แค่ท่อนแรกก็จำได้! รวม 5 คำประพันธ์ที่เด็กมัธยมท่องผ่านปากมาแล้วทุกคน


          "มาจะกล่าวบทไป . .. " เอ๊ย! ไม่ใช่แล้วค่ะ พี่อีฟกำลังจะทักทายน้องๆ ว่าสวัสดีค่ะ แต่วันนี้อยากจะขอเริ่มเป็นบทกลอนกันมาหน่อย เพราะอยากจะขอเก็บควันหลงจากกระแสวันสุนทรภู่ที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าหลายๆ โรงเรียน น่าจะมีกิจกรรมจากหมวดภาษาไทยในวันสุนทรภู่แน่นอน
           ท่านสุนทรภู่ ถือว่าเป็นบุคคลสำคัญของไทยที่โดดเด่นในด้านวรรณคดี เชื่อว่านักเรียนทุกคนต้องเคยได้ยิน ได้อ่าน และได้ท่อง ผลงานของท่านกันมาแล้ว แต่จริงๆ แล้วยังมีอีกหลายกวีที่เราคุ้นเคย วันนี้พี่อีฟเลยขอรวบรวม กับ 5 บทกลอนจากบทประพันธ์ที่มั่นใจว่านักเรียนมัธยมทุกคนต้องเคยท่อง! มาฝากกัน จะมีบทกลอนจากคำประพันธ์ในบ้าง ไปดูเลยค่ะ

 

"แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์
มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด

ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด
ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน

มนุษย์นี้ที่รักอยู่สองสถาน
บิดามารดารักมักเป็นผล
ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน
เกิดเป็นคนคิดเห็นจึ่งเจรจา
แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ
ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา

รู้สิ่งใดไม่สู้รู้วิชา
รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี"


ระดับการท่องตามได้ทันที : ♦ ♦ ♦
          
         ขอติดขอบควันหลงวันสุนทรภู่ กับบทประพันธ์ที่เรียกว่าเป็นบทประพันธ์อมตะและสร้างชื่อเสียงให้กับท่านสุนทรภู่เป็นอย่างมาก กับบทประพันธ์เรื่อง พระอภัยมณี วรรณคดีที่เปิดโลกจินตนาการของเด็กๆ ในยุคนั้น เพราะมีสิ่งที่เหนือจริงหลายอย่างมากค่ะ ตั้งแต่นางยักษ์ นางเงือก ไม้เท้าวิเศษ ไปจนถึงม้านิลมังกร ฯลฯ ทำให้มีความสนุกและน่าติดตามมากค่ะ
          เชื่อว่าวิชาภาษาไทยที่น้องๆ เรียนในมัธยม ต้องได้เจอกลอนบทนี้แน่นอน เพราะเป็นหนึ่งในวรรคทองของเรื่องนี้ นอกจากจะมีความสวยงามทางด้านสัมผัสภาษาแล้ว สิ่งที่สอดแทรกอยู่ก็ยังเป็นคำสอนที่ทรงคุณค่า สอนไว้เกี่ยวกับการไว้ใจคนอื่น โดยบทกลอนท่อนนี้เป็นคำสอนของพระฤๅษีที่สอนสุดสาคร หลังจากที่สุดสาครไว้ใจชีเปลือย จนโดนขโมยไม้เท้าวิเศษและม้านิลมังกรไป เป็นอีกหนึ่งบทกลอนเลยนะคะที่มีใครเริ่มต้นกลอนมาเมื่อไหร่ ต้องมีคนท่องต่อได้แน่นอนค่ะ

 

                              "อินทรชิตบิดเบือนกายิน        เหมือนองค์อมรินทร์
                         ทรงคชเอราวัณ

                               ช้างนิมิตฤทธิแรงแข็งขัน       เผือกผ่องผิวพรรณ
                         สีสังข์สะอาดโอฬาร์

                               สามสิบสามเศียรโสภา          เศียรหนึ่งเจ็ดงา
                         ดั่งเพชรรัตน์รูจี 
                               งาหนึ่งเจ็ดโบกขรณี             สระหนึ่งย่อมมี
                         เจ็ดกออุบลบันดาล
                               กอหนึ่งเจ็ดดอกดวงมาลย์      ดอกหนึ่งแบ่งบาน
                         มีกลีบได้เจ็ดกลีบผกา 
                               กลีบหนึ่งมีเทพธิดา              เจ็ดองค์โสภา
                         แน่งน้อยลำเพานงพาล 
                               นางหนึ่งย่อมมีบริวาร            อีกเจ็ดเยาวมาลย์
                         ล้วนรูปนิรมิตมายา
 
                               จับระบำรำร่ายส่ายหา           ชำเลืองหางตา
                         ทำทีดังเทพอัปสร" 


                              ระดับการท่องตามได้ทันที : ♦ ♦ ♦ ♦ 

          เป็นคำประพันธ์ที่ถูกนำไปเป็นข้อสอบบ่อยมากๆ ตั้งแต่ในโรงเรียนจนถึงข้อสอบระดับชาติเลยค่ะ โดยเป็นบทกลอนที่กล่าวถึงบทหนึ่งในเรื่อง รามเกียรติ์ ตอนที่อินทรชิตแปลงกายเป็นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ เพื่อหลอกให้พระลักษณ์ตายใจ จนแผลงศรนาคบาศไปทำร้ายพระลักษณ์ได้ ซึ่งเป็นตอนที่เรียกกันทั่วไปว่า บทพากย์เอราวัณ ค่ะ 
          ความน่าสนใจของกลอนบทนี้ อยู่ที่การพรรณนาถึงความสวยงามของช้างเอราวัณ ที่แต่ละงาจะมีสระน้ำที่มีเทพธิดาและบริวารอยู่ในกลีบดอกบัวค่ะ ซึ่งตรงนี้แหละที่ออกข้อสอบกันถี่เหลือเกิน ซึ่งส่วนมากก็จะถามกันว่า บริวารของเทพธิดามีกี่ตน?
          ถ้ามีแค่ 2 งา 1 สระ 1 ดอกบัว ก็คงไม่เป็นคำถามหรอกค่ะ แต่ช้างเอราวัณนี้ มีเศียรมากถึง 33 เศียร และแต่ละเศียรยังมีงาอีก 7 งา แต่ละงามีสระ 7 สระ แต่ละสระมีดอกบัว 7 ดอก แต่ละดอกมีกลีบ 7 กลีบ แต่ละกลีบมีเทพธิดา 7 องค์ และเทพธิดาแต่ละองค์มีบริวาร 7 ตน! โอ้โห ถ้าต้องนับก็มีเหนื่อยเลยค่ะ บางคนเลยอาจจะใช้วิธีจำไปเลยแทน แต่เพื่อความปลอดภัย ถ้าจำได้ ท่องได้ ยังไงก็นับได้ และทำข้อสอบได้ถูกต้องแน่นอนค่ะ

 

                                  "เสียงลือเสียงเล่าอ้าง        อันใด พี่เอย
                              เสียงย่อมยอยศใคร                 ทั่วหล้า
                              สองเขือพี่หลับใหล                  ลืมตื่น ฤาพี่
                              สองพี่คิดเองอ้า                       อย่าได้ถามเผือฯ"


                               ระดับการท่องตามได้ทันที : ♦ ♦ ♦ ♦ 

          เป็นโคลงสี่สุภาพในเรื่องลิลิตพระลอค่ะ โดยตอนนี้เป็นตอนที่พระเพื่อน พระแพง กล่าวกับพี่เลี้ยงถึงชื่อเสียงความหล่อเหลาของพระลอ ประมาณว่าพี่เลี้ยงไปอยู่ไหนกันมา ทำไมไม่เคยได้ยินชื่อเสียงความหล่อเหลานี้ ซึ่งจริงๆ แล้วความโดดเด่นของโคลงบทนี้ ไม่ใช่ความหมายของคำประพันธ์ค่ะ แต่เป็นความถูกต้องตามหลักฉันทลักษณ์ของโครงสี่สุภาพ
          ถ้าใครยังท่องกลอนบทนี้ไม่ได้ พี่อีฟก็จะขอให้ไปท่องให้ได้เลยค่ะ เพราะถือว่าเป็นต้นฉบับของโคลงสี่สุภาพทั่วไป ในการใช้เสียงเอกโทได้ถูกต้องตรงตำแหน่ง เหมาะกับน้องๆ มือใหม่ที่อยากจะหัดแต่งโคลงสี่สุภาพให้ถูกต้องด้วยค่ะ พี่อีฟแอบคิดเหมือนกันว่าโคลงสี่สุภาพ เป็นประเภทของบทกลอนที่ต้องใช้ความสามารถในทางภาษา มากกว่าบทกลอนทั่วไปเยอะเลยค่ะ เพราะความสั้นของแต่ละวรรคที่ต้องเลือกใช้คำให้สั้นแต่ครอบคลุม รวมไปถึงยังต้องเลือกสัมผัสเข้าออก เสียงเอก โทให้ถูกต้องด้วยค่ะ
 

                            "พระเสด็จโดยแดนชล        ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย
                        กิ่งเเก้วแพร้วพรรณราย            พายอ่อนหยับจับงามงอน
                        นาวาแน่นเป็นขนัด                   ล้วนรูปสัตว์แสนยากร
                        เรือริ้วทิวธงสลอน                     สาครลั่นครั่นครื้นฟอง
                        
เรือครุฑยุดนาคหิ้ว                   ลิ่วลอยมาพาผันผยอง
                        พลพายกรายพายทอง             ร้องโห่เห่โอ้เห่มา
                        สรมุขมุขสี่ด้าน                        เพียงพิมานผ่านเมฆา
                        ม่านกรองทองรจนา                 หลังคาแดงแย่งมังกร
                        สมรรถชัยไกรกาบแก้ว            แสงแวววับจับสาคร
                        เรียบเรียงเคียงคู่จร                  ดั่งร่อนฟ้ามาแดนดิน
                        สุพรรณหงส์ทรงพู่ห้อย            งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์
                        เพียงหงส์ทรงพรมมินทร์          ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม
                        เรือชัยไวว่องวิ่ง                       รวดเร็วจริงยิ่งอย่างลม
                        เสียงเส้าเร้าระดม                     ห่มท้ายเยิ่นเดินคู่กัน"


                               ระดับการท่องตามได้ทันที : ♦ ♦ ♦

          มั่นใจว่าน้องๆ ม.6 อาจจะเคยผ่านตากับกลอนบทนี้อยู่เหมือนกัน เป็นบทกาพย์เห่เรือ โดยปกติ กาพย์เห่เรือ จะใช้คำประพันธ์ 2 ชนิด คือ โคลงสี่สุภาพ และกาพย์ยานี 11 แต่งต่อๆ กันมา ในลักษณะที่เรียกว่า กาพย์ห่อโคลง ค่ะ ลองอ่านดูความสวยงามของเรือที่ถูกพรรณนา ผ่านกาพย์ยานี 11 นี้ได้นะคะ ส่วนมากคำถามที่ยกบทประพันธ์นี้ไปถาม ก็จะถามเกี่ยวกับโวหารที่ใช้ หรือไม่ก็ให้น้องๆ ลองนับจำนวนเรือที่อยู่ในบทนี้ค่ะ
          ในปัจจุบันเราจะไม่ค่อยได้ยิน กาพย์เห่เรือ ถูกประพันธ์ขึ้นเท่าไหร่ค่ะ เพราะเป็นบทประพันธ์ที่เน้นในพิธีการเท่านั้น เช่น 
กระบวนพยุหยาตราชลมารค เป็นต้น แต่เชื่อว่ากาพย์เห่เรือบทนี้ จะคุ้นหูน้องๆ แน่นอน เพราะคุณครูภาษาไทยหลายท่าน มักจะใช้กลอนบทนี้มาเก็บคะแนนค่ะ ถ้าถามว่ายอดนิยมกันขนาดไหน ก็ต้องบอกว่าในภาพยนต์เรื่อง final score 365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์ ที่ฉายเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ก็มีฉากหนึ่งที่ตัวละคร กำลังท่องกลอนบทนี้สอบอาจารย์เหมือนกันค่ะ!
 

                                "พฤษภกาสร            อีกกุญชรอันปลดปลง
                             โททนต์เสน่งคง              สำคัญหมายในกายมี
                             นรชาติวางวาย               มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
                             สถิตทั่วแต่ชั่วดี               ประดับไว้ในโลกา"


                              ระดับการท่องตามได้ทันที : ♦ ♦ ♦ ♦ 

          ถ้าถามว่าทำไมระดับการท่องตามได้ถึงระดับ 5 พี่อีฟไม่เฉลยแต่ขอท้าให้น้องๆ หันไปพูดท่อนแรกกับเพื่อนข้างๆ รับรองว่าเพื่อนต่อบทกลับมาได้อย่างไว โดยบทประพันธ์นี้ เป็นบทกลอนตอนหนึ่งของเรื่อง กฤษณาสอนน้องคำฉันท์ โดยมีสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส เป็นผู้นิพนธ์ขึ้นค่ะ ถ้าถามว่าเป็นการประพันธ์แบบไหน ดูไม่คุ้นตาเลย ไม่เหมือนกลอน 8 ที่เคยเห็นมา ก็ต้องบอกว่าการประพันธ์แบบนี้ เรียกว่า อินทรวิเชียรฉันท์ ค่ะ ซึ่งจะมีแบบแผนคล้ายๆ กาพย์ยานี 11 เลย แต่จะมีการบังคับ ครุ ลหุ ในบทกลอนเพิ่มขึ้นมาค่ะ
          ความน่าสนใจอยู่ที่ความหมายที่เหนือกาลเวลามากค่ะ คือไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ก็สามารถหยิบมาสอนได้เสมอ โดยเป็นบทกลอนที่เปรียบเทียบว่า วัว ควาย ช้าง สัตว์เหล่านี้เมื่อตายไป ก็ยังเหลือเขา หนัง หรืองา ไว้ใช้ประโยชน์ได้ แต่คนเราถ้าตายไปก็ไม่มีอะไรเหลือทิ้งไว้ไปใช้ประโยชน์ได้ นอกว่าความดี ความชั่ว ที่เคยทำ ก็จะกลายเป็นที่พูดถึงต่อไป นอกจากจะสอนให้เราทำความดีแล้ว ก็ยังสอนเราด้วยค่ะว่า เราไม่ควรยึดมั่นถือมั่นอะไร เพราะสุดท้ายแล้ว ก็เอาอะไรติดตัวไปไม่ได้เลย
 

          เป็นยังไงบ้างคะกับบทกลอนที่พี่อีฟรวบรวมมา นอกจากจะช่วยเราในด้านทักษะต่างๆ ของภาษาไทยแล้ว ยังเป็นบทกลอนที่สามารถสอนเราในชีวิตประจำวันได้ด้วย น้องๆ มัธยมสมัยนี้ยังต้องท่องกลอนไหนกันอยู่รึเปล่าเอ่ย? มาแชร์ให้พี่อีฟกับเพื่อนๆ ท่องตามกันได้เลยนะ :D
 
พี่อีฟ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

Ai Rumia Member 1 ก.ค. 60 13:13 น. 4

อีกอันคับ

ไม่เมาเหล้า แต่เรา ยังเมารัก

สุดจะหัก ห้ามจิต คิดฉไน

ถึงเมาเหล้า เช้าสาย ก็หายไป

แต่เมาใจ นี้ประจำ ทุกคํ่าคืน

อิอิย์

1
กำลังโหลด
namhom25636-ACT Member 28 มิ.ย. 60 17:20 น. 1

อันแรกตั้งแต่ ป.3 ค่ะ พูดเลย ตอนนี้ ป.5 มีสังข์ทองมาอีก บทหลักเรื่องกำเนิดพระสังข์ ให้ตาย!!

0
กำลังโหลด
ครูปจชเป็นครูสอนไทย 28 มิ.ย. 60 20:56 น. 2

จำได้ตอนนั้นต้องต่อแถวท่อง แล้วท่องผิดนิดเดียวต้องไปต่อแถวใหม่ กว่าจะได้กลับบ้าน เกือบ6โมงเย็น55555

0
กำลังโหลด
_kkemmmmm Member 1 ก.ค. 60 22:24 น. 5

พวกกาพย์เห่ชมเครืองคราวหวานนี่ได้ท่องกันมั้ย

มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา

ยำใหญ่ใส่สารพัด วางจานจัดหลายเหลือตรา รสดีด้วยน้ำปลา ญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ

0
กำลังโหลด
จันทราเเห่งความมืดมิด Member 1 ก.ค. 60 22:55 น. 6

อันเเรก พระอภัยมณีตอน สุดสาครเข้าเมืองกาละเวก(ท่อวตอนป.4)


อันที่2 ยังไม่เรียน


อันที่3ยังไม่เรียน


อันที่4 กาพย์เห่เรือ(ท่องตอนป.5)


อันที่5 ท่องได้เเต่มันชื่ออะไรสักอย่าง



ตอนนี้ต้องเสภาขุนช้างขุนเเผน!!

0
กำลังโหลด

11 ความคิดเห็น

namhom25636-ACT Member 28 มิ.ย. 60 17:20 น. 1

อันแรกตั้งแต่ ป.3 ค่ะ พูดเลย ตอนนี้ ป.5 มีสังข์ทองมาอีก บทหลักเรื่องกำเนิดพระสังข์ ให้ตาย!!

0
กำลังโหลด
ครูปจชเป็นครูสอนไทย 28 มิ.ย. 60 20:56 น. 2

จำได้ตอนนั้นต้องต่อแถวท่อง แล้วท่องผิดนิดเดียวต้องไปต่อแถวใหม่ กว่าจะได้กลับบ้าน เกือบ6โมงเย็น55555

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Ai Rumia Member 1 ก.ค. 60 13:13 น. 4

อีกอันคับ

ไม่เมาเหล้า แต่เรา ยังเมารัก

สุดจะหัก ห้ามจิต คิดฉไน

ถึงเมาเหล้า เช้าสาย ก็หายไป

แต่เมาใจ นี้ประจำ ทุกคํ่าคืน

อิอิย์

1
กำลังโหลด
_kkemmmmm Member 1 ก.ค. 60 22:24 น. 5

พวกกาพย์เห่ชมเครืองคราวหวานนี่ได้ท่องกันมั้ย

มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา

ยำใหญ่ใส่สารพัด วางจานจัดหลายเหลือตรา รสดีด้วยน้ำปลา ญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ

0
กำลังโหลด
จันทราเเห่งความมืดมิด Member 1 ก.ค. 60 22:55 น. 6

อันเเรก พระอภัยมณีตอน สุดสาครเข้าเมืองกาละเวก(ท่อวตอนป.4)


อันที่2 ยังไม่เรียน


อันที่3ยังไม่เรียน


อันที่4 กาพย์เห่เรือ(ท่องตอนป.5)


อันที่5 ท่องได้เเต่มันชื่ออะไรสักอย่าง



ตอนนี้ต้องเสภาขุนช้างขุนเเผน!!

0
กำลังโหลด
Keiichi Maebara Member 2 ก.ค. 60 08:20 น. 7

จำได้แต่อันนี้อ่ะ

เมื่อนั้น ฝ่ายท้าวทศพักตร์ยักษา เห็นฯวานรองอาจอหังการ์

ฆ่าสี่เสนาแล้วกลับไป ความอายความแค้นแสนสาหส

แล้วก็

มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง

ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา


ตอนประถมล้วนๆ 555

0
กำลังโหลด
BCP 🙆 Member 2 ก.ค. 60 09:00 น. 8

ม.๕


อุรารานร้าวแยก ยลสยบ

เอนพระองค์ลงทบ ท่าวดิ้น

เหนือคอคชซอนซบ สังเวช

วายชิวาตม์สุดสิ้น สู่ฟ้าเสวยสวรรค์


ลิลิตตะเลงพ่าย

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เกลียดคณิต 6 ก.ค. 60 06:40 น. 10

นึกถึงบทกวีอันนี้ขึ้นมาทัน

ณ วันสุนธรภู่

ประกวดคำประพันธ์ ที่1

พระอภัยมณีเป่าปี่จนฉี่ราด

ก็ไม่อาจจะหนีพ้นมนต์นางยักษ์

#...ตูนี่ลั่นเลย55555

0
กำลังโหลด
Kosai_AI Member 18 ก.ค. 61 15:21 น. 11

อินทรชิตบิดเบือนกายิน... ไม่คุ้น

ต่อถึง สามสิบสามเศียรโสภา เศียรหนึ่งเจ็ดงา... ใช่เลย

โจทย์เลขยกกำลัง!

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด