เรื่องการย้ายคนไปอยู่นอกโลกนั้น พี่ลาเต้ ได้ยินมานานแล้วนะครับ...แต่ช่วงนี้เหมือนจะได้ยินบ่อยเป็นพิเศษ ล่าสุดทางกระทรวงวิทย์ฯ ก็เตรียมส่งข้าวไปปลูกในอวกาศแล้วด้วย...จะเพื่ออะไรนั้นไปตามอ่านกันเลย... เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ดร.สวัสดิ์ ตันติพันธุ์วดี หัวหน้าโครงการการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชน นักวิจัย และประชาชนผ่านความร่วมมือกับองค์กรสำรวจอวกาศแห่งญี่ปุ่น หรือ แจ๊กซ่า (Japan Aerospace Exploration Agency : JAXA) แถลงข่าวเรื่อง "โครงการความร่วมมือระหว่าง สวทช.กับองค์กรสำรวจอวกาศของญี่ปุ่น" ว่า ขณะนี้ สวทช.ได้ร่วมกับแจ๊กซ่าในการส่งโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการนำข้าวไทยไปทดลองปลูกในอวกาศที่สถานีอวกาศนานาชาติคิโบ (KIBO) ซึ่งเป้าหมายของโครงการนี้ต้องการพัฒนาข้าวไทยให้เป็นอาหารหลักของนักบินอวกาศในอนาคต เนื่องจากแจ๊กซ่ามีเป้าหมายในการส่งนักบินอวกาศไปวิจัยและพัฒนาด้านต่างๆ อย่างถาวรในปี 2563 จึงจำเป็นต้องมีอาหารอย่างพอเพียง ประเทศไทยจึงเล็งเห็นว่าหากสามารถปลูกข้าวในอวกาศได้สำเร็จ ก็จะเป็นแหล่งอาหารที่ยั่งยืนสำหรับนักบินอวกาศได้ด้วย ขณะที่หลากหลายประเทศทั้งสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน อินเดีย ฯลฯต่างศึกษาเรื่องนี้เช่นกัน ดร.สวัสดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การศึกษาดังกล่าวยังมีประโยชน์ต่อประเทศไทย ในแง่การพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่สามารถทนต่อสภาวะต่างๆ ทำให้ได้สายพันธุ์ที่ทนทานหรืออาจเกิดการกลายพันธุ์จนได้ข้าวที่สามารถต้านทานโรคต่างๆ ได้ โดยเฉพาะโรคใหม่ๆ เบื้องต้นทีมวิจัยอยู่ระหว่างเพาะต้นกล้าข้าวไทยสายพันธุ์ต่างๆ อาทิ พันธุ์ปทุมธานี 1 พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 กข.6 โดยทดลองปลูกในกล่องจำลองที่มีสภาพไร้น้ำหนัก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาว่าสายพันธุ์ใดจะสามารถออกรวงได้สำเร็จ คาดว่าภายใน 3 เดือนจึงจะทราบผลที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม หากการทดลองเป็นผลสำเร็จจะนำเสนอให้แก่แจ๊กซ่า เพื่อพิสูจน์ผลงานวิจัยอีกครั้งก่อนจะนำไปทดลองในสภาพจริงที่สถานีอวกาศนานาชาติคิโบในปี 2554 หรืออีกประมาณ 3 ปี ดร.สวัสดิ์ กล่าวว่า สวทช.ยังร่วมกับแจ๊กซ่าในการดำเนินงานโครงการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชนในการพัฒนางานด้านวิทยาศาสตร์ในสภาพไร้น้ำหนัก โดยจะให้เยาวชนคิดค้นผลงานวิจัยที่สามารถทดลองในสภาพไร้น้ำหนักได้ ซึ่งจะทดลองในเครื่องบินที่บินแบบพาลาโบลาคือ การบินที่มีลักษณะโค้งขึ้นลงเป็นรูปคลื่น จนทำให้เกิดสภาวะไร้น้ำหนักประมาณ 20 วินาที ซึ่งที่ผ่านมาได้ส่งผลงานวิจัยเข้าร่วมมากมาย อาทิ ผลงานเรื่อง Medical drug dispersion under microgravity โดย น.ส.อาภาภรณ์ บุณยรัตพันธุ์ จากมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นการทดลองการแตกตัวของยาในสภาวะต่างๆ เนื่องจากพบว่าการออกฤทธิ์ของยาในสภาวะไร้น้ำหนักมีลักษณะเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการรักษาโรคได้ โดยเฉพาะนักบินอวกาศ ดังนั้น ผลการศึกษานี้จะมีประโยชน์ในการพัฒนายาที่เหมาะสมกับนักบินอวกาศในอนาคต ทั้งนี้ เยาวชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าวติดต่อได้ที่โทร.0-2564-7000 |
พพี่ลาเต้ขอขอบคุณข้อมูลจากมติชนออนไลน์พ |
23 ความคิดเห็น
จะรอดไหมน้อ เอาใจช่วยค่ะ อิอิ
สุดยอด เมืองไทย
ถ้าโลกแตกย้ายดาวได้ อยู่แค่ว่า จะอยู่ได้ไหม คนเราคงไม่ต้องใช้ ออกซิเจน อีกแล้วหล่ะ
วันหลังคงปลูกผลไม้ ผัก ได้เลย *O*//