.jpg)
สวัสดีค่ะน้องๆ ไม่นานมานี้พี่เมก้ามีโอกาสได้นั่งคุยกับน้อง ม.5 คนหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องเกรดค่ะ น้องเค้าสงสัยว่าที่ผ่านมาตัวเองตั้งใจเรียนมาก ส่งการบ้านครบทุกงาน ไม่เคยโดดเรียน ทำไมเกรดไม่ดีขึ้นเลย แต่ละเทอมนี่ผ่านไปแบบขยับทีละนิด มันเกิดอะไรขึ้น!
.jpg)
หลังจากที่นั่งคุยกันสักพัก โดยมีกลุ่มพี่ๆ มาช่วยให้คำปรึกษาด้วย เราก็เริ่มค้นพบคำตอบบางส่วนของปัญหา "ตั้งใจเรียนแต่เกรดไม่ขึ้น" ค่ะ แน่นอนว่าไม่ได้พุ่งประเด็นไปที่คุณครูกดเกรดแน่นอน แต่จะเป็นเหตุผลอะไรนั้น ขอชวนน้องๆ ไปพิสูจน์พร้อมกันว่าจริงรึเปล่า
1. ไม่ได้ตั้งใจเรียนทุกวิชา
อย่าลืมว่าหน่วยกิตคือตัวแปรสำคัญของเกรด แต่ละวิชาเก็บหน่วยกิตไม่เท่ากันนะคะ แถมวิชาที่หน่วยกิตเยอะๆ มักเป็นวิชาที่เราไม่ชอบ+ให้ความสนใจน้อยสุดอีกต่างหาก เวลาเกรดรวมออกมา มันเลยเป็นตัวฉุดให้เกรดไม่ขึ้นสักที สิ่งที่น้องๆ ควรทำก็คือพยายามตั้งใจเรียนกับทุกๆ วิชา อย่าทุ่มความสนใจแค่วิชาใดวิชาหนึ่ง เจอช่องทางทำคะแนนเมื่อไหร่ให้รีบคว้าไว้รัวๆ
2. ยืมมือคนอื่นเรียนตลอด
ใครเป็นแบบนี้บ้าง? ตั้งใจฟังครูทุกคาบ ส่งการบ้านครบทุกงาน ก่อนสอบก็ฟังเพื่อนติว เกรดต้องออกมาดีแน่! แต่ปรากฎว่าไม่ได้ทำทุกอย่างด้วยตัวเองเลยค่ะ บางคนฟังครูอย่างเดียวแต่ไม่จด รออ่านเลคเชอร์จากเพื่อน บางคนส่งงานครบจริง แต่ลอกเพื่อนมา งานกลุ่มก็ให้เพื่อนทำ ฟังเพื่อนติวแต่ไม่อ่านหนังสือสอบก็มี พอถึงเวลาจริงๆ ทำข้อสอบได้มั้ย? คำตอบคือไม่ เพราะไม่ได้ฝึกคิด ฝึกเรียนรู้ ฝึกทำความเข้าใจด้วยตัวเอง พี่ๆ เคยทำมาก่อนค่ะ รู้ดีว่าทางลัดแบบนี้มันไม่เวิร์ก เลิกได้เลิก!
3. ไม่มองหาทริกเรียนใหม่ๆ
1. ไม่ได้ตั้งใจเรียนทุกวิชา
อย่าลืมว่าหน่วยกิตคือตัวแปรสำคัญของเกรด แต่ละวิชาเก็บหน่วยกิตไม่เท่ากันนะคะ แถมวิชาที่หน่วยกิตเยอะๆ มักเป็นวิชาที่เราไม่ชอบ+ให้ความสนใจน้อยสุดอีกต่างหาก เวลาเกรดรวมออกมา มันเลยเป็นตัวฉุดให้เกรดไม่ขึ้นสักที สิ่งที่น้องๆ ควรทำก็คือพยายามตั้งใจเรียนกับทุกๆ วิชา อย่าทุ่มความสนใจแค่วิชาใดวิชาหนึ่ง เจอช่องทางทำคะแนนเมื่อไหร่ให้รีบคว้าไว้รัวๆ
2. ยืมมือคนอื่นเรียนตลอด
ใครเป็นแบบนี้บ้าง? ตั้งใจฟังครูทุกคาบ ส่งการบ้านครบทุกงาน ก่อนสอบก็ฟังเพื่อนติว เกรดต้องออกมาดีแน่! แต่ปรากฎว่าไม่ได้ทำทุกอย่างด้วยตัวเองเลยค่ะ บางคนฟังครูอย่างเดียวแต่ไม่จด รออ่านเลคเชอร์จากเพื่อน บางคนส่งงานครบจริง แต่ลอกเพื่อนมา งานกลุ่มก็ให้เพื่อนทำ ฟังเพื่อนติวแต่ไม่อ่านหนังสือสอบก็มี พอถึงเวลาจริงๆ ทำข้อสอบได้มั้ย? คำตอบคือไม่ เพราะไม่ได้ฝึกคิด ฝึกเรียนรู้ ฝึกทำความเข้าใจด้วยตัวเอง พี่ๆ เคยทำมาก่อนค่ะ รู้ดีว่าทางลัดแบบนี้มันไม่เวิร์ก เลิกได้เลิก!
3. ไม่มองหาทริกเรียนใหม่ๆ
.jpg)
บางทีถ้าตั้งใจมากๆ แต่ยังเรียนไม่รู้เรื่อง น้องคงต้องมองหาเทคนิคการเรียนแบบใหม่แล้วล่ะค่ะ เราอาจจะไม่เหมาะกับการเรียนแบบนี้ น้องๆ อย่าฝืนเรียนต่อไปแบบงงๆ มันไม่มีการดึงแต้มบุญของการเป็นเด็กดีมาใช้แต่อย่างใดนะคะ ถ้าเป็นพี่เมก้าจะรีบเข้าห้องสมุดไปหาหนังสือมาอ่านเสริม หรือไปหาคลิปติวต่างๆ มาดูเพิ่ม เลือกที่อธิบายแล้วเราฟังเข้าใจแจ่มแจ้งอะค่ะ จะได้ช่วยให้เกรดดีขึ้น
4. การบ้านยังไม่โดนใจ
หลายคนคาดหวังกับการบ้าน หวังว่าคะแนนเก็บสวยๆ จะไปช่วยทบกับคะแนนสอบหนุนให้เกรดสูงขึ้นได้ แต่บางทีการส่งงานครบ ตรงเวลา มันก็อาจจะช่วยได้ไม่เท่าไหร่นะคะ ถ้าครูตั้งสเปคงานไว้สูงมาก ดังนั้น เวลารับงานมา ช่วยประเมินด้วยค่ะว่าครูให้คะแนนมาเท่านี้ มักจะคาดหวังขนาดของชิ้นงานประมาณเท่าไหร่ ทางที่ดีทำให้เนี้ยบไว้ก่อน ถ้าเพื่อนทักว่า "หูย! จริงจังเว่อร์" ก็เชิดใส่ไปค่ะ
5. แพ้ทางข้อสอบ
"ทำไมข้อสอบยากจัง ครูภูมิใจมากเหรอ ออกข้อสอบยากขนาดนี้!" เหตุผลที่เกรดไม่ขยับเพราะข้อสอบยากจนทำไม่ได้ มันก็มีส่วนที่เป็นความจริงอยู่มากค่ะ วิธีเอาตัวรอดก็คือน้องต้องใช้เวลาเรียนรู้ธรรมชาติของข้อสอบที่จะออกโดยครูท่านนี้ค่ะ อาจจะจับสไตล์จากการเทสต์ย่อยก่อนหน้า ถ้าครูสอนกว้าง แต่ออกข้อสอบละเอียด เราก็ต้องอ่านให้ครอบคลุมเข้าไว้ ถ้าครูสอนแคบ แต่ออกข้อสอบกว้าง เราก็ต้องนำข้อมูลที่มีอยู่มาพลิกแพลงให้ได้ สรุปคือต้องเข้าใจ และนำความรู้มาใช้ให้เป็น
6. ร่างพังช่วงสอบ
เวลาตัดเกรดอิงคะแนนสอบเป็นหลัก แล้วน้องๆ ก็มักจะมีภาระค้างคาตกมาถึงช่วงสอบตลอด ไหนจะวุ่นกับเคลียร์งาน ไหนจะอ่านหนังสือสอบ บางคนคืนก่อนสอบนี่ยังอ่านหนักๆ ลากยาวมาถึงเช้าวันสอบอยู่เลย เรียกว่าตั้งใจเรียนมาทั้งปี สุดท้ายก็พังตอนช่วงเวลาสำคัญ!
4. การบ้านยังไม่โดนใจ
หลายคนคาดหวังกับการบ้าน หวังว่าคะแนนเก็บสวยๆ จะไปช่วยทบกับคะแนนสอบหนุนให้เกรดสูงขึ้นได้ แต่บางทีการส่งงานครบ ตรงเวลา มันก็อาจจะช่วยได้ไม่เท่าไหร่นะคะ ถ้าครูตั้งสเปคงานไว้สูงมาก ดังนั้น เวลารับงานมา ช่วยประเมินด้วยค่ะว่าครูให้คะแนนมาเท่านี้ มักจะคาดหวังขนาดของชิ้นงานประมาณเท่าไหร่ ทางที่ดีทำให้เนี้ยบไว้ก่อน ถ้าเพื่อนทักว่า "หูย! จริงจังเว่อร์" ก็เชิดใส่ไปค่ะ
5. แพ้ทางข้อสอบ
"ทำไมข้อสอบยากจัง ครูภูมิใจมากเหรอ ออกข้อสอบยากขนาดนี้!" เหตุผลที่เกรดไม่ขยับเพราะข้อสอบยากจนทำไม่ได้ มันก็มีส่วนที่เป็นความจริงอยู่มากค่ะ วิธีเอาตัวรอดก็คือน้องต้องใช้เวลาเรียนรู้ธรรมชาติของข้อสอบที่จะออกโดยครูท่านนี้ค่ะ อาจจะจับสไตล์จากการเทสต์ย่อยก่อนหน้า ถ้าครูสอนกว้าง แต่ออกข้อสอบละเอียด เราก็ต้องอ่านให้ครอบคลุมเข้าไว้ ถ้าครูสอนแคบ แต่ออกข้อสอบกว้าง เราก็ต้องนำข้อมูลที่มีอยู่มาพลิกแพลงให้ได้ สรุปคือต้องเข้าใจ และนำความรู้มาใช้ให้เป็น
6. ร่างพังช่วงสอบ
เวลาตัดเกรดอิงคะแนนสอบเป็นหลัก แล้วน้องๆ ก็มักจะมีภาระค้างคาตกมาถึงช่วงสอบตลอด ไหนจะวุ่นกับเคลียร์งาน ไหนจะอ่านหนังสือสอบ บางคนคืนก่อนสอบนี่ยังอ่านหนักๆ ลากยาวมาถึงเช้าวันสอบอยู่เลย เรียกว่าตั้งใจเรียนมาทั้งปี สุดท้ายก็พังตอนช่วงเวลาสำคัญ!
.jpg)
เลิกพฤติกรรมแบบนี้โดยด่วนเลยนะคะ จัดตารางให้ดีค่ะ ช่วง 1 เดือนก่อนสอบ ควรเคลียร์งานทั้งหมดให้เสร็จ 1 อาทิตย์ก่อนสอบ ควรมีวันที่สามารถอ่านหนังสือสอบแบบชิลล์ๆ ได้ โดยไม่ต้องอดหลับอดนอนจนสมองเบลอ คะแนนสอบจะได้ออกมาดี เกรดจะได้ขยับนะจ๊ะ
7. ไม่รู้คะแนนในมือ
น้องจะสอบไปวันๆ ตามแต่โชคชะตาพาไปไม่ได้! อย่างน้อยๆ ควรรู้คะแนนในมือบ้างค่ะว่าจาก 100 คะแนน แต่ละส่วนมันแยกเป็นอะไรบ้าง เทสต์ย่อย งานเล็ก งานใหญ่ สอบกลางภาค สอบปลายภาค ฯลฯ คะแนนส่วนไหนมีค่ามากที่สุด แล้วเราเก็บแต้มไปเท่าไหร่แล้ว ที่ต้องรู้เพราะจะได้เตรียมตัวถูกว่าเล็งเกรดไว้เท่านี้ ต้องใช้คะแนนอีกเท่าไหร่ ถึงจะตรงตามเป้าที่ตั้งไว้ เกรดจะได้พุ่งซะที
8. ขาดความมั่นใจ
ตั้งใจเรียนมาก ก็ยิ่งคาดหวังมากว่าเกรดแต่ละเทอมจะดีขึ้น ปรากฎว่านิ่งไม่ขยับเลยจ้ะ เฟลเป็นธรรมดาสิคะ แต่พี่เมก้าบอกเลยว่าจิตตกยังไงก็แล้วแต่ อย่าปล่อยให้ตัวเองสูญเสียความมั่นใจเด็ดขาด! เพราะมันทำให้หลายคนขาดพลังที่จะสู้ต่อ ตั้งใจทำทุกอย่างให้ดีที่สุดก็พอ ต่อให้เกรดกระเถิบขึ้นทีละนิด ก็จงภูมิใจนะว่าเรามีความรู้ติดตัวอยู่ตรงนี้ มันนำไปใช้ในอนาคตได้แน่นอน step by step ค่ะน้อง
เหตุผลสุดท้าย อย่าบอกว่าเกรดไม่ขึ้นเพราะได้ 4.00 อยู่แล้ว ขึ้นมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว พี่เมก้าตบเลยนะคะ! (ตบมือให้เลย เก่งมาก ฮี่ๆ) อ่านทั้งหมดมาแล้ว น้องๆ ลองถามตัวเองดูก็ได้ว่าที่เกรดไม่ขึ้นมันเป็นอย่างที่ว่ามาจริงๆ รึเปล่า ถ้ามีเหตุผลอื่นๆ อีก ก็เอามาแชร์กันได้ค่ะ
7. ไม่รู้คะแนนในมือ
น้องจะสอบไปวันๆ ตามแต่โชคชะตาพาไปไม่ได้! อย่างน้อยๆ ควรรู้คะแนนในมือบ้างค่ะว่าจาก 100 คะแนน แต่ละส่วนมันแยกเป็นอะไรบ้าง เทสต์ย่อย งานเล็ก งานใหญ่ สอบกลางภาค สอบปลายภาค ฯลฯ คะแนนส่วนไหนมีค่ามากที่สุด แล้วเราเก็บแต้มไปเท่าไหร่แล้ว ที่ต้องรู้เพราะจะได้เตรียมตัวถูกว่าเล็งเกรดไว้เท่านี้ ต้องใช้คะแนนอีกเท่าไหร่ ถึงจะตรงตามเป้าที่ตั้งไว้ เกรดจะได้พุ่งซะที
8. ขาดความมั่นใจ
ตั้งใจเรียนมาก ก็ยิ่งคาดหวังมากว่าเกรดแต่ละเทอมจะดีขึ้น ปรากฎว่านิ่งไม่ขยับเลยจ้ะ เฟลเป็นธรรมดาสิคะ แต่พี่เมก้าบอกเลยว่าจิตตกยังไงก็แล้วแต่ อย่าปล่อยให้ตัวเองสูญเสียความมั่นใจเด็ดขาด! เพราะมันทำให้หลายคนขาดพลังที่จะสู้ต่อ ตั้งใจทำทุกอย่างให้ดีที่สุดก็พอ ต่อให้เกรดกระเถิบขึ้นทีละนิด ก็จงภูมิใจนะว่าเรามีความรู้ติดตัวอยู่ตรงนี้ มันนำไปใช้ในอนาคตได้แน่นอน step by step ค่ะน้อง
เหตุผลสุดท้าย อย่าบอกว่าเกรดไม่ขึ้นเพราะได้ 4.00 อยู่แล้ว ขึ้นมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว พี่เมก้าตบเลยนะคะ! (ตบมือให้เลย เก่งมาก ฮี่ๆ) อ่านทั้งหมดมาแล้ว น้องๆ ลองถามตัวเองดูก็ได้ว่าที่เกรดไม่ขึ้นมันเป็นอย่างที่ว่ามาจริงๆ รึเปล่า ถ้ามีเหตุผลอื่นๆ อีก ก็เอามาแชร์กันได้ค่ะ
0 ความคิดเห็น