สวัสดีค่ะ ถ้าพูดถึงเวทีโอลิมปิกวิชาการระหว่างประเทศ ภาพตัวแทนเยาวชนใส่สูทเหินฟ้าไปคว้าเหรียญมาให้คนไทยภูมิใจก็คงติดตาน้องๆ อยู่ไม่น้อย บางครั้งเราก็แอบคิดใช่มั้ยคะว่า "โอ้โห! เก่งขนาดนี้กินอะไรเป็นอาหาร Genius มาตั้งแต่ออกจากท้องแม่เลยรึไง"  


 
          ขอบอกว่าเส้นทางเหล่านี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบบางเบาค่ะ การมีหนามซ่อนอยู่เล็กๆ แต่พวกเขาผ่านมาได้นั้นต้องแลกด้วยอะไร วันนี้พี่เมก้าได้พา "น้องว่าน" นักเรียนหัวกะทิที่ทั้งเก่ง! ใจดี! มีฟีลลิ่งนักสู้! มาแบ่งปัน "วิธีเรียนแบบเด็กโอลิมปิก" ให้ได้รู้กันแบบเมพขิงๆ (เทพจริงๆ)

พี่เมก้า : แนะนำตัวให้ชาว Dek-D รู้จักหน่อยจ้า
น้องว่าน : สวัสดีครับ ผมวริท วิจิตรวรศาสตร์ ชื่อเล่นว่านครับ ตอนนี้เรียนอยู่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ชั้น ม.5 ห้อง Gifted แผนการเรียนวิทย์-คณิต ครับ

พี่เมก้า : ทำไมถึงอยากเป็นนักเรียนโอลิมปิกคะ
น้องว่าน : ผมชอบวิทยาศาสตร์ครับ ความฝันแต่เด็กเลยคืออยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ พอเรียนถึงชั้นประถมแล้วรู้ว่ามีระบบการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการอยู่ ก็รู้สึกว่าเป็นเวทีที่จะทำให้ผมได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ ตอนนั้นก็คิดว่าลองดูละกัน ก็เลยแข่งมาจนถึงทุกวันนี้


 
          เหตุผลสำคัญ (จริงๆ นะ) อีกอย่างหนึ่งคือ "อยากใส่สูทผู้แทน" ครับ เห็นรุ่นพี่ใส่แล้วรู้สึกว่ามันเท่มาก อยากใส่บ้าง 55555 (คือถ้าได้เป็นผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ ทาง สอวน. จะตัดสูทให้เป็นสูทที่ใส่ไปแข่งขัน และใส่ในพิธีการต่างๆ ครับ)

พี่เมก้า : ภาพค่ายโอลิมปิกที่วาดฝันไว้ตอนแรกกับของจริง ต่างกันเยอะมั้ยคะ
น้องว่าน : ผมว่าต่างนะ จริงๆ ก่อนเข้าค่ายก็เตรียมใจไว้บ้างแล้วแหละว่า เออ! เนื้อหามันยากนะ แต่พอเข้าไปเจอปุ๊ป โอ้โห! ยากกว่าที่เตรียมใจไว้อีกจ้า 55555 คือเราต้องเรียนเนื้อหาแข่งขัน ซึ่งอัพเกรดจากเนื้อหาตามหลักสูตรไปอีกระดับหนึ่งเลยครับ อะไรที่ปกติจะต้องไปเจอใน ม.ปลาย หรือ มหา’ลัย ก็จะได้เจอก่อนในค่าย สอวน. นี่แหละ


 
          อีกอย่างที่กลับกันคือบรรยากาศในค่าย ตอนแรกผมคิดว่ามันจะจริงจังสุดๆ แต่พอเข้าไปแล้วทุกคนกลับ friendly แล้วก็เฮฮากว่าที่ผมคิดไว้มาก ถึงตอนสอบจะต้องแข่งกัน แต่ตอนเรียนก็ช่วยเหลือกันตลอดเลย ทำให้รู้สึกไม่เกร็ง แล้วก็เรียนได้อย่างสบายใจขึ้นเยอะครับ

พี่เมก้า : เล่าประสบการณ์มันส์ๆ ระทึกที่สุด ในชีวิตนักเรียนค่ายโอลิมปิกหน่อยค่ะ   
น้องว่าน : อืมมม คือผมเองก็ค่อนข้างซนอะนะ 55555 เพราะฉะนั้นเรื่องผาดโผนก็มีเยอะพอสมควร แต่ถ้าให้เลือกที่ระทึกที่สุด คงจะเป็นตอนประกาศผลการแข่งขันครับ เป็นช่วงเวลาที่เราจะได้รู้ว่า "สิ่งที่เราทำมามันได้ผลแค่ไหน" สำหรับผมไม่ว่าจะแข่งมากี่ปีๆ พอถึงตอนนั้นก็ยังไม่หายตื่นเต้นซะที มือไม้สั่นไปหมดละครับ

พี่เมก้า : เค้าบอกว่า "เด็กโอลิมปิกเนิร์ดมาก!" เรื่องจริงมั้ยน้อ
น้องว่าน : ข้อนี้เป็นสิ่งที่ผมอยากให้คนทั่วไปได้รู้มากๆ เป็นคำถามที่หลายคนอาจมีในใจ เวลาเห็นข่าวพวกเราไปแข่งโน่นนี่มา แล้วผมก็พูดเสมอว่า "ไม่จริงเลยครับ" 55555 นักเรียนโอลิมปิกเนี่ย ถ้าไม่ได้ใส่สูท ถือเหรียญ ก็ใช้ชีวิตปกติ เป็นวัยรุ่นมัธยมธรรมดาๆ คนหนึ่งครับ


 
          อย่างตัวผมเอง ก็ทั้งเรียน ทำกิจกรรม เล่นกีฬา เตะบอล เล่นบาส ตีแบด ว่ายน้ำ ปิงปอง ผมเล่นหมด การ์ตูนก็ทั้งอ่าน ทั้งดูครับ เกมก็เล่น มีช่วงเวลาเกรียนๆ เฮฮาบ้าๆ บอๆ กับเพื่อน อย่าง BNK48 ผมก็ติดตาม บอกเลยว่า "คามิโอชิเฌอปราง" ครับ 55555555

พี่เมก้า : ไหนจะเรียน เตรียมสอบแข่งขันอีก แบ่งไทม์ไลน์ยังไงเหรอคะ
น้องว่าน : ผมพยายามทำงานหรือการบ้านให้เสร็จเร็วๆ ครับ แล้วอาศัยเวลาว่างที่ปกติเราเล่นเกม เตะบอล หรือนอนเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร ลดกิจกรรมเหล่านั้นลงบ้าง เพื่อแบ่งเวลามานั่งทบทวนเนื้อหาแข่งขัน ยิ่งถ้าเป็นช่วงเข้าค่ายหรือไปแข่งจริง ก็จะยิ่งเข้มข้นครับ เวลาว่างแทบจะทั้งหมดต้องทุ่มให้กับการอ่านหนังสือ-ฝึกทำโจทย์อย่างเดียวเลย

พี่เมก้า : โอ้โห! แล้วภารกิจรัดตัวขนาดนี้ มีกระทบกับเกรดเฉลี่ยบ้างมั้ยคะ


 
น้องว่าน : มีผลกระทบกับเกรดมั้ย ก็มีนะครับ เกรดผมก็ร่วงไปบ้าง โชคดีอย่างหนึ่งคือที่บ้านไม่ได้ซีเรียสเรื่องเกรดระดับที่แบบ "ห้ามเกรดตก!" อะไรขนาดนั้น เขาเข้าใจว่าเรามีภาระตรงนี้อยู่ แต่ผมก็พยายามเต็มที่นะครับ เพราะรู้สึกว่า "ถึงจะหลุดได้บ้าง แต่ก็ควรมีมาตรฐานของเรา"
 
พี่เมก้า : อยากรู้วิชาที่น้องว่านชอบจังเลยค่ะ ขอวิชามารในการเอาชนะด้วย
น้องว่าน : ชอบที่สุดคือดาราศาสตร์ครับ รองลงมาก็ฟิสิกส์ วิธีที่ผมใช้ปกติก็คือ "การมองให้เป็นภาพ" ครับ มองให้เป็นอะไรที่เราจับต้องได้ แล้วก็ทำความเข้าใจมัน สร้างให้เป็นระบบความคิดของตัวเองแบบที่ ถ้าเจอแบบนี้ ต้องมองแบบนี้ แล้วคิดแบบนี้ แล้วก็ทำโจทย์บ่อยๆ จะเป็นการฝึกให้เราคล่องมากขึ้นเวลาเจอของจริงครับ

พี่เมก้า : น้องว่าน "วาดเป้าหมายระยะสั้น-ระยะยาว" ของตัวเองไว้ยังไงบ้างคะ
น้องว่าน : ข้อดีมากๆ อย่างหนึ่งของการเป็นผู้แทนโอลิมปิกวิชาการก็คือจะได้รับทุนไปศึกษาต่อต่างประเทศครับ ตอนนี้ผมก็ ม.5 จะขึ้น ม.6 แล้ว ก็เลยตั้งเป้าแรกว่า "อยากเข้าเรียนที่ MIT ให้ได้!" (Massachusetts Institute of Technology เป็นสถาบันในฝันของเด็กสายฟิสิกส์-ดาราศาสตร์อย่างผมเลยแหละครับ)


 
          ต่อมาที่ผมรู้สึกว่าอยากทำจริงๆ ก็คือ "การเป็นนักสื่อสารวิทยาศาสตร์" แนวๆ พี่ป๋องแป๋ง อาจวรงค์ จันทมาศ หรืออย่าง อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ก็คือเป็น Influencer ให้คนทั่วไปสนใจวิทยาศาสตร์มากขึ้น อยากเอาเรื่องราววิทยาศาสตร์ที่ผมได้เรียน มาถ่ายทอดให้คนทั่วไป โดยเฉพาะเด็กๆ รุ่นใหม่ เข้าใจ เข้าถึง แล้วรู้สึกว่าได้แรงบันดาลใจ และสนุกไปกับการได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ครับ

พี่เมก้า : ทุกคนรู้ว่าเส้นทางนี้ยาก ถ้าน้องๆ อยากเดินตามรอยพี่ว่าน แนะนำยังไงดีคะ?
น้องว่าน : เริ่มจากค้นหาตัวเองดูว่าเราอยากทำจริงๆ ใช่มั้ย แล้ว “ให้ใจ” กับมันครับ ถ้าเป็นอะไรที่เราตั้งใจ และใส่ใจกับมันจริงๆ ถึงจะเหนื่อย จะท้อ จะผิดหวัง แต่เราก็จะมีฟีลลิ่งที่แบบ "อยากสู้ต่อไปอะ" ต้องทำให้มันไปถึงที่สุดให้ได้ ต่อมาก็คือความพยายาม มุ่งมั่น รับผิดชอบ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ "ต้องไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง" สำหรับผมแล้ว "ความอยากที่จะเรียนรู้คือสิ่งสำคัญที่สุด" ครับ

พี่เมก้า : ช่วยอวยพรน้องๆ ที่กำลังขยันฟิตเกรด หรือพยายามฝึกฝนตัวเองให้ได้เป็นหนึ่งในนักเรียนโอลิมปิกหน่อยนะคะ
น้องว่าน : อาจารย์ผมคนหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า “คนที่มีความพยายามอาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จ แต่ทุกคนที่ประสบความสำเร็จย่อมต้องมีความพยายาม” เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนสู้ในทางของตัวเองให้เต็มที่นะครับ ถึงแม้จะไม่ได้ไปถึงจุดหมายที่เราต้องการ แต่ผมเชื่อว่าทุกคนจะไม่กลับมามือเปล่าอย่างแน่นอนครับ ขอให้โชคดีทุกคนนะครับ ^^

          เรื่องราวของ "น้องว่าน" ทำให้พี่เมก้าประทับใจมากเลยค่ะ ความฝันเริ่มจากแรงบันดาลใจเล็กๆ คือ "อยากใส่สูทผู้แทน" แล้วค่อยๆ ขยับมาเป็นความฝันที่ใหญ่ขึ้นๆ ได้คว้าเหรียญโอลิมปิก และมีเป้าหมายคืออยากเป็น "นักสื่อสารวิทยาศาสตร์" ทำให้เด็กๆ รุ่นใหม่เข้าถึงและสนุกกับสิ่งที่ตัวเองรัก น่าชื่นชมมากเลยค่ะ


 
          น้องๆ คนไหน ที่ยังตามฝันตัวเองไม่เจอ หรือกำลังล้มลุกคลุกคลานในเส้นทางของตัวเองอยู่ ขออย่าเพิ่งล้มเลิกความตั้งใจนะคะ นำความมุ่งมั่นของพี่ว่านมาเป็นแบบอย่าง รับรองว่าวันข้างหน้าอนาคตสดใสแน่นอนค่ะ สุดท้ายนี้พี่เมก้าต้องขอขอบคุณ "น้องว่าน วริท วิจิตรวรศาสตร์" สำหรับการให้สัมภาษณ์อีกครั้งนะคะ น้องคือต้นแบบความพยายามที่คู่ควรกับเหรียญโอลิมปิกจริงๆ
พี่เมก้า
พี่เมก้า - Columnist นักข่าวสายการศึกษา ที่มีความสุขกับการแต่งฟิค อ่านฟิค เพ้อถึงยัมมี่ฟู้ดไปวันๆ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

2 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด