำถามก็จะเน้นไปที่ความรู้ของสถาปัตยกรรมที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับศิลปากรมาอย่างยาวนาน รวมถึงบุคลากรอาจารย์ที่สอนในนั้นด้วย และความรู้ทางการมองภาพเชิงมิติ, ทฤษฎีสี รวมถึงการจัดองค์ประกอบทั้งหมดก็จะอยู่ในนี้
ต่อมาในส่วนของการสอบปฏิบัติ ก็คือการวาดภาพเชิงการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ ตรงนี้เน้นการออกแบบเต็มๆ ข้อสอบส่วนนี้แต่ก่อนจะเน้นให้วาดในสัดส่วนที่ไม่เยอะ แต่มาช่วง 2-3 ปีล่าสุดทาง ม.ศิลปากร ก็จัดเต็มอยู่เหมือนกัน ลักษณะข้อสอบจะเป็นแนวการพบเจออะไรต่างๆ แล้วสามารถนำมาคิด ดัดแปลง ออกแบบให้เกิดประโยชน์ การออกแบบนั้นจะหลากหลายมาก ตั้งแต่เรื่องของสัญลักษณ์, ผลิตภัณฑ์, Kiosk,ความสามารถในการอ่านผังต่างๆ, ศาลาต่างนิทรรศกาลต่างๆ รวมไปถึงการเขียนทัศนียภาพที่เป็นประเพณีไปแล้วว่าเป็นข้อจบของข้อสอบ เพราะฉะนั้นการติวข้อสอบเข้า ม.ศิลปากร เป็นอะไรที่ค่อนข้างสนุก ความรู้หลากหลาย แล้วเน้นประสิทธิภาพในการออกแบบจริงๆ
ส.ลาดกระบังฯเป็นสถาบันเจ้าแห่งการสอบตรงมาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ปีหลังๆ มานี่สามารถเลือกสอบเข้าได้แค่ภาควิชาเดียว ภาคฯที่มีเงื่อนไขหมือนกันก็คือ ภาควิชาสถาปัตยกรรม และภูมิสถาปัตยกรรม ที่ใช้คะแนน GAT, PAT 1, PAT และ PAT 4 และก็ดูแฟ้มผลงานพร้อมสอบสัมภาษณ์ บอกเลยว่าหินอยู่เหมือนกัน เพราะมีการคัดออกเกือบครึ่ง และอาจารย์ที่สัมภาษณ์ก็จะเน้นที่การทดสอบทั้งทัศนคติและฝีมือว่าผลงานที่ส่งมานั้นเป็นผลงานจริงของตัวผู้ส่งหรือไม่
ส่วนภาควิชาที่เหลือคือ สถาปัตยกรรมภายใน, ศิลปอุตสาหกรรม จะมีข้อสอบทั้งหมดเป็นของตัวเอง โดยที่ช่วงเช้าจะทดสอบเป็นทฤษฎีความถนัดทางสถาปัตยกรรม 3 ชั่วโมง แบบว่าเน้นกันไปเลย 100 ข้อ ส่วนช่วงบ่ายก็เป็นปฏิบัติอีก 3 ชั่วโมง จะได้คัดกันไปเลยว่าคนที่สอบมีศักยภาพมาแค่ไหน ซึ่งการติวในข้อสอบลาดกระบังนั้นสนุกมาก เพราะได้ดึงเอาศักยภาพที่แท้จริงของน้องที่มีอยู่ออกมาพัฒนาได้อย่างเต็มที่ ประเทศเราจะพัฒนาทางการศึกษาได้ คุณภาพของข้อสอบนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง เราสอนมาเรารู้เลยว่าข้อสอบไหน การสัมภาษณ์ของภาควิชานี้ก็จะเหมือนกันคือ ส่งแฟ้มผลงานแล้วก็สัมภาษณ์เชิงทัศนคติโดยคัดออกจำนวนหนึ่ง
ม.เกษตรศาสตร์สิ่งที่แตกต่างจากมหาลัยอื่นเลยคือ การที่ ม.เกษตรฯ ไม่เอาเกรดเฉลี่ยมาเป็นเงื่อนไขในการสมัคร เกรดแค่ไหนก็สามารถสมัครได้ ซึ่งเป็นสนามที่ให้ความหวังกับน้องๆ ที่มีเกรดเฉลี่ยไม่ดี แต่มีความตั้งใจสูง อีกอย่างคือไม่ได้มีการจำกัดสายการเรียนด้วย ยิ่งเปิดกว้างเข้าไปใหญ่ โดยหลักๆ แล้วในส่วนของวิชาการจะเอาแค่ GAT เท่านั้น สัดส่วนอยู่ที่ 30% และจะใช้ PAT4 20% เท่านั้น ที่เหลือจะเป็นวิชาความถนัดทางสถาปัตยกรรม ที่ทางคณะจัดสอบเอง เป็นสัดส่วนอีก 50%
ความมันส์มันอยู่ตรงที่ว่าไม่ต้องมี PAT 1 หรือว่า PAT 2 เข้ามารบกวนการสอบเ เรียกได้ว่ารอบสอบตรง ม.เกษตรฯ เน้นไปที่ความสามารถในเชิงสถาปัตยกรรมล้วนๆ ดังนั้นข้อสอบที่เขาใช้สอบเข้าโดยคณะออกเองนั้นจะมีทั้งทฤษฎีที่เป็นตัวเลือก ซึ่งจะเป็นทฤษฎีทางสถาปัตยกรรม คือ มีครบทุกรสอยู่ในการตัวเลือก มีทั้งประวัติศาสตร์ทางสถาปัตยกรรม, ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดองค์ประกอบ, ความรู้เชิงเรขศิลป์, การออกแบบและความคิดสร้างสรรค์รวมถึงการเขียนทัศนียภาพต่างๆ เป็นอีกมหาลัยหนึ่งที่มีข้อสอบที่มีคุณภาพ สามารถวักศักยภาพของคนที่เข้าสอบได้ ถ้าเกิดว่าน้องมีการเตรียมตัวมาอย่างดี แม้ว่าเกรดเฉลี่ยที่โรงรียนจะไม่ดีนัก ก็มีความหวังในการสอบเข้าได้
ม.ธรรมศาสตร์เป็นมหาลัยที่เพิ่งจะเปลี่ยนเกณฑ์การสอบตรงมาก็ปีที่ผ่านมานี้เอง (2559) เป็นการสอบตรงที่มีปัญหาค่อนข้างเยอะ เรียกได้ว่าธรรมศาสตร์เองไม่เอาข้อสอบจากส่วนกลาง มาใช้เลย จัดสอบเป็นของตัวเองล้วนๆ สิ่งแรกสำหรับน้องที่จะเข้าต้องทำเลยก็คือ การสมัคร TU STAR โดยที่เลือกตัวเลือกไปที่ วิชา ST03 ซึ่งวิชานี้นั้นจะเน้นการสอบวิชาการไปที่ คณิต,ฟิสิกส์,อังกฤษ,ทักษะทางการเชื่อมโยงเหตุและผล รวมถึงความรู้รอบตัวด้วย ส่วนเรื่องของเกรดเฉลี่ยนั้นอยู่ที่ 2.75 ขึ้นไป ถึงจะมีสิทธิสมัครสอบได้ แต่ ม.ธรรมศาสตร์ไม่ได้มีการจำกัดสายการเรียน ก็เป็นอีกสนามที่น้องๆ ไปสอบกันเยอะ
ส่วนวิชาความถนัดทางสถาปัตยกรรมนั้น ม.ธรรมศาสตร์ จะให้ลงโดยใช้รหัสวิชา 316 ซึ่งก็จะมีทั้งทฤษฎีและก็ปฏิบัติ โดยรวมๆ แล้วตัวข้อสอบของ ม.ธรรมศาสตร์ จะใกล้เคียงกับ ม.เกษตรฯ เพียงแต่ว่าบางครั้งอาจจะมีความระห่ำหน่อยตรงที่ข้อสอบให้วาดทัศนียภาพในกระดาษ A3 แทนที่ A4 ซึ่งก็ใหญ่กว่าและเหนื่อยกว่าเป็นเท่าตัว โดยข้อสอบจะเน้นไปที่ปฏิบัต วิธีการแก้ปัญหาทางการออกแบบ การใช้ชีวิตเป็นส่วนใหญ่ เช่น ถ้าเกิดว่าเราเป็นหนึ่งในนักออกแบบจะแก้ไขปัญหาต่างๆที่โจทย์ให้มา ด้วยวิธีใด อะไรประมาณนี้
พี่พูดหลักๆ ประมาณนี้ก็แล้วกันครับ แต่ความจริงแล้ว การสอบตรงยังมีอีกหลายที่ เช่น ม.พระนครเหนือฯ (มจพ.) ที่เน้นการวาดมากๆ ให้โจทย์มาโจทย์เดียว แล้วให้เราแก้ปัญหาตีโจทย์ให้แตกให้ได้ เพื่อที่จะวัดกันหมัดต่อหมัดไปเลยก็โอเคมั้ย เช่น การออกแบบ Shelter เพื่อช่วยผู้ประสบภัยจากน้ำท่วมเป็นต้น หรือ ม.บางมด(พระจอมเกล้าธนบุรี) ซึ่งข้อสอบจะเป็นแนวที่ใกล้เคียงกับ ม.พระนครเหนือฯ และ ม.เชียงใหม่ แต่ ม.เชียงใหม่นั้นจะเน้นไปที่การ Workshop คือ เข้าไปทำข้อสอบเป็นฐานๆ เพื่อวัดทักษะในแต่ละด้านเลย โดยที่ตัวผู้เข้าสอบต้องบินขึ้นไป Workshop ที่ ม.เชียงใหม่ เลย
เชื่อว่าน้องๆ ที่อยากเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์คงได้ข้อมูลในการสอบไปไม่น้อยเลย จัดเต็มแบบละเอียดขนาดนี้ ต้องขอขอบคุณพี่นันและพี่เอก จากสถาบัน A le' Paint (เอ-เลอ-เพนต์) ด้วยนะคะ ที่มาเล่าให้น้องๆ ฟังจะได้เริ่มในการเตรียมตัวสอบเข้าคณะนี้ต่อไป ส่วนน้องๆ เมื่อมั่นใจแล้วว่าจะเรียนต่อในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ก็ลุยไปเลย เริ่มฝึกตั้งแต่วันนี้ แล้วโกยคะแนนมาให้มากที่สุด สู้ๆ :)
19 ความคิดเห็น
ไม่มีความรู้เกี่ยวกับศิลปะเลยTT
เราว่าเรียนalepaintสนุกมากเลย ได้ทั้งความรู้ละก็ฮาปนๆกันไป พี่เอกขำอร่อยมาก5555 เราเพิ่งมาเริ่มติวตอน3/7/17 นะ คือช้ามากอะคนอื่นติวกันมา2-3ปีแล้ว ถามพื้นฐานก็ไม่แน่น555 ตอนแรกก็กลัวอยู่หรอกจะไปทันเขาได้ไง แต่พี่นันก็บอกว่าทันแหละ เราก็เอาวะสู้ๆตั้งใจมากๆ พี่ๆที่จบไปก็กลับมาช่วยสอน คอยดูน้องๆทั่วๆห้อง อีกอย่างเราเพิ่งเข้ามาเรียนชะทุกคนเค้ามีกลุ่มกันหมด วันแรกๆก็เหงาๆหน่อยแต่ก็ค่อยๆสนิทก่ะเพื่อนในโต๊ะมากขึ้น ถึงจะยังไม่รู้จักใครมากแต่มันรู้สึกอบอุ่นดีนะ คุยได้ทุกคน สนุกทุกครั้งที่มาเรียน ยิ่งตอนเรียนแบบเหมือนโค้งสุดท้ายเรียนยาวตั้งแต่10.00-21.30 5วัน ตอนดึกๆคือเฮฮามากชอบ5555 พอถึงวันสอบpat4เราตื่นเต้นมากกลัวแบบทำมาไม่ดี...ละวันประกาศคะแนนก็ออกจ้า พอเปิดเข้าไปนี่ ฮะนี่เข้าถูกแอคปะเนี่ยคะแนนดีเกินคาด ได้240 คือไม่คิดว่าคนที่เรียนมาแค่7เดือนจะทำได้200+อะ ปลื้มปริ่ม
เรา เป็นเด็กal 14 ค่ะ
เรามาเรียนที่อาเลเพ้นเพราะเพื่อนชวนค่ะ555 ทีแรกเราคิดว่าแบบ เออ เรียนที่ไหนก็เหมือนกันแหละ แต่มันไม่ใช่เลย เรียนที่อาเลเพ้นเราว่าเราได้อะไรเยอะมากที่สถาบันอื่นไม่ได้มีให้ ทั้งแมกนั่มแท่งละ5บาท แล้วก็เพลงเพราะๆที่ฟังทีไรแล้วรู้สึกไอคิวมันเพิ่มเลยอะ … อะล้อเล่นนนน ที่จริงมาเรียนที่นี่เราได้ความรู้จริงๆ พี่ๆที่เรียนตั้งใจสอนกันดีค่ะ ใจเย็นกับเรามากๆ คือสอนแบบอยากให้เราได้ความรู้ แล้วก็ได้ลองผิดลองถูกด้วยตัวเองอีกต่างหาก เราได้ลองวาดอะไรหลายอย่าง แล้วเราก็วาดได้ดีขึ้นจริงๆ บางอย่างที่เราวาดไม่เป็นพี่ๆเค้าก็สอนจนเราวาดเป็น เพราะ พี่เอก พี่นัน แล้วก็พี่โค้ก เก่งกันมากๆ คือการมีครูที่เชี่ยวชาญ ก็ทำให้เรามีพื้นฐานในการวาดภาพที่ดีไปด้วย พี่ๆที่คอยดูแลก็ดีมาก ตลกมากๆเลย อย่างพี่เจอร์รี่ก็ใจดีมากๆเลยค่ะ ชอบมากเพราะพี่เจอใจเย็น คอยช่วยหนูตลอด พี่เติ้ลคนสวยก็ดีอะะ คอยสอนหนูวาด บางทีก็เม้ากันทำให้การเรียนไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด พี่ปองพี่กูฟก็ตลกดีค่ะ555 คนอื่นๆก็น่ารักมากๆ คือพี่ๆที่นี่นอกจากจะให้คำปรึกษาเรื่องเรียนแล้วยังเป็นที่ปรึกษาชีวิตได้ด้วย คือไม่ต้องจ้าง consultant เลยอะ555 ดีเว่อร์ เอาจริงๆ นอกจากความรู้ในห้องเรียนเราได้ความรู้รอบตัวเยอะมาก555 ในเรื่องที่มันจัญไรอะ555 เพื่อนที่อาเลเพ้นก็น่ารักมากๆเลย คอยช่วยเหลือกัน สร้างสีสันให้แก่คลาสเรียน สนุกดีค่ะ5555 แต่บางทีอาจมีท้อบ้างอะไรบ้างแต่เราคิดว่ามันก็ช่วยเป็นแรงผลักดันนะ คือที่นี่มันไม่ได้เครียดเกินไปอะ การที่เราเครียดแบบพอดีๆมันจะกระตุ้นให้เราทำได้ดีขึ้นแหละ เพราะถ้าเครียดมากไปเราจะไม่อยากทำอะไรเลย แต่ที่นี่ไม่บังคับ ไม่ตีกรอบเรา คือมันดีมากอะ คือท้ายที่สุดแล้วคะแนนมันก็ออกมาลงตัวดีมากๆเลย อยากขอบคุณอาเลเพ้นมากๆค่ะ
แมกนัมจ่ายเองทอนเองด้วย555
ตั้งแต่เรียนที่นี่มารู้สึกแฮปปี้มากๆครับเรียนชิวๆมีคุณภาพพี่ๆเข้าใจน้องๆเป็นกันเองมากๆมีกิจกรรมมีงานมาให้เล่นตลอดแจกรางวัลนู่นนี่รู้สึกเหมือนเป็นโรงเรียนจริงๆมากกว่าสถาบันเรียนพิเศษต้องขอบคุณที่นี่มากครับ
เราเป็นคนนึงที่เรียนที่นี่ค่ะะ เรียนประมาณสองปีได้ แต่ไม่เคยรู้สึกเสียดายเวลาที่เรียนไปเลย แต่กลับรู้สึกภูมิใจและคุ้มค่ามากที่ได้ใช้เวลาในการเรียนที่นี่ ที่ที่เป็นมากกว่าที่ติว สอนทั้งวิชาความรู้และการใช้ชีวิต ถือว่าเราเมื่อสองปีที่แล้วตัดสินใจถูกจริงๆค่ะะ
เราก็เรียนalepaintจย้าาาห์ บรรยากาศเเรกที่เข้าไปคือ ที่นี่เป็นที่เรียนที่มีบรรยากาศสนุกสนาน สามารถพูดคุยกับพี่ติวได้อย่างเป็นกันเอง(สุดๆ) เพื่อนในห้องดีมากกก ทุกคนเป็นกันเอง(สุดๆ) จากที่เราเป็นคนชอบโดดเรียนก็ถือว่าโดดน้อยนะ เพราะว่าเราอยากเจอเพื่อน อยากเจอพี่ๆ ทั้งพี่เอก พี่นัน พี่โค้ก พี่ฝ้าย พี่ปอง พี่กูฟ พี่เจอ พี่เติ้ล ป้าตวง ลุงสุพรรณ ป้าโส น้องจ่อย เเม่เสงี่ยม ส่วนเรื่องการเรียนการสอน พี่ๆเขาจะจัดตารางให้เราเรียนรู้ครบทั้ง สถ.หลัก ภายใน id landscape เเละมีพวกถาปัตไทย ด้วย เราว่ามันดีมากเลยที่ได้รู้อะไรหลายๆอย่าง ไม่รู้จะบรรยายยังไง อยากให้ลองมาเรียนกันดูเน้อออ ได้อะไรมากกว่าที่เราคิดเยอะเลยยย ได้เพื่อนเยอะพอๆกับได้ความรู้เลยเเกร
!!! สำหรับน้องๆขึ้นม.6นะคะ ที่นี่มีคอร์สสอนทำportfolio สามารถไว้ใช้ยื่นรอบ1เเละ2ได้ ยื่นได้ทั้งลาดกระบัง ศิลปกร บางมด พระนครเหนือ มาหมดเลยจ้าา รอบนี่ถ้าติดนี่สบายยาวเลย เพราะเป็นรอบเเรก เเละได้พัฒนาฝีมือเราอีกด้วย
หวังว่าจะได้เจอกันน้าา
Al-Si
เราก็ทีมเอเลอเพ้นนน คือเราเป็นเด็กคนนึงที่เริ่มเรียนเอแอลตั้งแต่ ม.3 ก็อยู่มานานนะ อยู่มารุ่นแล้วรุ่นเล่า55555 เรารักที่นี่มากกกกก คือที่นี่เข้าใจเด็กอ่ะ พี่ๆที่สอนก็ใจดี เล่นก็คือเล่น แต่โหมดจริงจังก็มี เวลามาสายทุกคนก็เข้าใจ(แหะๆ) พี่ๆทุกคนเอาใจใส่ มีอะไรก็ถามได้ตลอด เหมือนอยู่กันเป็นครอบครัว มีความอบอุ่น สนุกสนาน มุกฮาๆ รวมกันอยู่ที่นี่หมด ในส่วนของการเรียน ทั้งคลาสคนเยอะก็จริง แต่ไม่มีปัญหาในการสอนเลยสักนิด เพราะพี่ๆก็กระจายกัน เด็กไม่เข้าใจตรงไหนก็เรียกได้ตลอด ที่พี่ๆสอนไม่ใช่แค่วาดสวย แต่เราได้แนวคิดดีๆใหม่ๆ ครั้งแรกที่เข้ามาเรายังวาดเป็นรูปดวงอาทิตย์ลับกับภูเขาสองลูกอยู่เลย
มาค่ะ คือเราเป็นเด็กคนนึงที่เริ่มเรียนที่เอแอลตั้งแต่ ม.3 ก็อยู่มานานนะ อยู่มารุ่นแล้วรุ่นเล่า55555 เรารักที่นี่มากกกกก คือที่นี่เข้าใจเด็กอ่ะ พี่ๆที่สอนก็ใจดี เล่นก็คือเล่น แต่โหมดจริงจังก็มี เวลามาสายทุกคนก็เข้าใจ(แหะๆ) พี่ๆทุกคนเอาใจใส่ มีอะไรก็ถามได้ตลอด เหมือนอยู่กันเป็นครอบครัว มีความอบอุ่น สนุกสนาน มุกฮาๆ รวมกันอยู่ที่นี่หมด ในส่วนของการเรียน ทั้งคลาสคนเยอะก็จริง แต่ไม่มีปัญหาในการสอนเลยสักนิด เพราะพี่ๆก็กระจายกัน เด็กไม่เข้าใจตรงไหนก็เรียกได้ตลอด ที่พี่ๆสอนไม่ใช่แค่วาดสวย แต่เราได้แนวคิดดีๆใหม่ๆ ครั้งแรกที่เข้ามาเรายังวาดเป็นรูปดวงอาทิตย์ลับกับภูเขาสองลูกอยู่เลย
เราก็เป็นเด็กเอเลอเพ้นนน คือดียยยยยยยยย พี่ๆน่ารักเอาใจใส่น้องๆทุกคนแบบคุยได้ทุกเรื่องเลยย เนี่ยก็แบบไปปรึกษาพี่ๆเขาบ่อยๆ ละตอนเรียนอะจะมีพี่ตามดูทุกคน ละคือตรงไหนไม่ได้ก็ปรับแก้ไปเลย คือดีมากๆ พี่นันก็คอยถามเรื่องสอบเรื่องเรียนแบบช่วยเราวางแผนว่าจะยื่นไรยังไง ข้อมูลแน่นปึ๊ก พี่เอกก็น่ารักไม่เข้าใจอะไรพี่เขาก็ช่วยบอกจุดที่เราไม่รู้ คือแบบอย่างวาดตีฟงี้คือพี่ๆเขาน่ารักมาก คือแบบเราวาดอะเราก็ไม่รู้ใช่มั้ยว่าเราแบบมีจุดพลาดตรงไหนบ้างพี่เขาจะคอยย้ำคอยบอกเราว่าเออแกชอบพลาดตรงนี้แกปรับตรงนี้มั้ย เพิ่มนั่นลดนี่ คือรู้สึก skill ของตัวเองแบบพัฒนาขึ้นแบบเห็นได้ชัดเลยอะ คือแบบถ้าแกตั้ั้งใจพี่เขาก็เห็นว่าแกตั้งใจ ละพี่เขาพร้อมสนับสนุนอะ คือแบบ ช่วยใกล้สอบเราก็เครียดใช่มั้ย คือก็แบบคอยไปถามพี่เอกพี่นันว่าแบบเออหนูเครียด พี่เขาก็พร้อมรับฟังละให้กำลังใจอะ คือดีมากๆ บรรยากาศตอนเรียนคือพี่ๆน่ารัก เป็นกันเองแบบสนุกอะ คือเป็นเหมือนครอบครัว เป็นพี่น้องกัน คือทุกคนรักกัน มาจากหลายๆที่ก็มีเพื่อนเยอะแยะมากมาย คือทุกคนที่เรียนก็น่ารัก เอออ ละแบบที่ประทับใจคือแบบขณะที่พี่เขาสอนตอนบ่ายจะมีแบบ เลคเชอร์ให้จดอะ คือแบบมันดียยยยยยย คือเป็นแบบความรู้พื้นฐานของเราที่ควรจะมีอะ ไม่รู้ที่อื่นมีไหมแต่ที่นี่มีละคือดีละ มีทั้งความรู้พื้นฐาน และก็ความรู้รอบตัว เกี่ยวกับสถาปัตย์ได้รู้อะไรที่ไม่รู้เยอะมากๆ คือดีมากต้องมาเรียนจริงๆ สำหรับน้องๆ แกต้องตั้งใจอะ ไม่ว่าที่เรียนจะดีแค่ไหน ถ้าไม่ตั้งใจแกก็ทำไม่ได้อย่าให้พี่เขาที่สอนแบบผลักไปไม่สุดทางเลย คือที่นี่สอนดีจริงๆ ถ้าตั้งใจที่ไหนก็ติดดดด เอออออ เกือบลืมม คือจะหาว่าสปอยปะ แต่คือแบบพี่นันคือแบบเป็นคนอัพเดตข่าวสารมากเวอร์ คือสนุกทุกครั้งที่พี่นันเม้า 555555555555555555555 ดีๆๆๆๆๆ ต้องมาเจอนะฮะ คือเราชอบดูหนังละพี่ๆที่นี่ก็ชอบดูอะ รู้สึกสนุกสนานทุกครั้งที่พี่นันไปดูหนังมาละมาเม้า ทับใจจจ อิอิอิ คือมาเรียนรู้สึกไม่เบื่ออะ มันไม่มีความไม่อยากมาเรียนเลยยยย สนุกมากกกกก เหนื่อยแต่สนุกอะจริง สู้ๆน้า ตอนนี้เราติดแล้วว ต้องขอบคุณพี่เอกพี่นันจริงๆ เเบบพี่เขาสอนดีจริงๆอะ ไม่อยากจบการเล่าเรื่องเลยอะแบบ คือให้บรรยายคืออีกยาวจริงๆ คือไม่ได้ขายของไรนะแต่คือมันดีอะแก คอนเฟิร์มว่าดี ก่อนจบขอแชร์เรื่องตัวเองอีกซักนิสส คือนี่อะเรียนปีเดียวไม่ได้เรียนมานานเหมือนคนอื่นเขา ตอนเข้ามาก็แบบมาคนเดียว เกร็งๆเบาๆ แต่พอนั่งเรียนแค่วีคแรกก็มีเพื่อนละอะทุกคนน่ารัก พี่เขาสอนครบนะเราว่าแบบ โคปิกก็ได้เรียน แบบมันไม่ได้มีแค่ถาปัตย์อะเหมือนให้เราค้นตัวเองว่าชอบไร ก็มีเขียนแบบโปรดัค มีเขียนตีฟภายใน ตีฟธรรมดา ไรงี้คือแบบหลากหลายมากๆ ละคือก่อนสอบอะติวกันแบบเอาตายมากเวอร์คือวันสุดท้ายที่เรียนคือก่อนสอบแกท1วันอะ เลิกแบบสามสี่ทุ่มอะ ช่วงใกล้สอบแกทแพทคือแบกนสมาอ่านที่นี่เลย คือแบบ พี่เขาก็สอนแบบสุดๆจริงๆอะ เนื้อหาที่พี่สอนคือก็ครอบคลุมนะแบบมันอาจจะลึกไปสำหรับแพตสี่ พวกเนื้อหา แต่การสอนที่มากกว่าเก็งที่จะสอบคือ สอนเนื้อหาสำคัญแบบครอบคลุมเรื่องแบบสถาปัตย์ไปเลยอะ คือเราอะหลังสอบแกทแพตใช่มั้ย คือมันจะมี สนามพอร์ตของ ศิลปากร คือแบบบบ คนอื่นที่ไปสอบตอนเราไปสอบสัมอะ ใครๆล้วนบอกยากมากไรงี้ใช่มะ แต่คือเนื้อหาที่ออกอะ คือพี่นันสอนหมดแล้วคือตอนเราทำอะภาพหน้าพี่นันก็ลอยขึ้นมาตอนทำข้อสอบแบบนั่งทำละอมยิ้มแบบคนบ้า 55555555555 เเบบอ้ะะะ พี่นัน อ้ะพี่นันอีกแล้วว รู้สึกรักพี่นันมากเยย รักน้าาาาา //ชูมินิฮาร์ท แบบด้วยความที่พี่สอนแบบกว้างแต่สำคัญอะเข้าใจมะ มันเลยเป็นการเก็งข้อสอบอย่างนึง ละพี่เขาก็ให้ทำข้อสอบเก่าๆ คือดีมากอะ ตอนก่อนสอบแกทแพตเรานั่งทำวนไปอ่านวนไป อ่านวนไปค่ะ ละพอหลังสอบแกทแพตเสร็จชะคือแบบละเรามารู้ว่าเอออ เราโอเคอะเราทำได้ทันทุกอย่างจัดเวลาครบโอเคแต่ไปๆมาๆนั่งคิดทบทวนและคุยกะเพื่อนเราพลาดจุดนึงอะคือแบบเสียดายละก็เครียดมาก คือพลาดแบบโง่ๆ โจทย์ในแกทแพตอะเขาบอกว่า ให้วาดโลโก้ขาวดำ ไอเราไปทำขาวเทาดำไรงี้ คือเราเครียดมากอะ จนแบบนั่งร้องไห้ว่าเอ้อทำไมถึงพลาดอะไรแบบนี้ทั้งๆที่พี่นันพี่เอกบอกให้มีสติอ่านโจทย์ดีๆ แต่ทำไงได้ พลาดไปแล้ว คือเราเครียดมาก เลยทักพี่เอกไป แบบพี่เอกหนูเครียดดดด พี่เอกก็ให้กำลังใจแบบทำได้น่าทำได้ไรงี้คือแบบ จุดนั้นก็ปลงอะ ทำไงได้เนอะ ละพอคะแนนออกคือแบบ 252 โอ้โหหหห แบบ หายเหนื่อยอะ ทำได้แล้ว เราอยากแนะนำน้องๆเลยว่าเวลาพี่นันพี่เอกพูดให้กลับไปแก้ตีฟที่วาด ควรไปแก้นะ เพราะแบบ การแก้แต่ละครั้งคือการัฒนาทักษะของตัวเองละ เรารู้จุดพลาดเราวาดใหม่ เราชิน เราเข้าใจ ตีฟถัดไปที่วาดก็เอาจุดที่พลาดมาแก้ไขอะ โหไหนบอกจะพูดอีกนิดเดียว ยาวมากกก อมกกก เอาเป็นว่านี่แหละ เรื่องราวของเราในเอแอล รักมากกกกกกก ไปเรียนนะ
อยากเรียนสถาปัตย ติวที่ไหนดีคับ แนะนำด้วยคับ
ขอบคุณคับ
เราก็เป็นเด็กA le paint รุ่นที่14
เราอยากจะบอกว่าตอนแรกตั้งแต่ที่เห็นเพจจากในFacebook เราก็รู้สึกอยากเรียนเลยอันนี้ไม่ได้ขิงนะ เราก็อยากเข้าสถาปัตย์อยู่แล้วไง5555 พอเห็นแล้วก็ต้องเข้ามาดูใช่ปะละ แล้วพอมาสมัครจริงๆคือทุกอย่างมันเกินคาดอะ มันไม่มีความเครียดใดๆเลย5555(อาจจะมีบ้างสำหรับเด็กม.6 1สัปดาห์ก่อนสอบPat4
เราก็เป็นเด็กA le paint รุ่นที่14 เราอยากจะบอกว่าตอนแรกตั้งแต่ที่เห็นเพจจากในFacebook เราก็รู้สึกอยากเรียนเลยอันนี้ไม่ได้ขิงนะ เราก็อยากเข้าสถาปัตย์อยู่แล้วไง5555 พอเห็นแล้วก็ต้องเข้ามาดูใช่ปะละ แล้วพอมาสมัครจริงๆคือทุกอย่างมันเกินคาดอะ มันไม่มีความเครียดใดๆเลย5555(อาจจะมีบ้างสำหรับเด็กม.6 1สัปดาห์ก่อนสอบPat4
ถึงน้องๆที่อยากเข้าคณะสถาปัตย์นะคะ การเตรียมตัวเป็นสิ่งสำคัญมากจริงๆ แค่ศึกษาวิชาที่ต้องสอบยังไม่พอนะ แต่ละมหาลัยยังรับเกณฑ์ไม่เหมือนกันอีก วิชาที่สอบ เลข อังกฤษ ฟิสิกส์ ก็สำคัญ แต่ที่สำคัญสุดนะ ความถนัดสถาปัตย์ เนี่ยยยตัวดี ฝ่ายวิชาการน้องต้องลองเรียนแต่ละที่ดูนะ อยู่ที่ค.ชอบล้วนๆ แต่ถ้าPAT4 บอกเลย alepaint
เรียนที่เดียว รักเลย บรรยากาศอบอุ่น เพื่อนดี พี่ดี พี่ๆทุกคนยินดีช่วย ยินดีให้คำปรึกษา คุยสนุก เฮฮาแต่สาระนี่ก็เข้มสุด alepaintเค้าเขียนเล่มดำตำนาน เด็กติวถาปัตย์เลย เนื้อหาแน่นแต่ถ้าเรียนที่นี่ก็เกินในเล่มแล้ว เข้าใจง่ายกว่าอีก> <
*แต่ท้ายสุดต่อให้พี่ดีแค่ไหน ถ้าน้องไม่ลงมือทำ โอกาสมันก็ไม่มีทางเกิดขึ้น ใครอ่านอยู่ เริ่มได้แล้วนะ*
เราก็เอแอลเช่นกัน al14นะ เรียนที่นี่สนุกมากแล้วตอนนี้ก็ติดแล้วด้วย ^_^ ที่มาถึงวันนี้ได้ก็ต้องขอบคุณพี่ๆทุกคนในเอแอลมากจริงๆ รวมถึงเพื่อนๆทุกคนด้วย ถ้าไม่ได้ทุกคนเราคงไม่ได้มาถึงจุดนี้ จริงๆตอนแรกก็แอบกลัวว่ามาเรียนที่นี่จะเครียดไหมเหมือนกันนะ เพราะเราเคยเจอที่นึงแบบเราไม่เก่งแล้วพี่ก็ไม่ค่อยสนใจเราเท่าไหร่มันก็ทำให้แอบเฟลไปเหมือนกัน แล้วเราก็เลือกมาเรียนที่นี่เพราะใกล้โรงเรียนด้วยเลยมาลองดู จากวันแรกที่แค่ขีดเส้นให้ตรงยังไม่ได้เลย พี่ๆก็ไม่มีใครมานั่งกดดัน คอยช่วย คอยปรับให้ตลอด แล้วเป็นกันเองมากทำให้เราสบายใจมากแล้วก็ดีใจรู้สึกเลือกเรียนถูกที่จริงๆ เราก็ได้พัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆโดยไม่รุ้ตัว จนเข้าช่วงม.6 การติวก็เข้มขึ้น มาเน้นpat4สุดๆ ฝึกจับเวลา ฝึกทำข้อสอบทุกรูปแบบ ทฤษฎีจัดเต็ม ตีฟเกือบทุกสถานที่บนโลกได้เคยเขียนมาหมด ทำให้เราพร้อมรับทุกสถานการณ์ มันช่วยได้มากจริงๆตอนสอบ ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่คอยสอน คอยแนะนำ คอยปรับให้ทุกๆอย่าง ขอบคุณมากๆจริงๆ ขอบคุณนะคะ❤️❤️
อย่างแรกเลยต้องบอกว่าหนูรู้สึกโครตโชคดีมากๆที่ได้เรียนที่นี่ แบบก่อนหน้านี้ยังลังเลอยู่ว่าจะเข้าอะไร เคยลองมาทางนี้แล้วรู้สึกเออเหมือนยังไม่ใช่ เลยลองมาเรียนดูให้มันรู้ไปว่ามันจะไม่ใช่จิงๆ แต่พอมาเรียน โอ้โหตรงกันข้ามเลยอ่ะ มาวันแรกก้อกังวลว่าจะเข้ากะคัยได้บ้าง พี่เค้าจะกดดันเราไหมต้องมีแต่คนเก่งๆแน่เลย กลัวไปหมด แต่พอได้มาฟังจิงๆมันเหมือนพี่นันปลุกระดมความตั้งใจ ความสนุก ทุกอย่างอ่ะทำให้รู้สึกว่าเออดีใจนะที่มาถูกทาง มันทำให้รู้สึกว่าเอออยากมาเรียน จะต้องมาเรียนอ่ะเพราะมันสนุก สนุกมากบ้าบอ ตลก ล่ะคือเราสนิทกันไวมากในห้องทั้งทีมพี่ที่สอน กะพี่นันเองหรือกะพี่เอกเอง บอกเลยที่นี่ไม่มีแบ่งชนชั้นอายุอ่ะ เล่นกันเหมือนเพื่อนทุกคน55555(แต่ก้อเคารพค่ะพี่555) แต่ในความสนุกมันไม่ใช่บ้าๆนั่งโง่ๆไปวันๆไงมันแทรกความรู้(ทุกด้านจิงๆ555)ตลอดทาง แม้กระทั่งเรื่องที่คิดว่าไม่น่าจะได้รู้ก้อได้รู้555จนรู้สึกว่าเรียนวันเดียวมันยังไม่พอหรอกมันต้องมาเรียนอีก มันเหมือนเวลาผ่านไปเร็วมาก ถึงพี่ไม่ได้ต้องการให้หนูโปรโมทอะไรแต่หนูพูดจิงๆเลยคือถ้าสุดท้ายแล้วหนูไม่มีพี่นัน พี่เอก พี่กาจ พี่เจอรี่ พี่กู๊ฟ พี่ปิงปอง พี่โค้ก หรือทีมพี่สอนคนอื่นๆ หรือสุดท้ายหนูไม่ได้เรียนที่นี่ หนูเชื่อว่าหนูอาจจะไม่ได้ค้นพบตัวเอง หรือหนูอาจจะไปทางอื่นซึ่งหนูเชื่อว่ามันคงไม่ได้สนุกแบบนี้ ตั้งแต่วันแรกที่หนูชื่นชมพี่นันพี่เอกยังไง จนถึงวันนี้หนูก้อยังชื่นชมอยู่ พี่ทำให้มันรู้สึกสนุก ซึ่งมันก้อสนุกอย่างที่พี่บอก หนูก้อขอบคุนทั้งพี่นัน พี่เอก ทีมพี่ที่สอน ทุกอย่างที่ทำให้หนูประสบความสำเร็จครั้งนี้ค่ะ สุดท้ายก้ออยากบอกพี่ว่า ทริปเที่ยวทะเลเมื่อไรจะจัดคะ55555 รอนานมากก55 คิดถึงพี่ๆทุกคนเลยค่า
#Alepaint