“อ่านหนังสือต้องมีฟีลลิ่ง!” พี่เมก้าเห็นด้วยกับประโยคนี้มากๆ เลยค่ะ ลองเปรียบเทียบดูวันไหนเราอ่านหนังสือด้วยความรู้สึกพะอืดพะอมขมขื่นอยู่ในใจ มักจะอ่านไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าวันไหนปรับอารมณ์มาแบบเฟรชมาก ก็จะอ่านหนังสือได้แบบกระปรี้กระเปร่า ความรู้ซึมเข้าสมองสุดๆ
ล่าสุด! พี่เมก้าเพิ่งค้นพบงานวิจัยน่ารักๆ เกี่ยวกับประโยชน์ของการบิดขี้เกียจมาค่ะ แค่บิดตัวโยกซ้ายนิดขวาหน่อย แต่ข้อดีตามมาอย่างคาดไม่ถึง (แอบกระซิบว่าขนาดลุงตู่ของเรายังแนะนำให้ทำ) เอาล่ะ! เพื่อไม่ให้เสียเวลาตามไปดูกันค่ะ ว่าบิดขี้เกียจช่วยให้อ่านหนังสือฟิน + อึดขึ้นได้ยังไง
เครียดเมื่อไหร่...สมองดับทันที
ถ้าถามถึงตัวการที่ทำให้น้องๆ เกิดความเครียดจนหมดแรงอ่านหนังสือ งานวิจัยเรื่อง “ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเครียดของนักเรียนชั้น ม.ปลาย รร.สารวิทยา” ได้เสนอข้อมูลที่น่าสนใจไว้ว่า สาเหตุที่ทำให้นักเรียนเกิดความเครียดมาก อันดับแรกมาจากผลการเรียนตกต่ำ ตามมาติดๆ ด้วยการตั้งใจจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ และสุดท้ายคือไม่เข้าใจบทเรียนค่ะ
ก่อนจะไปบิดขี้เกียจ เราจึงควรทำความเข้าใจกับการปรับอารมณ์กันเป็นอันดับแรกค่ะ รู้ไหมว่างานวิจัยหลายชิ้นพบว่า “อารมณ์มีผลต่อการเรียนรู้” นะคะ เมื่อไหร่ก็ตามที่น้องๆ เกิดความเครียด กลัว ท้อ ฯลฯ สมองจะหลั่งฮอร์โมนความเครียด 'Cortisol' ทำให้สมดุลของสารเคมีในสมองลดลง และปิดกั้นวงจรการทำงานของสมอง ในขณะเดียวกันถ้าเราอารมณ์ดี มีความสุข สารเคมีที่ดีก็จะหลั่งมากขึ้น ทำให้เรียนรู้เร็ว และจดจำสิ่งที่อ่านได้ยาวนานขึ้นค่ะ
เหตุผลที่เราควร “บิดขี้เกียจ”
เครียดเมื่อไหร่...สมองดับทันที
ถ้าถามถึงตัวการที่ทำให้น้องๆ เกิดความเครียดจนหมดแรงอ่านหนังสือ งานวิจัยเรื่อง “ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเครียดของนักเรียนชั้น ม.ปลาย รร.สารวิทยา” ได้เสนอข้อมูลที่น่าสนใจไว้ว่า สาเหตุที่ทำให้นักเรียนเกิดความเครียดมาก อันดับแรกมาจากผลการเรียนตกต่ำ ตามมาติดๆ ด้วยการตั้งใจจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ และสุดท้ายคือไม่เข้าใจบทเรียนค่ะ
ก่อนจะไปบิดขี้เกียจ เราจึงควรทำความเข้าใจกับการปรับอารมณ์กันเป็นอันดับแรกค่ะ รู้ไหมว่างานวิจัยหลายชิ้นพบว่า “อารมณ์มีผลต่อการเรียนรู้” นะคะ เมื่อไหร่ก็ตามที่น้องๆ เกิดความเครียด กลัว ท้อ ฯลฯ สมองจะหลั่งฮอร์โมนความเครียด 'Cortisol' ทำให้สมดุลของสารเคมีในสมองลดลง และปิดกั้นวงจรการทำงานของสมอง ในขณะเดียวกันถ้าเราอารมณ์ดี มีความสุข สารเคมีที่ดีก็จะหลั่งมากขึ้น ทำให้เรียนรู้เร็ว และจดจำสิ่งที่อ่านได้ยาวนานขึ้นค่ะ
เหตุผลที่เราควร “บิดขี้เกียจ”
เคยมีคนสงสัยว่าทำไมเวลาบิดขี้เกียจรู้สึกฟิน และกระฉับกระเฉงมากขึ้น เป็นเพราะเราได้บิดไล่ตัวขี้เกียจออกไปหรือเปล่า? จริงๆ แล้วระหว่างที่น้องๆ หลับ สมองและกล้ามเนื้อได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ พอไม่ได้ขยับกล้ามเนื้อเป็นเวลานานๆ จึงทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก การบิดขี้เกียจจึงเปรียบเสมือนการเติมเต็มเหมืองพลังงานครั้งใหญ่ให้กับร่างกายค่ะ
บิด 1 ครั้ง = ลดความเครียด เพิ่มความฟิน
ทุกเช้าที่น้องๆ ตื่นขึ้นมา เราจำเป็นต้องกระตุ้นการไหลเวียนเลือดเพื่อไปเลี้ยงร่างกายและสมองด้วยการบิดขี้เกียจ เลือดที่ไหลเวียนเพิ่มขึ้นในสมองช่วยให้เราสดชื่น และตื่นเต็มตา ส่วนการบิดตัวไปมาคล้ายยืดเหยียดกล้ามเนื้อที่หดตัวอยู่ให้คลายออก ทำให้ร่างกายเราขับกรดแล็คติกหรือของเสียในกล้ามเนื้อออกไป นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราบิดขี้เกียจแล้วรู้สึกสบายตัว หรือง่ายๆ คือยิ่งบิดยิ่งฟินนั่นเองค่ะ
การบิดขี้เกียจเพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย ไม่เพียงแต่จะทำให้เราอารมณ์ดี กระปรี้กระเปร่านะคะ ถ้าได้ลองยืดแขนขึ้นพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าออกช้าๆ น้องๆ จะสัมผัสกับความปลอดโปร่ง โล่งสบายในใจ พร้อมรับพลังบวกกลับมาเต็มๆ เรียกได้ว่าที่เคยเครียดๆ มา หายเป็นปลิดทิ้ง
บิด 1 ครั้ง = อ่านหนังสืออึดขึ้น 2 เท่า
จำได้ไหมคะน้องๆ พี่เมก้าเกริ่นไว้ตอนต้นว่า “เครียดเมื่อไหร่ สมองดับทันที” การบิดขี้เกียจช่วยปลุกความฟินในการอ่านหนังสือของเรากลับมา “ยิ่งบิดขี้เกียจตอนเช้า ยิ่งฉลาด” เนื่องจากตอนที่เราหลับ สมองไม่ได้หลับตามไปด้วยนะคะ ภายในกำลังประมวลผลข้อมูลใหม่ๆ ที่เราเรียนหรืออ่านหนังสือมาทั้งวันบรรจุลงลิ้นชักสมอง เพื่อเตรียมดึงความรู้ต่างๆ ออกมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บิด 1 ครั้ง = ลดความเครียด เพิ่มความฟิน
ทุกเช้าที่น้องๆ ตื่นขึ้นมา เราจำเป็นต้องกระตุ้นการไหลเวียนเลือดเพื่อไปเลี้ยงร่างกายและสมองด้วยการบิดขี้เกียจ เลือดที่ไหลเวียนเพิ่มขึ้นในสมองช่วยให้เราสดชื่น และตื่นเต็มตา ส่วนการบิดตัวไปมาคล้ายยืดเหยียดกล้ามเนื้อที่หดตัวอยู่ให้คลายออก ทำให้ร่างกายเราขับกรดแล็คติกหรือของเสียในกล้ามเนื้อออกไป นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราบิดขี้เกียจแล้วรู้สึกสบายตัว หรือง่ายๆ คือยิ่งบิดยิ่งฟินนั่นเองค่ะ
การบิดขี้เกียจเพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย ไม่เพียงแต่จะทำให้เราอารมณ์ดี กระปรี้กระเปร่านะคะ ถ้าได้ลองยืดแขนขึ้นพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าออกช้าๆ น้องๆ จะสัมผัสกับความปลอดโปร่ง โล่งสบายในใจ พร้อมรับพลังบวกกลับมาเต็มๆ เรียกได้ว่าที่เคยเครียดๆ มา หายเป็นปลิดทิ้ง
บิด 1 ครั้ง = อ่านหนังสืออึดขึ้น 2 เท่า
จำได้ไหมคะน้องๆ พี่เมก้าเกริ่นไว้ตอนต้นว่า “เครียดเมื่อไหร่ สมองดับทันที” การบิดขี้เกียจช่วยปลุกความฟินในการอ่านหนังสือของเรากลับมา “ยิ่งบิดขี้เกียจตอนเช้า ยิ่งฉลาด” เนื่องจากตอนที่เราหลับ สมองไม่ได้หลับตามไปด้วยนะคะ ภายในกำลังประมวลผลข้อมูลใหม่ๆ ที่เราเรียนหรืออ่านหนังสือมาทั้งวันบรรจุลงลิ้นชักสมอง เพื่อเตรียมดึงความรู้ต่างๆ ออกมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การลุกขึ้นมา “บิดขี้เกียจตอนเช้าคลายเครียด ตามด้วยอ่านหนังสือ” หลังจากที่ร่างกายได้รับการพักผ่อนเต็มที่ และสมองจัดระเบียบข้อมูลต่างๆ เรียบร้อยจนพร้อมใช้งานอีกครั้ง จึงทำให้เราอ่านหนังสือได้อย่างมีสมาธิ เข้าใจทะลุปรุโปร่ง แถมจำเนื้อหาต่างๆ ที่อ่านได้อย่างแม่นยำด้วย นักวิจัยพิสูจน์มาแล้วว่า "อ่านหนังสือเพียง 1 ชั่วโมง จำข้อมูลได้มากและแม่นยำเท่ากับใช้เวลานั่งอ่าน 2 ชั่วโมง" เลยล่ะค่ะ
บิดขี้เกียจคือท่าพร้อมเรียนที่เพอร์เฟคท์
การบิดขี้เกียจยังมีความคล้ายคลึงกับท่า High-Power Poses มากด้วยนะคะ นี่เป็นสิ่งที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่า การทำท่า High-power poses ทำให้ฮอร์โมนความเครียด (Cortisol) ในสมองลดลง ในขณะที่ฮอร์โมนแห่งอำนาจ (Testosterone) กลับเพิ่มขึ้น เราจะรู้สึกเหมือนมีใครมาปลุกพลังไฟในตัว พร้อมจะสู้กับการเรียนและการอ่านหนังสือขึ้นมาทันที
ขอบอกว่าบิดขี้เกียจเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไม่ชอบออกกำลังกายแบบพี่เมก้ามากเลยค่ะ ก่อนหน้านี้ใครบอกว่าต้อง Up & Down ก่อนอ่านหนังสือให้สมองปลอดโปร่ง ต่อไปไม่ต้องออกแรงเยอะแล้ว ว่าแต่น้องๆ อยากจะลองลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจกันบ้างไหมคะ แต่บอกก่อนว่าบิดตัวขี้เกียจออกไปแล้ว อย่าแอบหงายหลังนอนต่อนะ รีบอ่านหนังสือตามทันที ยิ่งทบทวนบ่อยๆ เราจะยิ่งจำเนื้อหาที่อ่านได้แม่นยำขึ้นค่ะ
บิดขี้เกียจคือท่าพร้อมเรียนที่เพอร์เฟคท์
การบิดขี้เกียจยังมีความคล้ายคลึงกับท่า High-Power Poses มากด้วยนะคะ นี่เป็นสิ่งที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่า การทำท่า High-power poses ทำให้ฮอร์โมนความเครียด (Cortisol) ในสมองลดลง ในขณะที่ฮอร์โมนแห่งอำนาจ (Testosterone) กลับเพิ่มขึ้น เราจะรู้สึกเหมือนมีใครมาปลุกพลังไฟในตัว พร้อมจะสู้กับการเรียนและการอ่านหนังสือขึ้นมาทันที
ขอบอกว่าบิดขี้เกียจเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไม่ชอบออกกำลังกายแบบพี่เมก้ามากเลยค่ะ ก่อนหน้านี้ใครบอกว่าต้อง Up & Down ก่อนอ่านหนังสือให้สมองปลอดโปร่ง ต่อไปไม่ต้องออกแรงเยอะแล้ว ว่าแต่น้องๆ อยากจะลองลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจกันบ้างไหมคะ แต่บอกก่อนว่าบิดตัวขี้เกียจออกไปแล้ว อย่าแอบหงายหลังนอนต่อนะ รีบอ่านหนังสือตามทันที ยิ่งทบทวนบ่อยๆ เราจะยิ่งจำเนื้อหาที่อ่านได้แม่นยำขึ้นค่ะ
1 ความคิดเห็น
ขอบคุณ