.jpg)
สวัสดีค่ะ ขอดูสมุดโน้ตหน่อย ยังเป็นหน้ากระดาษสีขาวว่างๆ อยู่รึเปล่า? บางคนบอกว่าถึงจะเพิ่งเปิดเทอม แต่จดจนสมุดจะหมดไปหนึ่งเล่ม เปลี่ยนปากกาไป 2 ด้ามแล้วนะคะ (ก็ว่ากันไป) พูดถึงสมุดโน้ต น้องๆ คงรู้กันดีว่า ถ้าเลคเชอร์ครบ อ่านเข้าใจ ชัดเจน ช่วยให้เกรดพุ่งได้ และแต่ละคนก็มีสไตล์การเรียนหรือจดช็อตโน้ตที่ต่างกันค่ะ
.jpg)
บางคนอาจถนัดจดจากในหนังสือ บางคนถนัดฟังแล้วนำมาสรุปเป็นใจความสั้นๆ เก็บไว้อ่านตามความเข้าใจ วันนี้พี่เมก้าเลยมี ทิปส์ครีเอต "Study Notes" ให้ใช่ทางกับสไตล์การเรียน 4 แบบ มาฝาก จะจดโน้ตได้น่าอ่านขนาดไหน ตามไปเก็บเทคนิคกันเลย
Study Note : Visual
"เด็กสายฟิน ช่างจินตนาการ"
นี่เป็นโน้ตสำหรับน้องๆ ที่ชอบเรียนรู้ด้วยภาพและสัญลักษณ์ต่างๆ ถ้าตอนเรียน ครูสอนแบบเปิดวิดีโอ หรือมีภาพประกอบให้ดู ทั้งภาพไดอะแกรม แผนที่ แผนภูมิ ตารางข้อมูล นี่ยิ้มออกเลย เพราะสิ่งเหล่านี้ ช่วยให้เข้าใจบทเรียนได้ง่ายขึ้น ถ้าเปิด Study note ของน้องๆ กลุ่มนี้ออกมาดู จะพบว่าสีสันสดใส และน่าอ่านมากกก ครีเอตได้เป็นรูปแบบไหนบ้างมาดูทิปส์เล็กๆ กันค่ะ
๐ Mind Map เป็นวิธีการจดโน้ตที่มีงานวิจัยออกมาแล้วว่า ช่วยกระตุ้นให้สมองซีกซ้าย-ขวาทำงานคลิกกันอย่างดี เรียกข้อมูลความจำระยะยาวมาใช้ คิดและเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น โดยจุดหลักๆ ของการทำ Mind Map คือความกระชับ ชัดเจนของเรื่องที่จดค่ะ มีหัวข้อใหญ่ แล้วแตกเนื้อหาย่อยออกมาเป็นกิ่งให้ครบ ยิ่งมีภาพ สัญลักษณ์เล็กๆ มาประกอบ หรือใช้ปากกาสีสันต่างๆ แบ่งหัวข้อ ไฮไลท์ใจความสำคัญ ก็ยิ่งทำให้จำแม่น เลือกใช้ไฮไลท์ให้ถูกสี คลิก
Study Note : Visual
"เด็กสายฟิน ช่างจินตนาการ"
นี่เป็นโน้ตสำหรับน้องๆ ที่ชอบเรียนรู้ด้วยภาพและสัญลักษณ์ต่างๆ ถ้าตอนเรียน ครูสอนแบบเปิดวิดีโอ หรือมีภาพประกอบให้ดู ทั้งภาพไดอะแกรม แผนที่ แผนภูมิ ตารางข้อมูล นี่ยิ้มออกเลย เพราะสิ่งเหล่านี้ ช่วยให้เข้าใจบทเรียนได้ง่ายขึ้น ถ้าเปิด Study note ของน้องๆ กลุ่มนี้ออกมาดู จะพบว่าสีสันสดใส และน่าอ่านมากกก ครีเอตได้เป็นรูปแบบไหนบ้างมาดูทิปส์เล็กๆ กันค่ะ
๐ Mind Map เป็นวิธีการจดโน้ตที่มีงานวิจัยออกมาแล้วว่า ช่วยกระตุ้นให้สมองซีกซ้าย-ขวาทำงานคลิกกันอย่างดี เรียกข้อมูลความจำระยะยาวมาใช้ คิดและเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น โดยจุดหลักๆ ของการทำ Mind Map คือความกระชับ ชัดเจนของเรื่องที่จดค่ะ มีหัวข้อใหญ่ แล้วแตกเนื้อหาย่อยออกมาเป็นกิ่งให้ครบ ยิ่งมีภาพ สัญลักษณ์เล็กๆ มาประกอบ หรือใช้ปากกาสีสันต่างๆ แบ่งหัวข้อ ไฮไลท์ใจความสำคัญ ก็ยิ่งทำให้จำแม่น เลือกใช้ไฮไลท์ให้ถูกสี คลิก
.jpg)
๐ Pictures / Diagrams เทคนิคนี้มักจะนำไปใช้กับวิชาแนวๆ ชีววิทยา เคมี สังคม คือใช้ภาพมาช่วยในการเรียนและจำ บางคนเรียนโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์ ก็วาดภาพออกมาเลยค่ะ ถ้าไม่มีฝีมือ ก็ปริ้นท์จากในเน็ตมาแปะลงสมุด แล้วค่อยจดตามว่าประกอบด้วยอะไร แต่ละส่วนมีหน้าที่อะไร สัมพันธ์กันยังไง พร้อมทำสัญลักษณ์เน้นคำสำคัญไว้ หยิบมาดู นึกภาพทวนบ่อยๆ จะจำนานขึ้นใจเอง
๐ Tables / graphs / maps and charts ขอรวมไว้ด้วยกันเลย เครื่องมือเหล่านี้เป็นเทคนิคที่ทำให้น้องๆ ครีเอตโน้ตได้อย่างมีสไตล์มาก เช่น ตารางข้อมูล ใช้สรุปเทียบข้อมูลอย่างง่าย Ex. กฎหมายแพ่งกับอาญาต่างกันอย่างไร เราก็ตีตารางเทียบได้ทั้งลักษณะกฎหมาย จุดมุ่งหมาย ความผิด บุคคลที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ หรือใช้ แผนที่ - แผนภูมิ สำหรับจัดระบบข้อมูลโดยรวม ก่อนลงรายละเอียดลึกๆ
Study Note : Aural
"เด็กสายฟัง ช่างคิดช่างพูด"
โน้ตสำหรับน้องๆ ที่ชื่นชอบการเรียนแบบนั่งฟังครูสอนเฉยๆ สนุกเวลามีวิทยากรมาเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟัง มีความสุขเวลาจับกลุ่มติวกับเพื่อนๆ แม้กระทั่งอัดเสียงตอนคุยกับตัวเองเก็บไว้ฟังก็สามารถ! แบบนี้ก็ได้เหรอ? วิธีการจดโน้ตสำหรับเด็กกลุ่มนี้ แน่นอนว่าไม่ซับซ้อนเลยค่ะ
๐ Record ถ้าโรงเรียนอนุญาตให้ใช้มือถืออัดเสียงก็อย่ารีรอค่ะ ตอนเรียนน้องๆ จะได้ใช้สมองคิดตามที่ครูพูดเต็มที่ ไม่ต้องกังวลกับการจด เพราะสามารถนำมาฟังหรือตามจดสรุปย้อนหลังได้
๐ Read Aloud สำหรับน้องๆ ที่โรงเรียนไม่อนุญาตให้ใช้ที่อัดเสียง เทคนิคง่ายๆ ที่ทำให้จด Study Note ได้รวดเร็วคือ "โฟกัส คิดตาม เก็บไอเดียสำคัญ" ค่ะ บางเรื่องที่เป็นความรู้ หรือนิยามศัพท์เฉพาะเพิ่มจากในหนังสือก็ควรจดไว้ นำ Study notes ที่จดคร่าวๆ มาทวนกับเพื่อนอีกครั้ง หรือทวนจากในหนังสือ ตกหล่นตรงไหนไปก็เขียนเพิ่มให้เรียบร้อย แล้วนำเวอร์ชั่นสมบูรณ์นี้ มาสอนตัวเองดังๆ นี่เป็นอีกวิธีที่ช่วยเติมเต็มความเข้าใจและจำติดหู!
๐ Tables / graphs / maps and charts ขอรวมไว้ด้วยกันเลย เครื่องมือเหล่านี้เป็นเทคนิคที่ทำให้น้องๆ ครีเอตโน้ตได้อย่างมีสไตล์มาก เช่น ตารางข้อมูล ใช้สรุปเทียบข้อมูลอย่างง่าย Ex. กฎหมายแพ่งกับอาญาต่างกันอย่างไร เราก็ตีตารางเทียบได้ทั้งลักษณะกฎหมาย จุดมุ่งหมาย ความผิด บุคคลที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ หรือใช้ แผนที่ - แผนภูมิ สำหรับจัดระบบข้อมูลโดยรวม ก่อนลงรายละเอียดลึกๆ
Study Note : Aural
"เด็กสายฟัง ช่างคิดช่างพูด"
โน้ตสำหรับน้องๆ ที่ชื่นชอบการเรียนแบบนั่งฟังครูสอนเฉยๆ สนุกเวลามีวิทยากรมาเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟัง มีความสุขเวลาจับกลุ่มติวกับเพื่อนๆ แม้กระทั่งอัดเสียงตอนคุยกับตัวเองเก็บไว้ฟังก็สามารถ! แบบนี้ก็ได้เหรอ? วิธีการจดโน้ตสำหรับเด็กกลุ่มนี้ แน่นอนว่าไม่ซับซ้อนเลยค่ะ
๐ Record ถ้าโรงเรียนอนุญาตให้ใช้มือถืออัดเสียงก็อย่ารีรอค่ะ ตอนเรียนน้องๆ จะได้ใช้สมองคิดตามที่ครูพูดเต็มที่ ไม่ต้องกังวลกับการจด เพราะสามารถนำมาฟังหรือตามจดสรุปย้อนหลังได้
๐ Read Aloud สำหรับน้องๆ ที่โรงเรียนไม่อนุญาตให้ใช้ที่อัดเสียง เทคนิคง่ายๆ ที่ทำให้จด Study Note ได้รวดเร็วคือ "โฟกัส คิดตาม เก็บไอเดียสำคัญ" ค่ะ บางเรื่องที่เป็นความรู้ หรือนิยามศัพท์เฉพาะเพิ่มจากในหนังสือก็ควรจดไว้ นำ Study notes ที่จดคร่าวๆ มาทวนกับเพื่อนอีกครั้ง หรือทวนจากในหนังสือ ตกหล่นตรงไหนไปก็เขียนเพิ่มให้เรียบร้อย แล้วนำเวอร์ชั่นสมบูรณ์นี้ มาสอนตัวเองดังๆ นี่เป็นอีกวิธีที่ช่วยเติมเต็มความเข้าใจและจำติดหู!
.jpg)
๐ Channel คืออีกช่องทางที่ทำให้เราได้โน้ตดีๆ ค่ะ ลองค้นหาแชแนลยูทูปดู เดี๋ยวนี้มีคนมาสอนวิชาต่างๆ ให้แบบฟรีๆ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษและวิทยาศาสตร์ หลายคนสอนดี สอนละเอียด มีเทคนิคสอดแทรกมากมาย และแน่นอนว่าหลายคนสรุปปิดท้ายให้เสร็จสรรพว่าเรียนอะไรไปบ้าง เราก็ฟังเทคนิค เนื้อหาต่างๆ ที่เขาสรุป มาทำ Study note เก็บไว้อ่านทวนอีกที ยิ่งฟังเยอะ ยิ่งรู้เยอะ
Study Notes : Read/Write
"เด็กสาย ข. ขยันอ่าน + เขียน"
โน้ตสำหรับน้องๆ ที่รักสงบค่ะ บางทีฟังครูสอนไม่เข้าใจ มองภาพไม่ทัน ยังมึนๆ อึนๆ อยู่ ก็สู้มาอ่านเองดีกว่า อ่านทั้งหนังสือเรียน ชีทเสริม บทความในเน็ต ฯลฯ โดยเทคนิคที่น้องๆ สายนี้ควรใช้คือการ re-reading และ re-writing อ่านทวน เขียนทวนไปเยอะๆ ระหว่างอ่านก็คล้ายๆ กับน้องๆ สาย visual เลยค่ะ ใช้สีปากกาในการแบ่งข้อมูลแต่ละส่วน ช่วยเสริมความจำด้วยการขีด main idea หรือสร้างกล่องแยกเนื้อหาสุด special ออกมา (อาจเป็นสูตร ข้อควรรู้ นิยาม หรือสรุป) ถ้าเป็นเด็กสายอ่านเอง ควรอัพเดทโน้ตอย่างสม่ำเสมอทุกวันนะคะ
โน้ตที่ดีไม่ควรจดทุกอย่างให้เต็มพรึบหน้ากระดาษไปหมด แต่ควรจะอ่านง่าย สบายตา แล้วก็ไม่ควรสรุปให้งงกว่าเดิมค่ะ เพราะเนื้อหาที่จดควรเป็นอะไรที่ผ่านความเข้าใจเรามาแล้ว เวลาจด Study Note อาจจดแบบฟรีสไตล์ หรือมีรูปแบบก็ได้ เช่น
๐ Cornell System ที่แบ่งพื้นที่การจดออกเป็น 3 ส่วน คือเนื้อหาทั่วไป คีย์เวิร์ด/จุดสำคัญของเรื่อง และสรุป
Study Notes : Read/Write
"เด็กสาย ข. ขยันอ่าน + เขียน"
โน้ตสำหรับน้องๆ ที่รักสงบค่ะ บางทีฟังครูสอนไม่เข้าใจ มองภาพไม่ทัน ยังมึนๆ อึนๆ อยู่ ก็สู้มาอ่านเองดีกว่า อ่านทั้งหนังสือเรียน ชีทเสริม บทความในเน็ต ฯลฯ โดยเทคนิคที่น้องๆ สายนี้ควรใช้คือการ re-reading และ re-writing อ่านทวน เขียนทวนไปเยอะๆ ระหว่างอ่านก็คล้ายๆ กับน้องๆ สาย visual เลยค่ะ ใช้สีปากกาในการแบ่งข้อมูลแต่ละส่วน ช่วยเสริมความจำด้วยการขีด main idea หรือสร้างกล่องแยกเนื้อหาสุด special ออกมา (อาจเป็นสูตร ข้อควรรู้ นิยาม หรือสรุป) ถ้าเป็นเด็กสายอ่านเอง ควรอัพเดทโน้ตอย่างสม่ำเสมอทุกวันนะคะ
โน้ตที่ดีไม่ควรจดทุกอย่างให้เต็มพรึบหน้ากระดาษไปหมด แต่ควรจะอ่านง่าย สบายตา แล้วก็ไม่ควรสรุปให้งงกว่าเดิมค่ะ เพราะเนื้อหาที่จดควรเป็นอะไรที่ผ่านความเข้าใจเรามาแล้ว เวลาจด Study Note อาจจดแบบฟรีสไตล์ หรือมีรูปแบบก็ได้ เช่น
๐ Cornell System ที่แบ่งพื้นที่การจดออกเป็น 3 ส่วน คือเนื้อหาทั่วไป คีย์เวิร์ด/จุดสำคัญของเรื่อง และสรุป
๐ Split Page Format เป็นการจดแบบแบ่งหน้ากระดาษสมุดซ้าย-ขวา ระหว่างเนื้อหาที่อ่าน (บางทีมาเป็นชีท) กับโน้ตที่สรุปเอง หรือถ้าน้องๆ มีสไลด์เลคเชอร์ของคุณครูแล้วพื้นที่ไม่พอจด ก็อาจจะนำมาแปะเทียบกับคำอธิบายเพิ่มเติมที่เราจดเสริมขึ้นเองได้ วิธีนี้สะดวกมากๆ เวลาทวนแล้วลืมหรือตกหล่นเนื้อหาตรงไหนไปจะได้นำมาอ่านเทียบกันได้ค่ะ
๐ List & Outline Format มาเป็นลำดับขั้นตอนเลยค่ะ นำทัพด้วยหัวข้อใหญ่ หัวข้อย่อย แล้วก็เนื้อหาแต่ละส่วน ถ้าไม่อยากเขียนติดกันเป็นพรืดดูอ่านยาก ก็ให้ใช้ bullet หรือจุดสีดำแยกรายละเอียดออกมาอีกทีค่ะ การใช้ช่องว่างก็ช่วยให้โน้ตเราดูอ่านง่ายขึ้นเช่นกัน รูปแบบนี้นำไปประยุกต์ใช้กับอีก 2 รูปแบบด้านบนได้นะคะ
.jpg)
Study Notes : Kinaesthetic
"เด็กสายลุย ชอบทำมากกว่าพูด"
สโลแกนคุ้นมาก! แต่เด็กสายนี้ จะเรียนรู้ได้ดีผ่านประสบการณ์และการลงมือทำ เช่น ทำรายงาน สรุปผลการทดลอง สรุปผลการวิจัย ทัศนศึกษา ทำข้อสอบเก่า ฯลฯ Study Note ของเด็กสายนี้เลยเป็นอะไรที่เรียลมาก! ส่วนใหญ่จะเป็นการจดบันทึกประสบการณ์เวลาได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ จดข้อมูลเพิ่มเป็นการยกตัวอย่างจากตอนทดลองแล็บ ร่วมเวิร์กช็อป หรือไปออกค่ายต่างๆ อีกอย่างที่กำลังอินเทรนด์ตอนนี้เลย ก็คือน้องๆ ออกมาทำ Studygram ของตัวเอง
"เด็กสายลุย ชอบทำมากกว่าพูด"
สโลแกนคุ้นมาก! แต่เด็กสายนี้ จะเรียนรู้ได้ดีผ่านประสบการณ์และการลงมือทำ เช่น ทำรายงาน สรุปผลการทดลอง สรุปผลการวิจัย ทัศนศึกษา ทำข้อสอบเก่า ฯลฯ Study Note ของเด็กสายนี้เลยเป็นอะไรที่เรียลมาก! ส่วนใหญ่จะเป็นการจดบันทึกประสบการณ์เวลาได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ จดข้อมูลเพิ่มเป็นการยกตัวอย่างจากตอนทดลองแล็บ ร่วมเวิร์กช็อป หรือไปออกค่ายต่างๆ อีกอย่างที่กำลังอินเทรนด์ตอนนี้เลย ก็คือน้องๆ ออกมาทำ Studygram ของตัวเอง
โดยในไดอารี่ที่เราใช้บันทึกเรื่องราวการเรียนของตัวเองนั้น บางคนแชร์ Short Note ที่เขียนทุกวันเก็บไว้อ่านทวน หรือใจกล้าหน่อยก็อัพคะแนนตอนทำข้อสอบเก่าโชว์เลยว่า "วันนี้ฝึกจับเวลาทำตรีโกณ ได้ 5 เต็ม 10 พลาดเพราะ..." เป็นการบอกความก้าวหน้า และสร้างแรงฮึดไปในตัวว่า "ต้องลุยให้มากกว่านี้อีก!" โน้ตหลายๆ คน อ่านง่าย สรุปดีมาก ก็ยิ่งมีคนรออ่านเยอะค่ะ ใครอยากหาแรงบันดาลใจในการสร้าง Study Note ดีๆ น่ารักๆ ก็ลองมาเข้าสังคมกับเด็กรักเรียนชิคๆ ใน Studygram ได้เลย!
ไม่ว่าน้องๆ จะเป็นเด็กสายไหน ก็สามารถนำทิปส์ทำ Study Note ไปปรับใช้ได้ทุกสไตล์นะคะ สิ่งสำคัญที่สุดคือเราควรเขียนมันขึ้นมาด้วยมือและความเข้าใจของตัวเอง ถึงจะใช้ได้ผลค่ะ
ไม่ว่าน้องๆ จะเป็นเด็กสายไหน ก็สามารถนำทิปส์ทำ Study Note ไปปรับใช้ได้ทุกสไตล์นะคะ สิ่งสำคัญที่สุดคือเราควรเขียนมันขึ้นมาด้วยมือและความเข้าใจของตัวเอง ถึงจะใช้ได้ผลค่ะ
29 ความคิดเห็น
ตอนนี้สอบแล้วใช้ทริกตอนนี้ไม่ทัน แต่จะเก็บไว้ใช้ในครั้งหน้าค่ะ ขอบคุณสำหรับเคล็ดลับดีๆ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะช่วยในเรื่องการเรียนได้มากขึ้นจริงๆ
ปล.ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนประเภท Visual, Aural, Read/Write, Kinaesthetic ลองหาแบบทดสอบ VARK ทำดู (ขออนุญาตแปะลิ้งค์ให้เลย http://vark-learn.com/%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%A1/ )
น่าสนใจค่ะ 555 แต่เชื่อว่าส่วนใหญ่จะซื้อชีทจากเพจมาอ่านไม่ก็ไปอ่านเอาหน้าห้องสอบค่ะ 5555555
Watch Your favorite Astro Warna Dramas Online All
Channel Like Tv3 Astro Prima Live Stream Full HD Video.
<a href="https://astrowarna.org/">Kepala Bergetar Online</a>