สวัสดีค่ะ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สิ่งที่กำลังมีผลกระทบไปทั่วโลก และเป็นที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นเรื่อง โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่กำลังระบาดอยู่ วันนี้ พี่เฟิร์น จะมาย้อน Timeline ที่มาของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากผู้ป่วยรายแรก สู่ 3 ล้านคนทั่วโลกในเวลา 160 วัน!
เชื้อร้ายที่ไม่รู้สาเหตุการเกิดที่แน่ชัด!
โคโรนาไวรัส เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัดชนิดหนึ่งในตระกูลโคโรนาที่พบมานานกว่า 50-60 ปีก่อน ที่ผ่านมาพบเพียง 6 สายพันธุ์ย่อยที่ระบาดในมนุษย์ ส่วนตัวที่เรากังวลอยู่ และเป็นที่พูดถึงกันอยู่นั้น คือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19 : Corona Virus Disease 2019) ซึ่งตัวเชื้อก่อโรค ชื่อ SARS CoV-2 เป็นโคโรนาไวรัสชนิดหนึ่งที่ค้นพบในปี 2019 มีความรุนแรงมากกว่า และคล้ายกับโรคในสมัยก่อนที่เรารู้จักกันดีอย่างโรคซาร์ส หรือไวรัสเมอร์ส ซึ่งเป็นการติดเชื้อจากสัตว์มาสู่คนนั่นเอง โดยสาเหตุของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 มีต้นกำเนิดจากอะไรนั้น เบื้องต้นยังไม่แน่ชัด แต่หลายข้อมูลเชื่อมโยงว่าน่าจะมาจากสัตว์ชนิดหนึ่ง ช่วงแรกของการระบาดไม่พบการติดเชื้อจากคนสู่คน เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่ทำงานอยู่ที่ตลาดขายส่งปลา และอาหารทะเลในเมืองอู่ฮั่น จึงมีการพูดถึงสาเหตุแตกต่างกันไป ดังนี้
นักวิจัยหลายหน่วยงานในประเทศจีน พบว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 อยู่ในตระกูลเดียวกับโรคซาร์ส ซึ่งเป็นไวรัสที่พบได้ในค้างคาว จึงคิดว่าค้างคาวเป็นพาหะของไวรัส จากนั้นไม่นานมีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Medical Virology พบว่า พันธุกรรมของไวรัสตัวนี้มีความใกล้เคียงกับงูมากที่สุด เป็นไปได้ที่เชื้อน่าจะส่งผ่านจากค้าวคาวมาสู่งู ซึ่งอาจจะเป็น งูเห่าจีน (Chinese cobra) และงูสามเหลี่ยมจีน (Chinese krait) ที่นำมาวางจำหน่ายในตลาดสดเมืองอู่ฮั่น ก่อนที่จะส่งผ่านเชื้อจากงูเข้าสู่มนุษย์ จนเกิดการระบาดของโรคขึ้น
ย้อน Timeline ที่มาของเชื้อไวรัส COVID-19
เริ่มต้นจากเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2562 : ศูนย์ควบคุมโรคและป้องกันโรคของประเทศจีน ได้รายงานว่ามีผู้ป่วยมากขึ้นเกี่ยวกับโรคปอดอักเสบมากขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งในตอนนั้นยังไม่มีใครรู้จักกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19)
30 ธันวาคม 2562 : จักษุแพทย์หลี่ เหวินเหลียง ได้พบเชื้อครั้งแรก โดยที่ยังไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร ได้ส่งข้อความเตือนเพื่อน ๆ หมอร่วมรุ่นให้สวมอุปกรณ์ป้องกันโรค หลังพบผู้ป่วยหลายคนอาการคล้ายติดไวรัสโรคซาร์ส หรือโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน
31 ธันวาคม 2562 : องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการว่า พบผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรงจำนวนมากในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย
7 มกราคม 2563 : องค์การอนามัยโลก ประกาศพบการระบาดของไวรัสชนิดใหม่อย่างเป็นทางการโดยเกิดจากเชื้อไวรัสประเภทไวรัสโคโรนา
11 มกราคม 2563 : พบผู้เสียชีวิตที่ติดโรคติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 1 คน เป็นคนแรกในประเทศจีน และประเทศจีนได้เผยแพร่ genome ของเชื้อ“novel coronavirus 2019” หรือ “nCoV-2019” ลงใน GenBank
13 มกราคม 2563 : พบผู้ติดเชื้อรายแรกนอกประเทศจีน ที่ประเทศไทย
20 มกราคม 2563 : พบผู้ติดเชื้อรายแรกในสหรัฐอมริกา ที่รัฐวอชิงตัน และสาธารณรัฐเกาหลี พบมีประวัติเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น
24 มกราคม 2563 : พบผู้ติดเชื้อรายแรกในยุโรป ที่สาธารณรัฐฝรั่งเศส
28 มกราคม 2563 : พบคนไทยติดเชื้อรายแรกในประเทศไทย มีอาชีพขับรถแท็กซี่ ซึ่งไม่ได้ออกไปนอกประเทศเลย ติดจากคนสู่คนโดยอาจเป็นผู้ติดเชื้อ ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น แล้วพบเชื้อในประเทศไทย
29 มกราคม 2563 : พบผู้ติดเชื้อรายแรกในตะวันออกกลาง ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
11 กุมภาพันธ์ 2563 : องค์การอนามัยโลกประกาศชื่อโรค ว่าเป็นโรค COVID-19 ก่อนหน้านี้มีการติดเชื้อ แต่ไม่มีชื่อเรียกโรค จะเรียกกันว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ เลยประกาศชื่อโรคเป็น COVID-19 จะได้เรียกตรงกัน
14 กุมภาพันธ์ 2563 : พบผู้ติดเชื้อรายแรกในทวีปแอฟริกา ที่ประเทศอียิปต์
26 กุมภาพันธ์ 2563 : พบผู้ติดเชื้อรายแรกในลาตินอเมริกา ที่ประเทศบราซิล
2 มีนาคม 2563 : ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตรายแรกด้วยโรค Covid-19
4 มีนาคม 2563 : พบการติดเชื้อจากคนสู่สัตว์รายแรก สาธารณสุขฮ่องกงยืนยันผลตรวจสุนัขตัวหนึ่งพันธุ์ปอมเมอเรเนียน โดยติดเชื้อมาจากเจ้าของซึ่งป่วย
8 มีนาคม 2563 : พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายแรก ที่ประเทศกัมพูชา
11 มีนาคม 2563 : องค์การอนามัยโลก ประกาศให้เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคระบาดในระดับโลก และประเทศไต้หวัน เป็นประเทศแรกที่ประกาศระงับการส่งออกหน้ากากอนามัย เพื่อให้คนในไต้หวันได้มีใช้อย่างทั่วถึง
12 มีนาคม 2563 : ประเทศจีน ได้ประกาศว่าการระบาดในประเทศจีนสิ้นสุดลงแล้ว เพราะจำนวนผู้ป่วยใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และการแพร่กระจายของโรคในภาพรวมทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ
25 มีนาคม 2563 : ประเทศอินเดีย นายกรัฐมนตรีได้สั่งปิดประเทศเป็นระยะเวลา 21 วัน และองค์การอนามัยโลกได้ กล่าวว่าสหรัฐอเมริกาอาจเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาด โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แห่งใหม่หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
26 มีนาคม 2563 : ประเทศไทยประกาศใช้ พระราชกำหนดฉุกเฉิน คุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19
3 เมษายน 2563 : ประเทศไทยประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. และราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ได้ประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง ในนครเมกกะและเมดินา
4 เมษายน 2563 : ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (ซีดีซี) ออกคำแนะนำทางการแพทย์ฉบับใหม่ให้ชาวอเมริกันทุกคนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
5 เมษายน 2563 : สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่าพบเสือพันธ์ุมาลายันเพศเมียชื่อ "นาเดีย" วัย 4 ปี ที่สวนสัตว์ "บรองซ์" ของสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าในรัฐนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกา ติดเชื้อโควิด-19 เป็นตัวแรกของโลก
7 เมษายน 2563 : เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ถอนสถานะ "ปลอดโรคระบาด" ของ 45 ชุมชน เนื่องจากตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไม่แสดงอาการ และประเทศไทยผู้ติดเชื้อลดลงต่อเนื่อง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 38 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต
8 เมษายน 2563 : เมืองอู่ฮั่น ได้ยกเลิกมาตรการปิดเมืองหลังปิดไปเป็นเวลา 76 วันและได้เริ่ม เปิดเมืองแล้ว แต่ยังคงจำกัดการเดินทางเข้าออกต่างประเทศ ด้านประเทศไทย กระทรวงวัฒนธรรม ออกประกาศห้ามจัดงานสงกรานต์ทุกระดับ เพื่อลดความเสี่ยงในการติด เชื้อไวรัสโคโรนา 2019
10 เมษายน 2563 : ประเทศกัมพูชา ประกาศสั่งงดการเดินทางเข้าออกระหว่างจังหวัดทั่วราชอาณาจักร
14 เมษายน 2563 : ประเทศอินโดนีเซีย ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของประเทศอินโดนีเซีย ประกาศให้การแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นภัยพิบัติแห่งชาติ
15 เมษายน 2563 : ไต้หวัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่
17 เมษายน 2563 : ประเทศญี่ปุ่น รัฐบาลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศแล้วในวันที่ 16 เม.ย. 2563 จากเดิมที่ ประกาศใน 7 จังหวัดรวมกรุงโตเกียวเท่านั้น หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศเลวร้ายลง มีผู้ติดเชื้อ มากกว่า 9,000 รายและเสียชีวิตแล้ว 178 ราย
21 เมษายน 2563 : สาธารณรัฐตุรกี ประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ เออร์โดวาห์น ของประเทศตุรกีประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง ในพื้นที่ 31 จังหวัดรวมถึงในกรุงอังการาและนครอิสตันบูล เป็นเวลา 4 วัน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีผลตั้งแต่วันที่ 23 เมษายนไปจนเวลาเที่ยงคืนวันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน
22 เมษายน 2563 : สหรัฐอเมริกา รัฐมิสซูรียื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลจีน เนื่องจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่เริ่มต้นระบาดจากเมืองอู่ฮั่นจนสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจต่อรัฐดังกล่าว
24 เมษายน 2563 : สาธารณรัฐอิตาลี บริษัท อาวีโอ (Avio Interiors) ออกแบบที่นั่งบนเครื่องบิน 2 รูปแบบ คือ รูปแบบแรกเป็นแบบมีกระจกกั้นระหว่างผู้โดยสารแต่ละคนหรือกลาสเซฟ (Glassafe) เป็นรูปแบบกระจกกั้นป้องกันการแพร่กระจายของละอองฝอยระหว่างผู้โดยสาร แบบที่สองมีชื่อว่า เจนัส (Janus) ซึ่งจะเป็นรูปแบบที่นั่งตรงกลางหันออกหรือสลับฟันปลากันไปมา ด้านนึงหันออก และอีกด้านนึงหันเข้า จะทำให้ผู้โดยสารไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันได้เลยหรือต่างคนต่างนั่ง เพื่อรับกับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing)
25 เมษายน 2563 : สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดูไบ เปิดตัว "ห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่" โดยการดัดแปลงเป็นรถพยาบาลที่ติดตั้งอุปกรณ์ฆ่าเชื้ออัตโนมัติ เครื่องสแกนอุณหภูมิและห้องเก็บตัวอย่างที่ปลอดภัย เพื่อคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาฟรีที่บ้านสำหรับผู้สูงอายุและผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง
27 เมษายน 2563 : องค์การอนามัยโลก ประกาศเตือนว่า ปัจจุบันไม่มีหลักฐานบ่งชี้ผู้ป่วยที่หายจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะมีแอนติบอดีและจะปลอดภัยจากการติดเชื้อซ้ำ
29 เมษายน 2563 : ประเทศอังกฤษ มีการพัฒนาชุดตรวจทดสอบไวรัสโคโรนา 2019 โดยชุดตรวจเป็นการตรวจระดับภูมิคุ้มกันในเลือด ให้ผลการตรวจที่เร็วกว่าการเก็บตัวอย่างจากสารคัดหลั่งในโพรงจมูก ซึ่งใช้เวลาในการวิเคราะห์และตรวจวัดนานเป็นวัน ทั้งนี้จะมีการทดสอบครบในสิ้นเดือนเมษายนนี้
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ Timeline ที่มาของโรค COVID-19 ที่ พี่เฟิร์น ได้สรุปย้อนหลังมาให้ดูกัน บอกเลยว่าเป็นเชื้อไวรัสที่อันตรายจริง ๆ ที่เราไม่ควรตระหนก แต่ควรตระหนักให้มากค่ะ ยังไงก็รักษาสุขภาพกันดี ๆ นะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://med.mahidol.ac.th/th/COVID-19/faq/06mar2020-1400
https://med.mahidol.ac.th/th/COVID-19/faq/06mar2020-1400
1 ความคิดเห็น