เมื่อปีที่แล้ว Andressa Lucas และ Lauren Menegon จากมหาวิทยาลัยริโอแกรนด์ ซึ่งเป็นนักศึกษาในสาขาวิศวกรรมอาหาร ได้คิดค้นและพัฒนาแป้งที่ทำจากแมลงสาบ ที่รับประกันว่ามีโปรตีนมากกว่าข้าวสาลีถึง 40% เชียวค่ะ เขาก็มีเหตุผลเหมือนกันนะคะที่เลือกใช้แมลงสาบ เป็นเพราะว่าช่วยลดต้นทุนในการผลิตอาหารให้มีราคาถูกลง ไม่ใช่แค่เรื่องค่าใช้จ่ายเท่านั้น แต่ในด้านสารอาหารก็ครบถ้วนกระบวนความ มีทั้งกรดอะมิโน ไขมัน และกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ให้ร่างกายเราแข็งแรงและมีสุขภาพดี ซึ่งโปรเจคท์นี้ได้คิดค้นและเริ่มพัฒนางานวิจัยมาตั้งแต่ปี 2014 แล้ว
แล้วทำไมถึงต้องมาใช้แมลงสาบล่ะ ไม่มีวัตถุดิบอื่นๆ แล้วหรอ? เพราะแมลงสาบนั้นอุดมไปด้วยโปรตีนและสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายค่ะ ถ้าเทียบกับแมลงอื่นๆ แล้ว แมลงสาบมีโปรตีนสูงสุดเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ จากการทดลองพบว่า ขนมปังที่ใส่แป้งแมลงสาบเข้าไป 10% ช่วยเพิ่มโปรตีนได้ถึง 49.16% ซึ่งถ้ามองในภาพกว้างๆ ในโลกนี้มีหลายพื้นที่ที่ประสบกับปัญหาขาดแคลนอาหาร หรือ ได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ดังนั้นแมลงจึงเป็นแหล่งสารอาหารขนาดใหญ่ ถ้านำมาเป็นอาหารก็ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมด้านอื่นๆ ได้อีกต่างหาก
แต่ก่อนจะกลัวไปมากกว่านี้ ต้องบอกกันก่อนว่า แมลงสาบที่นักวิทยาศาสตร์ 2 คนนำมาแปรรูป ไม่ใช่แมลงสาบที่ไต่ยั้วเยี้ยในห้องครัว ผุดขึ้นจากท่อน้ำนะคะ เขาจะเพาะพันธุ์แมลงสาบในห้องทดลอง ที่มีชื่อเรียกว่า Nauphoeta Cinerea เป็นสายพันธุ์ที่เลี้ยงด้วยผักและผลไม้เท่านั้นจ้า เฮลตี้ไปอีก! ดังนั้นจึงถูกสุขอนามัยอย่างแน่นอน
แม้ว่านักวิทยาศาสตร์ทั้งสองคน จะทดลองแล้วทดลองอีก ชิมแล้วชิมอีกว่ารสชาตินั้นไม่ต่างจากขนมปังที่ผลิตจากแป้งสาลีเลย แต่ปฏิกิริยาของผู้ทดลอง เมื่อรู้ว่าขนมปังนี้ทำจากแป้งแมงสาบ ก็มีท่าทีลังเลกันแทบทุกคนและส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะไม่กินค่ะ รวมทั้งการกินแมลงก็ยังไม่ใช่วัฒนธรรมของชาวบราซิลด้วย อาจจะต้องใช้เวลานานมากที่จะให้คนในประเทศยอมรับเรื่องนี้ ส่วนคนที่ได้ลองกินแล้ว พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า กินแล้วไม่รู้เลยว่าเป็นแป้งที่ทำมาจากแมลงสาบ
พี่มิ้นท์เชื่อว่าระหว่างอ่าน หลายๆ คนก็คงทำหน้าตาเหยเกไปด้วย แต่อย่างที่นักวิทยาศาสตร์สองคนนี้ให้ความเชื่อมั่นนั่นแหละค่ะว่า ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นแมลงสาบ แต่ก็เป็นแมลงสาบชั้นสูงนะเออ ถูกเพาะพันธุ์ขึ้นมา ได้กินแต่ผักและผลไม้ ไม่ปล่อยให้วิ่งเล่นตามบ้าน ดังนั้นสะอาดแน่นอน
ซึ่งทั้ง 2 คนนี้ก็ไม่ได้คาดหวังให้คนทั่วโลกเลิกรังเกียจแมลงสาบ แต่ต้องการให้เป็นแหล่งอาหารทางเลือกสำหรับอนาคตข้างหน้าที่อาจจะเกิดปัญหาขาดแคลนขึ้นมาได้ และที่สำคัญ ตัวพวกเธอทั้งสองคน ก็ยังรังเกียจแมลงสาบในบ้านเหมือนเดิม 5555
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
https://munchies.vice.com/en_us/article/ezkeqm/meet-the-scientists-who-are-making-bread-with-cockroach-flour
6 ความคิดเห็น
โลกมันช่างไปไกล......
อีกหน่อยก็คงได้กินหมึกปากกาเพาะพันธุ์เป็นแป้ง...
ไปไกล?
เราแค่ย้อนกลับมาหาสิ่งที่มีต่างหากล่ะครับ
แต่เราไม่ได้ก้าวถอยหลังเท่านั้นเอง
ขนลุก ต่อให้เป็นพันธุ์อะไรยังไงก็ไม่โอเค ฮือออออ
อยากลองกินจังเลยค่ะ
เคยดูเหมือนกันแบบตอนนั้นแทบอ้วก เห็นเต็มหม้อเลยอ่ะ
กลัวมันจะราคาแพงเพราะว่าแมลงเองต้องเลี้ยงดูจากความอนามัยนี่แหละครับ ราคามันถูกได้เพราะเพาะออกมาทีเป็นสิบๆเป็นร้อยๆอันนี้เห็นด้วยนะครับ แต่ว่าเอาเข้าจริงควบคุมหลายเรื่องเลยเนี่ยสิครับ ควบคุมด้านการปนเปื้อน ควบคุมไม่ให้มันรั่วไหลออกสู่โลกภายนอก(คือให้มันเกิดและตายในฟาร์มเท่านั้น) ไหนจะการบำรุงรักษาต่างๆอีก เยอะนะครับ แต่ถ้าอนาคตขยันเอาเจ้าแมลงพวกนี้มาวิจัยทำอาหารกันก็น่าจะแก้ปัญหาเรื่องอดอยากได้จริงๆ
คิดแบบนั้นเหมือนกันค่ะ เลี้ยงด้วยผัก ผลไม้? แหม... เอาไปเลี้ยงตัวอื่นที่มันน่ากินกว่านี้ไหมคะ ขนาดบ้านเรามีวัฒนธรรมกินแมลง เรายังไม่กินเลย (ไม่ได้กระแดะ แต่มันสยอง)
ถ้าถึงวันที่ขาดแคลนจริงๆเราว่าคงกินได้แหละแต่ตอนนี้ไม่ขาดแคลน ไว้ค่อยคุยกันนะขนมปัง