ข้อความด้านบนนี้เป็นส่วนหนึ่งที่มาจากเพจ "วันนั้นเมื่อฉันสอน" เพจที่เล่าถึงชีวิตความเป็นครูที่มีผู้ติดตามกว่า 34,472 คน ได้โพสต์ข้อความหลังจบการสอบ ONET ระดับชั้น ป.6 โดยระบุว่าข้อสอบ ONET วิชาคณิตศาสตร์ปีนี้มีหลายออกซับซ้อน และเกินความรู้ที่เด็กเรียนมาขัดกับวัตถุประสงค์ของข้อสอบ ONET ที่ว่าเป็นการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน พร้อมมองว่า "สำหรับเด็กที่มีโอกาสบางข้ออาจไม่ยาก แต่สำหรับเด็กชายเขา เด็กตามเกาะที่ต้องล่องเรือข้ามฝั่งมาสอบมันเกินความเข้าใจ อยากให้คนออกข้อสอบมาสอนให้ดู อยากรู้ว่าจะสอนแบบไหน จะได้เข้าใจหัวอกกันว่า ข้อสอบที่คุณออกมันได้มาตรฐานหรือเกินมาตรฐาน"
โดยเนื้อหาของโพสต์ดังกล่าวมีข้อความดังนี้..
โพสนี้ขอตัดพ้อและแสดงความน้อยเนื้อต่ำใจกับ
การออกข้อสอบ O-NET คณิตศาสตร์ป.6
O-NET (Ordinary National Educational Test) คือ การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ผมไม่มีปัญหากับการจัดสอบเพราะเข้าใจว่าต้องการให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน แต่ข้อสอบที่คุณออกมันเกินมาตรฐาน ในฐานะครูผู้สอนผมไม่เข้าใจคำว่า "ขั้นพื้นฐาน" พวกคุณเข้าใจความหมายมันว่าอย่างไรถึงได้ออกข้อสอบที่ยากและซับซ้อนขนาดนี้
เด็กออกจากห้องสอบมาแทบไม่คุยกันเลยเพราะไม่รู้ว่าแต่ละข้อมีวิธีคิดอย่างไร ข้อสอบที่ง่ายเกินไปมันวัดอะไรไม่ได้เพราะคนเก่งคนอ่อนก็ตอบถูกหมด แต่ข้อสอบที่ยากเกินไปมันก็วัดอะไรไม่ได้เหมือนกันเพราะทั้งคนเก่งและคนอ่อนจะต้องเดาเหมือนกัน แล้วข้อสอบที่ออกซับซ้อนหลายชั้นขนาดนี้มีจุดประสงค์เพื่ออะไร
สำหรับบางคนมันอาจจะไม่ยาก แต่สำหรับเด็กชายเขา เด็กตามเกาะที่ต้องล่องเรือข้ามฝั่งมาสอบมันเกินความเข้าใจของเขา แล้วครูจะสอนให้เด็กที่ไม่พร้อมเข้าใจได้อย่างไร เมื่อชีวิตเขาไม่ได้มีแค่โรงเรียนเพียงอย่างเดียว ลำพังแค่พ่อแม่สอนการบ้านลูกก็ยังยาก แล้วครูต้องสอนเด็กทั้งห้องมันยากขนาดไหน
คุณรู้ไหมว่าบางโรงเรียนไม่มีครูวิชาเอก ครูต้องสอนทุกวิชาแค่จะสอนให้ครบเนื้อหาก็ยากเท่าไหร่แล้ว สงสารครูที่สอนไม่ตรงเอกบ้าง บางโรงนักเรียนเพิ่งเจอครูวิชาเอกปีแรก แล้วเวลาสั้น ๆ แค่นั้นจะสามารถสอนเด็กให้ตามทันข้อสอบที่คัดคนไปเป็นนักบินอวกาศของคุณได้หรือ เด็กบางคนไม่ได้กินข้าวเช้า บางคนไม่มีเงินมาโรงเรียน บางคนกระทั่งวันสอบครูก็ยังต้องไปตามถึงบ้าน แค่เขาทำข้อสอบที่คุณถามชั้นเดียวได้ก็ดีเท่าไหร่
ไม่อยากให้โรงเรียนติวอยากให้เรียนแบบ Active Learning แต่ดูข้อสอบที่ออกแต่ละข้อ มีเทคนิคและวิธีคิดเฉพาะ ลำพังแค่แก้สมการก็ยากแล้ว ยังต้องมีสมการที่เป็นเศษส่วน ยังต้องแก้จากสูตรพื้นที่ต่าง ๆ ให้หาเปอร์เซนต์ธรรมดาก็ไม่ได้ ต้องให้หาเปอเซนต์ที่เป็นทศนิยม เช่น 5.5% ถามเลขจำนวนเต็มมันจะตายไหม
ข้อสอบที่คุณออกต่อให้เด็กรู้วิธีคิดมันก็ต้องถูกบีบด้วยเวลา 3 นาที/ข้อ คิดกี่ชั้น หลอกกี่ตลบ ต้องจำสูตรบวกลบคูณหารแม่นขนาดไหนถึงทำได้ อยากกางข้อสอบให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองทำเหมือนกันข้อละ 3 นาที กับข้อสอบหลายชั้นแบบนี้จะทำทันไหม
คุณรู้ไหมว่ามันยากแค่ไหนกว่าที่จะสอนให้เด็กรักคณิตศาสตร์ได้ ยากแค่ไหนที่จะทำให้เขารู้สึกว่ามันง่าย สุดท้ายทุกอย่างมันก็พังลง คณิตศาสตร์ยังเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเขาไม่เปลี่ยนแปลง เพราะมันได้พิสูจน์แล้วว่า เรียนหรือไม่เรียนก็ทำข้อสอบเหล่านี้ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าไม่สอน ไม่ใช่ไม่อยากให้ได้แต่เพราะสอนมันเลยน้อยเนื้อต่ำใจ ท้อแท้เพราะเส้นชัยที่คุณกางไว้ไกลเกินไปถึง
จากใจเลยอยากให้คนออกข้อสอบมาสอนให้ดู อยากรู้เหมือนกันว่าจะสอนแบบไหน ผมมันไม่ดีพอที่จะสอนให้เด็กทำข้อสอบของคุณได้ แต่ให้มาสอนเด็กต่างจังหวัดนะ สอนทุกวิชา สอนคละชั้น ทำกิจกรรมทุกอย่างในโรงเรียน จะได้เข้าใจหัวอกกันว่า ข้อสอบที่คุณออกมันได้มาตรฐานหรือเกินมาตรฐาน
ในวันนี้คุณทำสำเร็จแล้วนะ ทำให้คณิตศาสตร์ยังคงเป็นยาขมสำหรับเด็กของผมต่อไป
ทางทีมงานได้หาข้อมูลเกี่ยวกับข้อสอบ ONET วิชาคณิตศาสตร์ ระดับชั้น ป.6 ปีนี้ พบว่าหลังการสอบทางเพจคณิตศาสตร์ By พี่ช่วย ได้นำข้อสอบบางข้อมาเฉลย และอธิบายวิธีการทำไว้ ซึ่งมีทั้งข้อยากและง่ายสลับกันไป ขณะเดียวกันมีผู้แสดงความคิดเห็นในโพสต์การเฉลยจำนวนมากว่า "ข้อสอบบางข้อคล้ายข้อสอบของสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อหลายปีที่ผ่านมา" หรือ "ข้อสอบ O-NET คณิต ป.6 ปีนี้ ถ้าหนูทำได้แสดงว่าความรู้ของหนูนี่ไปสอบคณิต กพ. ไปสอบ คณิตภาค ก ครูผู้ช่วยได้เลย #แทบจะยากกว่าด้วยซ้ำ"
หลังจากเห็นข้อสอบ มองว่ายากเกินไป หรือเหมาะสมแล้ว
มาร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้ครับ
17 ความคิดเห็น
ยากแค่ไหนกว่าที่จะสอนให้เด็กรักวิชาคณิตศาสตร์ได้ ยากแค่ไหนที่จะทำให้เขารู้สึกว่ามันง่าย สุดท้ายทุกอย่างมันก็พังลง(ตามนั้น) เวลาสอนไม่ได้เอาหลักสูตรเชิงลึกของ สพฐ. สสวท. มาสอน แต่เวลาสอบใช้ แนวแบบนี้สอบ เด็กคนที่ไม่ได้เรียนพิเศษเพิ่มเต็มจะทำได้ไหม หรือถ้าเรียนก็อยากรู้ว่าทำได้ไหมถ้าโจทย์โดนพลิกจากผู้ใหญ่ที่...ตลอดเวลา
หลักสูตรเก่าดีกว่าเยอะ
เห็นหลายคนคอมเมนท์ว่าไม่ยากขนาดนั้นจะโวยวายทำไม ก็จริงค่ะบางข้อก็พื้นฐานเลย แต่ถ้าให้คิดถึงเด็กในโรงเรียนต่างจังหวัด ต่างอำเภอ ห่างไกลความเจริญ และมีครูประจำโรงเรียนไม่กี่คน มันคงเป็นเรื่องยากที่จะสอนให้ได้หมด และตัวเด็กเองคงไม่มีเวลามานั่งทำโจทย์อย่างเดียวหรอกค่ะ บางคนต้องช่วยพ่อแม่ทำงานหาเช้ากินค่ำ
ประเด็นนี้ผมจะไม่มองที่ข้อสอบ o net นะครับ ผมจะมองที่บอกว่ายากกว่าสอบครู แสดงว่าข้อสอบครูง่ายกว่านี้หรอครับ แล้วอย่างงี้มาตราฐานของครูจะอยู่ที่ไหนครับ ถ้าแบบนี้บอกว่ายากอะครับ
ไม่ใช่แค่สอบครูครับ บางข้อมันยากกว่าข้อสอบกพ.ที่ใช้สอบบรรจุข้าราชการอีกครับ
และ กพ.มันพื้นฐาน ไม่ใช่ข้อสอบภาค ข ที่เจาะจงเฉพาะเอกนะครับ
อยากให้คนออกข้อสอบส่งไปให้ครูของประเทศที่ขึ้นชื่อว่าการศึกษาอันดับหนึ่งของโลกดูจัง อยากฟังคอมเม้นท์เขาว่าเป็นอย่างไร 1. เป็นข้อสอบที่ดี หรือ 2. ประเทศยูบ้าไปแล้ว
คนที่น่าสงสารที่สุดคือเด็กค่ะ
ข้อสอบที่ยุ่งยากซับซ้อนมากกว่ามาตรฐานที่ควรจะเป็นไปตามหลักสูตรพื้นฐานที่กำหนดไว้อย่างเท่าเทียมกับให้เด็กในแต่ละวัยแต่ละระดับการศึกษา
ผู้ปกครอง support ลูกด้วยการส่งไปเรียนพิเศษ/ติววิชาโน่นนี่ เพื่อหวังให้ลูกสบได้คะแนนสูงๆ เป็นรางวัลและความภูมิใจ (ของตัวเองซะมากกว่าลูกๆ)
เด็กแต่ละคนได้รับโอกาสไม่เหมือนกัน ทั้งๆ ที่ระดับสติปัญญาของพวกเค้าอาจจะไม่ได้แตกต่างกันเลย บางคนเรียนในโรงเรียนห่างไกลการเข้าถึงแหล่งให้ความรู้ ครู 1 คน ต้องสอนตั้งแต่ ป.1-ป.6 ในขณะที่เด็กบางคนได้เรียนพิเศษ/ติวกับคุณครูตัวต่อตัว
ไม่ใช่แค่ความเหลื่อมล้ำอย่างเดียวที่ทำร้ายเด็กในยุคปัจจุบันเท่านั้น โดยหวังคะแนนเป็นดอกผล ที่ผู้ปกครองหลงชื่นชมที่ลูกมีผลการเรียนเป็นเลิศ เร่งให้น้ำให้ปุ๋ยพวกเค้า โดยลืมมองว่าในวัยของเค้าต้องการอะไร ในฐานะของบุคคลรุ่น Gen X (40 ต้นๆ) อยากให้ท่านๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการศึกษาของไทย นึกย้อนไปว่าเมื่อตอนเด็กเท่านี้ ชีวิตในวัยเรียนของพวกท่านเป็นอย่างไร บ้าง รุ่นลูกรุ่นหลานของพวกเราในวันนี้ก็คงคิดไม่ต่างกับพวกเรา
ตรวจเสร็จเมื่อไหร่เอาข้อยากเหล่านี้มาวิเคราะห์ดูว่ามีนักเรียนทำได้มากน้อยเท่าไหร่ ถ้าผิดเยอะก็ไม่ควรนำมาออกเป็นข้อสอบอีก อีกหน่อยออกยากๆจนคนเก่งกับคนอ่อนต่างก็ทำไม่ได้ ได้แต่เดา คนไม่เก่งอาจได้คะแนนเยอะกว่าคนเก่งก็เป็นได้ แล้วจะมาวัดเพื่ออะไรกัน
ก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่า คณิต ของเด็กสมัยนี้ เทียบเท่ากับเด็กจบปริญญา เตรียมตัวสอบ ก.พ. เลย สอนลูกลำบากมากกกก
จะวัดความสามารถเด็ก หรือจะวัดความสามารถของคนออกข้อสอบก็ไม่รู้ เห็นเป็นแบบนี้ทุกปี
เด็กเดินออกมาจากห้องบ่นเหมือนกันหมด ออกข้อสอบอะไรว่ะ งงจนงวย
ที่เห็นเยอะๆบ่นว่าทำไม่ได้ เพราะที่ทำได้เขาไม่มาบ่นกันป่าว555
คณิตโอเน็ทเนี่ยถือว่าง่ายสุดในทุกวิชาของโอเน็ทละนะ
ถ้าอยากเจอยากจริง ต้องไปลองอังกฤษจ่ะ
เราว่าข้อสอบภาษาไทยปีนี้ง่ายผิดปกติล่ะ
การเรียนรู้แต่ละเรื่อง ควรคุ้มค่าที่สุด นำความรู้มาปฎิบัติได้จริงในชีวิตจริง เพราะเวลาการเรียนรู้แต่ละวินาที มันถูกตัดทอนในเวลาชีวิตที่เหลืออยู่ อย่างจำกัด
ความรู้อันใหนที่ไม่จำเป็นต้องใช้ ก็ควรตัดออกไปซะ เน้นๆความรู้ที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริงจะดีกว่าค่ะ
ข้อสอบเทวดามักเป็นอย่างนี้ คิดว่าเด็กทุกคนเป็นไอคิวสูง แตความคิดนะ ปลาอยู่บก เป็นอย่างไง นกตกน้ำเป็นอย่างไง บรรทัดฐานอยู่ตรงไหน
คนออกข้อสอบเค้าไม่เก่งค่ะ ถามว่าไม่เก่งอย่างไง คือไม่สามารถออกข้อสอบให้ยากตามมาตราฐานได้ ข้อสอบ onet บางข้อหรือหลายๆข้อ ม.6 ยังอ้วก ครูหมวดคณิตศาสตร์ยังมีแอบงง ตอนเราสอบตอน ม.3 วิชาอังกฤษ คือเจอศัพท์บางคำที่เราไม่สามารถแปลได้ เพราะศัพท์นั้นมันเป็นศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ จะได้เจอตอนขึ้น ม.6 ในวิชาชีวภาพ เราก็คิดในใจว่่าเอาออกข้อสอบแล้ว-เราจะไปตรัสรู้ใหม
เขาออกตามหลักสูตรจ่ะ ลองเปิดหนังสือเรียนดูนะ
พีทากอรัสเราเรียนน่าจะ ป.4-6 นะ
ส่วนพื้นที่วงกลมเนี่ยเท่าที่จำความได้ก็เรียนตั้งแต่ประถมแล้วนะคะ
การเรียนรู้ที่ดีคือการเรียนด้วยตัวเอง ไม่ใช่ให้คนมาป้อนให้ค่ะ โจทย์มีก็หัดทำบ้าง การบ้านก็ทำเองบ่อยๆ ไม่ต้องลอกเพื่อน สงสัย ทำอันไหนไม่ได้ก็ถามครู เรื่องแค่นี้ง่ายมากๆแค่บังคับใจตัวเองให้ทำได้ คะแนนมันก็จะดีเองนะคะ
ข้อสอบนี่เรียกว่ายากแล้วหรอ แปลกใจมากๆเลย อันนี้มันก็ดูมาตรฐานปกตินะ ไม่ได้ยากอะไรเลย
ถ้าทำไม่ได้เลยเนี่ยควรไปทบทวนตัวเองมาใหม่นะ
ว่าแต่ข้อสอบ กพ. มันง่ายกว่านี้อีกหรอ เหลืออะไรให้ออกได้บ้างอะที่ง่ายกว่านี้
บวกลบคูณหารแบบเด็กประถมทำงี้หรอ555
เราว่าก็เรียนมาหมดแล้วป่ะทำไม่ได้คือไม่ตั้งใจเรียน
เรียนสายไหนมาก็อย่าลืมพัฒนาสกิลด้วยล่ะ