หลายครั้งเราก็เผลอลืมไปว่า ขนมปังที่ซื้อมาหมดอายุไปนานแล้ว ลืมถึงขนาดที่ว่า กลับมาหยิบอีกทีก็เห็นขึ้นราไปเรียบร้อยแล้วอะ สิ่งที่คนส่วนใหญ่(และตัวเราเอง)เลือกทำก็คือ ฉีกขนมปังส่วนที่ขึ้นราทิ้ง แล้วก็กินส่วนที่เหลือ ก็มันเสียดายนี่หน่า ...

ย้อนกลับไปตอนสมัยเรียนแอบจำได้ว่า คุณครูเคยสอนไว้ว่ายาฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางตัวก็สกัดมาจากราเหมือนกัน เช่น ยาฆ่าเชื้อ Penicillin ซึ่งเป็นส่วนผสมหนึ่งของ Amoxicillin ยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยทุกครั้งที่เป็นไข้ นั่นก็แปลว่าราก็ต้องกินได้สิ มีประโยชน์ต่อร่างกายไม่ใช่หรอ? เนี่ยแหละค่ะ จุดเริ่มต้นของความเข้าใจผิดที่ใหญ่หลวง

 
ชานมไข่มุก ไม่ได้มีแบบเดียวในโลกฉันใด เชื้อรา ก็ไม่ได้มีชนิดเดียวในโลกฉันนั้น

มารู้จักเชื้อรากันก่อน เชื้อรา เป็นสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรเห็ดรา มีมากกว่า 100,000 ชนิด ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพมาก ถ้าได้เคยดูเชื้อราผ่านกล้องจุลทรรศน์จะเห็นได้เลยว่านางมีหน้าตาคล้ายเห็ดน้อยๆ น่ารักน่าเอ็นดู มีขั้วและมีสปอร์อยู่ที่ยอด ซึ่งสปอร์นี่แหละที่ทำให้รามีสีต่างๆ อย่างเช่น สีฟ้าๆ อมเขียวที่ขึ้นอยู่บนขนมปังนั่นแหละ
 

ภาพประกอบจาก science.howstuffworks.com : PETER DAZELEY/GETTY IMAGES

ด้วยความหลากหลายกว่าแสนชนิด เชื้อราก็จะมีทั้งชนิดที่ดีและเป็นพิษ ชนิดดีก็ดีใจหาย สกัดเป็นยาเอามารักษากันต่อ ส่วนชนิดที่เป็นพิษก็สามารถผลิตสารพิษ เราเรียกสารพิษที่เกิดจากเชื้อราว่า Mycotoxins (รากศัพท์จากภาษากรีกโบราณ μύκης (múkēs) : เห็ด, toxin : สารพิษ) ซึ่งเป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์ ทำให้ป่วยได้

หนึ่งในสารพิษจากราก็คือ Aflatoxin เป็นสารที่สามารถพบได้ในเชื้อราที่ขึ้นบนถั่วและเมล็ดธัญพืช ที่เป็นองค์ประกอบที่พบได้ในขนมปังบางชนิด ซึ่งพื้นฐานของขนมปังจะประกอบไปด้วยแป้งสาลีผสมกับน้ำและยีสต์หรือผงฟู (และยีสต์ก็เป็นซับเซตของอาณาจักรเห็ดรา) เพราะฉะนั้นในขนมปังจึงมีอาหารที่เชื้อราชอบอยู่เต็มไปหมด

และแม้เราจะมองเห็นเพียงแค่ส่วนยอดของราที่อยู่บนผิวขนมปัง แต่จริงๆแล้วเชื้อรายังมีส่วนรากที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าซ่อนอยู่ในตัวเนื้อขนมปังอีกด้วยนะ แถมส่วนรากนี่แหละที่เป็นแหล่งสะสมสารพิษจากเชื้อราเลย


คือถ้ายังอยู่ในช่วงอายุที่เราสามารถรับประทานได้ตามคำแนะนำข้างถุง ขนมปังก็ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตค่ะ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราได้มองเห็นจุดฟ้าอมเขียวเข้มๆ บนขนมปังแล้ว นั่นแปลว่า Aflatoxin ได้ถือกำเนิดขึ้น ถึงเราจะฉีดส่วนที่มองเห็นออกไป แต่มันก็ได้ชอนไชไปในขนมปังเรียบร้อย แม้ว่าเราจะมองไม่เห็นก็ตาม

เพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าขนมปังที่ซื้อมาได้ขึ้นราแล้ว คำแนะนำจากใจเลยก็คือ ตัดใจทิ้งมันซะ ขนมปังเราสามารถซื้อใหม่ได้ แต่ถ้าได้ป่วยจากสารพิษของเชื้อรา ไม่รู้เลยว่าต้องเสียค่ารักษาพยาบาลอีกเท่าไหร่ ถือว่าเตือนแล้วนะ ตัดใจทิ้งไปเถอะเนาะ :)

 
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://science.howstuffworks.com
พี่แป้ง
พี่แป้ง - Columnist นักข่าวสายรับตรง พร้อมเสิร์ฟข่าวสอบเข้าทุกมหา'ลัย เติมพลังได้จากชาเย็นหวานน้อย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

4 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
Andy Ryu Member 21 เม.ย. 62 05:48 น. 2

ผมเห็นภาพแล้วคิดว่าเป็นขนมปังสังขยา ขืนกินเข้าไปมีหวังต้องเปลี่ยนจากขนมปังขึ้นราเป็นขนมปังอำลา

ขอบคุณสำหรับบทความครับ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด