เปิดวงจร "ธุรกิจรับทำการบ้าน" ถูกกฏหมายรายได้หมื่น เพราะงานเยอะไป หรือเด็กไทยขี้เกียจ?

 
Big Story ที่จะหาคำตอบกับเรื่องนี้
- กระแสรับทำการบ้านเยอะขึ้น ถึงขนาดรายได้เป็นหมื่น
น่าตกใจ! นักเรียนที่จ้างยอมรับ ข้อดีคือส่งทันกำหนด
- หรือนี่คือ ธุรกิจถูกกฏหมาย ที่ปลายทางคือ "ทุจริต"
-------------------------------------------          
           ภาพด้านบนนี้ คือ บทสนทนาระหว่างเด็กนักเรียน ม.ปลาย คนหนึ่งที่กำลังต่อรองค่าใช้จ่ายกับ แอคเคาท์ทวิตเตอร์รับทำการบ้าน ที่มีบริการครบวงจร ทั้งรับจ้างแปลศัพท์ คิดเลข ทำรายงาน หรือทำการบ้านเป็นรายวิชาแล้วแต่ตกลง สิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ Big Story อยากชวนมาหารู้จักกับวงจรของอาชีพนี้ เพื่อหาคำตอบกันว่า "เด็กไทยการบ้านเยอะเกินไป หรือเด็กไทยขี้เกียจ ? และคนที่รับจ้างทำ คิดอะไรอยู่ ?

"ขอจ้างเธอทำได้ไหม ? เราทำไม่ทัน"
           น้อง A นามสมมติ ผู้ที่รับจ้างทำการบ้านทางทวิตเตอร์มานานกว่า 5 ปี เธอบอกว่า.. รับจ้างทำการบ้านมาตั้งแต่สมัยมัธยม จนปัจจุบันเรียนอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว จุดเริ่มต้นในอาชีพนี้ของเธอมาจาก วันหนึ่งมีเพื่อนเดินมาถามว่า "ขอจ้างได้ไหม เราทำไม่ทัน ให้ My Map แผ่นละ 100 บาท" จึงตัดสินใจรับทำให้เพื่อน และหลังจากนั้นก็มีมาเรื่อยๆ ประกอบกับเป็นเรื่องที่เราถนัด จึงตัดสินใจรับทำเป็นอาชีพเสริมระหว่างเรียน เพราะเราก็มีเวลาว่าง และกำลังอยากหาอะไรทำที่พัฒนาตัวเอง

"ยิ่งรีบยิ่งยาก หากได้มากจะยิ่งแพง"
            น้อง A เล่าต่อว่า ลูกค้าที่มาว่าจ้างมีหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มนักเรียน ม.ต้น ม.ปลาย และนักศึกษามหาวิทยาลัย ส่งผลให้มีรายได้จากธุรกิจนี้ประมาณ 5,000-10,000 บาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าสูงมากกับงานที่ทำในเวลาว่าง ส่วนราคาที่คิดนั้นไม่ตายตัว เช่น หากทำ Power Point ขั้นต่ำอยู่ที่ 500 บาท ส่วนใบงานก็แล้วแต่ความยากเริ่มต้นที่แผ่นละ 5 บาท หากเป็นเรียงความอยู่ที่ 1 หน้า ราคา 30 บาท นอกจากมีกำหนดเรทตามความยากของงานแล้ว ยังกำหนดตามความเร่งรีบด้วย เช่น เขียน Essay topic ทั่วไป จะอยู่ 250-300 บาท ถ้าแปลงานวิชาการหลักๆ จะตกหน้าละ 300-500 บาท อยู่ที่ระดับความยากของภาษา ถ้างานทั่วไปแบบเขียนบทรายงานสั้นๆ ก็ 100-150 บาท งานที่แปลกสุดตั้งแต่รับจ้างทำการบ้านมา คือ ขอแบบด่วนๆ ภายใน 10-20 นาทีเสร็จ เป็นงานทำ PPT รายงานหน้าชั้นเด็กมัธยม
 

"ข้อดีคือทัน แต่ทำทุกวัน หัวจะไม่พัฒนา"
             น้อง B นักเรียนชั้น ม.ปลาย รายหนึ่งยอมรับว่าเคยใช้บริการธุรกิจนี้ แต่จะจ้างเฉพาะวิชาที่ไม่ถนัด เคยลองแล้วแต่เกินความสามารถจริงๆ หรือทำไม่ทันจริงๆ ที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะจ้างทำ PPT ในวิชาคอมพิวเตอร์บ่อยมาก เพราะส่วนตัวทำไม่เป็น ส่วนตัวมองว่าการจ้างแบบนี้ก็มีผลดีคือ ส่งงานทันตามกำหนด แต่ผลเสียก็คือเราจะไม่รู้เรื่องว่าใช้โปรแกรมอะไร แต่หากจ้างทำการบ้านนั้น ต้องดูให้เหมาะสมว่าครูจับได้หรือไม่ ส่วนตัวโชคดีที่คุณครูจับไม่ได้

"ยอมรับว่าขี้เกียจ ไม่เกี่ยวการบ้านเยอะ"
           มันก็มีบ้างในบางสัปดาห์ที่การบ้านต้องส่งพร้อมๆ กัน พอรวมๆกันแล้วกลายเป็นเยอะมาก แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่รับได้ ยอมรับว่าเกิดจากการขี้เกียจของตัวเอง หรือการแบ่งเวลาไม่ถูกมากกว่า อีกสิ่งที่เป็นปัญหาจริงๆ คือกิจกรรมเสริมนอกวิชามากกว่า บางอย่างไม่สมเหตุสมผล เช่น นโยบายลดการบ้าน แต่แท้จริงเป็นการเพิ่มการบ้าน เพิ่มงานใหญ่ๆงานกลุ่มงานห้อง แต่สุดท้ายคนที่ทำก็เป็นคนหน้าเดิมๆ
 
 
"ไม่ผิดกฏหมาย รายได้หลักหมื่น"
           ทนายพีระวัฒน์ กิจถาวรอาชีพ ได้ให้ความเห็นด้านกฏหมายเกี่ยวกับการรับจ้างทำการบ้านว่า "ไม่ผิดทางอาญาหรือผิดทางแพ่ง เพราะไม่มีการเสียหายเกิดขึ้น" ในมุมของคนที่จ้างทำการบ้านกับรับทำการบ้าน มีการยินยอมพร้อมใจกันด้วยการจ่ายเงิน ฝ่ายรับจ้างได้ประโยชน์คือเงิน ส่วนฝ่ายว่าจ้างได้การบ้านกลับมา ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะเป็นผลต่อตัวเด็กเอง คือเด็กไม่ได้รับความรู้ แต่จะไม่มีผลในด้านกฎหมาย

           ต่างจากรับจ้างทำวิทยานิพนธ์ เพราะการรับจ้างทำวิทยานิพนธ์จะมีผู้เสียหายคือมหาวิทยาลัย เพราะมหาวิทยาลัย ต้องออกใบปริญญาที่ดำเนินเรื่องว่าบัณฑิตตนเรียนจบโดยสมบูรณ์ (กฎของมหา'ลัยจะมีการอ้างอิง พรบ.ทางการศึกษา ซึ่งสามารถดำเนินคดีทางอาญาได้ หากพบผู้กระทำผิดที่ไม่ได้ผลิตชิ้นงานวิทยานิพนธ์ออกมาด้วยตนเอง จนทำให้มหา'ลัยเสื่อมเสียชื่อเสียง) ถ้าวิทยานิพนธ์ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น ปลอมแปลงเอกสาร หรืออ้างอิงโดยไม่ระบุที่มาของงานวิจัย รวมถึงผิดกฎมหาวิทยาลัยด้วย มหาวิทยาลัยก็สามารถยึดใบปริญญา ฟ้องดำเนินคดีอาญาหรืออุทธรณ์ให้เป็นแพ่งได้


"หรือนี่คือ... จุดเริ่มต้นของการทุจริต"
            ธุรกิจรับจ้างทำการบ้านนี้อาจจะยังไปไม่ถึงจุดที่ส่งผลกระทบต่อสังคมในระยะสั้น แต่ถ้ามองไปถึงระยะยาว ปัญหานี้จะส่งผลกระทบต่อตัวเด็กคือกระบวนการทางความคิดความอ่านของเด็กที่รับจ้างทำการบ้านจะต่างไปจากเด็กที่ทำอะไรด้วยตัวเอง เขาจะเติบโตขึ้นมาแบบผิดระบบ ใช้เงินซื้อทุกอย่างบนโลกใบนี้เท่าที่คิดว่าซื้อได้ แล้วตัวเขาเองก็จะกลายเป็นเด็กที่หนักไม่เอาเบาไม่สู้ ไม่สามารถเป็นเด็กที่มีคุณภาพ หรือโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้ในอนาคต ปัญหาทางสังคมก็จะตามมาเรื่อยๆ 
พี่ลาเต้
พี่ลาเต้ - Columnist นักข่าวสายการศึกษา เกาะติดทุกข่าวแทนน้องๆ ตัวถีบ ตัวดันให้ ม.6 สอบติด

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

white cane Member 13 ส.ค. 61 21:38 น. 6

การบ้านเยอะไปไหมหรือ ? อืมม์... สมัยผมเรียน ใน 1 วัน จะมีวิชาอยู่ทั้งหมด ตั้งแต่ 4 - 6 วิชา ซึ่งเกือบทุกวิชา มักชอบให้การบ้านมาตลอด โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ ต้องมีอย่างน้อยการบ้าน 10 ข้อ เป็นอย่างต่ำ ซึ่งใน 1 ข้อ จะใช้เวลาทำประมาณ 5 - 15 นาที เมื่อรวมกับวิชาอื่นๆ ที่ครูให้มา จะใช้เวลาไปประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง ต่อวันหลังเลิกเรียน


นอกจากการบ้านเยอะแล้ว ที่เรียนมาโดยส่วนใหญ่มากกว่า 80 % ไม่ได้เอามาใช้ในชีวิตประจำวันเลย ตัวอย่างไม่ต้องดูอื่นไกล วิชาคณิตศาสตร์ เอามาใช้จริงแค่ บวก ,ลบ ,คูณ และหาร นอกจากนี้ก็มีความยาว ไม่ว่าจะเป็นวัดเป็นเซ็นติเมตร เป็นฟุต เป็นวา เป็นต้น ซึ่งมันใช้ประโยชน์แค่นี้จริงๆ


จึงเกิดความสงสัยว่า ที่เรียนไปตั้งมากมายนั้น ใช้ประโยชน์จริงได้แค่ไหน


ดังนั้นคำถามที่ตั้งขึ้นมาว่า การบ้านเด็กไทยเยอะเกินหรือว่าขี้เกียจ ความจริงมันน่าจะถามว่า การบ้านที่ให้มา มันเหมาะสมหรือไม่ เพราะบางคนเขาก็ไม่มีเวลามานั่งทำการบ้านจริงๆ เขาต้องช่วยพ่อแม่ทำมาหากิน ไม่ก็ตัวนักเรียนไปทำงานพิเศษเพื่อเลี้ยงชีพหรือช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ หรือการบ้านที่ให้มานี้ มันสามารถให้นักเรียนเอาไปใช้หลังเรียนจบได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนอีกคำถาม เด็กไทยขี้เกียจไหม อันนี้ก็ตามเนื้อหาที่กล่าวไป อาจไม่มีเวลามากพอ หรือการบ้านมันยากเกิน จนเด็กไม่สามารถทำได้ ไม่รู้ว่าจะปรึกษาใคร หรือให้ใครช่วย


บางคนอาจบอกว่า เรียนเยอะๆ ดีสุด ต้องมีการบ้าน เด็กจะได้ฉลาด มีความรับผิดชอบ แต่เราลืมไปหรือไม่ พื้นฐานของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน บางคนจน ตื่นมาต้องช่วยพ่อแม่ทำงาน ไม่มีเวลาไปวิ่งเล่นทั้งสิ้น กว่าจะช่วยพ่อแม่เสร็จ เวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยงคืนก็มี แต่สำหรับบางคน ฐานะทางครอบครัวมีฐานะป่านกลาง ไม่ได้ลำบากอะไรมากมายนัก เลยมีเวลาพอนั่งทำการบ้านได้


ผมว่าถ้าเป็นไปได้ มันไม่ควรมีการบ้าน มันควรให้งานนักเรียนตั้งแต่ในห้อง งานที่ให้ก็ควรให้จบภายในเวลาเรียนของชั่วโมงนั้นๆ หรือถ้าเด็กทำงานไม่เสร็จจริงๆ ก็ให้เอากลับไปทำที่บ้านต่อแทน ไม่ใช่ให้งานมาเพิ่มต่อที่บ้าน

0
กำลังโหลด
เด็กตจว. 10 ส.ค. 61 08:48 น. 2

สมัยเรียก็เคยรับจ้างละ แต่ไม่เคยทำเป็นล่ำเป็นสันขนาดนี้

เพราะบางครั้งก็รู้สึกว่าแทนที่จะเสียเวลาไปกับการทำการบ้านให้คนอื่น เอาเวลาไปทำอะไรที่ชื่นชอบหรืออ่านหนังสือเก็บเกรดตัวเองดีกว่า

0
กำลังโหลด
Yumin-1993 Member 14 ส.ค. 61 20:15 น. 8

[ความคิดเห็นส่วนตัว]

เราก็ดองงานทำบ้างขี้เกียจบ้างแต่มันก็ไม่ขนาดที่ว่าทำไม่ทัน

เพราะปั่นในชั่วโมง ต่อหน้าครูแล้วส่งก็มีแต่ส่วนมากถ้าไม่ทันจะลอกเพื่อนบ้าง แแต่การบ้านที่ไม่อยากมทำงๆก็งานกลุ่มนี่แหละเกียจมากเลย เพราะหาเวลาทำไม่ได้พอถึงเวลาส่งก็จะปั่นๆหรืไม่โยนงานให้ลำบากสุดๆชอบสั่งตอนฝกล้สอบ

เ-้ยเลยหละทีนี่สอบก็สอบงานก็งานมันไปด้วยกันไม่ค่อยได้

0
กำลังโหลด

10 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
เด็กตจว. 10 ส.ค. 61 08:48 น. 2

สมัยเรียก็เคยรับจ้างละ แต่ไม่เคยทำเป็นล่ำเป็นสันขนาดนี้

เพราะบางครั้งก็รู้สึกว่าแทนที่จะเสียเวลาไปกับการทำการบ้านให้คนอื่น เอาเวลาไปทำอะไรที่ชื่นชอบหรืออ่านหนังสือเก็บเกรดตัวเองดีกว่า

0
กำลังโหลด
เรโกะ จิทาคุ Member 10 ส.ค. 61 20:48 น. 3

ไม่เคยจ้าง ถถถ การบ้าน/งาน มี...ปั่นหมดตอนเวลาว่าง มีอันใหม่ก็ทำให้มันเสร็จ แต่...เกมส์...ดอง...ดองจนคนไล่ออกจากกิลด์ 55555555 บางทีกิลด์ก็ถูกยุบไปแล้ว บางคนก็เลิกไปแล้ว 55555

0
กำลังโหลด
Nirun Kramer Member 11 ส.ค. 61 22:34 น. 4

ทั้งเคยจ้างทำและรับจ้างทำ

เราชอบจ้างเพื่อนทำการบ้านที่เกี่ยวกับศิลปะ งานฝีมือ เพราะไม่มีปัญญาทำเองค่ะ ครูอยากได้งานระดับมาสเตอร์พีซ แต่นี่วาดก้างปลายังออกมาทุเรศ สุดท้ายจึงจบลงที่จ้างเพื่อนทำงานแนวนี้ให้

เคยรับจ้างทำรายงานให้เพื่อนเกือบครึ่งห้อง หาข้อมูล ปริ้นท์ ใส่ปกเข้าเล่ม พร้อมเอาไปส่งให้

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
white cane Member 13 ส.ค. 61 21:38 น. 6

การบ้านเยอะไปไหมหรือ ? อืมม์... สมัยผมเรียน ใน 1 วัน จะมีวิชาอยู่ทั้งหมด ตั้งแต่ 4 - 6 วิชา ซึ่งเกือบทุกวิชา มักชอบให้การบ้านมาตลอด โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ ต้องมีอย่างน้อยการบ้าน 10 ข้อ เป็นอย่างต่ำ ซึ่งใน 1 ข้อ จะใช้เวลาทำประมาณ 5 - 15 นาที เมื่อรวมกับวิชาอื่นๆ ที่ครูให้มา จะใช้เวลาไปประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง ต่อวันหลังเลิกเรียน


นอกจากการบ้านเยอะแล้ว ที่เรียนมาโดยส่วนใหญ่มากกว่า 80 % ไม่ได้เอามาใช้ในชีวิตประจำวันเลย ตัวอย่างไม่ต้องดูอื่นไกล วิชาคณิตศาสตร์ เอามาใช้จริงแค่ บวก ,ลบ ,คูณ และหาร นอกจากนี้ก็มีความยาว ไม่ว่าจะเป็นวัดเป็นเซ็นติเมตร เป็นฟุต เป็นวา เป็นต้น ซึ่งมันใช้ประโยชน์แค่นี้จริงๆ


จึงเกิดความสงสัยว่า ที่เรียนไปตั้งมากมายนั้น ใช้ประโยชน์จริงได้แค่ไหน


ดังนั้นคำถามที่ตั้งขึ้นมาว่า การบ้านเด็กไทยเยอะเกินหรือว่าขี้เกียจ ความจริงมันน่าจะถามว่า การบ้านที่ให้มา มันเหมาะสมหรือไม่ เพราะบางคนเขาก็ไม่มีเวลามานั่งทำการบ้านจริงๆ เขาต้องช่วยพ่อแม่ทำมาหากิน ไม่ก็ตัวนักเรียนไปทำงานพิเศษเพื่อเลี้ยงชีพหรือช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ หรือการบ้านที่ให้มานี้ มันสามารถให้นักเรียนเอาไปใช้หลังเรียนจบได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนอีกคำถาม เด็กไทยขี้เกียจไหม อันนี้ก็ตามเนื้อหาที่กล่าวไป อาจไม่มีเวลามากพอ หรือการบ้านมันยากเกิน จนเด็กไม่สามารถทำได้ ไม่รู้ว่าจะปรึกษาใคร หรือให้ใครช่วย


บางคนอาจบอกว่า เรียนเยอะๆ ดีสุด ต้องมีการบ้าน เด็กจะได้ฉลาด มีความรับผิดชอบ แต่เราลืมไปหรือไม่ พื้นฐานของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน บางคนจน ตื่นมาต้องช่วยพ่อแม่ทำงาน ไม่มีเวลาไปวิ่งเล่นทั้งสิ้น กว่าจะช่วยพ่อแม่เสร็จ เวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยงคืนก็มี แต่สำหรับบางคน ฐานะทางครอบครัวมีฐานะป่านกลาง ไม่ได้ลำบากอะไรมากมายนัก เลยมีเวลาพอนั่งทำการบ้านได้


ผมว่าถ้าเป็นไปได้ มันไม่ควรมีการบ้าน มันควรให้งานนักเรียนตั้งแต่ในห้อง งานที่ให้ก็ควรให้จบภายในเวลาเรียนของชั่วโมงนั้นๆ หรือถ้าเด็กทำงานไม่เสร็จจริงๆ ก็ให้เอากลับไปทำที่บ้านต่อแทน ไม่ใช่ให้งานมาเพิ่มต่อที่บ้าน

0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
Yumin-1993 Member 14 ส.ค. 61 20:15 น. 8

[ความคิดเห็นส่วนตัว]

เราก็ดองงานทำบ้างขี้เกียจบ้างแต่มันก็ไม่ขนาดที่ว่าทำไม่ทัน

เพราะปั่นในชั่วโมง ต่อหน้าครูแล้วส่งก็มีแต่ส่วนมากถ้าไม่ทันจะลอกเพื่อนบ้าง แแต่การบ้านที่ไม่อยากมทำงๆก็งานกลุ่มนี่แหละเกียจมากเลย เพราะหาเวลาทำไม่ได้พอถึงเวลาส่งก็จะปั่นๆหรืไม่โยนงานให้ลำบากสุดๆชอบสั่งตอนฝกล้สอบ

เ-้ยเลยหละทีนี่สอบก็สอบงานก็งานมันไปด้วยกันไม่ค่อยได้

0
กำลังโหลด
maeda atsuko Member 16 ก.พ. 62 06:54 น. 9

ส่วนนึงก็เพราะดองเอาไว้ ไม่ยอมทัน สุดท้ายก็ไม่ทัน รีบก็ไม่สวย เพราะไม่ฝีมือ

แต่ส่วนนึงก็เพราะคุณครูนะ ที่สั่งเยอะ โดยบอกว่างานที่สั่งครูเค้่าให้เวลาทำนะ แต่มันไท่ได้มีงานครูงานเดียว มันมีงานอื่นๆรุมเร้าไปหมด แม้แต่วันนี้เราไม่ได้เรียนวิชานี้เค้าก็ยังเดินมาสั่งได้ ครูบางคนชอบสั่งงานใหญ่ๆ แต่สั่งเป็นรายอาทิตย์ๆ ก็ทำไม่ไม่ไหว งานใหญ่ไม่ได้มีวิชาเดียว แต่ไม่ทำก็ไม่ได้คะแนนอีก

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด