เมื่อได้ยินคำว่าสาธิตปทุมวันแล้ว สิ่งแรกที่ใครหลายๆ คนนึกถึงคงหนีไม่พ้นเรื่องการเรียน ซึ่งในโรงเรียนสาธิตปทุมวัน มีแบ่งการเรียนการสอนออกเป็น 2 หลักสูตรคือ หลักสูตรภาคปกติ และหลักสูตร English Program for Talented Students (EPTS) โดยเนื้อหาที่เรียนจะคล้ายกันมากๆ แต่ในภาค EPTS วิชา ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ประวัติศาสตร์ และสุขศึกษา จะถูกสอนโดยอาจารย์ชาวต่างประเทศ ในห้องเรียน ภาคปกติจะมีนักเรียนเฉลี่ยห้องละ 50 คน ส่วนโครงการ EPTS จะมีนักเรียนห้องละ 35 คน
โรงเรียนสาธิตปทุมวันขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าเข้มข้นเรื่องเนื้อหาที่เรียน เพราะฉะนั้นแต่ละบทเรียนก็จะยาก ลึก และการสอบก็ยากเช่นเดียวกัน จึงไม่แปลกที่จะได้ยินเด็กสาธิตปทุมวันบอกว่า ตกเลขเป็นเรื่องธรรมดา นอกจากเนื้อหาเรียนที่พร้อมและแน่นขนาดนี้แล้ว สื่อในการเรียนการสอนก็พร้อมมากเช่นเดียวกัน โรงเรียนมีห้องแล็ป พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ที่นักเรียนจะได้เรียนรู้การใช้งานผ่านการทดลอง ห้องสมุดก็มีขนาดใหญ่เพียงพอกับจำนวนนักเรียน
นอกจากนี้แต่ละห้องเรียนยังมี active panel สำหรับใช้เรียน และสำหรับโครงการ EPTS นักเรียนแต่ละคนจะมี chromebook คนละ 1 เครื่องที่ใช้ในการเรียน ทำการบ้าน ส่งงาน ทำให้ไม่ต้องแบกหนังสือ สมุด หรือเครื่องเขียนไปๆมาๆทุกวันอีกแล้ว เนื่องจากจดเลกเชอร์ใน chromebook อ่านหนังสือผ่าน pdf ใน google classroom และการบ้านก็สามารถทำและส่ง online ได้
ในส่วนของกิจกรรมเด่นๆ ของสาธิตปทุมวัน ก็คือ งานสาธิตสามัคคี ซึ่งเป็นการจัดการแข่งขันกีฬาระหว่างโรงเรียนในเครือสาธิต ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยนักเรียนจำนวนมากก็ไปคัดตัวเป็นนักกีฬาของโรงเรียนซึ่งมีกีฬาทั้งหมด 16 ประเภท ได้แก่ ว่ายน้ำ แบดมินตัน ปิงปอง เทนนิส ฟุตบอล เปตอง กรีฑา บาสเกตบอล แฮนด์บอล วอลเลย์บอล ซอฟท์บอล กอล์ฟ เซปักตะกร้อ ลีลาศ หมากกระดาน และฮอกกี้ นอกจากนักกีฬาแล้ว นักเรียนชั้น ม.2 ทุกคนยังมีส่วนร่วมในการขึ้นแสตนเชียร์พร้อมกันทั้งรุ่น ซึ่งมีประมาณ 300-400 คน ถือว่าเป็นแสตนเชียร์ที่ใหญ่มากและแต่ละโรงเรียนก็จะมีการโชว์เชียร์ในพิธีปิด ซึ่งโชว์นี้จะถูกควบคุมโดยพี่ๆ ม.5 และมีรุ่นพี่-รุ่นน้องอีกหลายคนที่ช่วยทำโชว์นี้ออกมาให้สมบูรณ์
ต่อมาคือกิจกรรมกีฬาสีที่จัดขึ้นทุกปี เป็นกิจกรรมที่นักเรียนหลายคนรอคอย ซึ่งกีฬาสีของโรงเรียนสาธิตปทุมวัน จะใช้สถานที่ของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กีฬาสีมีทั้งหมด 4 สีคือ สีฟ้า สีแดง สีเขียว และสีเหลือง แต่ละปีสีที่เป็นเจ้าภาพจะต้องแสดงในพิธีเปิดและทุกๆ ครั้ง เจ้าภาพก็จะจัดงานอย่างเต็มที่ สร้างความประทับใจให้กับทุกคนในโรงเรียน นอกจากการแข่งขันกีฬาแล้ว การเชียร์แต่ละสีก็เข้มข้นมากเช่นกัน เพราะทุกๆสีต่างใช้เวลาฝึกซ้อมกันอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นแสตนเชียร์ของน้องๆม.1 เชียร์ลีดเดอร์ คัลเลอร์การ์ดและพาเหรด ม.2-4 ซึ่งจะมีพี่ ม.5 เป็นพี่ที่คอยดูแลและฝึกซ้อมน้องๆจนสร้างโชว์ออกมาได้
อาจารย์และบุคลากรที่โรงเรียนมีเยอะมากๆ ทั้งอาจารย์ชาวไทยและต่างประเทศ แต่ละคนจะมีเอกลักษณ์และเทคนิคการสอนที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น บางคนจะชอบให้นักเรียนเรียนรู้จากการ discuss กันในห้องเรียนแล้วนำมา-แชร์ร่วมกัน บางคนชอบให้เราเรียนรู้ผ่านการทำงาน ทำการบ้าน หากสงสัยก็สามารถมาถามได้ตลอดเวลาทั้ง face-to-face และ online หรือบางคนก็จะสอนผ่านเกมและกิจกรรม
อัตลักษณ์
อัตลักษณ์ของสาธิตปทุมวัน คือ สมรรถภาพในการปรับตัวคือความสำเร็จในชีวิต เป็นอะไรที่ชัดเจนมากๆ ว่าเด็กโรงเรียนนี้มีการปรับตัวต่อความเปลี่ยนแปลงได้ดี เพราะทุกคนจะต้องเริ่มเรียนรู้การปรับตัวเข้าสังคมตั้งแต่เข้า ม.1 ทุกคนต่างมาจากหลากที่หลายโรงเรียน จึงมีหลายเรื่องที่ต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ในการทำงานหรือทำกิจกรรมหลายๆ อย่างก็ต้องใช้การปรับตัวไม่ใช่แค่ระหว่างเพื่อน แต่รวมถึงระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง อาจารย์ และผู้ปกครองด้วย ซึ่งรุ่นพี่รุ่นน้องที่นี่ก็น่ารักมากมีอะไรจะคอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำที่ดีต่อกัน รุ่นพี่ที่มีประสบการณ์จากการทำงานก็จะคอยสอน คอยเป็นที่ปรึกษาให้กับน้องรุ่นต่อๆ ไป
พอเรียนมาจนถึงชั้น ม.4 ก็จะมีเพื่อนๆ จากโรงเรียนอื่นย้ายเข้ามา เพื่อนที่จบ ม.3 ก็อาจจะเรียนต่อที่โรงเรียนอื่นก็ทำให้เราต้องใช้ความสามารถในการปรับตัวทั้งการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ซึ่งเรื่องของการปรับตัว เรามองว่าเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องใช้ในชีวิต เพราะฉะนั้นเราควรฝึกการอยู่ร่วมกันในสังคม ยอมรับ และเคารพความคิดของผู้อื่นตั้งแต่เด็กค่ะ
เดินสยามทีไรก็จะเห็นเด็กสาธิตปทุมวันทุกที นั่นเป็นเพราะโรงเรียนอยู่ติดกับสยามแสควร์ หลังเลิกเรียน ก็จะเห็นเด็กนักเรียนเดินหรือนั่งตุ๊กๆ ไปสยามกันแล้ว ที่นี่มีทั้งแหล่งบันเทิง ร้านอาหาร เรียนพิเศษก็รวมอยู่ที่นี่ ทำให้เราไม่ต้องไปไหนไกลถือว่าสะดวกสบายมากๆ
อีกสถานที่ที่จะเห็นเด็กปทุมวันได้คือคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่อยู่ติดกับโรงเรียนเลย มักจะไปทานอาหารเช้าและเย็นที่โรงอาหารของคณะ หรือไปร้านถ่ายเอกสาร เย็บเล่ม ซื้อเครื่องดื่มและขนม ที่ชั้นล่างอาคารบรมราชกุมารี
2 ความคิดเห็น
ผมเป็นเด็ก ส.มศว จบชั้น ม.6 ปีนี้ สอบติด วิดวะ ฬ มีความภาคภูมิใจโรงเรียนนี้เป็นอย่างมาก ทั้งๆที่ เด็ก ม.ปลาย ห้องเรียน คณิต-วิทย์ เหลือเพียง 3 ห้อง รวมแค่ 100 คน เพราะเพื่อนๆที่อยู่ ม.ต้น หนีไปสร้างชื่อเสียงให้ เตรียมอุดมและ มหิดล ประมาณเกือบ 190 คน บางทีเพื่อนๆเหล่านั้นน่าจะบอกสังคมด้วยนะ ว่า พวกเค้าจบชั้น มัธยมต้นมาจาก สาธิตปทุมวัน