ก่อนจะไปทำความรู้จักการเรียนแต่ละสาย มาดูรายชื่อวิชาที่แผนไหนๆ ก็ต้องเรียนเหมือนกันก่อนดีกว่าค่ะ แถ่น แทน แท้น! คณิตศาสตร์พื้นฐาน วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ภาษาไทย ศิลปะ ดนตรี-นาฏศิลป์ การงานอาชีพและเทคโนโลยี สุขศึกษาและพลศึกษา สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม การศึกษาค้นคว้าอิสระ (IS) ต่อให้วิชาเหล่านี้จะยากแค่ไหน มั่นใจได้เลยว่า "ทุกแผนเจอเหมือนกันหมด" รร. พี่เมก้าโหดสุดคือการงานค่ะ เด็กวิทย์ที่ว่าแน่ ยังน้ำตานอง T T
"วิชา Special" ตามแผนการเรียน
มาดูความซับซ้อนของรายวิชาแยกตามแผนการเรียนบ้างดีกว่าค่ะ พี่เมก้ารู้สึกเหมือนเพิ่งผ่าน ม.ปลาย มาไม่นาน (เหรอออ?) ทำไมแผนการเรียนผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดขนาดนี้ แต่ละแผนก็น่าเรียนทั้งนั้น และไม่มีแผนไหนชิลล์ไปกว่ากันเลย เรียนหนักไปตามแต่ละสายที่เราเลือกเองกับมือนั่นแหละค่ะ (แต่ถ้าชอบ + ถนัดก็จะเป็นความสุขในอีกรูปแบบนะคะ) เพื่อไม่ให้เสียเวลา ตามไปดูวิชาสุด Special ในแผนต่างๆ กัน
1. วิทย์ - คณิต
ตัวท็อปของแผนการเรียนที่ขึ้นชื่อเรื่อง "เนื้อหาหนัก งานชิ้นใหญ่ สอบเข้มข้น" เพราะความ Special ของวิทย์ - คณิต คือแผนอื่นๆ อย่างมากก็ได้เจอ "คณิตหลัก + คณิตเสริมมาแค่ตัวเดียว" แต่แผนนี้เจอคณิตหลัก 1 เด้ง คณิตเสริมเข้าไปอีก 2 เด้ง แล้วยังมีวิทย์พื้นฐานที่ออกดอกออกผลมาเป็นฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยาอีกเป็นหลายเด้ง ยิ่งบางโรงเรียนมีฟิสิกส์เพิ่ม - ฟิสิกส์พื้น เคมีเพิ่ม - เคมีพื้น ฯลฯ เข้ามาอีก โถๆๆ พิเศษจริงๆ คารวะในความเนื้อหาแน่นเลยค่ะ
แต่สำหรับน้องๆ ที่ชอบวิทย์ - คณิต เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การเรียนสายนี้คงเป็นอะไรที่น่าค้นหาและเติมเต็มความรู้ให้เราได้มาก บางโรงเรียนมีวิชาให้เลือกเรียนเพิ่มเติมด้วย เช่น วิทย์ - คณิต + ภาษาต่างประเทศ วิทย์ - คณิต + คอมฯ วิทย์ - คณิต + บริหาร ฯลฯ เรียนให้มันส์กันไปเลย
2. วิทย์ - คอมฯ
3. คณิต - อังกฤษ หรือ ศิลป์ - คำนวณ
แผนการเรียนนี้เหมาะสำหรับเด็กๆ ที่หนีวิทย์มา รักคำนวณ แต่ไม่อยากเรียนภาษามากไปค่ะ ตัวหลักสูตรออกแบบมาให้น้องๆ ได้เรียนเลขแบบจัดหนักจัดเต็มเหมือนเพื่อนๆ สายวิทย์ มีทั้งเลขหลัก เลขเสริม แต่ภาษาจะไปเน้นตัวเดียวคือภาษาอังกฤษ (ถ้าอังกฤษเป็นยาขมของเรา งานเข้าแน่ๆ) เพราะน้องจะได้เรียนภาษาอังกฤษเสริมเข้ามา เช่น ภาษาอังกฤษชั้นสูง ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร (ฟัง พูด อ่าน เขียน) ฯลฯ รับรองว่าได้สปีคอิงลิช ปั่นมือเขียนบทความภาษาอังกฤษยิกๆ และได้อ่านวรรณกรรมอังกฤษตลอดเทอมแน่ๆ
4. คณิต - ภาษา
เปิดมิติใหม่ของแผนการเรียนเลย! ปกติน้องๆ ที่เรียนสายภาษาก็จะเรียนเลขพื้นธรรมดา ไปเน้นภาษาอังกฤษ แล้วก็ภาษาที่ 3 ซึ่งเป็นภาษาต่างประเทศอื่นๆ มากกว่า แต่ "แผนคณิต - ภาษา" นี้ ไม่หนีเลข แล้วก็จะเก่งภาษาด้วยค่ะ โดยน้องจะได้เรียนทั้งเลขหลัก เลขเสริมแบบแน่นๆ และเรียนภาษาที่ 3 เสริมเข้ามาด้วย มีชื่อเรียกง่ายๆ ว่า คณิต - ฝรั่งเศส คณิต - เยอรมัน คณิต - จีน ถ้าน้องๆ มีเพื่อนที่เลือกเรียนแผนนี้อยู่ ก็รู้ไว้เลยว่า เขาและเธอผู้นั้นจะเทพทั้งคณิตและภาษาเลยค่ะ
5. ศิลป์ - ภาษา
6. ศิลป์ - ทั่วไป
"ศิลป์ทั่วไป" เป็นเหมือนชื่อเรียกกว้างๆ ของแต่ละโรงเรียนที่นำความเป็นศิลป์ไปผนวกกับวิชาเรียนแขนงต่างๆ เช่น บางโรงเรียนใช้คำว่าศิลป์ทั่วไปกับการเรียนที่เน้นศิลป์ - อุตสาหกรรม ศิลป์ - พลศึกษา ศิลป์ - ออกแบบ แต่จะมีศิลป์ทั่วไปอื่นๆ ที่น้องๆ อาจเคยได้ยินชื่ออยู่บ่อยๆ ตามนี้
6.1 ศิลป์ - สังคม
เน้นเรียนภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และสังคมศึกษา โดยเฉพาะสังคมค่ะ เน้นมากๆ เรียนศาสนา เศรษฐศาสตร์ กฏหมายและการเมือง ประวัติศาสตร์ แบบแน่นๆ เน้นๆ กว่าแผนอื่น เหมือนมีประวัติศาสตร์แยก หน้าที่พลเมืองแยกมาอีกเล่ม แล้วน้องก็อาจจะได้ลองคิด วิเคราะห์ และมองโลกผ่านสายตานักปรัชญา นักกฎหมาย นักเศรษฐศาสตร์ตัวน้อยๆ ถ้าอยากเรียนนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมสงเคราะห์ก็เหมาะเลย
6.2 ศิลป์ - คหกรรม
6.3 ศิลป์ - คอมฯ
ต่างจากวิทย์ - คอมฯ ตรงที่ไม่เน้นวิทยาศาสตร์ค่ะ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ไม่ได้เรียน แต่จะไปโฟกัสเรื่องภาษาแทน ถ้าพื้นฐานก็ได้เรียนภาษาอังกฤษเข้ามาเสริม ส่วนที่เน้นมากๆ แน่นอนว่าต้องเป็นวิชาคอมพิวเตอร์อยู่แล้วค่ะ
6.4 ศิลป์ - ธุรกิจ
แผนการเรียนนี้จะสอนให้น้องๆ รู้จักใช้กลยุทธ์แบบนักธุรกิจค่ะ การเรียนจะมีเนื้อหาวิชาที่เน้นความเป็นธุรกิจ การลงทุนเบื้องต้น การวิเคราะห์เศรษฐกิจ ฯลฯ นอกจากนี้ยังได้รับการเทรนให้มีความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อเจรจาธุรกิจได้ (อังกฤษที่ใช้ในธุรกิจ อังกฤษเพื่อการสื่อสาร อังกฤษในการประชุม ต้องมาแน่ๆ) เรียกว่าสกิลทุกอย่างที่นักธุรกิจมี น้องก็ต้องมี!
7. ศิลปกรรม
อาร์ตตัวพ่อ - อาร์ตตัวแม่ต้องหลีกทางให้เด็กศิลปกรรมเดินเชิดบนรันเวย์เลยค่ะ น้องๆ สายนี้จะเรียนศิลปะกันแบบเข้มข้นมากถึงมากที่สุด ทั้งทฤษฎีศิลปะ ประวัติศาสตร์ศิลป์แต่ละยุค ลุยวาดเส้น ลงสีน้ำ ทำงานเฟรม เรียนกายวิภาค ทำฟิกเกอร์มนุษย์ไปจนถึงรู้วิธีทำมัมมี่ ห๊ะ! บางโรงเรียนมีแยกเอกเจาะลึกไปอีกด้วย เช่น ทัศนศิลป์ แอนิเมชั่น ออกแบบแฟชั่น ฯลฯ ถ้าต้องการต่อมหา'ลัยด้านศิลป์ มั่นใจได้เลยว่ามีฝีมือติดตัวแน่นอน หลายๆ มหา'ลัยก็มีโควตาสำหรับเด็กศิลปกรรมด้วย ต้องลุยงานอาร์ตเยอะๆ
8. สหศิลป์
สหศิลป์เป็นแผนการเรียนที่ว่าด้วยเรื่องของศิลปะการแสดงค่ะ บางโรงเรียนก็จะมีแยกเอกออกไปเป็น ศิลป์ - ดนตรี ศิลป์ - กีฬา ศิลป์ - แอนิเมชั่น ศิลป์ - การเต้น ศิลป์ - การละคร ก็จะไปเพิ่มทักษะด้านนั้นแบบแน่นๆ ถ้าสนใจแวดวงบันเทิงและการแสดง อยากมีทักษะการเต้น การร้อง การละครแบบครบเครื่อง แผนนี้ตอบโจทย์มากค่ะ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นแผนการเรียนที่พี่เมก้านำมาฝากนะคะ หวังว่าจะเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่ทำให้น้องๆ มองเห็นตัวเลือกในการตัดสินใจเรียนแผนต่างๆ ได้บ้างค่ะ สนใจด้านไหนก็ฝากให้ลองศึกษาข้อมูลดีๆ ก่อนเลือก จะได้เรียนอย่างมีความสุข ปล.รุ่นพี่แผนต่างๆ ถ้าอยากจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือบิวต์น้องๆ ให้มาเรียนแผนเดียวกับตัวเอง เพราะดีจริงๆ เชิญแสดงความเห็นด้านล่างเลยนะคะ
ยอดถูกใจสูงสุด
เคยมีเทอม1 ของม.6 คือตารางดีย์เกินไป 555
เคมี2คาบติด +ชีวะ2คาบติด พักเที่ยง เคมี2คาบติด มาจบที่คาบสุดท้ายที่คณิตพื้น1 คาบ 5555 จำได้ทุกวันวันทร์หัวบานเลยย 5555
ของผม เรียนศิลป์จีน (Gifted chinese ) ตอนม.ปลาย ที่โรงเรียนสอนลึกมาก ฟัง พูด อ่าน เขียน ไวยากรณ์ โฟเนติก พู่กันจีน ธุรกิจจีน HSK PAT7.4 เรียน อาทิตย์ละ 14 คาบ แต่ละคาบมันมาก เพราะเราสนิทกับเหล่าซือทุกคน เพราะต้องอยู่เรียนด้วยกันตลอด 3 ปี ตอนนี้กำลังขึ้นปีหนึ่ง คณะศึกษาศาสตร์จีนครับ เพราะจะกลับไปเม้าส์มอยกับเหล่าซือที่ รร. ต่อ5555555
ถ้าสนใจเรื่องการตัดต่อทำอนิเมชั่นนี่ต้องเข้าสายไหนคะ