ไขข้อสงสัย! ทำไม “น้ำเปล่า” แต่ละยี่ห้อ ถึงมีกลิ่นและรสชาติต่างกัน?

จากกระแสช่วงนี้ที่หลายๆ คนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับ Infused Water น้ำเปล่าที่หมักด้วยผักผลไม้ หรือสมุนไพรต่างๆ ช่วยให้น้ำมีกลิ่นหอม ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศค่ะ วิธีนี้จะช่วยดับกลิ่นน้ำประปาได้ดี แต่ในบ้านเราจะไม่ค่อยได้เห็นกันเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ไม่นิยมดื่มน้ำประปาโดยตรง แต่จะดื่มน้ำขวดหรือน้ำกรองแทน ทำให้น้ำดื่นนั้นไม่มีกลิ่น เลยเป็นประเด็นสงสัยว่า น้ำเปล่าที่ดื่มกันทุกวัน ถ้ามีกลิ่นจะไม่สะอาดอย่างงั้นหรอ??

เดาว่าหลายคนคงจะสับสนไม่น้อยว่า “น้ำเปล่า” แต่ละยี่ห้อที่เราดื่มกัน จะมีกลิ่นต่างกัน จะยังสามารถดื่มได้อยู่ไหม? ก็บอกว่าไม่กินเพราะกลัวไม่สะอาด มีสารสะสมในร่างกาย แต่บางคนก็บอกว่า ไม่เกี่ยวกันเลย น้ำยี่ห้อไหน กลิ่นแบบไหน ก็ดื่มได้เหมือนกันแหละ สรุปคือยังไงกันแน่ วันนี้จะพาไปหาคำตอบกันค่ะ

 

 
"น้ำเปล่า" มีแหล่งที่มาจากไหน ?
แหล่งที่มาของน้ำดื่ม ส่วนใหญ่มาจากแหล่งน้ำใต้ดิน เป็นน้ำตามธรรมชาติที่ไหลผ่านชั้นหินหลายชั้น ลงไปสะสมเป็นแหล่งน้ำอยู่ใต้ดิน ซึ่งน้ำนั้นก็จะสะสมเอาแร่ธาตุต่างๆ จากการไหลผ่านชั้นหินมาอยู่ในน้ำด้วย ถือเป็นการกรองแบบธรรมชาติไปในตัว หลังจากขุดน้ำขึ้นมาจากแหล่งน้ำใต้ดิน นำมาผ่านกระบวนการต่างๆ เพื่อทำให้สะอาดและปลอดภัยเพียงพอเหมาะกับการบริโภค ซึ่งแต่ละยี่ห้อน้ำดื่มก็จะมีกระบวนการที่แตกต่างกันออกไป

น้ำเปล่าส่วนใหญ่มาจากน้ำที่กรองผ่านกระบวนการ RO (Reverse Osmosis) เป็นระบบการกรองโดยใช้เยื่อกรอง Membrane ที่มีความละเอียดสูงมาก มากจนสารละลาย สิ่งปนเปื้อน หรือแม้กระทั่งเชื้อโรคก็ไม่สามารถผ่านเยื่อนี้ไปได้ มีเพียงโมเลกุลบริสุทธิ์ของน้ำที่ไหลผ่านไปได้ ส่วนสารหรือสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ได้ไปต่อ ก็จะเข้ากระบวนการกำจัดของเสียต่อไป

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า น้ำเปล่าที่เราเห็นนั้นไม่ได้บริสุทธิ์ 100% ยังมีสารประกอบต่างๆ แร่ธาตุ หรือสารละลายอื่นๆ ปะปนอยู่ ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาของน้ำ ว่ามาจากพื้นที่ใด ชั้นหิน ชั้นดิน ที่น้ำไหลผ่านล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับลักษณะน้ำในแหล่งนั้นๆ เมื่อน้ำมากรองแล้วอาจจะยังมีแร่ธาตุอยู่ แต่รับรองว่าดื่มได้ปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย แถมยังเป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย

ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมน้ำแต่ละยี่ห้อถึงต่างกัน? อันนี้ขึ้นอยู่กับแหล่งน้ำและกระบวนการผลิตของแต่ละผู้ผลิตเลยค่ะ การที่เรารับรสของน้ำดื่มว่าเฝื่อน หรือหวาน ไม่ได้แปลว่าน้ำไม่สะอาด แต่เป็นเพราะมีแร่ธาตุในปริมาณที่ต่างกัน แต่รับประกันเลยว่าทุกผู้ผลิตน้ำดื่มจะได้รับการตรวจสอบแหล่งน้ำ กระบวนการผลิต การบรรจุ และมีการตรวจสอบเรื่อยๆ เพื่อให้อยู่ในค่ามาตรฐานสากล

 

ภาพประกอบจาก www.freepik.com
 
น้ำเปล่ามีกลิ่น & รสชาติมีสาเหตุมาจากอะไร ?
เป็นที่ยืนยันอย่างแน่นอนแล้วว่า น้ำเปล่า ในทางสูตรเคมีจะไม่มีกลิ่น ไม่มีรสชาติ อ่าว! แล้วทำไมน้ำเปล่าบางยี่ห้อเราถึงได้กลิ่น และรู้สึกถึงรสชาติที่ต่างกันไปหล่ะ? สาเหตุอาจเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกันค่ะ โดยปัจจัยที่เป็นสาเหตุส่วนใหญ่ มีดังนี้

1.เป็นกลิ่น และ รสชาติเฉพาะของน้ำยี่ห้อนั้น อันเกิดจากแหล่งน้ำ และ กระบวนการผลิตน้ำของแต่ละเจ้าจะมีการปรับแต่งรสชาติ และกลิ่นเล็กน้อย ด้วยการเติมแร่ธาตุต่างๆ อาทิ โซเดียม สังกะสี คลอรีน ฯลฯ ลงไปด้วยอัตราส่วนที่แตกต่างกัน 

2.กลิ่นจากพลาสติก PET มีอยู่แล้วเป็นปกติ ไม่ว่าจากขวดหรือฝา ซึ่งเป็นส่วนที่สัมผัสน้ำดื่มโดยตรง กลิ่นนี้มากน้อยขึ้นอยู่กับงานเป่าพลาสติกในแต่ละครั้ง สามารถแก้ได้โดยการผึ่งและล้างพลาสติกก่อนบรรจุ

 

ภาพประกอบจาก www.freepik.com

3.แสงแดด/ความร้อน กลิ่นนี้จะคล้ายๆ กับน้ำมะพร้าว กลิ่นนี้เกิดจากการที่พลาสติกโดนความร้อนเป็นเวลานาน ซึ่งอาจเกิดจากการขนส่งหรือการจัดเก็บที่ไม่เหมาะสม สามารถแก้ไขได้โดยการหลีกเลี่ยงจากแสงแดดและเก็บในสถานที่ที่มีอุณหภูมิปกติ

4.โอโซน กลิ่นนี้จะเหม็นคาวเล็กน้อย เกิดจากโอโซนที่ใช้ในการฆ่าเชื้อน้ำดื่มยังไม่ละลายหมด เนื่องจากผลิตแล้วจัดส่งในทันที กลิ่นนี้จะหายไปภายใน 3-4 ชั่วโมง และไม่เป็นอันตรายใดๆ 

นอกจากนี้สาเหตุของกลิ่นน้ำเปล่าแบบขวดยังมาได้จากหลายปัจจัย เช่น คลอรีน หรือหากบางท่านแช่น้ำไว้ในตู้เย็นที่มีกลิ่นกับข้าวค่อนข้างแรง กลิ่นก็สามารถเข้าไปได้เช่นกันค่ะ
เลือกอย่างไรจึงปลอดภัย ?
ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่จะนิยมดื่มน้ำเปล่าแบบขวดกัน จึงไม่แปลกนักที่จะมีน้ำดื่มบรรจุขวดหลายต่อหลายยี่ห้อวางเรียงรายในตู้ร้านสะดวกซื้อมากขึ้น ดังนั้นในฐานะผู้บริโภค จึงยากว่าจะซื้อน้ำยี่ห้อไหนดี มีทริกเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อน้ำแต่ละยี่ห้อมาฝากกันค่ะ

1.ดูฉลาก บนฉลากจะต้องระบุ ชื่ออาหาร ชื่อผู้ผลิต สถานที่ผลิต ปริมาณสุทธิ และแสดงเลขสารบบอาหาร พิมพ์ในกรอบเครื่องหมาย อย.

2.สำหรับน้ำดื่มบางยี่ห้ออาจมีรสชาติ ด้วยปริมาณอัลคาไลน์ (Alkaline) ผู้ผลิตตั้งใจให้มีเพื่อคงแร่ธาตุในน้ำไว้ หรืออาจเติมวิตามินบางชนิด ทั้งนี้ทั้งนั้นส่วนประกอบเพิ่มเติมเหล่านี้ต้องแสดงอย่างชัดเจนบนฉลากสำหรับผู้บริโภคอย่างเราก็เลือกชิมรสน้ำเปล่าที่ถูกใจได้

3.ภาชนะที่บรรจุต้องสะอาด ไม่รั่วซึม หรือมีรอยคราบสกปรก เปรอะเปื้อน และฝาปิดผนึกสนิทโดยการทดลองยกขวดเอียงไปมาต้องไม่มีน้ำหกออกจากขวด ไม่มีร่องรอยการเปิดใช้

4.ลักษณะของน้ำที่บรรจุอยู่ ต้องใสสะอาด ไม่มีตะกอน ไม่มีสิ่งเจือปนอื่น ๆ 

5.ชนิดของภาชนะบรรจุ ภาชนะที่นิยมใช้มี 4 ชนิด คือ ขวดแก้ว ขวดพลาสติกใสชนิดแข็ง ขวดพลาสติกใสชนิดกรอบ และขวดพลาสติกขาวขุ่น ภาชนะบรรจุ 3 ชนิดแรกโดยเฉพาะขวดแก้ว มักไม่ทำให้เกิดกลิ่นในน้ำเมื่อเก็บไว้นาน หรือมีการขนส่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งแตกต่างจากชนิดสุดท้ายซึ่งมักมีกลิ่นพลาสติกปนอยู่ในน้ำ กลิ่นพลาสติกอาจไม่มีปริมาณสูงพอที่จะเกิดอันตรายแก่ผู้บริโภคได้ แต่ก็ทำให้น้ำสูญเสียคุณสมบัติที่ควรจะเป็น

สรุปคือ “น้ำเปล่า” จริงๆ จากแหล่งน้ำธรรมชาตินั้นจะไม่มีกลิ่น หรือรสชาติ แต่การที่น้ำมีกลิ่น หรือมีรสชาติก็ไม่ได้แปลว่ายี่ห้อนั้นไม่สะอาด เพราะน้ำแต่ละยี่ห้อมีกระบวนการผลิตน้ำที่แตกต่างกัน มีการเติมแร่ธาตุต่างๆ ในปริมาณต่างกันจึงมีกลิ่นและรสชาติที่ต่างกันไป การที่เราจะรู้ว่าควรดื่มน้ำยี่ห้อไหนจึงปลอดภัย ก็แนะนำว่าควรเช็กดูตามเทคนิคที่ให้ไว้นะคะ :)

 
พี่ใบเฟิร์น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น