ชั่ววูบของการฆ่าตัวตาย อยากตายจริงหรือ? แชร์เรื่องราวจากผู้ที่ผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้ว

         สวัสดีค่ะ วันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา ถือเป็นวันสุขภาพจิตโลกนะคะ องค์การอนามัยโลก (WHO) พยายามผลักดันให้ทุกๆ ภาคส่วนร่วมมือเพื่อป้องกันการฆ่าตัวตาย ซึ่งนับว่าเป็นความรุนแรงทางด้านสุขภาพจิตและจิตเวชที่ร้ายแรงต่อมนุษยชาติ


 
         แต่ละปีสถิติผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายมีแนวโน้มว่าสูงขึ้นเรื่อยๆ แรงผลักที่ทำให้คนคนหนึ่งไปถึงจุดที่อยากฆ่าตัวตายมีหลายปัจจัย และที่สำคัญในชั่ววูบของการพยายามปลิดชีพตัวเองนั้น จิตใจของเขาต้องการได้รับการดูแลมากมายเลยค่ะ

วัยรุ่นทั่วโลกเสียชีวิตเพราะ “ฆ่าตัวตาย” 
         องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานสถานการณ์การฆ่าตัวตายโลก พบว่าในทุกๆ 40 วินาที มีคนเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย 1 คน ในแต่ละครั้งคนที่ฆ่าตัวตายสำเร็จ เคยผ่านการพยายามฆ่าตัวตายมามากกว่า 20 ครั้ง และการฆ่าตัวตายเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในวัยรุ่น (ช่วงอายุ 15 - 29 ปี) มากที่สุดรองจากอุบัติเหตุบนท้องถนน

“ไทย” ติดอันดับประเทศที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูง
         ตามสถิติการจัดอันดับประเทศที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงที่สุดในโลก ประจำปี 2562 โดย World Population Review พบว่าจาก 183 ประเทศ “ไทย” ติดอันดับ 32 ของโลก เฉลี่ยอัตราการฆ่าตัวตายอยู่ที่ 14.4 ต่อประชากร 1 แสนคน จากการเก็บข้อมูลของกรมสุขภาพจิตพบว่า ในปี 2561 มีผู้ทำร้ายตนเองเสียชีวิตเฉลี่ย 345 คนต่อเดือน มีผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จเฉลี่ยวันละ 11-12 ราย และผู้ชายฆ่าตัวตายสำเร็จมากกว่าผู้หญิงถึง 4 เท่า  


 
ชั่ววูบของการฆ่าตัวตาย มีอะไรซ่อนอยู่?
         วิทยานิพนธ์เรื่อง “ในชั่ววูบของการฆ่าตัวตาย : การศึกษาเชิงปรากฎการณ์วิทยาในผู้ที่ผ่านประสบการณ์การพยายามฆ่าตัวตาย ของคุณขนิษฐา แสนใจรักษ์” ได้ศึกษาความคิด ความรู้สึก ขณะต้องการจบชีวิตของผู้ที่ผ่านประสบการณ์พยายามฆ่าตัวตายพบว่า ในชั่ววูบนั้นผู้ที่พยายามฆ่าตัวตายมักมีความคิดความรู้สึกประกอบรวม 4 แบบด้วยกันคือ

         1. จมอยู่ในความทุกข์ใจ - เกิดขึ้นในหลายรูปแบบ เช่น เจ็บปวดเสียใจ เบื่อหน่ายท้อแท้ ผิดหวังรุนแรง ตึงเครียดโกรธแค้น ทุกข์หวาดระแวง เหงาและว้าเหว่ ฯลฯ  
         2. อับจน หมดหนทาง - เดียวดาย ไร้ที่พึ่ง มองไม่เห็นคนที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยแก้ไข หาทางออกของปัญหา แบ่งเบาความทุกข์ใจ 
         3. สิ้นพลังในการมีชีวิต - มองเห็นว่าตัวเองไร้ค่า ไร้ความหมาย ไม่มีวันข้างหน้าเพราะชะตากรรมคงโหดร้ายไม่ต่างจากปัจจุบัน บั่นทอนความเข้มแข็งในการมีชีวิตอยู่ 
         4. ขาดสติ - ตัดขาดตนเองจากคนที่รัก ตัดขาดความผูกพัน สูญเสียความสามารถในการแยกแยะว่าสิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำ ความตายคือทางเลือกเดียวและทางออกสุดท้าย

         ความคิดความรู้สึกเหล่านี้เต็มไปด้วยพลังด้านลบ อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหรือต่อเนื่องกันไปโดยที่ไม่มีลำดับก่อน-หลังชัดเจน นำมาซึ่งการดิ้นรนคิดหาวิธีแก้ปัญหาเพื่อคลี่คลายความทุกข์ใจ แต่เมื่อไม่สามารถแก้ไขปัญหาและหมดหนทางออกจากความทุกข์ จึงเลือกทำร้ายตนเองในที่สุด

คนพยายามฆ่าตัวตาย “ไม่ได้อยากตาย”
         โดยธรรมชาติของมนุษย์ คนทุกคนย่อมกลัวความทุกข์และปรารถนาความสุข เมื่อเกิดปัญหาแต่ละคนจะดื้นรนคิดหาวิธีแก้ไข เพื่อนำความสงบสุขกลับคืนมาสู่จิตใจ แต่คนที่ต้ดสินใจจบชีวิตตนเอง เขามองไม่เห็นทางออกจริงๆ จึงเลือกคิดถึงความตายเป็นที่พึ่งสุดท้าย แนวคิดนี้สะท้อนให้เห็นว่า “ผู้ผ่านประสบการณ์พยายามฆ่าตัวตายทุกคน ไม่ได้มีเจตนาที่จะตายอย่างแท้จริง” การตัดสินใจทำลายตัวเองเกิดขึ้นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เพราะมองไม่เห็นใครที่จะช่วงแบ่งเบาความทุกข์ใจออกไปได้ การที่เราละเลยหรือเพิกเฉยต่อความทุกข์ของผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนผู้นั้นเป็นคนที่เรารัก จึงนับว่าเป็นการทำลายชีวิตคนคนหนึ่งอย่างเลือดเย็น 


 
“ชีวิตใหม่” หลังผ่านพ้นวิกฤติ
         ผู้ที่ผ่านประสบการณ์พยายามฆ่าตัวตาย มีหนทางเยียวยาจิตใจตัวเองหลังเหตุการณ์วิกฤติอยู่หลายวิธี เช่น การคิดได้ด้วยตนเองหันกลับมารักและดูแลตัวเอง การได้รับกำลังใจและความเอาใจใส่จากครอบครัว การได้รับการปรึกษาเชิงจิตวิทยาในภาวะที่ไม่สามารถแก้ไขวิกฤติชีวิตได้ด้วยตนเองและช่วยเพิ่มความสามารถในการแก้ปัญหาและการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ฯลฯ ทุกคนเรียนรู้ที่จะยอมรับความเป็นจริง และมองเห็นว่าการฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางออกของปัญหา ไม่เพียงแต่ไม่ช่วยแก้ไขให้สถานการณ์ที่เป็นดีขึ้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อคนในครอบครัวและคนรอบข้าง ทุกคนยังมองเห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ และหวังว่าจะเปลี่ยนตนเองไปในทางที่ดีขึ้นได้   

         เพราะว่าทุกคนมีความเข้มแข็งและความเปราะบางทางความรู้สึกไม่เท่ากัน สิ่งที่เราควรทำไม่ใช่การหยิบตราชั่งมาเทียบวัดว่าปัญหาของใครเบา ปัญหาของใครหนัก ปัญหาเล็กน้อยสำหรับเรา อาจเป็นปัญหาที่สำคัญและยิ่งใหญ่ต่อชีวิตของคนคนหนึ่ง ดังนั้น เมื่อได้เข้าไปรับรู้ปัญหาของใครแล้ว ควรมอบความเข้าใจและรับฟังเขาอย่างจริงใจค่ะ เราสามารถดึงเขาออกจากความมืด และคืนชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยแสงสว่างให้เขาได้         
พี่เมก้า
พี่เมก้า - Columnist นักข่าวสายการศึกษา ที่มีความสุขกับการแต่งฟิค อ่านฟิค เพ้อถึงยัมมี่ฟู้ดไปวันๆ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด