9 เดือนที่ฝากตัวในท้องแม่ แม่ต้องทรมานขนาดไหน (อ่านแล้วจะรักแม่มากกว่าเดิม)

          สวัสดีค่ะ ใกล้วันแม่แล้ว พี่มิ้นท์นักนึกอยู่นานว่าจะเขียนอะไรที่ทำให้น้องๆ รักแม่มากขึ้นกว่าเดิมได้บ้าง คิดไปคิดมาก็เห็นบางคนโพสลงโซเชียลว่างอนแม่ คิดว่าแม่ไม่รักตัวเองบ้างล่ะ อยากจะบอกน้องๆ ว่าไม่มีแม่คนไหนที่ไม่รักลูกหรอกค่ะ (อาจจะมีแต่ก็คงน้อยมาก) เพราะถ้าแม่ไม่รักเรา คงไม่ยอมทรมานตัวเอง 9 เดือนเพื่อฟังคำที่ลูกจะบอกว่า "แม่ไม่รัก" หรอกจริงมั้ย?
         ตลอดเวลา 9 เดือนที่เราอยู่ในโลกมืดๆ ในท้องแม่ ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นเพียงเจ้าของร่างกายเท่านั้น แต่ยังยอมเจ็บ ยอมทรมาน เพื่อปกป้องให้ลูกในท้องให้ออกมาลืมตาดูโลกด้วยร่างกายที่ครบ 32  นี่เป็นแค่ภารกิจแค่เสี้ยวเดียวเองค่ะ ไปดูกันว่าบททดสอบที่คุณแม่ต้องเจอมีอะไรกันบ้าง


    1. แม่ต้องอวบอ้วนระยะสุดท้าย
        คงไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากรูปร่างไม่ดี โดยเฉพาะสภาพท้องโย้ เดินตัวงอแอ่นท้องแบบนั้น แต่สำหรับบทบาทของคุณแม่ ร้อยทั้งร้อยแม้รู้ว่าต้องมีสภาพแบบนั้นก็ยอม ยอมอ้วนเพื่อให้อีกคนได้มาอาศัยอยู่ในท้อง ยอมกินเยอะเพื่อแบ่งให้อีกหนึ่งชีวิตในท้องได้มีสารอาหารครบ ช่วงเดือนแรกๆ ยังไม่เท่าไหร่ แต่เดือนท้ายๆ นะน้องเอ้ยย พุงนำนมกันทุกราย น้ำหนักเพิ่มกัน 10-20 กิโลกรัมกันเลยทีเดียว ผลของความอ้วนไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะตอนท้อง แต่บางคนรูปร่างเปลี่ยนถาวรไปเลยก็มี ดังนั้น สำหรับผู้หญิงแล้ว การยอมหุ่นเสียเพื่อใครบางคนเป็นเรื่องยิ่งใหญ่มากๆ นับถือหัวใจคุณแม่เลยค่ะ

    2. อึดอัดเหมือนตัวจะแตก
        เวลากินบุฟเฟต์มาอิ่มๆ น้องๆ คงเคยรู้สึกอึดอัดตัวเหมือนตัวจะแตกใช่มั้ยคะ แต่อิ่มเพราะอาหาร แป๊บเดียวก็หาย  แต่ถ้าท้องนี่สิ อึดอัดนานหลายเดือนเลยทีเดียว ยิ่งน้องๆ โตขึ้นทุกวันๆ ก็ยิ่งไปขยายผิงหนังท้องคุณแม่ให้ใหญ่ขึ้น ภายในก็เบียดขึ้น จะลุก จะนั่ง จะเดินก็อึดอัด ไม่สบายตัว นอนก็หลับยาก ทำอะไรก็ไม่ถนัด แถมยังต้องระวังตัวมากขึ้นด้วย

   3. ตะคริวถามหาอยู่บ่อยๆ
       ถ้าน้องๆ เคยเป็นตะคริวจะรู้ว่ามันทรมานมากๆๆ เลย เพราะร่างกายส่วนที่เป็นตะคริวจะขยับไม่ได้ แถมเจ็บมากด้วย คงไม่มีใครอยากเป็น แต่สำหรับคุณแม่ อาการตะคริวเกิดขึ้นได้ง่ายมากๆ เพราะร่างกายที่ขยายใหญ่อย่างรวดเร็ว เลือดอาจไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ไม่เพียงพอ จึงเสี่ยงที่จะเป็นตะคริว คุณแม่จึงต้องทานแคลเซียมเยอะๆ ลำพังคนธรรมดาเป็นตะคริวก็ว่าทรมานแล้ว ถ้าคุณแม่อุ้มท้องโย้ๆ ต้องมาเป็นตะคริวอีก คงทรมานคูณสิบไปแล้ว นึกแล้วน้ำตาจะไหลแทนคุณแม่

   4. หายใจไม่เต็มอิ่ม เสี่ยงเป็นลม
       ในระหว่างที่คุณแม่ท้อง ไม่ใช่แค่รูปร่างที่เปลี่ยนไป แต่ระบบกลไกต่างๆ ในร่างกายก็เปลี่ยนไปด้วย ซึ่งคุณแม่ต้องการออกซิเจนเพิ่มมากกว่าเดิ่มเพื่อหล่อเลี้ยงลูกในท้อง ซึ่งผลพวงจากที่ท้องมีขนาดใหญ่ขึ้น คุณแม่ก็จะอึดอัด เพราะมดลูกจะไปกดที่กระบังลม จนเนื้อที่ปอดแคบลง ทำให้หายใจลำบากขึ้น ถ้าคุณแม่หายใจไม่เต็มอิ่ม อาจทำให้คุณแม่เป็นลมได้เลยทีเดียว
 
 
  5. ผิวแตกลาย หมดสวยแล้วคุณแม่
       ปกติแล้ว ผิวหนังร่างกายของเราสามารถยืดหยุ่นได้ค่ะ แต่ถ้าขยายเร็วๆ ผิวหนังก็จะปรับตามไม่ทัน จนเกิดเป็นรอยแตกตามผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง ต้นขา พอคลอดน้องๆ ออกมาแล้ว ผิวหนังกลับไปสภาพเดิมไม่ทัน ทิ้งรอยแผลเป็นฝากเป็นของที่ระลึกอีกต่างหาก

   6. ปวดหลัง
       การใช้ชีวิตของคุณแม่จะเปลี่ยนไปเลยตั้งแต่ท้องเริ่มโตขึ้น ถ้าน้องๆ สังเกตท่าเดินของคนท้อง จะเห็นว่าเดินแอ่นหลัง เป็นเพราะว่าคุณแม่ต้องรักษาสมดุลในเรื่องของการทรงตัวค่ะ ท้องที่โตมากขึ้นมันจะโน้มตัวเราไปข้างหน้า ดังนั้นคุณแม่จึงต้องแอ่นไปด้านหลังเพื่อให้ครรภ์อยู่ในจุดที่สมดุลของร่างกาย พอแอ่นมากๆ เข้าก็เกิดเป็นอาการปวดหลัง บางคนปวดหลังเรื้อรังเลย เพราะต้องยืนเป็นเวลานาน นอกจากนี้อาจมีสาเหตุมาจากทารกในครรภ์ดึงแคลเซียมจากคุณแม่ไป ซึ่งถ้าคุณแม่มีแคลเซียมในกระแสเลือดไม่พอ ก็จะไปเอาแคลเซียมจากกระดูกสันหลัง ทำให้เกดการกร่อนของกระดูก จึงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ปวดหลังค่ะ
 

   7. อยากอาเจียนตลอดเวลา
       ในละคร ถ้าน้องๆ เห็นตัวละครทำท่าคลื่นไส้อาเจียน ทำหน้าเหม็นอาหาร ก็พอจะเดาได้ว่า "นางคนนี้ท้องแน่ๆ" ในชีวิตจริงก็เป็นแบบนั้นค่ะ ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ คุณแม่จะแพ้ท้อง มีอาการวิงเวียนศีรษะ ต่อมรับกลิ่นผิดปกติ ได้กลิ่นอะไรก็เหม็นไปซะทุกอย่าง กินอะไรก็อยากอาเจียนออกมาจนหมด จนคุณแม่บางคนอ่อนเพลียและซูบผอมไปเลยช่วงนี้ ซึ่งกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากๆ
       สาเหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า ร่างกายของคุณแม่มีกลไกที่จะขับเอาสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกายในช่วง 3 เดือนแรก ซึ่งเป็นช่วงที่ทารกในครรภ์กำลังสร้างอวัยวะต่างๆ ถ้าไม่ดักจับสิ่งแปลกปลอมเลย อาจจะทำอันตรายกับลูกเราได้ค่ะ ดังนั้น เกิดเป็นคุณแม่ ต้องทนอ้วกได้ใน 3 เดือนแรก!

   8. โดนเตะถีบสารพัด
       เราไม่มีทางรู้เลยว่าตอนอยู่ในท้องแม่เราทำอะไรไปบ้าง แต่คุณแม่จะรู้ดีเลยล่ะ เพราะเป็นผู้รับเคราะห์อยู่คนเดียว ช่วงเดือนกลางๆ อาจจะยังไม่รู้สึกเท่าไหร่ เพราะตัวยังเล็กอยู่ แต่ถ้าท้องโตๆ เราก็ปีกกล้าขาแข็ง เริ่มแข็งแรงและตัวใหญ่ขึ้น ลูกทั้งเตะ ถีบ จนเป็นรอยนูนรูปเท้าโผล่ออกมา พี่มิ้นท์เคยถามแม่นะคะว่าตอนลูกในท้องถีบนี่เจ็บมั้ย แม่บอกบางทีก็ไม่ค่อยเจ็บ แต่บางทีก็เจ็บมาก 55555

   9. เจ็บท้องรุนแรงใกล้คลอด
       ช่วงสุดท้ายของบทบาทคุณแม่ตั้งครรภ์แล้วค่ะ ในเดือนที่เก้า ได้เวลาคลอด  คุณแม่จะมีอาการปวดหน่วงๆ หรือปวดมากบริเวณปากมดลูก เพราะทารกในครรภ์จะกลับหัวและเคลื่อนต่ำลงมาบริเวณปากมดลูก ความเจ็บนี้จะเจ็บแบบสม่ำเสมอ และรุนแรงขึ้น ถี่ขึ้น จนถึงเวลาคลอด จะมีระยะเบ่งจะเป็นช่วงที่คุณแม่เจ็บท้องมากที่สุด เรียกว่าเป็นความเจ็บปวดทิ้งท้าย ก่อนจะได้เจอหน้าพวกเรานั่นเอง^^

       ถึงแม้อาการจะไม่ได้มาพร้อมๆ กัน แต่คุณแม่ต้องเจอสารพัดอาการมาตลอด 9 เดือนเต็ม จะว่าไปแล้ว การตั้งครรภ์แทบจะไม่มีข้อดีกับตัวคุณแม่เลย แต่หลายคนก็ยอมแลก เพราะนี่คือความทุกข์ที่สุขที่สุด ดังนั้นพวกเราในฐานะลูกๆ สิ่งที่ทำได้และควรทำ ก็คือ รักคุณแม่ให้มากๆ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะถ้าเราไม่รักแม่ แล้วเราจะไปรักใคร

 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://xn--12cgi9czcoda6jh0xnb.net/,
https://medthai.com/อาการใกล้คลอด/
พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

MelonNPine Member 12 ส.ค. 60 10:57 น. 2

ตอนเเม่เราท้อง ท้องเล็กเหมือนไม่มีลูกอ่ะ ไปรอคลอดพยาบาลยังถามว่า "มาเยี่ยมใครคะ" เลย 555

พอคลอดออกมาเท่านั้นเเหละ ตัวไม่เล็กนะคะ 3,200 กรัมเบาๆ -ังงง "หนูไปอยู่ตรงไหน"

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-big-12.png

0
กำลังโหลด

3 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
MelonNPine Member 12 ส.ค. 60 10:57 น. 2

ตอนเเม่เราท้อง ท้องเล็กเหมือนไม่มีลูกอ่ะ ไปรอคลอดพยาบาลยังถามว่า "มาเยี่ยมใครคะ" เลย 555

พอคลอดออกมาเท่านั้นเเหละ ตัวไม่เล็กนะคะ 3,200 กรัมเบาๆ -ังงง "หนูไปอยู่ตรงไหน"

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-big-12.png

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด