แอลกอฮอล์เป็นเครื่องดื่มมึนเมาที่หลายคนก็รู้ว่ามันเป็นโทษกับร่างกาย แต่ข้ออ้างของคนทั่วไปคือ ดื่มเล็กน้อยเพื่อสุขภาพ ดื่มเพื่อเข้าสังคม ดื่มนิดเดียวไม่เมา ฯลฯ และข้ออ้างอีกมากมายที่ยกขึ้นมา เพื่อให้ดื่มได้โดยไม่รู้สึกผิด
ฟังข่าวนี้ให้ดีและทบทวนกันใหม่อีกรอบ งานวิจัยล่าสุดออกมาบอกว่า ไม่ว่าจะดื่มเท่าไหร่ ก็อันตรายพอๆ กัน ไม่มีระดับกำหนดว่าแค่ไหนปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัย ซึ่งงานวิจัยนี้ศึกษามากว่า 195 ประเทศทั่วโลก ยืนยันว่าปริมาณการดื่มแอลกอฮอลล์ในระดับที่ดีต่อสุขภาพไม่มีอยู่จริงค่ะ ตรงกันข้ามคือ ดันให้โทษเท่ากับคนที่ดื่มปริมาณมากๆ อีกด้วย
ฟังข่าวนี้ให้ดีและทบทวนกันใหม่อีกรอบ งานวิจัยล่าสุดออกมาบอกว่า ไม่ว่าจะดื่มเท่าไหร่ ก็อันตรายพอๆ กัน ไม่มีระดับกำหนดว่าแค่ไหนปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัย ซึ่งงานวิจัยนี้ศึกษามากว่า 195 ประเทศทั่วโลก ยืนยันว่าปริมาณการดื่มแอลกอฮอลล์ในระดับที่ดีต่อสุขภาพไม่มีอยู่จริงค่ะ ตรงกันข้ามคือ ดันให้โทษเท่ากับคนที่ดื่มปริมาณมากๆ อีกด้วย
"The Lancet" คือ วารสารด้านการแพทย์ระดับนานาชาติที่ลงข้อมูลไว้ว่า ในปี 2016 มียอดผู้เสียชีวิตด้วยแอลกอฮอล์สูงถึงเกือบ 3 ล้านคนทั่วโลก และ 12% ในนั้นคือเพศชาย อายุระหว่าง 15 ถึง 49 ปี! คุณหมอ Emmanuela Gakidou จากสถาบันวัดและประเมินสุขภาพ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน ได้บอกไว้ว่า ความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอลล์มีสูงมาก ซึ่งไปสอดคล้องกับงานวิจัยอื่นๆ ที่พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มแอลกอฮอลล์กับการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ด้วยโรคร้ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มะเร็ง โรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด
การศึกษาครั้งนี้ เขาไม่ได้แยกประเภทของแอลกอฮอล์ ว่าเป็นไวน์ เบียร์ เหล้า หรืออื่นๆ แต่นับรวมว่ามันคือแอลกอฮอล์ พบว่าแต่ละประเทศและแต่ละเพศมีการดื่มแอลกอฮอลล์โดยเฉลี่ยแตกต่างกัน (การบริโภคโดยเฉลี่ยในที่นี้ กำหนดไว้ที่แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 10 กรัม/1 คน/วัน อย่างไรก็ตาม ในแต่ละประเทศ อาจกำหนดค่ามาตรฐานแตกต่างกัน เช่น สหราชอาณาจักร กำหนดที่ 8 กรัม, ออสเตรเลีย 14 กรัม, ญี่ปุ่น 20 กรัม เป็นต้น)
ในปี 2016 ทั่วโลกมีผู้ดื่มกว่า 2 พันล้านคน และเป็นเพศชายถึง 63% ผลการศึกษาพบว่าปัจจุบัน คนที่ดื่มมักเกิดโรคที่เป็นผลจากการดื่มแอลกอฮอล์ ถึง 23 ชนิด ทั้งโรคติดต่อและไม่ติดต่อ เช่น โรคหลอดเลือดตีบ, โรคความดันโลหิตสูง, โรคหัวใจขาดเลือด, มะเร็งเต้านม, มะเร็งลำไส้ใหญ่, มะเร็งในช่องปาก, โรคตับแข็งจากการดื่มแอลกอฮอล์, โรคระบบทางเดินหายใจ, วัณโรค ฯลฯ
ในปี 2016 ประเทศที่มีอัตราการตายเฉลี่ยสูงสุด (ต่อ 100,000 คน) ได้แก่ เลโซโท 145.3 คน รัสเซีย 118.4 คน อเมริกากลาง 108.8 คน ยูเครน 92.2 คน บุรุนดี 81.1 คน ลิทัวเนีย 76.1 คน เบลารุส 71.2 คน มองโกเลีย 67.6 คน ลัตเวีย 65.5 คน คาซัคสถาน 62.2 คน
Richard Horton บรรณาธิการของ The Lancet ได้กล่าวว่า "พวกเราได้รู้แล้วว่า แอลกอฮอล์เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการตายในโลกทุกวันนี้ มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการอะไรบางอย่างอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้คนอีกเป็นล้านต้องตายเพราะแอลกอฮอล์"
ในขณะที่ Max Griswold หนึ่งในทีมงานวิจัยได้ย้ำว่า "การกระตุ้นให้ประชาชนดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยหรือไม่ดื่มเลย เป็นนโยบายที่จำเป็นและเร่งด่วน ส่วนที่เคยบอกกันว่าดื่มแอลกอฮอล์หนึ่งหรือสองแก้วต่อวันเป็นเรื่องที่ดี ก็ไม่เป็นความจริงอีกต่อไป"
ในบ้านเรา ก็มีหน่วยงานที่คอยรณรงค์เรื่องการงดเหล้าตามเทศกาลต่างๆ อยู่แล้ว แต่ที่นำมาให้อ่านในวันนี้ก็เพื่อสนับสนุนให้คนไทย ลด ละ เลิก แอลกอฮอล์ เพราะนอกจากจะเสี่ยงกับโรคอันตรายต่างๆ แล้ว ยังมีอุบัติเหตุ การทะเลาะวิวาท ที่เป็นผลทางอ้อมของการดื่มแอลกอฮอล์อีกด้วย รักตัวเอง รักครอบครัว รักคนรอบข้าง ลดการดื่มแอลกอฮอล์กันเถอะ^^
การศึกษาครั้งนี้ เขาไม่ได้แยกประเภทของแอลกอฮอล์ ว่าเป็นไวน์ เบียร์ เหล้า หรืออื่นๆ แต่นับรวมว่ามันคือแอลกอฮอล์ พบว่าแต่ละประเทศและแต่ละเพศมีการดื่มแอลกอฮอลล์โดยเฉลี่ยแตกต่างกัน (การบริโภคโดยเฉลี่ยในที่นี้ กำหนดไว้ที่แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 10 กรัม/1 คน/วัน อย่างไรก็ตาม ในแต่ละประเทศ อาจกำหนดค่ามาตรฐานแตกต่างกัน เช่น สหราชอาณาจักร กำหนดที่ 8 กรัม, ออสเตรเลีย 14 กรัม, ญี่ปุ่น 20 กรัม เป็นต้น)
ในปี 2016 ทั่วโลกมีผู้ดื่มกว่า 2 พันล้านคน และเป็นเพศชายถึง 63% ผลการศึกษาพบว่าปัจจุบัน คนที่ดื่มมักเกิดโรคที่เป็นผลจากการดื่มแอลกอฮอล์ ถึง 23 ชนิด ทั้งโรคติดต่อและไม่ติดต่อ เช่น โรคหลอดเลือดตีบ, โรคความดันโลหิตสูง, โรคหัวใจขาดเลือด, มะเร็งเต้านม, มะเร็งลำไส้ใหญ่, มะเร็งในช่องปาก, โรคตับแข็งจากการดื่มแอลกอฮอล์, โรคระบบทางเดินหายใจ, วัณโรค ฯลฯ
ในปี 2016 ประเทศที่มีอัตราการตายเฉลี่ยสูงสุด (ต่อ 100,000 คน) ได้แก่ เลโซโท 145.3 คน รัสเซีย 118.4 คน อเมริกากลาง 108.8 คน ยูเครน 92.2 คน บุรุนดี 81.1 คน ลิทัวเนีย 76.1 คน เบลารุส 71.2 คน มองโกเลีย 67.6 คน ลัตเวีย 65.5 คน คาซัคสถาน 62.2 คน
Richard Horton บรรณาธิการของ The Lancet ได้กล่าวว่า "พวกเราได้รู้แล้วว่า แอลกอฮอล์เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการตายในโลกทุกวันนี้ มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการอะไรบางอย่างอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้คนอีกเป็นล้านต้องตายเพราะแอลกอฮอล์"
ในขณะที่ Max Griswold หนึ่งในทีมงานวิจัยได้ย้ำว่า "การกระตุ้นให้ประชาชนดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยหรือไม่ดื่มเลย เป็นนโยบายที่จำเป็นและเร่งด่วน ส่วนที่เคยบอกกันว่าดื่มแอลกอฮอล์หนึ่งหรือสองแก้วต่อวันเป็นเรื่องที่ดี ก็ไม่เป็นความจริงอีกต่อไป"
ในบ้านเรา ก็มีหน่วยงานที่คอยรณรงค์เรื่องการงดเหล้าตามเทศกาลต่างๆ อยู่แล้ว แต่ที่นำมาให้อ่านในวันนี้ก็เพื่อสนับสนุนให้คนไทย ลด ละ เลิก แอลกอฮอล์ เพราะนอกจากจะเสี่ยงกับโรคอันตรายต่างๆ แล้ว ยังมีอุบัติเหตุ การทะเลาะวิวาท ที่เป็นผลทางอ้อมของการดื่มแอลกอฮอล์อีกด้วย รักตัวเอง รักครอบครัว รักคนรอบข้าง ลดการดื่มแอลกอฮอล์กันเถอะ^^
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
www.sciencedaily.com/releases/2018/08/180824103018.htm
2 ความคิดเห็น
สรุปคือ ไม่ดื่มเลยจะดีมาก แต่ถ้าดื่มแล้วก็ดื่มมาก ๆ ไปเลยเพราะเสียหายเท่ากัน
คือข้อความ "ยืนยันว่าปริมาณการดื่มแอลกอฮอลล์ในระดับที่ดีต่อสุขภาพไม่มีอยู่จริงค่ะ ตรงกันข้ามคือ ดันให้โทษเท่ากับคนที่ดื่มปริมาณมากๆ อีกด้วย" เนี่ยในส่วน " ตรงกันข้ามคือ ดันให้โทษเท่ากับคนที่ดื่มปริมาณมากๆ อีกด้วย" เหมือนคนเขียนบทความนี้จะเติมความเห็นของตัวเองเข้าไปนะ คือจริงๆงานวิจัยเค้าบอกแค่ว่า "ยืนยันว่าปริมาณการดื่มแอลกอฮอลล์ในระดับที่ดีต่อสุขภาพไม่มีอยู่จริง" คือจะเอามาบอกว่าที่เชื่อๆกันว่าดื่มวันละแก้วสองแก้วให้เลือดลมมันเดินมันไม่มีอยู่จริง กินน้อยแค่ไหนก็ทำลายสุขภาพอยู่ดี
เอเขียนยาวไปมั้ยเนี่ย หวังว่าจะอ่านนะ ความจริงถ้าอ่านทั้งบทความก็น่าจะตีความออกนะ ว่าเค้าไม่ได้สื่อว่าดื่มมากแค่ไหนก็เสียหายเท่ากัน คือแค่คิดนิดเดียวก็รู้แล้วอ่ะ ทำอะไรมากกับน้อย จะส่งผลเท่ากันได้ยังไง
ขอบคุณ