สวัสดีค่ะ Student Idol วันนี้ พี่มิ้นท์มีหนึ่งสาวสวยและเก่งจากรั้วเตรียมอุดมศึกษา จะมาแนะนำการทำช้อตโน้ต น้องๆ คงเคยได้ยินมาเยอะแล้ว แต่อาจจะยังไม่เคยลงมือทำจริงจังสักที แต่สำหรับ "พี่บีน" การทำช้อตโน้ตเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเลยล่ะค่ะ ฝึกฝนมาตั้งแต่ ม.1 จนจบ ม.6 มาได้ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.97! มาดูกันว่า พี่บีน มีเทคนิคอะไร และชีวิตการเรียนในรั้วเตรียมอุดมฯ เป็นอย่างไร ไปอ่านกันเลยค่ะ
Profile
ชื่อเล่น: บีน
แผนการเรียน: วิทย์-คณิต
งานอดิเรก: ฟังเพลง ดูซีรีย์
สไตล์การเรียนของตัวเอง: เป็นคนขยันและพยายามทุกอย่างให้ดีที่สุดค่ะ เพราะจะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง
IG : beanyiize
พี่มิ้นท์ : แนะนำตัวเองให้เพื่อนๆ ชาว Dek-D รู้จักหน่อยจ้า
น้องบีน : สวัสดีค่ะ ชื่อบีนนะคะ ปุนรดา กองโสภี ตอนนี้จบชั้น ม.6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สายวิทย์-คณิต (ตอนม.4และม.5 อยู่สายวิทย์-คอมค่ะ) เกรดเฉลี่ยสะสม 3.97 ตอนนี้กำลังจะเข้าคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะ เป็นคนหน้านิ่งๆ ถ้าไม่สนิทก็จะไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ เพราะไม่รู้จะพูดอะไร5555 แต่ถ้าสนิทก็จะพูดมากและพูดไม่รู้เรื่องในบางครั้ง 55555
พี่มิ้นท์ : มีน้องๆ อยากรู้เยอะมากๆ ว่า สายวิทย์โรงเรียนเตรียมอุดมฯ แต่ละแผนต่างกันยังไงคะ
น้องบีน : สายวิทย์ในเตรียมก็ปีนี้เป็นปีแรกที่เค้ารวมเป็นแค่วิทย์-คณิตอย่างเดียวแล้วค่ะ แต่ปีบีนแบ่งเป็น 8 สายการเรียน คือ วิทย์-คอม, วิทย์-คุณ ,วิทย์-ประยุกต์, วิทย์-บริหาร, วิทย์-ฝรั่งเศส, วิทย์-ญี่ปุ่น, วิทย์-เยอรมัน, และก็วิทย์-จีนค่ะ แต่ละวิทย์ก็จะเรียนวิชาหลักๆ เหมือนกัน แตกต่างกันแค่วิชาเพิ่มเติม 1 วิชาค่ะ อย่างเช่น วิทย์-คอม ก็จะเรียนวิชาเขียนโปรแกรมเพิ่มขึ้นมาค่ะ
พี่มิ้นท์ : ทำไมน้องบีนถึงเลือกแผนการเรียนนี้ มีแรงบันดาลใจอะไรหรือเปล่าคะ
น้องบีน : เหตุผลที่เลือกเรียนสายวิทย์-คณิต จริงๆ แล้วตอน ม.ต้น ไม่ได้อยากเรียนสายนี้เท่าไหร่ค่ะ เพราะไม่ค่อยชอบวิชาวิทยาศาสตร์ แต่เพื่อนในห้องบีนตอนนั้นทุกคนเรียนสายวิทย์-คณิต กันหมดและอาจารย์ที่รู้จักแนะนำให้เรียนสายนี้ ก็เลยลองพยายามและขยันมากขึ้น ทำให้ชอบวิชาวิทยาศาสตร์มากขึ้น เลยเลือกเรียนสายนี้ค่ะ
พี่มิ้นท์ : สามปีในรั้วเตรียมอุดม มีอะไรสนุกๆ ให้ทำบ้างคะ
น้องบีน : 3 ปีในเตรียมก็อย่างที่ทุกคนบอกค่ะ มันสั้นมากก ในแต่ละปีก็มีอะไรสนุกๆ ให้ทำตลอดค่ะ จริงๆ แล้วบีนใช้ 3 ปีในเตรียมไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ 5555 กิจกรรมที่ทำก็รับน้องค่ะ ตั้งแต่เข้า ม.4 มาเลย ในเตรียมจะมีรับน้องห้องและน้องสายค่ะ สนุกมากๆ ทำให้เรารู้จักเพื่อนๆ พี่ๆ มากขึ้น และ ม.5 เราเป็นพี่ก็มาทำกิจกรรมให้น้อง ม.4 ก็สนุกมากๆเหมือนกันค่ะ นอกจากนี้ก็มีกิจกรรมกีฬาสี งานโฮม และก็กิจกรรมอื่นๆ ของแต่ละชมรมในงาน Open House ค่ะ ส่วนใหญ่กิจกรรมของเตรียมจะแบ่งกันเป็นตึก คนในแต่ละตึกจะทำงานร่วมกัน และมีกรรมการนักเรียนคอยดูแลและประสานงานค่ะ
พี่มิ้นท์ : ได้เกรดจบมา 3.97 ถือว่าสูงมากๆ เทคนิคการเรียนของน้องบีนคืออะไรคะ
น้องบีน : เทคนิคการเรียนใช้เป็นประจำก็ทำช็อตโน้ตค่ะ แต่ช็อตโน้ตของบีนจะเป็นแนวสรุปเนื้อหามากกว่า เพราะเวลาทำจะอ่านไปเขียนไปค่ะ
พี่มิ้นท์ : มีจุดเริ่มต้นหรือแรงบันดาลใจอะไร ที่ทำให้เราเริ่มทำช้อตโน้ตใช้กับการเรียน
น้องบีน : ถ้านับย้อนหลังไป บีนเริ่มทำช็อตโน้ตตั้งแต่ ม.1 เลยค่ะ จำได้ตอนนั้นเรียนวิชาภูมิศาสตร์ อ่านเท่าไหร่ก็จำไม่ได้ซักที เลยมานั่งทำสรุปและอ่านเท่าที่สรุปไว้ ปรากฏว่ามันทำให้เราจำได้มากขึ้น บวกกับเป็นคนชอบเขียนหนังสืออยู่แล้ว หลังจากนั้นมาก็ทำสรุปตลอดเลยค่ะ^^
พี่มิ้นท์ : การทำช้อตโน้ต ดีกว่าการอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ ยังไงบ้างคะ
น้องบีน : ส่วนตัวคิดว่าการทำช้อตโน้ตสรุปมีประโยชน์มากๆ ที่สำคัญทำได้กับทุกระดับชั้นเลย ซึ่งข้อดีของมันคือ
1. ทำให้เราไม่ง่วงนอนตอนอ่านหนังสือ เพราะต้องจำใจความให้ได้และก็เขียนไปด้วย
2. ทำให้เรามีสมาธิมากขึ้น ปกติเวลาอ่านหนังสืออย่างเดียวชอบง่วงหรือไม่ก็จำไม่ได้ แต่พอทำสรุปแล้วมันทำให้เราจำได้มากขึ้น
3. เวลาทบทวนก็อ่านแค่สรุปของตัวเอง ประหยัดเวลาค่ะ ถ้าจำไม่ได้อีกก็อ่านในสรุปของตัวเองไปเรื่อยๆ จนจำได้ค่ะ
นอกจากนี้ เวลาบีนทำสรุป จะใช้สีจดค่ะ ถ้าพวกเนื้อหลักที่คิดว่าสำคัญจะใช้สิน้ำเงิน ส่วนเนื้อหาเพิ่มเติมและย่อยออกไปจะใช้สีอื่นๆ ค่ะ บีนว่าการทำช็อตโน้ตมันดีอีกอย่างคือหยิบมาอ่านตอนไหนก็ได้ สะดวก ไม่ต้องแบบหนังสือหนักๆไปอ่าน ถ้าทำมาเรื่อยๆ สามารถเก็บไว้อ่านตอนสอบเข้ามหาลัยได้ด้วยค่ะ
พี่มิ้นท์ : ถ้าเพื่อนๆ หรือ น้องๆ อยากทำช้อตโน้ตเองบ้างแต่เริ่มต้นไม่ถูก มีวิธีหรือเคล็ดลับแนะนำไหมคะ
น้องบีน : บีนว่าการทำช็อตโน้ตขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วยค่ะ บางคนก็ชอบ บางคนก็มองว่าเสียเวลา แต่สำหรับบีนแล้วมันเป็นวิธีที่ดีมากๆ ค่ะ
สำหรับคนที่ไม่รู้จะเริ่มยังไง บีนว่าน่าจะเริ่มจากหาประเด็นสำคัญของเนื้อหานั้นๆ ก่อน แล้วก็จดเฉพาะใจความสำคัญและเรื่องที่ชอบลืมหรือจำไม่ได้ค่ะ พอชินกับการทำสรุปแล้วค่อยเพิ่มเนื้อหาย่อยๆ ลงไปค่ะ เวลาทำช็อตโน้ตหรือสรุปให้คิดว่าอะไรที่เขียนลงไปต้องจำให้ได้ ถ้าจำไม่ได้ก็อ่านไปเรื่อยๆ จนกว่าจะทำได้ค่ะ
พี่มิ้นท์ : อยากให้เล่าถึงชีวิต ม.6 ช่วงเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยหน่อยค่ะ เตรียมตัวหนักมากขนาดไหนคะ
น้องบีน : ช่วง ม.6 บีนว่าเป็นช่วงที่เหนื่อยมากๆ การสอบเข้าเรียนหมอต้องสอบ กสพท. กับ 9 วิชาสามัญ ซึ่งสอบในช่วงปลายปี ซึ่งคือก่อนจบ ม.6 ทำให้ต้องรีบเก็บเนื้อหาให้จบและต้องฝึกทำโจทย์อีก ชีวิตก็เปลี่ยนไปเยอะค่ะ 5555 ปกติเป็นคนนอนเร็วมาก 4 ทุ่มก็หลับแล้ว แต่พออยู่ ม.6 นี่ต้องอยู่ถึงเที่ยงคืน เพราะต้องอ่านหนังสือ
เริ่มเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยตั้งแต่ขึ้น ม.6 ค่ะ ช่วงนั้นมันก็เหนื่อยและท้อบ้าง แต่เราต้องพยายามต่อไป บีนเชื่อว่าความพยายามทำให้เราประสบความสำเร็จ ตัวบีนเองก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้น แต่ขยันมากกว่าค่ะ ทำการบ้านทุกครั้ง ช่วงไหนว่างๆ ก็เอาสรุปที่จดเองขึ้นมาอ่าน ถ้าไม่เข้าใจเรื่องไหนก็อ่านทบทวนค่ะ แต่ก็ไม่ถึงกับเอาเป็นเอาตายนะคะ ถ้าวันไหนรู้สึกว่าไม่ไหวจริงๆ ก็พัก แล้วค่อยเริ่มใหม่ในวันต่อไป
พี่มิ้นท์ : สุดท้ายแล้ว อยากให้น้องบีนให้กำลังใจน้องๆ ชาว Dek-D.com เกี่ยวกับการใช้ชีวิต ม.ปลาย หน่อยค่ะ
น้องบีน : ชีวิต ม.ปลายเป็นชีวิตที่สนุกมากๆ ทั้งสุขและทุกข์ สมหวังและผิดหวัง ทุกๆ อย่างเกิดขึ้นในช่วงนี้ สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นใน ม.ปลาย มันทำให้เราเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น อยากให้ทุกคนใช้ชีวิต ม.ปลาย ให้คุ้มและสนุกไปกับมัน แต่ก็ต้องแบ่งเวลาให้ถูกและอย่าลืมว่ายังไงเราก็ยังเป็นนักเรียน ดังนั้นหน้าที่หลักคือการเรียน ถึงแม้ว่าการเรียนมันไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต แต่บีนคิดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จในอนาคต ถ้าเราใช้ชีวิตในช่วง ม.ปลาย อย่างถูกต้อง มีความสุขและคุ้มค่าแล้ว เวลาเรามองกลับมาก็จะไม่เสียใจทีหลังค่ะ
เห็นไหมคะว่าขยันทำช้อตโน้ตสักนิด ชีวิตจะดีขึ้นจริงๆ ได้ทบทวนตัวเองไปในตัวแล้ว ยังช่วยลดเวลาการอ่านในครั้งต่อไปได้เยอะเลยล่ะค่ะ ได้ไอเดียจากพี่บีนไปแล้ว น้องๆ ชาว Dek-D.com อย่าลืมนำไปใช้ได้เลยนะคะ
3 ความคิดเห็น
ผมเป็นคนหนึงนะ ที่อยากเรียนเก่ง แต่ไม่ค่อยขยัน 5555+
นอนทั้งวันเลยเรา 55
นอนทั้งวันเลยเรา 55