ภาษาอังกฤษ แทบจะนับได้ว่าเป็นภาษาหลักที่ควรสื่อสารให้ได้ ซึ่งระบบการศึกษาภายในประเทศไทยพยายามส่งเสริมให้นักเรียนเข้าถึงการพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะในกลุ่มของนักเรียนอาชีวะ ที่จำเป็นต้องใช้ทักษะภาษาอังกฤษเพื่อเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมในอนาคต
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จึงจัดทำแอปพลิเคชั่นเพื่อฝึกทักษะภาษาอังกฤษ สำหรับเรียนอาชีวะและบุคคลทั่วไป และล่าสุดได้จัดการแข่งขันภาษาอังกฤษของนักเรียนอาชีวะ EchoVE Contest จาก 126 วิทยาลัย โดยทีมที่ชนะเลิศคือ ทีมจาก วิทยาลัยสารพัดช่างอุดรธานี โดยมีสมาชิกคือ นาย ชินวัฒน์ เลิศนา, นาย วจนะ แสนเสนา, นาย คณิศร ผาบจันดา, นาย ธีรเมธ ปุ้มสระเกษ, นางสาว ฤทัยชนก สีทะราช วันนี้พี่มิ้นท์จะพามารู้จักและพูดคุยถึงเทคนิคการฝึกภาษาอังกฤษค่ะ
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จึงจัดทำแอปพลิเคชั่นเพื่อฝึกทักษะภาษาอังกฤษ สำหรับเรียนอาชีวะและบุคคลทั่วไป และล่าสุดได้จัดการแข่งขันภาษาอังกฤษของนักเรียนอาชีวะ EchoVE Contest จาก 126 วิทยาลัย โดยทีมที่ชนะเลิศคือ ทีมจาก วิทยาลัยสารพัดช่างอุดรธานี โดยมีสมาชิกคือ นาย ชินวัฒน์ เลิศนา, นาย วจนะ แสนเสนา, นาย คณิศร ผาบจันดา, นาย ธีรเมธ ปุ้มสระเกษ, นางสาว ฤทัยชนก สีทะราช วันนี้พี่มิ้นท์จะพามารู้จักและพูดคุยถึงเทคนิคการฝึกภาษาอังกฤษค่ะ
.png)
บรรยากาศการแข่งขันที่ผ่านมา และวิธีการเตรียมตัวของทีม
รอบแรกก็จะมีการเก็บคะแนนโดยฝึกจากแอพพลิเคชั่น ทีมเราจะช่วยกันสะสมคะแนน ให้ผ่านเข้ารอบเป็น 1 ใน 9 ทีมที่ดีที่สุด โดยทางแอปพลิเคชั่นจะให้แอคเคาท์มา 5 แอคเคาท์สำหรับ 1 ทีม เราก็จะทำการเก็บคะแนนโดยใช้เวลากับแอปพลิเคชั่นนี้ในแต่ละหัวข้อ ซึ่งหัวข้อมีอยู่หลากหลายมาก เราจะเรียนตามสาขา หรือเรียนครบทุกหมวดเลยก็ได้ แล้วจะไปเก็บคะแนนตอนสุดท้าย ทางกรรมการก็จะรวบรวมและจัดอันดับที่หลังว่าจะคัดเลือกทีมไหนเข้าเป็นตัวแทน
กว่าจะผ่านด่านรอบจังหวัดนี้ มีหลายๆ ทีม บางคนทำคะแนนได้ 50,000 - 60,000 บางคนก็ทำได้ 100,000 อย่างทีมเราก็มีคนทำคะแนนได้ 1,000,000 แต่ละรอบพูดประมาณ 10 ประโยค ถ้าเต็มก็จะได้ 100 คะแนนต่อรอบ ดังนั้น 1,000,000 คะแนน เท่ากับว่าพูดไป 10,000 รอบ รอบการพูดนี้ก็จะสะสมกันไปทุกวัน กำหนดเวลาประมาณ 1 เดือน เราจะเล่นวันไหนก็ได้ให้ได้เป็นตัวแทนจังหวัดเพื่อจะได้เข้าระดับภาคต่อไป ก็พูดให้ถูก พูดให้ชัด ค่อยๆ เก็บคะแนนไปเรื่อยๆ
ส่วนในการแข่งรอบที่ 2 รอบคัดเลือกตัวแทนภาค ทางแอปพลิเคชั่นจะกำหนดหัวข้อมาให้เราไปตอบคำถาม แล้วก็เรียนรู้จากในแอพพลิเคชั่น การตอบคำถามจะอยู่ในหัวข้อแอพพลิเคชั่น พวกเราได้หัวข้อ Marketing คือการตลาด ก็เตรียมบทบาทสมมติกันว่าจะตอบอะไร มีอะไรให้ตอบ ทีมเรามีจุดเด่นตรงไหน แล้วก็ไปทำการแข่งขันจนผ่านมาได้ถึงรอบประเทศ
.png)
การแข่งในรอบประเทศความกดดันสูงมาก เพราะแข่งกันทั้งประเทศ เราไม่ได้ใช้การจำแล้วนำไปพูด แต่มันคือการแสดงบทบาทสมมติขึ้นมา มันคือการสื่อสารให้คนฟังรู้เรื่องว่าเราพูดอะไรออกไป อย่างในรอบประเทศนี้ การแข่งขันจะแบ่งย่อยออกไปอีกเป็น 3 รอบ
- รอบที่ 1 แสดงบทบาทสมมติ แต่ความยากคือเราต้องมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น เราอาจจะใช้หัวข้อเดิมคือ Marketing แต่หัวข้อการตลาด การประชุม ที่นำมาปรับใช้นี้ เราเอามาสร้างบทที่คิดได้ฟรีสไตล์กว่าในการแข่งรอบภาค อีกอย่างทีมเรามีการออกเสียง และมีการแสดงออกที่ดี ก็คิดว่าน่าจะถูกใจกรรมการตรงความเป็นธรรมชาติ
- รอบที่ 2 Battle 6 ทีม ที่ผ่านเข้ารอบมา มีการกดปุ่มเพื่อแย่งกันตอบคำถามให้เร็วที่สุด โดยการถามคำถามนี้จะเป็นคำถามที่เราไม่เคยรู้มาก่อน
- รอบที่ 3 จะเป็นการตอบคำถามที่ไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกันครับ แต่คราวนี้จะเป็นคำถามจากกรรมการ ถามทีละทีมเดี่ยวๆ เลย เป็นคำถามประเภทให้เราเติมศัพท์จากการเขียน อ่าน ฟัง เจอคุณแอนดรูว์บิ๊กส์สั่นกลัวมากเลย
การเตรียมตัว ในทีมเรามีเพื่อนที่เคยไปอยู่อเมริกา พวกเราใช้เวลากัน 2 เดือนเต็มในการช่วยกันสอนคำศัพท์ต่างๆ ส่วนการแข่งแบบบทบาทสมมติกว่าจะได้บทหนึ่งมาคือปรับแก้กันหลายครั้ง แล้วเราไม่มีความรู้ด้านการแสดงมาก่อนเลยจนกระทั่งได้อาจารย์ของเราเข้ามาช่วยปรับทั้งการพูด คุย ออกเสียง การออกท่าทางให้เป็นธรรมชาติ มีการวาง Story เรื่องการประชุมการตลาด ก็จะมีตัวละคร 5 คนในทีมคือ บอส 1 คน เลขา 1 คน มีครีเอทีฟ 3 คน ที่ต้องนำไอเดียมาเสนอโปรเจคท์กับบอสให้แอพพลิเคชั่นนี้ขายได้
.png)
.png)
เคล็ดลับในการฝึกภาษาอังกฤษ
1. พูดใส่โทรศัพท์แล้วอัดเสียง ฟังไปเรื่อยๆ ผิดตรงไหนก็ไปเช็คจาก Youtube บ้าง ฟังเพลงบ้าง อย่างในแอพพลิเคชั่นก็มีการพูดให้ฟัง แล้วเราก็พูดตาม ว่าเราพูดถูกตรงไหน ผิดตรงไหน เขียนไม่ถูก หรือว่าออกเสียงสูงเสียงต่ำไม่เป็น ก็มีอยู่ในแอพพลิเคชั่น
2. สิ่งที่ผมเรียนรู้จาก EchoVE คือไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษ แต่ได้รู้จักการพูดในสถานที่และสถานการณ์ต่างๆ เช่น การพูดในที่ประชุมมีสไตล์การพูดยังไงบ้าง หยอกๆ เล่นๆ ได้แบบผ่อนคลาย หรือจริงจัง
3. เริ่มต้นดูหนัง ฟังเพลง ซาวน์แทร็กแบบปกติ แต่พอมาใช้แอปฯ ก็พูดคล่องขึ้น จะรู้การ Stress เสียง ได้ออกเสียงตาม โดยะจฝึกภาษาอังกฤษเวลาหลังเลิกเรียน
4. เริ่มอ่านหนังสือการ์ตูนแปลซับภาษาอังกฤษ แล้วฝึกการออกเสียง
1. พูดใส่โทรศัพท์แล้วอัดเสียง ฟังไปเรื่อยๆ ผิดตรงไหนก็ไปเช็คจาก Youtube บ้าง ฟังเพลงบ้าง อย่างในแอพพลิเคชั่นก็มีการพูดให้ฟัง แล้วเราก็พูดตาม ว่าเราพูดถูกตรงไหน ผิดตรงไหน เขียนไม่ถูก หรือว่าออกเสียงสูงเสียงต่ำไม่เป็น ก็มีอยู่ในแอพพลิเคชั่น
2. สิ่งที่ผมเรียนรู้จาก EchoVE คือไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษ แต่ได้รู้จักการพูดในสถานที่และสถานการณ์ต่างๆ เช่น การพูดในที่ประชุมมีสไตล์การพูดยังไงบ้าง หยอกๆ เล่นๆ ได้แบบผ่อนคลาย หรือจริงจัง
3. เริ่มต้นดูหนัง ฟังเพลง ซาวน์แทร็กแบบปกติ แต่พอมาใช้แอปฯ ก็พูดคล่องขึ้น จะรู้การ Stress เสียง ได้ออกเสียงตาม โดยะจฝึกภาษาอังกฤษเวลาหลังเลิกเรียน
4. เริ่มอ่านหนังสือการ์ตูนแปลซับภาษาอังกฤษ แล้วฝึกการออกเสียง
ภาษาอังกฤษสำคัญกับการเรียนในอาชีวะอย่างไร
สำหรับการเรียนอาชีวะ ภาษาอังกฤษจะสำคัญมาก เพราะอาชีวะเขาสอนให้เด็กนักเรียน นักศึกษาออกไปทำงาน แล้วมีโอกาสที่จะได้ไปทำงานต่างประเทศ เช่น เกาหลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น ถ้าพูดภาษาอังกฤษได้ถือว่าได้เปรียบมากเลย และช่วยให้สื่อสารกับคนอื่นได้ด้วย เพราะส่วนมากทุกวันนี้ในอาเซียนก็มีแต่คนพูดภาษาอังกฤษ และถ้าเรารู้มากขึ้น โอกาสที่จะได้งานก็สูงขึ้นด้วย เดี๋ยวนี้เวลาไปสมัครงานตามบริษัทใหญ่ๆ อย่างการบินไทย ปตท. ก็จะมีการกำหนด requirement ไว้อยู่แล้วว่าต้องการคะแนนความสามารถทางภาษาอังกฤษในระดับไหน เช่น TOEIC TOEFL ถ้าเรามีความรู้เรื่องภาษาบวกกับความรู้ในวิชาชีพ เราก็จะไปได้ไกล มีสิทธิ์ที่จะเลือกงานมากขึ้น ตำแหน่งงานดีขึ้น เงินเดือนสูงขึ้น
นอกจากนี้การรู้ภาษาอังกฤษ ทำให้ขายงานได้เยอะขึ้น เพราะช่างมีศัพท์เฉพาะ ถ้าเราไม่รู้ศัพท์ ไปทำงานกับช่างต่างประเทศก็จะลำบาก หรือเวลาเทคโนโลยีมีเปลี่ยนแปลง หากเราไม่รู้ เราก็จะล้าหลังไปเรื่อยๆ
สำหรับการเรียนอาชีวะ ภาษาอังกฤษจะสำคัญมาก เพราะอาชีวะเขาสอนให้เด็กนักเรียน นักศึกษาออกไปทำงาน แล้วมีโอกาสที่จะได้ไปทำงานต่างประเทศ เช่น เกาหลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น ถ้าพูดภาษาอังกฤษได้ถือว่าได้เปรียบมากเลย และช่วยให้สื่อสารกับคนอื่นได้ด้วย เพราะส่วนมากทุกวันนี้ในอาเซียนก็มีแต่คนพูดภาษาอังกฤษ และถ้าเรารู้มากขึ้น โอกาสที่จะได้งานก็สูงขึ้นด้วย เดี๋ยวนี้เวลาไปสมัครงานตามบริษัทใหญ่ๆ อย่างการบินไทย ปตท. ก็จะมีการกำหนด requirement ไว้อยู่แล้วว่าต้องการคะแนนความสามารถทางภาษาอังกฤษในระดับไหน เช่น TOEIC TOEFL ถ้าเรามีความรู้เรื่องภาษาบวกกับความรู้ในวิชาชีพ เราก็จะไปได้ไกล มีสิทธิ์ที่จะเลือกงานมากขึ้น ตำแหน่งงานดีขึ้น เงินเดือนสูงขึ้น
นอกจากนี้การรู้ภาษาอังกฤษ ทำให้ขายงานได้เยอะขึ้น เพราะช่างมีศัพท์เฉพาะ ถ้าเราไม่รู้ศัพท์ ไปทำงานกับช่างต่างประเทศก็จะลำบาก หรือเวลาเทคโนโลยีมีเปลี่ยนแปลง หากเราไม่รู้ เราก็จะล้าหลังไปเรื่อยๆ
พี่มิ้นท์ก็ขอแสดงความยินดีกับน้องๆ ทั้ง 5 คน รวมถึงผู้ชนะรางวัลอันดับอื่นๆ ที่นอกจากจะได้รับทุนการศึกษาแล้ว ยังได้บินไกลไปต่างแดนดูงานถึงประเทศสิงคโปร์เลยค่ะ และสำหรับน้องๆ ชาว Dek-D ที่อยากเก่งภาษาอังกฤษบ้าง ฝึกฝนเยอะๆ นะคะ เดี๋ยวนี้มีสื่อให้เรียนรู้มากมาย ถ้าพยายามมากพอ ต้องเก่งขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ^^
1 ความคิดเห็น
ขอบคุณ